ท่าอากาศยานเชียงใหม่หรือเดิมชื่อท่าอากาศยานสุเทพ ตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2464 มีพื้นที่กว่า 1,600 ไร่ ปัจจุบันมีอาคารผู้โดยสาร 2 หลัง คือหลังเดิม เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และหลังใหม่ เป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานแห่งนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 8 ล้านคนต่อปี
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตชูบูของญี่ปุ่น ชื่อเมืองนั้นคาดเดาว่าจะผันมาจากคำว่า นาโกยากะซึ่งแปลว่าสงบสุข
เป็นศูนย์รวมแห่งสินค้าชั้นนำนานาชนิด อาทิ นาฬิกา, กล้อง, กระเป๋า, รองเท้า, เสื้อผ้า เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้ช้อปปิ้ง และเลือกซื้อของฝากอย่างเต็มที่ตามอัธยาศัย
หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม หมู่บ้านแห่งนี้ใช้โครงสร้างที่เรียกว่า กัสโช ซึ่งแปลว่าสร้างแบบพนมมือ ด้านหน้าทำเป็นหน้าจั่วแบบบ้านทรงไทย มีการเจาะช่องหน้าต่างเพื่อรับแสงสว่างจากภายนอก เมื่อมองจากภายนอกจึงดูมีสัดส่วนสวยงาม
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่เกือบใจกลางของประเทศญี่ปุ่น ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงถึง 3,000 เมตร จำนวนมากมาย เป็นแหล่งสโนว์รีสอร์ทชั้นนำของญี่ปุน มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญคือในปี 1998 เมืองแห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวอีกด้วย
ปราสาทมัตสึโมโต้เป็นปราสาทไม้ที่คงความดั้งเดิมและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นและได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติล้ำค่าประจำชาติ การตัดกันของสีดำและสีขาวของผนังปูนด้านนอกปราสาท ทำให้ปราสาทแห่งนี้ดูโดดเด่นงดงามตัดกับฉากหลังของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ปราสาทมัตสึโมโต้ มีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า ปราสาทอีกา
เป็นแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ของเมืองนาโกย่า ที่มีของให้เลือกซื้อแบบครบครัน
เส้นทางคามิโคจิ” หรือหลายคนเรียกว่า "สวิตเซอร์แลนด์ญี่ปุ่น" ถือเป็นมงกุฎอัญมณีแห่งเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น เพราะว่าที่นี่เป็นจุดชมทัศนียภาพอันงดงาม ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,500 เมตร โดยมีความงดงามของแม่น้ำอาซึซะ ที่มีสีสะท้อนจากผืนน้ำด้านล่างเป็นสีฟ้าอมเขียว
เป็นเมืองแห่งปราสาทที่บ้านเมืองยังคงมีภาพของสะท้อนของประวัติศาสตร์เก่าแก่ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนที่มีโครงหน้าต่างขัดกันเป็นตาราง และวัดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่
เป็นเมืองเก่าสมัยเอโดะ ที่มีอายุกว่า 300 ปี แต่ยังคงอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ ทั้งวัดวาอาราม ศาลเจ้า บ้านแบบดั้งเดิมของชาวนาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
สะพานนาคาบาชิ ที่มีสีแดงเด่น พาดผ่านแม่น้ำมิยากาว่า รวมทั้งยังมี “ซากุระสีชมพู” ขนานกับแนวแม่น้ำแห่งนี้อีกด้วย (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ซึ่งเป็นจุดยอดนิยมของการเก็บภาพประทับใจ สะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองทาคายาม่า และเป็นเส้นทางในการจัดเทศกาลทาคายาม่ามัตสุริ(Takayama Matsuri)อีกด้วย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิรอบๆสะพานจะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่ง
เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและชื่อนั้นได้มาจากเมืองฉางอานของจีน
สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับเมืองหลวงเก่าหรือก็คือเกียวโตที่ครบรอบ 1100 ปี ประตูศาลเจ้าสีแดงดึงดูดผู้คนจากไกลและหลังจากผ่านประตูมาแล้วก็จะพบกับพื้นที่ว่างที่ล้อมรอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างภายในศาลเจ้าที่ล้วนแต่เป็นสีแดงสด ทำให้คุณรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เห็น
พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
ท่าอากาศยานเชียงใหม่หรือเดิมชื่อท่าอากาศยานสุเทพ ตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2464 มีพื้นที่กว่า 1,600 ไร่ ปัจจุบันมีอาคารผู้โดยสาร 2 หลัง คือหลังเดิม เป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ และหลังใหม่ เป็นอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานแห่งนี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 8 ล้านคนต่อปี