ทัวร์ครับพาช็อป
ไม่พลาดทุกแหล่งช้อปปิ้งในย่านดัง พร้อมทั้งรายการของฝากน่าซื้อ ให้คุณได้ช้อปปิ้งอย่างจุใจ
5 แหล่งช้อปปิ้ง “รองเท้าแบรนด์ดัง” ในต่างประเทศ ราคาโดนใจ
พาช้อป
5 แหล่งช้อปปิ้ง “รองเท้าแบรนด์ดัง” ในต่างประเทศ ราคาโดนใจ
1. ABC-MART , ญี่ปุ่น ถึงแม้ ABC-MART จะมีทั้งในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน แต่ต้นฉบับจริงๆ นั้นกำเนิดที่ดินแดนแห่งซามูไร ก่อตั้งโดย มาซาฮิโระ มิกิ ซึ่งใน ABC-MART นี้สามารถพูดได้เลยว่ามีรองเท้าแทบจะทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าหนังของ Red Wing หรือ Timberland รวมถึงรองเท้าผ้าใบยี่ห้อแบรนด์ดังอย่าง Nike Adidas รวมถึง Puma แต่ยังไงก็ตามรองเท้าจากร้านนี้ที่ถูกกว่าไทยอย่างเห็นได้ชัดก็คงไม่พ้นรองเท้ายี่ห้อ Asics ซึ่งในเมืองโอซาก้าอย่างย่านโดทงโบริก็มี ABC-MART อยู่หลายสาขาด้วยกันเรียกได้ว่าเดินไปทางไหนก็เจอแต่ร้านรองเท้าร้านนี้ 2. ย่านมงก๊ก , ฮ่องกง มงก๊ก (Mong Kok)จะเป็นย่านช้อปปิ้งแห่งหนึ่งที่อยู่เกาะเกาลูน ประเทศฮ่องกง ซึ่งถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งสุดฮิตของประเทศนี้เลยก็ว่าได้ เพราะที่มงก๊กนั้นมีร้านรองเท้าแบรนด์มากมายหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น Adidas, Nike, Puma, Reebok, Converse รวมไปถึง New Balance ซึ่งจะเป็นทั้งร้านอย่างเป็นทางการและร้านค้าปลีกคละกันไป แต่ยังไงก็ตามสำหรับสาวกที่ชื่นชอบรองเท้ามากเป็นพิเศษละก็ เชื่อว่ามาที่ย่านนี้รับรองไม่เสียเที่ยวอย่างแน่นอน 3. ร้าน New Balance ย่านเมียงดง , เกาหลี ที่ ย่านเมียงดง(Myeong-dong) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า มยองดง นั้นจะให้อารมณ์คล้ายๆ กับย่านมงก๊กของฮ่องกง เนื่องจากเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังเหมือนกัน แถมที่เมียงดงยังมีร้าน ABC-MART อีกด้วย แต่ยังไงก็ตามทางเราขอแนะนำให้เพื่อนๆ ซื้อรองเท้า New Balance รองเท้าแบรนด์จากช้อปอย่างเป็นทางการมาจะดีกว่า เพราะ New Balance ของเกาหลีนั้นมีราคาที่ถูกกว่าไทยค่อนข้างมาก 4. ห้าง Carrefour สาขา Chung Xin , ไต้หวัน ไต้หวันถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เป็นดั่งสวรรค์นักช้อปสำหรับคนรักรองเท้าผ้าใบ เพราะนอกจากที่นี่จะมี ABC-MART เหมือนที่เรากล่าวไปข้างต้นแล้ว Carrefour สาขา Chung Xin ยังเป็น Outlet ที่มีสินค้ารองเท้าแบรนด์ดังทั้ง Nike, Adidas, Puma ฯลฯ มาแข่งกันลดราคาให้เราได้ซื้อแบบไม่หวาดไม่ไหวอีกด้วย ที่สำคัญร้านที่นำมาลดนี้คือร้านอย่างเป็นทางการ เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่าของแท้แน่นอน 100% 5. ร้าน Charles & Keith ที่ Orchard , สิงคโปร์ หลังจากที่เราเอาใจหนุ่มๆ ด้วยการพาไปช้อปรองเท้าผ้าใบกันแล้ว มาที่รองเท้าแบรนด์ที่ออกแบบมาเฉพาะผู้หญิงกันบ้างกับแบรนด์ Charles & Keith ที่ถือกำเนิด ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราบินไปซื้อที่ดินแดนลอดช่องนี้จะได้ราคาที่ถูกกว่าเมืองไทย เนื่องจากไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า โดยหนึ่งในสถานที่ที่แบรนด์ Charles & Keith ตั้งอยู่ก็คือห้าง ION Orchard Mall ที่ตั้งอยู่บนถนน Orchard ซึ่งมีห้างสรรพสินค้ามากมายให้หนุ่มๆ ได้แวะไปช้อปปิ้งระหว่างรอสาวๆ เลือกรองเท้าคู่ที่ถูกใจ >>5 สิ่งที่ควรเตรียมตัว ก่อนไปเที่ยวสิงคโปร์!! สำหรับคนที่ไปเที่ยวต่างประเทศเอง ก็จะเดินทางเหนื่อยหน่อยๆ แต่แน่นอนว่าจะมีเวลาช้อปปิ้งมากมายเนื่องจากไม่มีใครมาคอยเร่ง เดินช้อปกระจายได้ทั้งวัน แต่สำหรับคนที่ไปทัวร์นั้นบางโปรแกรมอาจไม่มีวันอิสระทำให้เสียโอกาสในการช้อปปิ้งซื้อรองเท้าแบรนด์ได้ ต่างจากโปรแกรมเที่ยวของ ทัวร์ครับ ที่จะมีโปรแกรมทัวร์ที่มีวันอิสระให้ลูกทัวร์เที่ยวตามอัธยาศัยอยู่ด้วย ซึ่งหากใครสนใจก็สามารถมาเช็คแพ็คเกจทัวร์ได้ที่หน้าเว็บไซต์ ทัวร์ครับ กันได้นะคะ
รวมมาแล้ว!! 7 ของฝากไต้หวันยอดนิยม..เที่ยวไต้หวันซื้ออะไรดี ?
พาช้อป
รวมมาแล้ว!! 7 ของฝากไต้หวันยอดนิยม..เที่ยวไต้หวันซื้ออะไรดี ?
นอกจากเที่ยวญี่ปุ่น เกาหลี แล้ว ไต้หวันก็เป็นหนึ่งในประเทศต้นๆในใจของคนไทยเลยก็ว่าได้ แต่หากใครคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรกลับมาฝากคนที่บ้านดี งั้นมาดู 7 ของฝากไต้หวันยอดฮิตกันเลยจ้า ว่ามีอะไรน่าโดนบ้าง ... 1.พายสับปะรด อ่านรีวิวของฝากไต้หวันที่ไหนๆก็มีแต่พายสับปะรด ก็มันเป็นของฝากชื่อดังของไต้หวันเลยนี่หน่า เพราะฉะนั้นของมันต้องมี ! ไปแล้วต้องซื้อ เพราะพายสับปะรดที่นี่ไม่เหมือนใคร ลักษณะของพายสับปะรดไต้หวัน จะเป็นแป้งพายร่วนๆหน่อย แต่ไม่ร่วนมาก ไส้สับปะรดจะกวนมาอย่างละเอียด ไม่หวานมากเกินไป กินแล้วฟินเว่อร์ ~ แนะนำ ยี่ห้อ ChiaTe และ SunnyHills สองยี่ห้อนี้เป็นพายสับปะรดขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุดในไต้หวันเลยล่ะ ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 27 บาท cr.chiate88 &sunnyhills [ รวมฮิต 5 ขนมไต้หวัน ซื้อมาฝากกันถูกใจแน่นอน! ] 2.ขนมเปี๊ยะเผือก ของฝากไต้หวันที่มาแรงไม่แพ้พายสับปะรดก็ขนมเปี๊ยะเผือกนี่แหละ Crystal Taro Cake บอกเลยชิ้นเดียวไม่เคยพอ แป้งน้อยไส้เยอะ แถมไม่หวานจนเกินไป กินเพลินๆไปเลยจ้า จากที่ไม่ชอบทานเผือกพอได้ลองทานแล้วก็ยังติดใจ ซื้อกลับบ้านหลายกล่องเลย หาซื้อได้ที่ดิวตี้ฟรีที่สนามบินเถาหยวน 3.ชานมไต้หวันแบบขวด นึกถึงไต้หวัน นึกถึง “ชานมไข่มุก” มาถึงแล้วต้องกิน กินแล้วต้องซื้อกลับบ้าน !! และแบบขวดนี้หาซื้อไม่ยากเลย ซื้อได้ที่ 7-11 และ ร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ราคาโดยประมาณ ขวดละประมาณ 30 บาท ไม่แพงเลยสำหรับของฝากไต้หวันชิ้นนี้ ซื้อฝากคนละ 2 ขวดยังได้ แพ็คเกจดูดีมีชาติตระกูลแถมรสชาติยังอร่อยกลมกล่อม รสชานำรสนม หวานกำลังดี ซื้อโล้ดดด ~ [รีวิว #ชานมไต้หวัน ของฝากยอดฮิต ของดีต้องไปโดน!!!] 4.หมูแผ่น หมูอบ ของฝากไต้หวันที่ตอนนี้กำลังมาแรงแซงทางโค้ง คงไม่พ้นหมูแผ่นและหมูอบ แน่นอน หากใครเบื่อของหวานพายสับปะรดและขนมเปี๊ยะเผือกแล้วละก็ หมูแผ่นนี้ก็เป็นของฝากจากไต้หวันที่ขึ้นชื่อไม่แพ้อย่างอื่นเลยทีเดียว ร้าน Kuai Che เขาว่ากันว่าเป็นร้านหมูแผ่นที่ขายดีที่สุดในไต้หวัน !! cr.kuaicheshop 5.มาสก์หน้า ไม่ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหน แผ่นมาร์กหน้าก็ยังเป็นของฝากที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับไปเป็นของฝากที่บ้าน หากใครมาเที่ยวไต้หวันแต่ไม่รู้จะซื้ออะไรดี ทัวร์ครับก็แนะนำที่มาร์กหน้านี่แหละจ้า เป็นของฝากไต้หวันที่คิดไม่ยาก แถมราคาถูก แต่แบบราคาแพงก็มีนะ แล้วแต่งบประมาณ ถ้าไม่รู้จะซื้อของอะไรดี ทัวร์ครับขอแนะนำ ยี่ห้อ My Scheming , L’Herboflore , Hanaka และ TT Mask ที่บอกมานี้ เป็นแบรนด์ที่ใช้แล้วดีต่อใจสุดๆ แต่จริงๆแล้ว ก็ยังมียี่ห้ออื่นๆที่น่าสนใจอีกเพียบ !! ไม่เชื่อต้องลองไปเดินเลือกดูเองที่ไต้หวันกันแล้วล่ะค่ะ 6.รองเท้าแบรนด์เนม ใครมาเที่ยวไต้หวันก็มักจะซื้อกลับไปกันเกือบทุกราย หรือบางคนตั้งใจหอบเงินมาซื้อรองเท้าถึงที่ไต้หวันเลยเชียวนะ ใครๆไปก็ต้องไปสอย เพราะมันราคาถูกและใหม่กว่าในไทยเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Onitsuka tiger, Nike, Adidas, Reebok แถมตัวไหนตกรุ่นแล้ว ลดราคาไปอีก ถูกสุดๆ จะซื้อเป็นของฝากไต้หวันให้แฟน หรือรับพรีออเดอร์ให้เพื่อนก็ฟินไม่แพ้กันจ้า เปย์กันไป 7.สินค้า Hello Kitty เอาใจคนรักสีชมพู สำหรับของฝากไต้หวันข้อนี้ มันออกจะมุ้งมิ้งคิ้วๆกันหน่อย เพราะที่ไต้หวันเป็นแหล่งของสินค้าคิตตี้เลยแหละค่ะ ไต้หวันเป็นประเทศที่คลั่งไคล้แมวเหมียวสีขาวอย่าง Hello Kitty เป็นอย่างมาก ไปเที่ยวสถานที่ไหนๆรับรองว่าต้องเจอคิตตี้แน่นอน สินค้า Hello Kitty มีหลายอย่างมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตา ปากกา พวงกุญแจ ของใช้อื่นๆอีกมากมาย แม้กระทั่งแพ็คเกจของขนมยังเป็น Hello Kitty เลยอะเธอ ใครเป็นแฟนคลับ Hello Kitty ต้องไปโดนแล้วล่ะ เป็นไงกันบ้างสำหรับของฝากยอดฮิตจากไต้หวัน บอกเลยว่านอกจากของกินแล้วสถานที่ช้อปปิ้งก็ไม่แพ้ใครในโลกค่ะ สาวๆรักช้อปและนักชิมก็อย่าพลาดที่จะมาเยือนไต้หวันกันให้ได้สักครั้งนะคะ รับรองว่ามาแล้วอยากกลับมาเที่ยวอีกแน่นอนสำหรับใครที่สนใจเที่ยวทัวร์ไต้หวัน ก็จัดเลยจ้า >> คลิก ขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก pantip
ของดีบอกต่อ!! 7 ของฝากฮ่องกงสุดฮิต พร้อมแหล่งซื้อแบบไม่มีหลง
พาช้อป
ของดีบอกต่อ!! 7 ของฝากฮ่องกงสุดฮิต พร้อมแหล่งซื้อแบบไม่มีหลง
หลังจากได้ตระเวนเดินทางชิม ช็อป เที่ยว กันทั่วฮ่องกงแล้ว ทัวร์ครับเชื่อว่าลูกทัวร์หลายๆคนและไม่ต้องกลัวว่าจะเดินหลงทางเพื่อตามไปซื้อให้ยุ่งยากเพราะเราจะพาทุกท่านไปสำรวจกันว่าของฝากฮ่องกงอันยอดนิยมทั้งหลาย ว่ามีอะไรบ้าง พร้อมบอกแหล่งช้อป ตามไปดูกันเลยย 1. หยก เพราะตามความเชื่อดั้งเดิมของคนจีน และคนฮ่องกง เชื่อว่า ‘หยก’ เป็นอัญมณีตัวแทนของความสวยงามอย่างบริสุทธิ์ เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสำหรับผู้ที่พกไว้ ช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและอายุยืน และคงจะดีไม่น้อยถ้าเราได้นำ ‘หยก’ ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของฮ่องกงกลับไปเป็นของฝากจากฮ่องกงให้กับคนที่คุณเคารพรัก ขอแนะนำให้ไปซื้อของฝากฮ่องกงอันยอดนิยมนี้กันได้ที่ตลาดค้าหยก (Jade Market) ใกล้กับสถานี Yau Ma Tai ที่ซึ่งมีของฝากจากฮ่องกงเป็นหยกให้คุณเลือกซื้อจากร้านค้ามากกว่า 400 ร้าน อีกทั้งยังมีการนำหยกทำเป็นหลายรูปแบบทั้ง ตุ้มหู กำไล สร้อยคอ แหวน หรือจะเป็นรูปสัตว์ประจำปีเกิดก็มีให้เลือกเช่นกันค่ะ 2. เครื่องรางนำโชค เป็นอย่างที่ทราบกันดีว่านอกจากฮ่องกงจะมีกิจกรรมเอาใจนักชิม ชม ช็อป แล้ว นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างก็ล้วนที่จะเดินทางเพื่อมาไหว้พระขอพรให้เป็นสิริมงคลกับตัวเองที่นี่เช่นกันไม่ว่าจะเป็นที่วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple) หรือ วัดแชกงหมิว (Che Kung Temple) แต่ก่อนจะสิ้นสุดการไหว้พระขอพร เราขอแนะนำให้ลูกทัวร์ไม่ลืมที่จะนำเครื่องรางของขลังนำโชคต่างๆติดตัวกลับไปเป็นของฝากจากฮ่องกงให้กับเพื่อนสนิท คนรัก หรือญาติผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน ซึ่งแหล่งซื้อเครื่องรางของขลังกลับไปเป็นของฝากฮ่องกงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คงต้องยกให้กับวัดแชกงหมิว หรือที่รู้จักกันว่าวัดกังหันลม โดยมีความเชื่อว่าบนใบพัดทั้ง 4 ด้านของกังหัน มีความหมายถึง สุขภาพแข็งแรง, เดินทางปลอดภัย, เงินทอง และโชคลาภนั่นเอง และลูกทัวร์ก็สามารถเดินทางไปที่วัดนี้ได้ง่ายๆ ด้วยการนั่งรถไปลงได้ที่สถานี Che Kung Temple โดยตรงเลยค่ะ 3. ชาจีน อีกหนึ่งของฝากจากเกาะฮ่องกงสุดฮิต ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องซื้อกลับไปให้ผู้หลักผู้ใหญ่เท่านั้น เพราะไม่ว่าใครก็หันมาดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นได้ด้วยชาจีนจากฮ่องกง ไม่ว่าจะมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญต่อร่างกาย ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร หรือจะหิ้วกลับมาเป็นของฝากฮ่องกงไว้สำหรับทานคู่กับขนมก็เป็นอะไรที่เข้ากันสุดๆแถมยังสุขภาพดีไปอีกก และหากพูดถึงชาฮ่องกงที่ได้รับความนิยมพรอมกับคุณภาพที่คุ้มค่าราคา เราขอแนะนำชายี่ห้อ MingCha ซึ่งนอกจากจะหาซื้อได้ที่สนามบินแบบปลอดภาษีแล้ว ลูกทัวร์ยังสามารถหาซื้อได้ตามห้างชั้นนำทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่ย่านมงก๊ก, จิมซาจุ่ย หรือที่เกาลูน ก็มีช็อปฯ คอยให้บริการอยู่เช่นกัน 4. ขนม หนึ่งในคำตอบของการซื้อของฝากจากฮ่องกงอันยอดนิยม ด้วยความที่ฮ่องกงมีขนมอร่อยๆ มากมายให้ได้ลิ้มลอง อีกทั้งราคายังเป็นมิตรต่อผู้ซื้อ จึงทำให้ลูกทัวร์สามารถหิ้วกลับไปฝากเพื่อนสนิทมิตรสหายได้อย่างไม่ยากเย็นนัก และหากพูดถึงขนมท้องถิ่นอันเลื่องชื่อมากที่สุดก็คงต้องยกให้กับ ‘ขนมทาร์ตไข่’ จากร้าน Tai Choeng ที่หาซื้อกลับไปเป็นของฝากฮ่องกงได้ที่ย่านจิม ซา จุ่ย หรือจะเป็นขนมปังสอดไส้หมูหยองจากร้าน KoiKei Bakery ร้านเบเกอร์รี่ของฝากชื่อดังที่ตั้งอยู่ในย่านมงก๊ก ที่ใครได้ลองชิมแล้วเป็นอันต้องหิ้วกลับมาเป็นของฝากกันแทบทุกราย 5. ตราประทับชื่อแบบชาวฮ่องกงโบราณ ใครที่ได้ชมภาพยนตร์จากฝั่งจีนหรือฮ่องกง คงได้เห็นว่าในอดีตสมัยโบราณมักจะมีการใช้ตราประทับชื่อ ที่มีวัสดุทำมาจากแท่งหิน หรืออัญมณี ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นอีกของฝากจากฮ่องกงที่เราแนะนำให้ลูกทัวร์ไม่ควรพลาด ลองนึกภาพดูสิว่าจะดูกิ๊บเก๋มากขนาดไหน ถ้าผู้รับได้รับของฝากฮ่องกง ที่เป็นชื่อตัวเองในภาษาจีนมาสลักอยู่บนตราประทับคล้ายกับราชวงศ์สมัยโบราณของจีนยังไงยังงั้น อีกทั้งยังมีวัสดุหลายอย่างให้เลือกใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็น พลาสติก ไม้ หยก หินอ่อน หรือแม้แต่โลหะ ซึ่งลูกทัวร์สามารถสั่งทำได้ที่ตลาด Cat Street (ตลาดค้าของเก่า) ซึ่งเดินทางไปได้ไม่ยากด้วยการนั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี MTR Central นั่นเอง 6. เครื่องสำอางค์ เชื่อว่าสำหรับสุภาพสตรีทั้งหลาย นอกจากจะได้ช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมกลับไปใช้เองอย่างจุใจแล้ว หลายๆ คนก็อดไม่ไหวที่จะขอหิ้วเครื่องสำอางค์แบรนด์ดังราคาถูกกลับไปเป็นของฝากจากฮ่องกงให้เพื่อๆน กันด้วยใช่ไหมล่ะ? ไม่ว่าจะเป็น ‘ไบโอเดอร์ม่า’ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับสาวๆ น้ำหอมแท้จากแบรนด์ DKNY หรือจะเป็นเครื่องสำอางค์จากแบรนด์ดังต่างๆ อย่าง M.A.C, Estee Lauder, Lola, Nars และอื่นๆ อีกเพียบในราคาที่ถูกกว่าไทยเกือบเท่า!! ซึ่งทั้งหมดนี้สาวๆ สามารถเดินทางไปช็อปฯ เป็นของฝากฮ่องกงให้ก๊วนเพื่อนรู้ใจได้ที่ห้าง Sasa ใกล้กับสถานีจิมซาจุ่ย หรือห้างชั้นนำทั่วเกาะฮ่องกงก็มีให้บริการเช่นกัน 7. ของฝากจุกจิกจาก G.O.D. (Goods of Desire) เรียกได้ว่าเป็นร้านขายของฝากฮ่องกงที่ชิคที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะด้วยดีไซน์ที่ดูกิ๊บเก๋ และสินค้าที่มีให้เลือกมากมายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบเลยก็ว่าได้ เพราะ ร้าน G.O.D. ได้นำสินค้าจิปาถะต่างๆ มาผนวกเข้ากับดีไซน์ที่สะท้อนความเป็นวิถีชีวิตในยุคใหม่ของคนฮ่องกงได้อย่างลงตัว แถมด้วยราคาที่มิตรต่อกระเป๋าตังค์ ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ในการเดินทาง กระเป๋า และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งทุกท่านสามารถไปเลือกช็อปปิ้งสินค้าจิปาถะพร้อมงานออกแบบชิคๆ เอาไปเป็นของฝากจากฮ่องกงกันได้ที่ถนน 9 Sharp Street ณ ย่าน Cause Way Bay หรือจะเป็นที่ ย่าน Hollywood Road ก็มีช็อปฯ ให้บริการอยู่เช่นกัน โปรแกรมเที่ยวทัวร์ฮ่องกง >> คลิก
เที่ยวอังกฤษทั้งที ต้องไม่พลาดกับ 5 ย่านช้อปปิ้งสุดฮิต!
พาช้อป
เที่ยวอังกฤษทั้งที ต้องไม่พลาดกับ 5 ย่านช้อปปิ้งสุดฮิต!
ถ้าพูดถึงชื่อเมืองผู้ดีแล้วล่ะก็ จะเป็นประเทศไหนไปไม่ได้ นอกจาก ประเทศอังกฤษ(United Kingdom) กับเมืองหลวงสุดแสนจะคลาสสิคอย่าง ลอนดอน (London) ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เราจะได้พบเห็นสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษที่มีเสน่ห์ ท่ามกลางวิถีชีวิตของคนอังกฤษที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว แลนด์มาร์คสำคัญของลอนดอนไม่ว่าจะเป็น หอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben), ลอนดอนอาย (London Eye), พระราชวังบักกิงแฮม (Buckingham Palace) หรือสโตนเฮ้นจ์ (Stonehenge) แต่มาเที่ยวอังกฤษทั้งที จะพลาดเรื่องช้อปปิ้งไปได้ยังไงกัน ? วันนี้ทัวร์ครับ ขออาสาเป็นไกด์นำเที่ยวอังกฤษ พาตะลุย 5 ย่านช้อปปิ้งชื่อดังในลอนดอน ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้ออกไปเดินเก๋ โพสท่าถ่ายรูปชิคๆ และช้อปปิ้งกระจาย จนกระเป๋าสตางค์กระจุย ที่ลอนดอน พร้อมแล้วตามทัวร์ครับมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ! Oxford Street (ถนนอ๊อกฟอร์ด) ว่ากันว่าจะเริ่มต้นการช้อปปิ้งในลอนดอนให้ตั้งเริ่มที่ ถนนอ๊อกฟอร์ด (Oxford Street) เพราะที่นี่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจและเส้นเลือดใหญ่ของลอนดอนเลยค่ะ เราจะได้พบเห็นผู้คนหนาแน่นคึกคักที่ถนนแห่งนี้ทุกวัน ตลอดความยาวกว่า 1.6 กม. เต็มไปด้วยร้านค้าตั้งแต่แบรนด์ชั่นนำทั่วไปอย่าง Nike, Topshop, H&M รวมถึงแบรนด์ชื่อดังของอังกฤษที่มีสินค้าสิ่งอย่างที่คุณต้องการอย่าง Marks & Spencer และห้างสรรพสินค้าชื่อดังของอังกฤษไม่ว่าจะเป็น Mayfair, Selfridges และ ห้างร้านในระแวกนี้ส่วนใหญ่เปิดบริการตั้งแต่ 9.00 - 22.00 น. เป็นอีกหนึ่งย่านในลอนดอนที่คุณจะได้เดินช้อปปิ้งเพลินจนลืมเวลาไปเลยค่ะ Knightsbridge (ย่านไนท์บริดจ์) ย่าน ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge) เป็นย่านหรูหราใจกลางลอนดอนที่มีการผสมผสานของสถาปัตยกรรมแบบโบราณ ร่วมกับสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว เต็มไปด้วยร้านค้าที่มีชื่อเสียงและห้างสรรพสินค้าระดับโลก บอกได้เลยว่าย่านนี้คือสวรรค์ของขาช้อปและผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องแฟชั่น ซึ่งไม่ว่าเรามองไปทางไหนก็จะเจอกับร้านค้าแบรนด์เนมหรูหรา ให้อัพเดตเทรนด์เก๋ๆ แนวๆ แปลกใหม่ล่าสุดจากเวทีลอนดอนแฟชั่นวีค ที่ใครหลายคนคุ้นหูและต่างตั้งหน้าตั้งตารอดูแฟชั่นโชว์อยู่ทุกปี ไฮไลท์ของย่านนี้อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Harrod’s และ Harvey Nichols 2 ห้างเก่าแก่ของอังกฤษที่เป็นขวัญใจของสาวกนักช้อปมาหลายยุคหลายสมัย จึงต้องเข้ามาอยู่ในลิสแหล่งละลายทรัพย์ในลอนดอนของเราในวันนี้แบบไม่ต้องสงสัยค่ะ ขอเตือนว่าเดินเพลินเกินไประวังกระเป๋าตังค์จะเบาหวิวไม่รู้ด้วยนะคะ Harvey Nichols (ฮาร์วีย์ นิโคล) มีห้างแฮร์รอดส์แล้วจะขาดห้างนี้ก็คงจะไม่ได้ เพราะห้างฮาร์วีย์ นิโคลแห่งนี้ก็อยู่ในย่านไนท์บริดจ์เหมือนกัน และเป็นห้างชั้นแนวหน้าเช่นกันค่ะ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1831 จนถึงปัจจุบันห้างแห่งนี้ก็เปิดให้บริการมานานถึง 187 ปีแล้วค่ะ ลักษณะอาคารสถาปัตยกรรมของที่นี่นั้นก็มีความร่วมสมัย ที่ยังรักษารูปแบบโบราณแต่ผสมสานแบบสมัยใหม่ไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งห้างห้างฮาร์วีย์ นิโคลแห่งนี้ก็มีสินค้าหลากหลายแบรนด์จากทั่วโลก ตั้งแต่ ของประดับตกแต่ง เสื้อผ้า ไวน์หลากชนิดและอาหาร เอาเป็นว่ามีทุกอย่างที่ขาช้อปต้องการเลยค่ะ Harrods (ห้างแฮร์รอดส์) ยังคงอยู่ที่ ย่านไนท์บริดจ์ กันอยู่นะคะเพราะมาถึงย่านนี้แล้วจะไม่แวะห้างแห่งนี้ก็จะไม่ได้โด่งดังขนาดนี้ก็ต้องแวะกันหน่อย ห้างแฮร์รอดส์ ห้างสรรพสินค้าที่ได้ชื่อว่าหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1834 และเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงลอนดอน มาลอนดอนแล้วถ้าไม่ได้แวะมาแฮร์รอดส์เนี่ยถือว่ามาไม่ถึงนะคะ นักท่องเที่ยวทั้งหลายยกให้เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและเป็นห้างหรูในเวลาเดียวกัน Harrod’s เป็นห้างที่มีความยิ่งใหญ่อลังการ เพราะมีพื้นที่ทั้งหมดถึง 7 ชั้น ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 300 ร้าน เวลามาที่นี่เราจะได้เห็นศิลปะของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมผสมผสานอยู่กับความทันสมัยได้อย่างกลมกลืน จึงเป็นที่ที่เหมาะสำหรับการใช้เวลาเดินเที่ยวและช้อปปิ้งซื้อของได้อย่างเพลิดเพลิน เป็นอีกหนึ่งพิกัดจุดช้อปปิ้งเด็ดของลอนดอนเขาล่ะค่ะ Piccadilly Circus (จัตุรัสพิคคาดิลลี่) จัตุรัสแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางมหานครลอนดอน จึงได้รับฉายาให้เป็น Time Square ของอังกฤษค่ะ เพราะที่นี่นั้นเชื่อมต่อถนนหลักหลายสายของลอนดอนไม่ว่าจะเป็น Regent Street, Shaftsbury Avenue, Piccadilly และ Haymarket และยังมีความโดดเด่นของป้ายนีออนบิลบอร์ด ที่คอยส่องแสงสร้างสีสันให้กับจัตุรัสแห่งนี้ค่ะ รวมถึงรูปปั้นเทพนักธนูผู้มีชื่อว่า Anteros ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยม และเป็นที่นั่งเล่น เดินช้อปปิ้งซึบซับบรรยากาศสไตล์อังกฤษค่ะ ทัวร์ครับหวังว่าจะถูกอกถูกใจขาช้อปทั้งหลายกันนะคะ บอกเลยว่าแต่ละที่เด็ดๆทั้งนั้น เอาเป็นว่าทัวร์ครับขอแนะนำให้ขาช้อปทุกคนกำธนบัตร หรือกอดบัตรเครดิตไว้แน่นๆ แล้วไป ตะลุยทัวร์ลอนดอนให้เต็มที่กับทัวร์ครับกันดีกว่า รับรองว่าการไปเที่ยวอังกฤษครั้งนี้ของคุณจะสนุก และสะดวกสบายกว่าเดิมแน่นอน >>>แพคเกจทัวร์อังกฤษคุณภาพ ราคาสุดคุ้มจากทัวร์ครับ<<< ขอบคุณรูปภาพประกอบบางส่วนจาก https://unsplash.com https://www.flickr.com
เปิดถุงช้อป! 5 ของฝากเวียดนาม ไม่ซื้อจะพลาดมากกกก…
พาช้อป
เปิดถุงช้อป! 5 ของฝากเวียดนาม ไม่ซื้อจะพลาดมากกกก…
แต่ทุกครั้งก่อนจะไปเที่ยวต่างประเทศ เราต้องหาข้อมูลเรื่องของฝากกัน จะได้ซื้อของที่ได้ชื่อว่าเด็ดดวงประจำประเทศนั้นจริงๆ ทัวร์ครับจึงขอพาทุกคนไปเปิดถึงช้อปปิ้งของฝากของประเทศที่กำลังมาแรงสุดๆในตอนนี้ เพราไม่ว่าใครก็ตามที่มีโอกาสได้สัมผัสความ สวยงามของธรรมชาติ ที่ผสมผสานกับ วัฒนธรรม จนลงตัวของที่นี่แล้วล่ะก็ ต้องหลงรักประเทศเวียดนามนี้แน่นอน ประเทศที่ว่านั้นก็คือ ประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆเราอย่าง “ เวียดนาม ” นั่นเองค่ะ วันนี้ทัวร์ครับจึงไม่พลาด คัด “ 5 ของฝากเวียดนาม ” สุดเด็ด ที่ต้องซื้อเมื่อได้ไปเที่ยวเวียดนามค่ะ จะมีอะไรกันบ้าง ตามมาดูเลยค่ะ กาแฟรสเข้ม (Vietnamese Coffee) กาแฟเวียดนาม ซึ่งมีเอกลักษณ์การชงอันเรียบง่ายแสนจะ Minimal แต่กลับมีรสชาติที่โดนใจ จากรสชาติเข้มข้นจากเมล็ดกาแฟที่ผสมกับความหอม หวานมันจากนมข้นหวาน ไม่ว่าคอกาแฟจากประเทศไหน หากได้มาลิ้มลองกาแฟเวียดนามแล้วล่ะก็ ต้องเป็นอันติดใจทุกราย น้อยคนนักที่จะรู้ว่าประเทศเวียดนามนั้น ส่งออกกาแฟเป็นอันดับ 2 ของโลก กาแฟเวียดนามจึงจัดว่าเป็นของฝากเวียดนาม ที่ต้องซื้อให้ได้หากได้ไปเที่ยวเวียดนามค่ะ แถมยังมีให้เลือกหลายรูปแบบตั้งแต่เมล็ดกาแฟคั่วบด สำหรับคอกาแฟที่ชอบรสชาติกาแฟเวียดนามแบบต้นตำหรับ โดยต้องมีอุปกรณ์สำหรับการ Drip ที่เรียกว่า “ phin ” สำหรับการชงอันเป็นเอกลักษณ์ หรือถ้าหากใครไม่ถนัดชงแบบต้นตำหรับ ก็สามารถซื้อแบบสำเร็จรูป 3 in 1 มาลองชิมได้นะคะ ไม่ผิดหวังแน่นอน หมวกเวียดนาม (Vietnamese Hat) อีกหนึ่งสัญลักษณ์ประจำของเวียดนาม ที่เรามักได้เห็นผ่านตากันอยู่เสมอเมื่อเอ่ยชื่อของเวียดนามก็คือ หมวกเวียดนาม ซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาเวียดนามว่า “ หนอนหลา ” (Non la) หมวกที่สานด้วยมือจากใบลานหรือใบไผ่ เพื่อกันฝนและบังแสงแดดขณะทำงานกลางแจ้งของชาวไร่ ชาวนาเวียดนาม จะว่าไปก็คล้ายๆกับหมวกงอบของเมืองไทยนั่นเองค่ะ แตกต่างกันตรงที่ดีไซน์ของหนอนหลาที่จะมีลักษณะเป็นกรวยแหลม อันมีเอกลักษณ์และกลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศเวียดนามไปโดยปริยายค่ะ ชุดอ๋าวหญ่าย (Vietnamese Traditional Dresses) หากใครได้ไปเที่ยวเวียดนาม คงอดไม่ได้ที่จะลองใส่ชุดอ๋าวหญ่าย เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน เราก็จะได้เห็นสาวเวียดนามใส่ชุดประจำชาติกันอย่างแพร่หลาย สาวไทยอย่างเราจึงขอลองเนียนเป็นสาวเวียดนามสักหน่อยค่ะ ซึ่งชุดอ๋าวหญ๋าย ถือเป็นชุดประจำชาติของเวียดนาม ทอจากผ้าไหม ตัดเป็นเสื้อพอดีตัว ใส่คู่กับกางเกงขาวยาวลักษณะคล้ายๆกับชุดกี่เพ้าของจีน ซึ่งคนเวียดนามจะใส่เฉพาะในงานหรือพิธีสำคัญค่ะ ยิ่งถ้ามีหมวงหนอนหลาด้วยสักนิด รับรองว่าเหมือนสาวเวียดนามแท้ๆแน่นอนค่ะ โคมไฟจากฮอยอัน (Hoi An Lantern) หลายคนอาจเคยเห็นภาพของโคมไฟหลากสีสันในเมืองฮอยอัน (Hoi An Ancient Town) แขวนเรียงรายส่องแสงสว่างอยู่บริเวณริมแม่น้ำทูโบน (Thu Bon River) เป็นบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติค แต่ถ้าหากใครติดใจความสวยงามของโคมไฟฮอยอันล่ะก็ สามารถซื้อติดไม้ ติดมือเป็นของฝากได้นะคะ เพราะโคมไฟของที่นี่นั้นมีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอยอันเท่านั้น และยิ่งหากใครมาเที่ยวฮอยอันในวันพระจันทร์เต็มดวง (วันขึ้น 15 ค่ำ) แบบพอดี๊พอดี ที่นี่จะมีการจัด “ เทศกาลโคมไฟ ” (Full Moon Lantern Festival) โดยทั้งเมืองฮอยอันจะพร้อมใจกันปิดไฟ ทำให้มีแสงสว่างจากโคมไฟหลากสีในเมืองฮอยอันเท่านั้นค่ะ เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ไม่ควรพลาดหาดได้มาเที่ยวเวียดนามนะคะ ถั่ว / ผลไม้อบแห้ง (Nut / Dried Fruits) อีกหนึ่งของฝากที่ไม่ควรพลาดต้องซื้อเมื่อไปเที่ยวเวียดนามคือพวกของอาหารแห้ง อย่างผลไม้ ถั่วชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ “ เม็ดบัว ” ที่เขาว่ากันว่ารสชาติโดน เพราะถ้าหากได้ลองกินก็จะเคี้ยวเพลิน จนหยุดไม่ได้เลยล่ะค่ะ แต่จะเป็นเรื่องจริงไหม ก็ต้องไปซื้อมาลองชิมพิสูจน์ด้วยตัวเอง แต่ก่อนจะซื้อนั้นต้องตรวจสอบให้ดีว่ามีกลิ่นเหม็นหืนหรือเปล่า ไม่งั้นได้ของไม่ดีไปเซ็งแย่เลยค่ะ หวังว่าสุดยอด 5 ของฝากจากเวียดนามที่ทัวร์ครับนำมาฝากกันในวันนี้ จะถูกใจนะคะ ใครที่กำลังจะไปเที่ยวเวียดนามก็อย่าลืมจดรายชื่อของฝากเวียดนามที่ทัวร์ครับแนะนำกันในวันนี้ รับรองว่าถูกใจทั้งคนซื้อ และคนได้รับแน่นอนค่ะ ส่วนทัวร์ครับจะมีเรื่องราวน่าสนใจอะไรมาฝากกันอีกนั้น ต้องคอยติดตามค่ะ ! อ่านต่อ >>เที่ยวซาปา..ตามหาความโรแมนติดแห่งดินแดนเวียดนามเหนือ โปรแกรมทัวร์เที่ยวเวียดนาม >> คลิก
10 ที่สุด!! ของฝากจากเกาหลี บินไปเกาหลีทุกทีต้องโดน!
พาช้อป
เกาหลี
10 ที่สุด!! ของฝากจากเกาหลี บินไปเกาหลีทุกทีต้องโดน!
บินไปเที่ยวเกาหลีทั้งที เรื่องเที่ยวต้องแน่น กิจกรรมต้องมันส์! แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือเรื่องช้อปปิ้ง เกาหลีเป็นอีกหนึ่งแหล่งช้อปขวัญใจคนไทย โดยเฉพาะสาวๆทั้งหลาย ต่างตกหลุมรักเครื่องสำอางค์ของเกาหลีกันทุกราย ดังนั้นหากใครกำลังจะไปเที่ยวเกาหลี แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องซื้ออะไรเป็นของฝากดี วันนี้ ทัวร์ครับ ได้คัดสรร 10 ของฝากเกาหลีมาฝากค่ะ จองทัวร์เกาหลี กับ ทัวร์ครับ https://tourkrub.co/korea-tour 10 ของฝากเกาหลี ไปแล้วต้องซื้อกลับทุกครั้ง 1.ที่มาร์กหน้า (Face Mark) สำหรับที่ มาร์กหน้านั้นถือเป็นของฝากจากเกาหลียอดนิยมอันดับต้นๆ ที่ใครๆต้องไม่พลาดหิ้วมาฝากกันบ่อยเพราะมาร์กหน้าที่เกาหลีนั้นมากมายหลายสูตรให้เลือกสรร และที่สำคัญราคาไม่แพงเมื่อซื้อแบบแพ็ค ราคาไม่แพง แถมฝากได้หลายคน ดังนั้นใครไปเที่ยวเกาหลี อย่าลืมซื้อติดไม้ ติดมือมาเป็นของฝากนะคะ 2.แฮนด์ครีมและบอดี้โลชั่น (Hand Cream & Lotion) ของฝากเกาหลียอดฮิตของ 2018 อันต่อมายังอยู่ที่หมวดหมู่ของเครื่องสำอางค์ค่ะของฝากที่ว่านั้นก็คือ แฮนด์ครีมและโลชั่นนั่นเองค่ะ เนื่องจากเกาหลีเป็นประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น จึงมีสินค้าประเภทนี้ให้เลือกมากมายและที่สำคัญคือเข้ากันได้กับผิวพรรณของคนไทย ราคาก็ไม่แพง มากับบรรจุภัณฑ์ที่น่ารักสดใส จึงทำให้แฮนด์ครีมและโลชั่นกลายเป็นหนึ่งในของฝากเกาหลียอดนิยมค่ะ >> ซื้อแฮนด์ครีมเกาหลี คลิกตรงนี้ 3.ถุงเท้า (Socks) ไอเทมของฝากเกาหลียอดฮิตต่อมาก็คือ ถุงเท้า ซึ่งบางคนอาจสงสัยว่าทำไมถุงเท้าเกาหลีถึงกลายเป็นของฝากเกาหลีได้ เพราะว่าถุงเท้าเกาหลีเต็มไปด้วยลวดลายน่ารักมีหลากหลายรูปแบบมากๆ จนเลือกไม่ถูกยิ่งหากเป็นสาวกคนชอบถุงเท้าแล้วล่ะก็ ทัวร์ครับบอกเลยว่างานนี้มีหมดตัวค่ะ แถมราคาน่ารักมากๆ เริ่มต้นเพียงคู่ละ 1,000 วอนหรือประมาณ 30 บาทเท่านั้น เหมาะกับการเป็นของฝากเกาหลีจริงๆ 4.เสื้อผ้าแฟชั่น (Clothes) มีโอกาสได้ไปเยือนประเทศแฟชั่นทั้งที ก็ไม่ควรพลาดช้อปปิ้งเสื้อผ้ากันสักหน่อย ซึ่งเกาหลีนั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นแสนทันสมัย หลากหลายสไตล์โดยร้านเสื้อผ้าจะซ่อนตัวอยู่ตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยเฉพาะเมืองหลวง อย่าง โซล (Seoul) ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งเสื้อผ้าแฟชั่นชั้นนำของเกาหลี ทัวร์ครับแนะนำให้ช้อปแบบมีสติ ไม่งั้นตัวอาจจะเบาออกมาจากร้านได้ค่ะ 5.กิมจิ (Kimchi) กิมจิ สุดยอดเอกลักษณ์แห่งเกาหลี อาหารประจำชาติที่ไม่มีใครไม่รู้จัก และยังได้เป็นของฝากเกาหลียอดฮิต ที่นักท่องเที่ยวไม่พลาดซื้อกลับมาเป็นของฝากกลับมากันแทบทุกราย ด้วยรสชาติสไตล์เกาหลีแท้ๆ ที่ไม่มีใครเหมือน กับความอร่อยแบบต้นฉบับ ซึ่งหลังจากได้กลายมาเป็นของฝากเกาหลีสุดฮิต กิมจิจึงพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สะดวกกับการเดินทาง >> ซื้อกิมจิ อร่อยๆคลิกตรงนี้เลย 6.สาหร่าย (Seaweed) พูดถึงกิมจิแล้วไม่พูดถึง สาหร่าย ก็คงไม่ได้ เพราะสาหร่ายคือหนึ่งในของฝากเกาหลีที่ไม่ว่าจะซื้อฝากใครก็ต้องติดใจในรสชาติกันทุกราย ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกแปรรูปให้กลายเป็น สาหร่ายทะเลอบกรอบ พร้อมรสเค็มนิดๆจากเกลือ และหอมหน่อยๆจากน้ำมันงา สาหร่ายเกาหลี จึงกลายเป็นของฝากเกาหลีสุดฮิตนั่นเองค่ะ >> ซื้อสาหร่ายเกาหลี คลิกเลย 7.โสม (Ginsang) สำหรับคนที่ต้องการซื้อของฝากเกาหลีให้กับญาติผู้ใหญ่ โสมจัดเป็นอายุวรรณะของคนเกาหลีมานานกว่า 1,000 ปีเราจึงนิยมซื้อโสมเป็นของฝากเกาหลีให้กับญาติผู้ใหญ่ เพราะโสมมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย และทำให้ร่างกายฟิตราวกับคนรุ่นหนุ่มสาวเลยล่ะค่ะ 8.เครื่องสำอาง (Cosmetic) เครื่องสำอางค์เกาหลี เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของฝากเกาหลียอดฮิตตลอดกาล เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ เครื่องสำอางค์ก็ยังคงเป็นของฝากเกาหลีที่ใครๆก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันมาทุกราย ซึ่งเครื่องสำอางค์เกาหลีนั้นมีหลากหลายแบรนด์มากหมาย แต่ละแบรนด์ยังออกผลิตภัณฑ์มาแข่งขันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แถมราคาที่ไม่แพง สบายกระเป๋าและมีคุณภาพ โดยเฉพาะแบรนด์อันดับ 1 ในใจคนไทยอย่าง Etude, Skinfood หรือ innisfree เครื่องสำอางค์เกาหลี จึงกลายเป็นของฝากเกาหลีที่ต้องโดนทุกครั้งหากได้ไปเที่ยวเกาหลีค่ะ 9.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Instant Noodle) ความใฝ่ฝันของการไปเกาหลีที่สาวๆ หลายคนหมายปอง คือการไปชิมบะหมีกึ่งสำเร็จรูปของเกาหลี หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า รามยอน ซึ่งเรามักได้เห็นคู่พระ-นางเกาหลีในซีรีย์นั่งซู๊ดดด...รามยอนกันเสียงดัง จนอดสงสัยไม่ได้ว่า มันจะอร่อยขนาดไหนกันนะ ด้วย เส้นบะหมี่เหนียวนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมรสชาติหลากหลายให้ลิ้มลอง รามยอนเกาหลีจึงเป็นอีกของฝากเกาหลีสุดฮิตที่ใครก็ชื่นชอบ >>> ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี คลิกเลย 10. รองเท้า (Shoes) เกาหลีเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่า รองเท้าราคาไม่แพง ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ซึ่งราคาถูกกว่าเมืองไทยมาก และยังมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะสาวๆทั้งหลายที่มักจะหมดตัวทุกครั้ง เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็เจอแต่รองเท้าน่าซื้อทั้งนั้น บางคนซื้อให้ตัวเองไม่พอ ยังซื้อฝากคนอื่นอีกด้วย ดังนั้นก็ระมัดระวังน้ำหนักกระเป๋ากันด้วยนะคะ อย่าลืมจดลิสของฝากเกาหลีทั้ง 10 อย่างไว้ให้ดี ไปเที่ยวเกาหลีจะได้ไม่พลาดของดีดี ราคาคุ้มค่า ซื้อติดไม้ติดมือมาฝากถูกใจทั้งคนให้และคนรับแน่นอนค่ะ [ สถานที่ช้อปปิ้งในเกาหลี ไม่ได้มีดีแค่ เมียงดง ] แต่ถ้าใครอยากเที่ยวเกาหลีแบบลื่นไหลไม่มีสะดุด ก็เข้าไปดู... จองทัวร์เกาหลี กับ ทัวร์ครับ https://tourkrub.co/korea-tour
5 แบรนด์กระเป๋าญี่ปุ่นที่ต้องซื้อกลับ เมื่อเดินทางไปถึงญี่ปุ่น
พาช้อป
ญี่ปุ่น
5 แบรนด์กระเป๋าญี่ปุ่นที่ต้องซื้อกลับ เมื่อเดินทางไปถึงญี่ปุ่น
ไปเที่ยวญี่ปุ่นของฝากมีเยอะ แต่อีกสิ่งที่สาวๆ ชอบมากคือกระเป๋า ซึ่งกระเป๋าแบรนด์ญี่ปุ่นมีหลายแบรนด์แต่ครั้งนี้ทัวร์ครับเลือกแบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคย มาพร้อมด้วยคุณภาพของสินค้าบวกกับราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับราคาที่ซื้อในเมืองไทย สาวๆ ที่ชอบกระเป๋า ห้ามพลาดเด็ดขาด ไปแล้วซื้อกลับมาเลย คุ้มมากจริงๆ ว่าแล้วก็ลองมาดูกระเป๋าญี่ปุ่นแบรนด์ไหนที่ไม่ควรพลาดโดยเฉพาะสาวๆ เมื่อเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ซื้อทัวร์ญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) https://tourkrub.co/japan-tour 5 แบรนด์กระเป๋าญี่ปุ่น ขอบคุณรูปภาพจากhttps://www.yoshidakaban.com/index.html 1. กระเป๋าญี่ปุ่น - Yoshida & Co.,Ltd. Porter เริ่มต้นกันด้วยกระเป๋าแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีอายุยาวนานกว่าร้อยปี เป็นการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ในอดีตแบรนด์นี้ได้รับความนิยมสูงมากญี่ปุ่นกระทั่งค่อยๆ เริ่มแพร่หลายไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ทุกใบที่ผลิตออกมาจะผ่านกรรมวิธีอันแสนพิถีพิถัน รับรองว่าใครได้ใช้งานต่างก็ต้องชื่นชอบ ซื้อกระเป๋าYoshida PORTERคลิกตรงนี้ 2. กระเป๋าญี่ปุ่น - Issey Miyake Bao Bao ขอบคุณรูปภาพจากhttps://www.isseymiyake.com/ กระเป๋าญี่ปุ่นที่คนไทยค่อนข้างคุ้นเคยกันดี ซึ่งถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังของพวกเขาจนโด่งดังไปทั่วโลก เป็นการผสมผสานแฟชั่นระหว่างซีกโลกตะวันออกกับตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เป็นกระเป๋าแบรนด์ญี่ปุ่นที่เรามักเห็นบ่อยๆ ในเมืองไทยและแน่นอนการมายังประเทศแห่งนี้ต้องไม่ควรพลาดซื้อ ซื้อกระเป๋าIssey Miyake Bao Baoคลิกตรงนี้ 3. กระเป๋าญี่ปุ่น - Legato Largo ขอบคุณรูปภาพจากhttps://anello.co.th/ แม้จะพึ่งถือกำเนิดมาเมื่อราว 10 กว่าปีที่แล้วทว่ากระเป๋าแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Legato Largo ได้ออกแบบมาเพื่อสาวๆ โดยเฉพาะ เน้นดีไซน์แสนเรียบง่ายภายใต้วัตถุประสงค์อยากให้สาวๆ ใช้กระเป๋าใบโปรดได้บ่อยโดยไม่ต้องซื้อหลายใบ ดังนั้นการออกแบบของกระเป๋าญี่ปุ่นแบรนด์นี้จะเน้นการใช้งานแบบครบวงจร เป็นกระเป๋าที่เหมาะกับสาวไทยอย่างยิ่ง ซื้อกระเป๋าLegato Largoคลิกตรงนี้ 4.กระเป๋าญี่ปุ่น - Anello ขอบคุณรูปภาพจากhttps://anello.co.th/ เป็นกระเป๋าแบรนด์ญี่ปุ่นสุดฮิตมากๆ ในยุคนี้ เอาง่ายๆ ว่าจะเดินที่เมืองไทยหรือในเมืองนอกก็ต้องเห็นคนสะพายใบนี้กันบ้างไม่มากก็น้อย เป็นกระเป๋าญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2005 เน้นการออกแบบเพื่อใช้งานและความสวยงามไปพร้อมๆ กัน มีทั้งรุ่นยอดนิยมและรุ่นเน้นความน่ารักสดใส ไม่แปลกใจที่เวลาเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นจะต้องแวะเอากลับมาซักใบ 2 ใบ ซื้อกระเป๋าAnelloคลิกตรงนี้ 5.กระเป๋าญี่ปุ่น - Rootote Ceoroo สำหรับกระเป๋าญี่ปุ่นแบรนด์สุดท้ายที่จะแนะนำนี้อาจดูแตกต่างไปจากแบรนด์อื่นๆ หน่อยนั่นเพราะพวกเขาเน้นขายกระเป่าผ้าลายน่ารัก มองเผินๆ อาจดูธรรมดาแต่ไอเดียการออกแบบมาจากกระเป๋าหน้าท้องจิงโจ้จนคนเรียกกันเล่นๆ ว่า กระเป๋ารู เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันที่สำคัญช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย สาวๆ หลายคนคงรีบนับเงินในกระเป๋าแน่ๆ ว่าปีนี้ถ้าได้มีโอกาสบินไปเที่ยวญี่ปุ่นอยากจะเลือกซื้อกระเป๋าญี่ปุ่นแบรนด์ไหนดี แต่ไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็การันตีด้วยงานคุณภาพ คุ้มค่าราคาเงินที่จ่ายไปแน่นอน ซื้อกระเป๋าRootote Ceorooคลิกตรงนี้ ไปเที่ยวญี่ปุ่น คราวหน้า อย่าลืมเด็ดขาด ตามไปช้อปปิ้งกระเป๋า แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นซื้อกลับเป็นของฝาก หรือใช้เองก็ได้ ราคาไม่แรง ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที่ต้องซื้อกลับมาด้วย รับรองว่าซื้อที่ญี่ปุ่นราคาคุ้มค่าจริงๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่นจองทัวร์ญี่ปุ่น ช้อปมันส์ เที่ยวสนุกกับ ทัวร์ครับ คลิกเลย >>https://tourkrub.co/japan-tour<<
ถูกกว่า!! 5 แบรนด์กระเป๋าดัง จากฮ่องกง ที่ใครไปเที่ยวต้องหิ้วกลับมา
พาช้อป
ฮ่องกง
ถูกกว่า!! 5 แบรนด์กระเป๋าดัง จากฮ่องกง ที่ใครไปเที่ยวต้องหิ้วกลับมา
ไปเที่ยวฮ่องกง อย่าพลาดช้อปปิ้งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมทัวร์ครับ เลยจะขออาสาพาทุกคนไปดูกันว่าที่ฮ่องกงมีแบรนด์เนมอะไรน่าซื้อ และเพื่อเป็นการเอาใจผู้หญิงนักช้อป! งานนี้ทัวร์ครับพาไปชี้เป้าแบรนด์กระเป๋าดังจากฮ่องกง ที่ซื้อแล้วได้ราคาถูกกว่าในไทยแน่นอน ครั้งหน้าใครไปเที่ยว ถ้าได้หิ้วกลับไปแล้วรับรองว่าคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มอีกนะ..!! จองทัวร์ฮ่องกง กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) https://tourkrub.co/hongkong-tour 5 กระเป๋าแบรนด์เนม จากฮ่องกง 1. Samantha Thavasa แม้จะไม่ใช่แบรนด์กระเป๋าจากฮ่องกงโดยตรง แต่ด้วยการดีไซน์ที่ทำออกมาให้ดูโก้เก๋และทันสมัย บวกกับการรูปทรงที่ดูเรียบหรูอย่างลงตัว แถมยังตั้งราคาได้น่าคบหาสุดๆ เราขอแนะนำให้รู้จักกับแบรนด์กระเป๋าสัญชาติญี่ปุ่นใบนี้เลยค่ะ และสำหรับใครที่สนใจก็สามารถไปเยี่ยมชมช็อปฯ ได้ที่ Harbour City ห้างที่ใหญ่ที่สุดใน ย่านจิมซาจุ่ย หรือจะเป็นที่ห้าง SOGO ก็มีให้บริการเหมือนกันนะ ซื้อกระเป๋าSamantha Thavasa กับ ลาซาด้า 2.Anello ถ้าถามว่าที่ฮ่องกงมีอะไรน่าซื้อ ? สาวๆ หลายคนอาจตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า กระเป๋า Anello นี่ยังไงล่ะเธอ แม้ว่าจะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์กระเป๋าจากญี่ปุ่นที่มีช็อปฯ ให้บริการอยู่ในฮ่องกง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าลูกทัวร์ได้ไปเยือนช็อปฯ แล้ว วินาทีนั้นยากที่จะห้ามใจเลยละค่ะ ด้วยดีไซน์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนว่ามันจะยังไม่ดูแก่หรือตกรุ่นไปอีกหลายปี เราขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชมช็อปฯ อย่างเป็นทางการในสาขาฮ่องกงกันได้ที่ห้าง Harbour City ชั้น 3 เลยค่ะ ซื้อกระเป๋าAnello กับ ลาซาด้า 3.Rabeanco อีกหนึ่งกระเป๋าแบรนด์เนมฮ่องกงที่หาซื้อไม่ได้ในไทย…ด้วยเหตุผลข้อนี้ก็อาจจะทำให้ดูน่าสนใจขึ้นมาทันทีเลยใช่ไหมล่ะ? แต่นั่นยังไม่พอ เพราะนี่คือแบรนด์ที่ชูคุณสมบัติทั้งเรื่องการใช้วัสดุอย่างดี การออกแบบดีไซน์ที่ให้ความรู้สึกหรูหราอย่างมีระดับ ให้สาวๆได้หิ้วกลับมากันแบบไม่ซ้ำใครเลยทีเดียว ที่สำคัญช็อปฯ แรกสุดอย่างเป็นทางการของแบรนด์นี้ก็ตั้งอยู่ที่ฮ่องกงด้วยเช่นกัน และหากใครมีโอกาสได้ไปเยือนละก็ เราขอแนะนำให้ลองไปชมดีไซน์กระเป๋าสุดชิคได้หลาย ย่านไม่ว่าจะทั้งที่ จิมซาจุ่ย มงก๊ก หรือแถวเซ็นทรัล ก็มีเหมือนกัน รับรองเลยว่านี่อาจจะเป็นคำตอบสำหรับคำถามที่ว่า ฮ่องกงมีอะไรน่าซื้อ ? ซื้อกระเป๋าRabeanco กับ ลาซาด้า 4. Coach Outlets ถ้าพูดถึงแบรนด์กระเป๋าฮ่องกง สำหรับยี่ห้อนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าที่ไทยก็มีขายตามห้างให้เห็นทั่วไป ทว่าความพิเศษที่เราเอามาบอกต่อในครั้งนี้ก็คือ ที่ฮ่องกงมีช็อปฯ Coach Outlets อยู่ด้วย !! ซึ่งแน่นอนละว่าสาวๆ จะได้หิ้วกระเป๋าจากฮ่องกงสุดชิคกลับมาในราคาที่ย่อมเยาว์กว่าเดิมหลายเท่าตัว และไม่ใช่แค่ยี่ห้อ Coach เท่านั้นที่มีเอาท์เลทให้เราได้เข้าไปขุดคุ้ยเลือกสรรค์กัน เพราะที่ City Gates Outlet ยังเต็มไปด้วยแบรนด์เนมชื่อดังหลากหลายยี่ห้อให้ได้เดินช็อปฯ กันจนลืมเวลาไปเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Burberry, Kate Spade ไปจนถึงแบรนด์ดังที่หายากในไทยอย่าง Bally เลย ซื้อกระเป๋าCoach กับ ลาซาด้า 5.Bao Bao Issey Miyake ด้วยรูปทรงที่ดูเหมือนจะเป็นแบรนด์กระเป๋าจากฮ่องกง แห่งโลกอนาคต บวกกับวัสดุการใช้งานที่เหมาะสมกับหญิงสาวแห่งโลกยุคโพสต์โมเดิร์นแบบนี้ เราก็อดใจไม่ไหวที่จะขอแนะนำให้สาวๆ ได้ลองไปเดินเลือกซื้อกันดูกับแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นที่ผ่านการดีไซน์อย่างพิถีพิถันจาก Issey Miyake แฟชั่นดีไซน์เนอร์ชื่อดังระดับโลก อีกทั้งเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ต้องเจอกับของก๊อปฯ หรืองานมิเร่อ… ช็อปฯ อย่างเป็นทางการของ Bao Bao ก็ตั้งอยู่ที่ Harbour City แลนด์มาร์คเด่นของย่านจิมซาจุ่ยนั่นเองค่ะ ทีนี้ละ สาวๆ นักช็อปฯ ทั้งหลายก็ได้ทราบกันซักทีว่าที่เกาะฮ่องกงมีอะไรให้น่าซื้อ ซื้อกระเป๋าBao Bao Issey Miyake กับ ลาซาด้า จริงๆ แล้วที่ฮ่องกงมีแบรนด์กระเป๋าให้เลือกช้อปอีกมากมาย ใครจะไปเที่ยวฮ่องกงก็ลิสต์แบรนด์กระเป๋าฮ่องกงได้เลย แล้วไปเดินหาซื้อได้ชิลล์รับรองว่าถูกกว่าที่ไทยหลายบาทเลยค่ะ ประหยัดไปอีกหลายมื้อ หรือจะรับพรีออเดอร์ก็รวยไปอี๊กกก แต่ใครถ้าไปฮ่องก็อย่าลืมวางแผนให้รอบคอบ และเช็คสภาพอากาศฮ่องกงกันก่อนน้าา จะได้เตรียมตัวไปเที่ยวฮ่องกงกันได้แบบไม่พลาด ดูต่อที่นี่เลย >>เตรียมตัวให้พร้อม... พิชิตอากาศฮ่องกง⛄️
พาช็อปฮ่องกงกับ 5 แหล่งช็อปปิ้งฮ่องกงห้ามพลาด
พาช้อป
พาช็อปฮ่องกงกับ 5 แหล่งช็อปปิ้งฮ่องกงห้ามพลาด
จะว่าไปการได้มาช็อปปิ้งฮ่องกงนอกจากจะมีย่านช็อปปิ้งหลากหลายแล้วราคายังไม่แพงอีกต่างหาก ดังนั้นลองมาทำความรู้จัก 5 แหล่งช็อปปิ้งฮ่องกงที่ใครมาแล้วต้องไม่พลาดว่ามีจุดไหนบ้าง ย่านถนนแคนตัน ใครที่หลงใหลในการซื้อของแบรนด์เนมต้องไม่พลาดย่านถนนแคนตันเป็นอันขาด เพราะแค่เดินเข้าไปยังพื้นที่บริเวณนี้คุณจะได้พบกับสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายชนิดทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าสารพัด แบรนด์ดังอย่าง Armani, Louis Vuitton, Prada, Versace, Gucci อยู่กันครบ ถึงขนาดได้รับการขนานนามว่า ถนนแบรนด์เนมกันเลย จิมซาจุ่ย สถานที่อันเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้ามากมาย ใครรักการเดินช็อปปิ้งแบบสบายๆ ในห้องแอร์ต้องไม่พลาด บริเวณนี้จัดเป็นย่านการค้าลำดับต้นๆ ของฮ่องกง เป็นแหล่งช็อปปิ้งฮ่องกงของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแถมยังได้มีโอกาสชมวิวสวยๆ จากอ่าววิคตอเรีย ฮาร์เบอร์ อีกด้วย ถนนแกรนด์วิลล์และคาเมรอน สำหรับใครที่คิดว่าการมาช็อปปิ้งฮ่องกงอาจเจอแต่ของแบรนด์เนมลองมาเดินย่านนี้ดูแล้วจะรู้สึกว่าแบรนด์ท้องถิ่นฮ่องกงก็เป็นสินค้าคุณภาพดีไม่แพ้กันที่สำคัญราคาถูกกว่ามาก รวมไปถึงมีสินค้าราคากลางๆ ให้เงินในกระเป๋าเหลือไปทำอย่างอื่นได้อีกเพียบไม่ต้องคิดมากว่าเงินจะไม่พอ ถนนควีนส์โรด ถนนแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณย่านเซ็นทรัลเป็นถนนสายเก่าแก่ของฮ่องกงเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย หากใครมาเที่ยวในโซนนี้ต้องไม่พลาดมาเดินช็อปปิ้งกันที่นี่แน่นอน ความพิเศษอีกอย่างของถนนควีนส์โรดก็คือมีร้านอาหารชื่อดังอย่าง Yung Kee ร้านห่านย่างอันเลื่องชื่อให้ได้ลองลิ้มชิมรสว่ามันจะเด็ดสมคำร่ำลือมากน้อยขนาดไหน ถนนฟาหยวน ปิดท้ายด้วยสายกีฬาและสุขภาพกับการมาแหล่งช็อปปิ้งฮ่องกงที่เน้นเรื่องของอุปกรณ์กีฬาเป็นหลัก แบรนด์กีฬาชั้นนำอย่าง Nike, Adidas, Converse และอีกมากมายถูกรวมเอาไว้เพียบ จุดเด่นคือมักมีรุ่นรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าแฟชั่นผู้ชายใหม่ๆ มาวางขายก่อน แต่ทางเมืองไทยยังไม่นำเข้า ย่านนี้จึงเหมาะกับหนุ่มๆ ผู้ต้องการมาช็อปปิ้งฮ่องกงอย่างแรง 5 แหล่งช็อปปิ้งฮ่องกงที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้เชื่อเลยว่าถ้าใครเคยไปต้องได้มีโอกาสสัมผัสกับความครึกครื้นในการใช้เงินแน่นอน แต่ถ้าใครยังไม่เคยแอบกระซิบว่าต้องไม่พลาดจริงๆ หากตั้งใจไปช็อปปิ้งฮ่องกง โปรแกรมเที่ยวทัวร์ฮ่องกง >> คลิก
 4 สถานที่แหล่งช้อปปิ้งในเกาหลี !! ที่ไม่ได้มีดีแค่ เมียงดง
พาช้อป
4 สถานที่แหล่งช้อปปิ้งในเกาหลี !! ที่ไม่ได้มีดีแค่ เมียงดง
เพราะสินค้าของเกาหลีเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงและราคาประหยัด ที่สำคัญรูปแบบของแฟชั่นที่นั่นยังมีความเป็นเอกลักษณ์คือใส่ยังไงก็สวย แต่งยังไงก็น่ารัก ฉะนั้นไม่น่าแปลกถ้าสาวขาช้อปจากไทยแลนด์ จะลากกระเป๋าหลายใบกลับบ้านในสภาพอิดโรย เพราะช้อปกันจนหมดไส้หมดพุง ด้วยความหวังที่ว่ากลับมากินข้าวที่บ้านเลยทีเดียว นั่นคือความน่ากลัวของสถานที่ช้อปปิ้งในเกาหลี อันเป็นตำนาน นี่เองค่ะ แหล่งข้อมูลส่วนใหญ่ที่กล่าวถึงสถานที่แหล่งช้อปปิ้งในเกาหลี ได้ลงความเห็นอย่างเป็นทางการว่า การไปเกาหลี ไม่ควรที่จะพกอะไรไปเลยนอกจาก เอกสารประจำตัวเพื่อใช้ในการเดินทาง และเงินเท่านั้น เพราะทุกอย่างเราสามารถหาซื้อได้ในเกาหลี และด้วยค่าครองชีพที่พอๆกับบ้านเราทำให้คนที่คิดจะไปเที่ยว ไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆมาก สถานที่ช้อปปิ้งในเกาหลีมีอยู่ด้วยกันหลายย่านซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในโซล และแต่ละย่านก็มีความแตกต่างกันเรื่องของสภาพแวดล้อมและราคา คล้ายๆกับแถวบ้านเรา เช่น สินค้าแบบเดียวกัน ถ้าวางขายที่โบ๊เบ๊ก็อีกราคาหนึ่ง วางขายที่ประตูน้ำ ก็เพิ่มมานิดนึง แต่ถ้าเอาไปขายที่จตุจักร ก็อาจเพิ่มมาอีกนิด แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เข้าไปถึงสยามแสควร์ รับรองได้ว่าราคากระฉูดแน่นอน ในเกาหลีก็เช่นเดียวกัน แหล่งช้อปปิ้งหลักๆของเกาหลี ได้แก่ อิแทวอนดง(Itaewon-dong) ซึ่งเป็นตลาดใหญ่แหล่งช้อปปิ้งหลักๆของเกาหลีเปิดให้บริการทั้งวันทั้งคืน มีร้านค้าและแผงลอยรวมกันราว 2,400 ร้านให้ได้เลือกช้อปกันอย่างจุใจ เรียกได้ว่าเป็นแดนสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และบอกได้เลยว่าถูกและดีมีเพียบ!! ย่านเมียงดง (Myeong-dong) เป็นอีกหนึ่งแหล่งช๊อปปิ้งที่สาวไทยนิยม เมียงดง จะเป็นศูนย์รวมของสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วโลก คล้ายแถวสยามบ้านเรา และที่นี่จะมีรักเรียนนักศึกษาหน้าตาดีมาเดินเที่ยว พบปะ และหาของกินกันอย่างเพลิดเพลิน เมียงดง จะเป็นศูนย์รวมของเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงามมากมายหลายแบรนด์ เครื่องสำอางจากเกาหลีทุกแบรนด์ถูกรวบรวมเอาไว้ที่นี่ รวมถึงแบรนด์ดังจากทั่วโลก เรียกได้ว่าไปเมียงดงที่เดียวจบครบทุกเรื่องความสวยงาม และในย่านนี้ ยังมีอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของเกาหลีวางขายอยู่ตลอดเส้นทางช๊อปปิ้งอีกด้วย และที่ย่านเมียงดงนี้เองยังมีห้างขนาดใหญ่ ชื่อห้างชินเซเก ดิวตี้ฟรี ซึ่งเป็นศูนย์รวมของข้างของเครื่องใช้ และพวกเครื่องใช้ฟ้าแบบล้ำๆที่เพิ่งคลอดออกมาใหม่ๆ รวมถึงของฝากมากมาย และเดินต่อไปอีกนิดก็ถึง ตลาดนัมแดมุน ที่เป็นแหล่งขายส่งสิ้นค้าพวกเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ของตกแต่งและงานฝีมือ (สำเพ็งบ้านเรา) ย่านทงแดมุน (Dongdaemun Market) ย่านนี้ เป็นแหล่งรวมของขาช้อปแนวสุขภาพ เพราะตลาดทงแดมุน เป็นแหล่งขาย อุปกรณ์ออกกำลังกาย เสื้อผ้า เครื่องหนัง และเฟอร์นิเจอร์มากมาย มีทั้งแบบขายปลีกและขายส่ง ซึ่งมีการจัดโซนการขายที่เป็นระเบียบ ลูกค้าสามารถพุ่งเป้าไปยังจุดหมายที่ต้องการได้เลย ในช่วงเย็นหลังเลิกงานทงแดมุน จะคึกคักมากเป็นพิเศษ และเป็นสถานที่เซลฟี่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะมีบรรยากาศแสงสี เสียงตระการตาตลอดเวลาทั้งคืน ที่สำคัญร้านรวงแถวนี้เปิดกันยันสว่างกันเลยทีเดียว ถนนกาโรซูกิล (Garosu-gil) เพิ่มเติมอีกนิด เพราะย่านนี้เหมาะแก่การไปตามหาชายในฝันแห่งโซล เพราะย่านนี้เป็นย่านที่เหล่าคนรวยและเซเลบต่างมาชุมนุมกัน ข้าวของแบรนด์เนม ราคาแพงหูดับ ไม่เหมาะแก่การช้อปปิ้งแต่เหมาะมากกับการเดินดูอะไรที่เจริญหูเจริญตา ซึ่งเชื่อว่าสาวไทยน่าจะฟินกับย่านนี้เป็นที่สุด cr. pixabay เป็นอันเข้าใจกันว่า สถานที่ช้อปปิ้งในเกาหลี มีมากมายและมีสภาพคล้ายกับบ้านเรา เพียงแต่สินค้าที่โน่นอาจจะถูกกว่าและหลากหลายกว่าบ้านเรา โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มแฟชั่นและความงาม ต้องบอกเลยว่า ถ้าสาวไหนที่ใจไม่แข็งพอ อย่าได้คิดจะไปเที่ยวเพราะมีโอกาสล้มละลายสูงมาก นี่เป็นคำเตือนสุดท้ายเพื่อเตือนสติ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่สถานที่แหล่งช้อปปิ้งในเกาหลี อย่าลืม!!แลกเงินไปให้พร้อมนะคะ เดี๋ยวจะพลาดดด 👟👗👘 หลังจากช้อปปิ้งเสร็จแล้วก็อย่าลืมที่แวะไปกินอาหารของชาวเกาหลีกันด้วยน้าา เพราะนอกจากช้อปปิ้งแล้วเกาหลีก็ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินอีกด๊วยยย >> [ 🍛 รวม 10 อาหารเกาหลีที่ดีที่สุด !! อร่อยต้องบอกต่อ.. 🍮]