ทัวร์ครับพาช็อป
ไม่พลาดทุกแหล่งช้อปปิ้งในย่านดัง พร้อมทั้งรายการของฝากน่าซื้อ ให้คุณได้ช้อปปิ้งอย่างจุใจ
รวม 10 แหล่งช้อปปิ้งของเวียดนาม ที่โฮจิมินห์ & ฮานอย
พาช้อป
รวม 10 แหล่งช้อปปิ้งของเวียดนาม ที่โฮจิมินห์ & ฮานอย
และหากใครเป็นสายช้อปปิ้ง และกลัวว่ามาเวียดนามแล้วจะไม่ได้ช้อป หมดห่วงได้เลยนะครับเพราะเค้าก็มีที่ช้อปปิ้งเหมือนกันนะเออ ถึงแม้จะไม่ได้แฟชั่นมาก แต่ก็ถือว่าได้ซื้อของฝาก ของขวัญติดไม้ติดมือไปเป็นที่ระลึกยังไงล่ะครับเอาล่ะ ไปดูกันเลยว่าถ้าหากไปเวียดนาม จะมีแหล่งช้อปปิ้งเวียดนามจุดไหนให้เราได้เดินจับจ่ายซื้อของกันบ้าง !!!ตาม ทัวร์ครับ มากันเลยยยย 1.Ben Thanh Market แผนที่ :Ben Thanh Market เริ่มกันที่ฝั่งโฮจิมินห์ กับตลาดนี้เป็นตลาดที่ใหญ่ และอึกทึกที่สุดในโฮจิมินห์ เพราะขายของกันตั้งแต่เช้า ยังดึกเลยทีเดียว โดยช่วงเช้าๆ นั้นจะขายพวกของสด พอสายหน่อยก็จะเป็นพวกเสื้อผ้าแฟชั่นทั้งหลาย ขายกันยาวๆ ไปจนถึงดึกเลย พอตกดึกหน่อยก็จะพวกของที่ระลึกต่างๆ ครับนอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นอีกมากมายให้เราลองไปชิมด้วยนะครับ 2. Binh Tay Market พิกัด :Binh Tay Market ขยับออกมาที่ขอบๆ ของโฮจิมินห์กันบ้าง ตลาดแห่งนี้น่าจะถูกใจสำหรับคนที่ชอบงานศิลปะต่างๆ เพราะของที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นพวกประติมากรรม รูปปั้นทั้งหลาย หรือพวกงานหัตถกรรม สิ่งทอต่างๆ แล้วก็ยังมีตลาดกลางแจ้ง เป็นแหล่งช้อปปิ้งของเวียดนามที่รวบรวมอาหารเวียดนามอย่าง เฝอ หรือแหนมเนือง รสชาติดี ราคาถูกไว้ด้วยนะครับ 3. Dong Khoi Street ความแฟชั่นมีอยู่ทุกที่ และที่เวียดนามก็เช่นกัน ใครที่เป็นสายแฟฯ มาที่แหล่งช้อปปิ้งของเวียดนามย่านดาวน์ทาวน์นี้ไม่มีผิดหวังแน่นอนครับที่นี่จะเต็มไปด้วยแฟชั่นเก๋ๆ มากมาย เปรียบคล้ายๆ กับ ตลาดจตุจักร บ้านเราเลย มีร้านคาเฟ่เกร๋ๆ ชิคๆ มีแกลลอรี่ศิลปะมากมาย รับรองว่าใครที่หลงรักความอาร์ต มาที่นี่ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน 4. Saigon Square แผนที่ :Saigon Square แหล่งช้อปปิ้งเวียดนามยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยว ที่ตบเท้าเข้ามาซื้อของฝาก และชาวเวียดนามเองก็มาช้อปปิ้งที่นี่เหมือนกันค่ะ ที่นี่จะเป็นศูนย์การค้า 2 ชั้น จริงๆ ก็คล้ายๆ กับห้างบ้านเรา ที่มีเสื้อผ้าแฟชั่น กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับต่างๆ ขายอยู่มากมายเลยล่ะ มาที่เดียวได้ครบทุกอย่าง แต่แนะนำว่าต้องต่อราคาเยอะๆ เลยนะครับเพราะที่นี่เค้าตั้งราคากันค่อนข้างสูงเลยทีเดียวล่ะ 5. An Dong Market แผนที่ :An Dong Market ถ้าเปรียบตลาดแห่งนี้ก็เหมือนเป็นย่านประตูน้ำบ้านเรา ใครอยากได้ของราคาถูกให้มาที่นี่เลย เพราะที่นี่คือตลาดขายส่งที่ใหญ่ที่สุดในโฮจิมินห์ อาจจะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองสักนิด แต่ก็สามารถเรียกแท็กซี่มาได้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที มีขายสินค้าพวกเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ งานหัตถกรรม และของฝากมากมาย ใครเน้นซื้อเยอะ หรือไปเที่ยวกันหลายคนแล้วมีคนหารเยอะ มาที่นี่ทีเดียวจบเลยครับ 6. Hang Gai Street ข้ามฝั่งมาที่ฮานอยกันบ้างนะครับเริ่มด้วยที่แรกแหล่งช้อปปิ้งเวียดนาม กับถนนขายผ้าที่มีความยาวกว่า 300 เมตรเลยทีเดียว ที่นี่เพื่อนๆ จะได้พบกับร้านขายผ้า ร้านตัดเย็บเสื้อ และร้านเสื้อผ้าแฟชั่นเต็มไปหมด ทั้งยังมีอาร์ตแกลลอรี่ และคาเฟ่ชิคๆ ซ่อนตัวอยู่ด้วยล่ะ นอกจากนี้ใครที่มองหาของแต่งบ้าน หรือของตกแต่งชิ้นเล็กๆ ที่นี่ก็มีให้เลือกเพียบเช่นเดียวกัน 7. Hanoi Weekend Night Market แผนที่ :Hanoi Weekend Night Market ถนนคนเดินฮานอยแห่งนี้ จะเปิดเฉพาะวันศุกร์ - วันอาทิตย์เท่านั้น เพราะฉะนั้นคนเลยค่อนข้างจะเยอะมากๆ ทั้งคนเวียดนามเอง และนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ ที่นี่มีสินค้ามากมายให้เลือกช้อป ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า หรือของฝากของขวัญต่างๆ แถมยังมีอาหารเวียดนามสไตล์ Local ด้วยนะครับใครมีแพลนมาเที่ยวฮานอย อย่าลืมจัดสรรวันเที่ยวให้ตรงกับสุดสัปดาห์ล่ะ จะได้ไม่พลาดตลาดแห่งนี้ 8. Dong Xuan Market แผนที่ :Dong Xuan Market ตลาดที่ใหญ่ที่สุด และมีสินค้าให้เลือกซื้อเยอะที่สุดในฮานอย มีความสูง 4 ชั้น แบ่งชั้นเป็นสินค้าต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น เสื้อยืดพิมพ์ลายราคาถูก รองเท้า กระเป๋า แว่นกันแดด หมวกเวียดนาม หรือของฝากต่างๆ มากมาย ที่ทั้งหมดนั้นล้วนแต่ขายในราคาส่ง อยากช้อปของดีแบบราคาสบายกระเป๋า จดชื่อตลาดนี้ไว้ดีๆ นะครับ 9. Trang Tien Plaza แผนที่ :Trang Tien Plaza อัพเกรดการช้อปปิ้งเป็นการช้อปแบรนด์ต่างๆ กันบ้าง เพราะที่นี่ก็เปรียบเสมือนห้างพารากอน หรือห้างเอ็มควอเทียร์บ้านเรา ที่มีแบรนด์เนมมากมายรอให้ทุกคนมาช้อปอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Cartier, Burberry, Ermenegildo Zegna หรือ Louis Vuitton และชั้นล่างก็มีซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย รวมไปถึงร้านอาหารรสเลิศด้วยค่ะ ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งของเวียดนามที่เหล่าวัยรุ่น และคนร่ำรวยทั้งหลาย ก็จะมารวมตัวกันที่ห้างแห่งนี้แหละ 10. Nha Tho Street (Church Street) ถ้าถามว่า เหล่าวัยรุ่นเวียดนามนั้นไปที่ไหนกัน ก็คงต้องบอกว่าที่นี่แหละครับถึงแม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็เต็มไปด้วยคาเฟ่เก๋ๆ ชิคๆ และร้านขายสินค้าสุดคูล ตามแบบฉบับของวัยรุ่นตั้งเรียงรายกันเต็มไปหมด แถมยังมีร้านอาหารอร่อยๆ หลากหลายสัญชาติด้วย เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสยามสแควร์ย่อมๆ เลยล่ะ และนี่ก็เป็น 10 แหล่งช้อปปิ้งในเวียดนาม ทั้งที่โฮจิมินห์ และฮานอย ครับจะเห็นได้ว่าส่วนมากจะเป็นสินค้าพื้นเมืองทั้งนั้น เพราะเวียดนามเค้ายังคงความยูนีค และคลาสสิคอยู่ แต่ยังไงก็แล้วแต่ ไปเที่ยวต่างประเทศทั้งที ก็ต้องซื้อของฝาก ของที่ระลึกของประเทศนั้นๆ กลับมาด้วยถูกต้องไหมครับ? เพราะฉะนั้นแล้ว แหล่งช้อปปิ้งที่เรานำมาฝากกันจึงเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เหมาะสมที่สุดในการไปเที่ยวเวียดนามแล้วล่ะ ~ Have a Nice Trip & Enjoy Vietnam นะครับบบ อ่านต่อ..บทความแนะนำ >>รีวิวสุดยอด 7 จานเด็ดที่ต้องห้ามพลาดในเมนูอาหารเวียดนาม<<
10 ขนมเกาหลีต้องซื้อ ! ของฝากเกาหลีที่ใครก็ถูกใจ
พาช้อป
10 ขนมเกาหลีต้องซื้อ ! ของฝากเกาหลีที่ใครก็ถูกใจ
ขนมเกาหลี ถือเป็นอีกของฝากเกาหลียอดฮิตที่ไม่ว่าใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวเกาหลี ต้องซื้อกลับบ้านมาฝากเพื่อนฝูง หรือฝากตัวเองไว้กินที่บ้านยาวๆ แน่นอนว่าใครจะอดใจไหวกับรสชาติขนมแสนอร่อยที่หากินไม่ได้ที่เมืองไทย ร่วมถึงแพ็กเกจสุดน่ารัก และที่สำคัญราคาถูกกว่าซื้อในประเทศไทยด้วย ทัวร์ครับจึงได้คัดสรร ที่สุด! 10 ขนมเกาหลีที่เหมาะกับการซื้อเป็นของฝากมากๆ ใครได้รับไปรับรองว่าติดใจอร่อยกันทั้งบ้าน ทั้งอ๊อฟฟิศแน่นอน จองทัวร์เกาหลี กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) 10 ขนมเกาหลี ของฝากถูกใจ 1. ขนมเกาหลี - ช็อคโก พาย (Choco Pie) ขนมเกาหลีในตำนาน ที่ใครก็อยากลองลิ้มชิมรสความอร่อยนี้กันสักครั้ง กับ ช็อคโก พาย ซึ่งเป็นขนมสุดคลาสสิคของคนเกาหลี ขนมปังที่ถูกสอดไส้ด้วยครีมหอมมันเคลือบด้วยซอสช็อคโกแลตเข้มขั้นอีกหนึ่งชั้นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของขนมช็อคโก พาย ไม่ว่าใครที่ได้ลองชิมต่างก็ติดใจในความอร่อยของขนมนี้ ไม่แปลกใจเลยค่ะ ว่าทำไมช็อคโกพาย ถึงได้กลายมาเป็นขนมเกาหลีในตำนาน 2.ขนมเกาหลี - เปเปโร (Pepero) หรือคนไทยเรียกกันว่า ป็อกกี้ นั่นเองครับซึ่ง เปเปโรเป็นบิสกิสแท่งอบกรอบเคลือบด้วยรสชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแลต ไวท์ช็อคโกแลต ร่วมกับถั่วต่างๆ แต่เปเปโรเกาหลีนั้นถือเป็นขนมเกาหลีที่มีเรื่องราวไม่ธรรมดานะครับ ทัวร์ครับขอบอก!เพราะที่เกาหลีนั้นมีวันเปเปโรเดย์ (Pepelo Day) ในวันที่ 11 เดือน 11 คู่รัก หนุ่มสาวจะเอาขนมเปเปโรมาให้กันและเพื่อแสดงความรักที่มีต่อกันนั่นเอง ดังนั้นหากใครแอบชอบใครอยู่ ก็สามารถซื้อเปเปโร่มาฝากคนๆนั้น ถือเป็นการแอบบอกชอบไปในตัวนั่นเองครับ 3.ขนมเกาหลี - สาหร่ายทะเลอบกรอบ (Korean Roasted Seaweed) ลำดับต่อมานั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งขนมเกาหลีในตำนานเช่นกันครับ ซึ่งผลิตมาจากสาหร่ายทะเลเกาหลีผ่านการอบด้วยน้ำมันงาจนหอมกรอบ และรสชาติเค็มเล็กๆจากเกลือทะเลที่จะยิ่งทำให้อร่อยมากขึ้น หลายคนบอกว่าแค่คิดจะกินก็หยุดไม่ได้แล้วละครับ เพราะมันเพลินจริงๆนะจะบอกให้ 4.ขนมเกาหลี - แยมชาเขียว (Green tea Milk Spread) ขนมเกาหลีที่กำลังเป็นกระแสในโลก Social อยู่ตอนนี้ ด้วยความเข้มข้นของชาเขียวที่จัดว่าสุด แค่เปิดฝาออกมาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของชาเขียว พร้อมด้วยรสชาติหวาน มัน จากนม ซึ่งนิยมนำไปทาขนมปัง คุ๊กกี้ เปลี่ยนรสชาติการทาแยมขนมปังแบบเดิมไปเลยทีเดียวครับแต่จะอร่อยจริงอย่างที่ทัวร์ครับว่าหรือเปล่านั้น ? ทัวร์ครับบอกเลยว่าต้องไปลองชิมด้วยตัวเองแล้วครับ 5.ขนมเกาหลี - บราวนี่ มาร์เก็ต โอ (Market O Brownie) ต่อด้วยขนมเกาหลีที่เป็นของฝากเกาหลียอดฮิตตลอดกาล พูดง่ายๆว่าถ้าคิดไม่ออกว่าจะซื้อของฝากอะไร บราวนี่ มาร์เก็ต โอ คือสิ่งที่ทุกคนจะต้องหยิบครับเพราะบราวนี่ มาร์เก็ต โอ กล่องสีชมพูนั้นถือเป็นขนมของฝากขึ้นชื่อจากเกาหลี ที่คนไทยนิยมซื้อมาฝากเพื่อนฝูงกันเป็นประจำ ด้วยเนื้อบราวนี่ที่เหนียวหนึบ กรอบนอกนุ่มใน เข้มข้มด้วยรสชาติของช็อคโกแลต ไม่ว่าใครได้ชิม ต้องติดใจแน่นอนครับ ทัวร์ครับคอนเฟิร์ม! 6. ขนมเกาหลี - เค้กสอดไส้ช็อคโกแลตรูปปลา (Chewy Fishcake) สำหรับสุดยอดขนมเกาหลีชิ้นต่อไปนี้ อาจจะดูเป็นขนมที่เหมาะกับน้องๆหนูๆมากกว่า แต่อย่ามองข้ามขนมรูปร่างปลา ตัวจิ๋วนี้ไปนะครับเพราะว่าเค้กปลาสอดไส้ช็อคโกแลตนี้ อาจทำให้คุณเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เกือบจะหมดถุงแล้วครับ 7.ขนมเกาหลี - แท่งธัญพืชอบกรอบ (Premium Grain Crispy Roll) แท่งธัญพืชอบกรอบที่หากใครได้ยินชื่อแล้วอาจจะรู้สึกว่าไม่น่ากินเท่าไหร่ เพราะมีแต่รูปของถั่วเต็มไปหมด แต่ทัวร์ครับขอบอกเลยรสชาติเด็ดดวงมากครับความหอมของแท่งข้าวโพดอบกรอบที่ถูกสอดไส้ด้วยครีมรสธัญพืช ทั้งหอม มัน และหวานกำลังดี แค่คำเดียวไม่พอเลยละครับและที่สำคัญแจกได้หลายคนด้วย คุ้มค่าจริงๆ ครับ 8. ขนมเกาหลี - มันฝรั่งทอดรสเนยน้ำผึ้ง (Honey Butter Chips) เคยเป็นกระแสเมื่อหลายปีที่ผ่านมากับมันฝรั่งทอดรสเนยน้ำผึ้ง ที่ ขายดีจนขาดตลาด ด้วยความหอมของเนยสุดเจ้มจ้น เข้ากันได้ดีกับรสชาติหอมหวานจากน้ำผึ้ง ไม่สงสัยเลยว่าทำไมใครก็หลงใหลในความอร่อยของมันฝรั่งรสเนยน้ำผึ้งกันทุกราย แถมตอนนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะหาซื้อไม่ได้ เพราะมีขายอยู่ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นในเกาหลี สาวกเยลลี่ทั้งหลาย ต้องห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ! 9.ขนมเกาหลี - เยลลี่ไส้ผลไม้ (Jelly in jelly) พักจากขนมเกาหลีหนักมาดู ขนมทานเล่น จุ๊บจิ๊บ กันบ้าง กับ เยลลี่สอดไส้ผลไม้สุดฮิตรสชาติเปรี้ยวจี๊ดพร้อมกลิ่นผลไม้ถึงใจ หนุบหนับเคี้ยวเพลิน มีให้เลือกหลายรสชาติ แต่รสชาติที่ทัวร์ครับแนะนำเลยว่าต้องซื้อ ก็คือ รสพีช และรสองุ่นเลยครับผมแต่เปิดถุงกลิ่นของผลไม้ก็ทะลุขึ้นมาแล้ว ห้ามใจไม่ไหวจริงๆครับ 10. ขนมเกาหลี - คุ้กกี้รสชาเขียวช็อคโกแลต (Lotte Green Chococo) และขนมเกาหลีสุดท้ายที่ทัวร์ครับขอแนะนำในวันนี้ เอาใจสายชาเขียวกันอีกครั้งกับ คุ๊กกี้รสชาเขียวผสมกับช็อคโกแลตเข้มข้น และความหอมจากเนยอันเย้ายวน ทำให้เกิดเป็นรสชาติ กลมกล่อม รสชาติหวานกำลังดี เคลือบด้วยช็อคโกแลตด้านบน แค่คิดถึงการทานคู่กับกาแฟ หรือชาร้อนสักแก้ว ก็ฟินแล้วค่ะ เป็นไงบ้างครับ กับ ที่สุด 10 ขนมเกาหลี ที่ทัวร์ครับรวบรวมมาให้ น่าจะช่วยให้หลายคนที่ยังไม่รู้จะซื้ออะไรเป็นของฝากเกาหลีได้ไอเดียสำหรับของฝากเกาหลีกันบ้างนะครับ? ถ้าใครกลัวจะลืม ก็สามารถแชร์บทความดีๆ จากทัวร์ครับเก็บไว้ได้นะครับ
9 ขนมญี่ปุ่นสุดฮิต ประจำสนามบินญี่ปุ่น บินไปญี่ปุ่นครั้งไหน ต้องไม่พลาด!
พาช้อป
9 ขนมญี่ปุ่นสุดฮิต ประจำสนามบินญี่ปุ่น บินไปญี่ปุ่นครั้งไหน ต้องไม่พลาด!
ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งไหน ? ก็ต้องไม่พลาดซื้อขนมญี่ปุ่นกับมาด้วยทุกครั้ง ไม่ว่าจะซื้อตามซุปเปอร์มาเก็ต ร้านขายยาในย่านช้อปปิ้งต่างๆของญี่ปุ่น แต่ถ้าหากใครยังรู้สึกว่ายังไม่สะใจล่ะก็ ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ ซึ่งคุณสามารถซื้อของฝากหรือขนมญี่ปุ่นได้แบบจุใจ ก็คือ สนามบินญี่ปุ่นนั่นเอง โดยเฉพาะสนามบินของเมืองหลักใหญ่ๆของญี่ปุ่น ซึ่งความดีงามของการซื้อนมญี่ปุ่นที่สนามบินก็คือ เราจะได้เจอกับขนม ของฝาก ของดี ของแต่ละภูมิภาคของญี่ปุ่นที่สนามบินในที่เดียว ไม่ต้องบินไปหลายเมืองให้เหนื่อย ซึ่งทัวร์ครับได้ส่งสายสืบไปเก็บข้อมูลจากสถานที่จริง รีวิวให้อ่านกันแบบจริงๆ ว่าแต่จะมีอันไหนเด็ด อันไหนโดนบ้างนั้น ตามสายสืบทัวร์ครับมาเลยดีกว่าคร๊าบบ… ป็อกกี้แท่งยักษ์ (Pokky) >>>รสเมล่อนยูบาริ (Yubari Melon)🍈 ป็อกกี้รสยูบาริเมล่อน เมล่อนสายพันธ์ท้องถิ่นของฮอกไกโด ที่เพียงแค่ฉีกซองมาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมเมล่อนที่เข้ามาเตะจมูกเข้าอย่างจัง พอได้กันคำแรกเท่านั้น! อื้อหือออออ... เหมือนกับกำลังกินเมล่อนอยู่ทั้งลูกจริงๆ ขอบอกว่าอันเดียวไม่น่าพอ งั้นขอทั้งกล่องเลยละกัน! >>>รสองุ่นเคียวโฮ (Shinshu Kyoho)🍇 ป็อกกี้ รสองุ่นเคียวโฮ แค่คำแรกก็ต้องร้องว่า โอ้โห !!! เพราะกลิ่นองุ่นนั้นหอมเหลือเกินพี่จ๋า สมกับการเป็นองุ่นอันทีชื่อเสียงโด่งดังของญี่ปุ่น เข้ากับความหอมกรอบของป๊อกกี้ได้กำลังดี๊ กำลังดีเลยครับแต่ถ้ากินมากๆ ก็อาจจะน้ำตาลขึ้นตากันได้ เพราะรสชาติค่อนข้างหวานไปนิด คนที่ชอบกินหวานน่าจะถูกใจกันสุดไปเลย! >>>รสเชอร์รี่ซาโตะ นิชิกิ (Sato Nishiki)🍒 ปิดท้ายด้วยป็อกกี้ รสเชอร์รี่ซาโตะ นิชิกิ ตัวแทนของดีประจำภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ด้วยรสชาติหวานหอมฟุ้งของกลิ่นเชอร์รี่สายพันธุ์ซาโตะ นิชิกิ ที่ลอยเข้าจมูกตลอดเวลา แค่ได้กลิ่นก็ฟินแล้ว ยิ่งบวกกับรสชาติหวานตัดกับความเปรี้ยวเล็กน้อย ยิ่งช่วยเพิ่มอรรถรสและความฟินขึ้นไปอีก… โตเกียวบานาน่า เฮลโหลคิตตี้ (Tokyo Banana Hello Kitty) แค่ได้เห็นเพียงกล่อง สาวกเฮลโหลคิตตี้ก็คงหยิบกันแบบไม่ต้องคิด เพราะว่ามันช่างน่ารักซะเหลือเกิน แต่แค่นั้นยังไม่พอครับ นอกจากกล่องจะน่ารักแล้ว โตเกียวบานาน่าด้านในก็ไม่แพ้กัน มาในรูปทรงหน้าคิดตี้ ที่สอดไส้ความอร่อยด้วยแอปเปิ้ล รวมกับเนื้อเค้กนุ่มๆสไตล์โตเกียวบานาน่าแล้ว เป็นความดีงามที่ลงตัวจริงๆเลยครับ ไดฟูกุครีม (Cream Daifuku) หลังจากได้ชิมไดฟุกุบ้านเรากันจนเบาหวานขึ้นไปแล้ว ก็ได้โอกาสชิมไดฟูกุจากต้นตำหรับสักที แถมยังไม่ใช่ไดฟุกุธรรมดา เพราะไดฟูกุสอดไส้ครีมหอมหวาน ผสมผสานกับแป้งเหนียว นุ่ม หนึบหนับ รสชาติหวานเล็กๆ ซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับไส้ครีมด้านใน มีทั้งรสคัสตาร์ด รสชาเขียว รสชีส และรสช็อคโกแลต ถึงรสชาติจะต่างกัน แต่อร่อยไม่แพ้กันแน่นอน โตเกียว บานาน่า ฮาร์ท รสเมเปิ้ล (Tokyo Banana Heart Maple Banana Flavored) หลังจากที่กลายเป็นกระแสโด่งดังในบ้านเราเมื่อหลายปีก่อน กับ โตเกียวบานาน่า หลายคนถึงกับต้องฝากเพื่อน ฝากญาติ หรือแม้กระทั้งพรีออเดอร์เพราะอยากจะลองลิ้มชิมรสความอร่อยอันโด่งดัง ซึ่งรสชาติที่สายสืบทัวร์ครับได้มีโอกาสชิมนั้น พิเศษกว่าโตเกียวบานาน่าทั่วไป เพราะมีการเพิ่มความหอมหวานของไส้ด้านในด้วยรสชาติของเมเปิ้ล จึงทำให้มีกลิ่นและรสสัมผัสที่หวานหอมกว่าเดิม มารูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ของโตเกียวบานาน่า พร้อมลวดลายหัวใจเล็กๆ เพิ่มความน่ารักมากขึ้นไปอีกครับผม! ไดฟูกุกระต่ายน้อย รสสตรอว์เบอร์รี่ (Usagi no Cream Daifuku) เพื่อให้สมกับความเป็นญี่ปุ่น ไดฟูกุรูปทรงธรรมดาก็อาจดูธรรมดาไป จึงเกิดเป็นไดฟูกุ น้องต่ายสีชมพูแสนน่ารัก แต่ก็น่ากินในเวลาเดียวกัน สอดไส้ครีมสตรอว์เบอร์รี่ หอมหวาน เพียงแค่เปิดถึงออกมา ก็สัมผัสได้ถึงความหอมของสตรอว์เบอร์รี่ ร่วมกับแป้งนุ่มนิ่ม เหนียบหนึบ อันมีเอกลักษณ์ สาวกสตรอว์เบอร์รี่ ต้องไม่ควรพลาด! กินซ่า เค้กมัทฉะ (The matcha cake from GINZA) เอาใจสายมัทฉะกันบ้าง กับเค้กรสมัทฉะเข้มข้ม ที่ถูกสอดไส้ด้วยถั่วแดงช่วยเพิ่ม Texture และอรรถรสในการกิน กับความหวานกำลังดี ไม่หวานจนเกินไป ส่วนของเนื้อเค้กก็นุ่มลิ้น ละลายในปากแทบจะไม่ต้องเคี้ยวกันเลยทีเดียวครับ กินซ่า สตรอว์เบอร์รี่เค้ก (The strawberry cake from GINZA) สตอเบอร์รี่เค้กเนื้อนุ่ม กับไส้เนื้อสตรอว์เบอร์รี่ชุ่มช่ำ หอมละมุน ทั้งเนื้อเค้กและความชุ่มของไส้ทำให้กินง่ายไม่ฝืดคอ หรือเรียกง่ายๆว่าลื๊นปรืีดจนลืมเรื่องเบาหวานไปเลยล่ะ คิทแคทโตเกียว บานาน่า (Tokyo Banana x Kitkat) ในที่สุดของขนมยอดฮิตญี่ปุ่นทั้ง 2 ชนิด ก็มีโอกาสได้มารวมตัวกัน กลายมาเป็น คิทแคท รสโตเกียวบานาน่ากล่องนี้ ความอร่อยอันลงตัวระหว่างเวเฟอร์ช็อคโกแลตเข้มข้ม ผสมด้วยกลิ่นและรสหวานหอมเอกลักษณ์เฉพาะของโตเกียวบานาน่า และที่สำคัญ เมืองไทยยังไม่มีขายด้วยนะจ๊ะ สาวกคิทต้องอยากชิมกันแล้วล่ะสิ่ ถ้างั้นก็ต้องซื้อทัวร์ญี่ปุ่นแล้วไปช้อปด้วยตัวเองดีกว่า คุ้กกี้มันจู (Baked Manju) คุ้กกี้เนื้อแน่น แต่แฝงความไม่ธรรมดาอยู่ภายในด้วยการสอดไส้ถั่วแดงญี่ปุ่น (Azuki) รสชาติหวานมัน ด้านใน เพิ่มลูกเล่นและ Texture ให้กับคุ้กกี้ มาในรูปทรงภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์ประจำประเทศญี่ปุ่น นอกจากรสชาติจะอร่อยแล้ว ยังเหมาะกับการซื้อกลับมาเป็นของฝากญี่ปุ่นสุดๆ ทัวร์ครับขอบอก! ใครที่กำลังมองหาลิสขนมของฝากสำหรับทริปเที่ยวญี่ปุ่น ก็สามารถไปตามรอยกันได้ ที่สำคัญซื้อได้ง่ายๆมาก เพราะมีขายในทุกๆสนามบินหลักของญี่ปุ่น ไม่ต้องเดินหาตามร้านซุปเปอร์มาเก็ตให้เหนื่อย แถมรสชาติถูกปาก และเหมาะกับการเป็นของฝากสุดไปเลย เมื่อได้ลิสขนมแล้ว ตามทัวร์ครับไปศึกษาข้อมูลเรื่องสนามบินกันต่อดีกว่ากับ >>>ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที ลงสนามบินไหนดีนะ ? <<<
เช็คลิตส์! 10 ของฝากราคาถูก...ไปเที่ยวมาเลเซียซื้ออะไรดี ?
พาช้อป
มาเลเซีย
เช็คลิตส์! 10 ของฝากราคาถูก...ไปเที่ยวมาเลเซียซื้ออะไรดี ?
มาเลเซียเมืองยอดฮิตที่คนไทยชอบไปคือ กัวลาลัมเปอร์และปีนัง แน่นอนว่าไปเที่ยวมาเลเซียทั้งทีก็ต้องมีของฝากกลับมาให้พี่ป้าน้าอากันด้วย ใครที่ไปเที่ยวมาเลเซียแต่ยังไม่รู้จะซื้อของฝากอะไรนี้ วันนี้ทัวร์ครับ (Tourkrub)ก็มีคำตอบมาให้เพื่อนๆ ได้ตามไปซื้อกัน มาดูเลยว่า 10 ของฝากสุดฮอตของมาเลเซียนั้นมีอะไรกันบ้างซื้อทัวร์มาเลเซีย กับ ทัวร์ครับ >> https://tourkrub.co/malaysia-tourดูแพ็กเก็จทัวร์ต่างประเทศ ราคาดีอื่นๆ เพิ่มเติม >> https://tourkrub.co/lifestyle/lifestyle-best-price-tour10 ของฝากจากมาเลเซีย1. ของฝากจากมาเลเซีย - สินค้าไมโลของฝากมาเลเซียที่ใครๆก็รู้จัก คือ สินค้าตราไมโล นี่เอง กินตั้งแต่เด็กจนโต และช่วงที่ผ่านมานี้กระแส ไมโลคิวป์ ยังดังระเบิดทำให้สินค้าไมโลที่มาเลเซียนั้นเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ว่ากันด้วยรสชาติที่เข้มข้นกว่าในประเทศไทย แถมยังมีผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ทั้งขวด กระป๋อง พกพาง่าย แถมซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ง่ายๆในราคาที่ถูกอีกด้วย ดูโปรโมชั่น และเช็คราคาสินค้า2. ของฝากจากมาเลเซีย -ช็อกโกแลตมาเลเซีย อาณาจักรแห่งช็อกโกแลต🍫 ว่าด้วยคนรักช็อกโกแลตกันเลยค่ะ ถ้าอยากซื้อช็อกโกแลตคุณภาพในราคาไม่แพง แนะนำมาซื้อที่มาเลเซียกันได้เลย ราคาถูกมากและยังเป็นของฝากยอดฮิตที่ใครมาเที่ยวก็หิ้วกลับไปเป็นของฝากเพื่อนๆกันซะแพ็คใหญ่ แบรนด์ที่ทัวร์ครับอยากแนะนำคือ Beryl’s Chocolate ช็อกโกแลตชื่อดังในมาเลเซียอยู่ที่ Beryl's Chocolate Kingdom หรือเป็นช็อกโกแลตแบรนด์ดังอย่าง Hersheys, Toblerone, Ferrero rocher ไปเลยจะดีกว่า ราคาถูกกว่าไทยมาก หรือถ้าหาร้านซื้อไม่เจอ ก็สามารถซื้อที่ Duty Free ใน LCCT ได้เลยดูโปรโมชั่น และเช็คราคาสินค้า3. ของฝากจากมาเลเซีย - กาแฟ 3 in 1 กลมกล่อมไม่แพ้กาแฟสดกาแฟสำหรับที่มาเลเซียต้อง white coffee เลยค่ะ เป็นกาแฟที่มีชื่อเสียงของประเทศมาเลเซีย ผลิตจากเมล็ดกาแฟพิเศษผสมครีมนมพร่องมันเนย หอม หวาน กลมกล่อม มีขายตามร้านของฝากทั่วไป จุดเด่นของ white coffee ก็คือชงออกมาแล้วกลิ่นและรสชาติคล้ายกับกาแฟสดมาก อีกทั้งปริมาณคาเฟอีนน้อยทำให้ white Coffee กลายเป็นกาแฟที่ใครไปเที่ยวมาเลเซียก็ต้องหยิบใส่ตะกร้าของฝาก ทัวร์ครับแนะนำ ยี่ห้อ old town coffee และ Ah Huat ค่ะ ซื้อมารับรองไม่ผิดหวังดูโปรโมชั่น และเช็คราคาสินค้า4. ของฝากจากมาเลเซีย - ขนมปังกรอบขนมปังกรอบ หรือ ขนมจุกจิกที่เป็นห่อเล็กๆ เวเฟอร์ ฯลฯ ส่วนมากแล้วจะมาจากประเทศมาเลเซียนี่แหละค่ะ แต่ถ้าหากไปซื้อที่นู่นแล้วจะราคาเป็นมิตรกว่ามาก คือมันถูกเวอร์ ถูกกว่าไทยเยอะเลยแถมยังมียี่ห้อที่หลากหลาย ส่วนใหญ่ก็จะซื้อแบบที่ไม่มีขายในไทย เป็นอีกหนึ่งของฝากมาเลเซียที่สามารถหอบกลับมาฝากเพื่อนได้หลายสิบคนในราคาที่โดนใจ5.ของฝากจากมาเลเซีย - ลูกพรุนแห้งเคยเห็นกันมาบ้างแล้วสำหรับลูกพรุนแห้งยี่ห้อ Sunsweet เพราะมีขายที่ไทยเยอะมาก แต่ก็ยังเป็นสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่ดี ถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยวมาเลเซียอยู่แล้วละก็ก็อย่าลืมซื้อลูกพรุนแห้งกลับมาเป็นของฝากด้วยล่ะ อร่อย มีประโยชน์ และราคายังถูกกว่าไทยมาก ขายประมาณ 65-90 บาท แต่เมืองไทยขายอยู่ที่ 150-200 บาทดูโปรโมชั่น และเช็คราคาสินค้า6.ของฝากจากมาเลเซีย - เลโก้บางคนอาจจะเบื่อของฝากที่เป็นขนมกันแล้ว แต่ที่มาเลเซียยังมีของเล่นที่สามารถเป็นของฝากขึ้นชื่อของที่นี่อยู่ด้วย เป็นของแท้คุณภาพที่ราคาดีมากก ราคาถูกกว่าที่ฮ่องกงอีก ใครที่เป็นสาวกเลโก้แล้วอย่าพลาดที่จะแวะไปเที่ยวที่ Legoland🎡ที่มาเลเซียกันด้วยนะดูโปรโมชั่น และเช็คราคาสินค้า7. ของฝากจากมาเลเซีย -กระเป๋า&รองเท้าสาวนักช้อปก็อย่าพลาดที่จะช้อปกระเป๋าและรองเท้าแบรนด์กลับไปเป็นของฝากกันถึงราคาจะถูกกว่าไทยไม่มากแต่บางช่วงเค้าก็ลดราคากันฮวบฮาบ แถมลดราคา 🎉 จัดโปรโมชั่นกันเกือบทุกวัน ซื้อกันไปเป็นของขวัญวันเกิดหรือให้แฟนกันได้ในราคาที่เอื้อมถึง ทัวร์ครับแนะนำอีกว่าอย่าลืมต่อราคากับพนักงานขาย เพราะบางที่พนักงานใจดีสุดๆลดกระหน่ำได้ราคาโดนใจกันไปถ้วนหน้า 8.ของฝากจากมาเลเซีย - บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชาวมาเลเซียนั้นนิยมกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่น้อยไปกว่าไทยค่ะ แต่ที่มาเลเซียมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลายยี่ห้อ และหลายรสชาติ เส้นบะหมี่เหนียวและนุ่มกว่าไทย ปริมาณมากกว่าด้วยบอกเลยกินซองเดียว อิ่ม! รสชาติที่นิยมก็คือ KARI ยี่ห้อ Maggi, Prawn Mee ยี่ห้อ Ibumie HarMee ใครเจออย่าลืมซื้อมาฝากกันบ้างน้าา9.ของฝากจากมาเลเซีย - ปลากระป๋องปลากระป๋องของฝากสุดฮิตเจ้าเดิมจากมาเลเซีย ยี่ห้อนี้เลย AYAM ค่ะ เนื้อเยอะเนื้อแน่น อร่อยมากกก อันนี้เพื่อนแอดมินบอกเลยว่าชอบมาก ซื้อกลับมาฝากกันเป็นแพ็ค ราคาถูกสุดๆ ข้อเสียคือน้ำหนักค่ะ แต่ถ้าไปเที่ยวมาเลเซียแล้วเบื่อร้านอาหารก็ลองซื้อปลากระป๋องมายำกินที่ห้องได้นะคะ ฮิตสุดเมนูนี้ ดูโปรโมชั่น และเช็คราคาสินค้า10.ของฝากจากมาเลเซีย - เครื่องปรุงอาหารของฝากจากมาเลเซียที่หาง่ายไม่แพ้ขนม ก็ผงเครื่องปรุงกับอาหารแห้งนี่แหละค่ะ อย่าง เครื่องต้มซุปต่างๆ และที่ไฮไลท์เลย คือผงปรุงรสต้มกระดูกหมู Bak Kut Teh ซึ่งเป็นของฝากขึ้นชื่อของแถบนี้กันเลยแหละถ้าใครได้มีโอกาสไปเที่ยวมาเลเซียอย่าลืมของฝากมาฝากชาวทัวร์ครับกันบ้างนะคะ จริงๆแล้วของฝากที่มาจากมาเลเซียนั้นไม่ต่างจากไทยมากนัก เพราะส่วนใหญ่ที่ไทยก็มีขาย แต่ถ้าพูดราคาแล้วบางอย่างจะราคาถูกกว่าเยอะค่ะ แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ของฝากนะคะ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ บอกเลยว่าน่าสนใจและแนะนำให้ไปเที่ยวมาเลเซียกันให้ได้สักครั้งนะคะ
10 ของฝากจากจีนแผ่นดินใหญ่..เที่ยวจีนซื้ออะไรดี ??
พาช้อป
10 ของฝากจากจีนแผ่นดินใหญ่..เที่ยวจีนซื้ออะไรดี ??
ประเทศจีน (China)เรื่องสถานที่เที่ยวธรรมชาติในจีนทัวร์ครับให้เป็นที่หนึ่งในใจเลยค่ะ เพราะประเทศของเค้าอุดมสมบูรณ์มากแต่สำหรับ คนที่ชอบช้อปด้วยขอบอกว่าที่จีนนั้นก็มีของฝากคุณภาพมากมายให้เราได้สอยกลับมาฝากคนที่บ้าน หากจะซื้อของฝากจากจีน ก็อย่าลืมที่จะเตรียมเงินจีน ติดมือไปเยอะ ๆ นะคะ เดี๋ยวจะไม่พอซื้อของฝากกัน >< 1.ชาจีน เมื่อพูดถึงจีนแล้วสิ่งที่หลาย ๆ คนที่ไปเมืองจีนและมักจะซื้อของติดมือกันมาบ่อย ๆ เห็นจะไม่พ้นชาจีน ซึ่งคนจีนชอบที่จะดื่มชากันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ไม่ได้เหมือนคนไทยเราที่กินชาแบบอุ่น ๆ แต่เป็นการกินแบบที่ยังร้อน ๆ เสียด้วยซ้ำ คนไทยที่ไปเที่ยวเมืองจีนจึงไม่พลาดกันสักคนที่จะซื้อชาจีนกลับมาทั้ง ๆ ที่ราคาค่อนข้างแพงเสีย หรือราคาเท่า ๆ กันกับบ้านเรา ซึ่งชาในจีน ที่นิยมทานกัน มีอยู่หลายตัวเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่หลัก ๆ แล้วจะมีเพียง 5 ชนิดที่นิยมกันคือ ชาเขียว ชาแดง ชาอู่หลง ชา Pu'er และชาที่มีส่วนผสมจากดอกไม้ หรือบางครั้งจะเป็นสมุนไพรผสมลงไปด้วย และจะเรียกว่าชาหอมเป็นส่วนใหญ่ 2.หยก แต่สำหรับคนไทยที่ไปเที่ยวเมืองจีน และนิยมซื้อ ของฝากจากจีน ที่ฮิตกันมากก็เห็นจะไม่พ้น การซื้อหยก ของมงคลที่แทบทุกคนไม่พลาดเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่เราควรต้องระวังไว้ด้วยคือ หากเราไม่มั่นใจ ทั้งคุณภาพ และราคา เราควรที่จะหาซื้อจากร้านที่ได้คุณภาพดีกว่า เพราะหากเราเลือกซื้อหยก แต่ได้ราคาที่ถูกเกินไป ให้เราคิดไว้ก่อนเลยว่า เราอาจจะได้ของปลอมมาก็ได้ หรือหาก เราเป็นคนที่ชอบหยกเป็นของฝากอยู่แล้ว ก็ควรที่จะเช็คราคาจากที่ต่าง ๆ ให้ดีเสียก่อน 3.พุทราเชื่อม อบแห้ง สำหรับ คนที่ไม่รู้จะซื้ออะไรดีเป็นของฝาก เมืองจีนมีของเยอะแยะมากมายให้เราเลือกซื้อ ทั้งของกินของใช้ ของกินที่เด่น ๆเช่นพุทราเชื่อมอบแห้งที่บ้านเราก็มีขาย แต่หากไปซื้อถึงแหล่งของฝากจากจีน ก็อาจจะได้ราคาถูกลงมาหน่อย หรือ หากอยากหาของแปลก ๆ มาฝากคนทางบ้าน จีนก็มีเยอะอยู่เช่นกัน เช่น เลย์รสแตงกวาเป็นต้น ซึ่งมันก็แล้วแต่ว่าเราจะได้ไปเที่ยว หรือไปเลือกเดินช๊อบกันที่ไหน และ เรามี เงินจีน ติดตัวไปเท่าไหร่ต่างหาก หากจะเลือกซื้อของฝากมันก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด 4.เลย์ รสแตงกวา ด้วยความแปลกที่หาทานไม่ได้ที่ประเทศไทย ของฝากกินเล่นจากจีนที่สามารถหอบกลับไปฝากเพื่อนๆ เลย์ รสแตงกวาเลยเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจีน รสชาติจะเย็นๆแปลกๆแต่อร่อยถูกปากลูกทัวร์ชาวไทยมากกก สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของชำ มินิมาร์ท ห้างสรรพสินค้าทั่วไป ราคาตกอยุ่ที่ 45 บาท/กระป๋อง 5.บัวหิมะ บัวหิมะ Bao Fu Ling ของฝากชื่อดังในจีนใครไม่รู้จักนี่ถือว่าไปไม่ถึงจีนนะคะ ไม่ว่าจะไปกี่ครั้งก็ต้องมีซื้อกลับมาฝากผู้ใหญ่ที่บ้าน ด้วยสรรพคุณครอบจักรวาลของบัวหิมะจีนที่โด่งดังจนคนที่บ้านต้องฝากซื้อ คือรักษาได้ตั้งแต่ สิว ยัน เริม กันเลยทีเดียว ทั้งทาแผลสด ท่อไอเสีย น้ำร้อนลวก กระแสที่ดังในหมู่วัยรุ่นคือรักษาสิวค่ะ บางคนใช้แล้วสิวหายดีมากเวอร์ ทำให้ใครๆก็ตามล่าบัวหิมะกันยกใหญ่ ซึ่งคำเตือนเหมือนเดิมค่ะ ระวังของปลอม 6.ครีมไข่มุก ครีมสรรพคุณเลิศๆจากจีนอีกตัวหนึ่งที่คนไทยนิยมซื้อกลับมาใช้มาฝาก นั่นคือครีมไข่มุก Simengdi นี่เองค่ะ รีวิวในพันทิปเยอะมากและบอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่าใช้แล้วดีมากกกก หน้านุ่มชุ่มชื้นเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย สิวหายผิวหน้าดี ถ้าจะดูของแท้ให้เช็ตจากฉลากหน้ากล่อง และเม็ดไข่มุกเรียงตัวสวยงาม เนื้อเจลใส ใครไปเที่ยวจีนทักมาบอกแอดมินกันบ้างนะคะ จะฝากซื้อ >< 7.ตะเกียบคู่ ของฝากที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของชาวจีน ที่ใช้เป็นของคู่กลายมาเป็นเวลานาน ตะเกียบของจีนนั้นมีหลายแบบทั้งแบบกลมหรือเหลี่ยม ปลายเรียวหรือแบน แถมไฮไลท์ของตะเกียบจีนที่คนไทยนิยมซื้อกลับมาเป็นของฝากนั่นก็คือลวดลายของตะเกียบแต่ละคู่นั่นเองค่ะ 8.เครื่องราง วัตถุมงคล ปัจจุบันคนไทยยังคงนิยมหาซื้อเครื่องรางมาบูชา ไม่ว่าจะนำมาไว้ในบ้าน ร้านค้า พกติดตัวให้ปลอดภัยหรือแม้นิยมซื้อเป็นของฝากในโอกาสต่างๆ โดยมีความเชื่อกันว่าเครื่องราง วัตถุมงคล จะช่วยปกป้องคุ้มครอง นำโชคลาภในด้านต่างๆ แน่นอนค่ะว่าหากไปเที่ยวจีนของเจอของเหล่านี้แน่นอน เพราะจีนเป็นประเทศหนึ่งที่มีความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังมากมาย บางแห่งมีชื่อเสียงจนทำให้ใครหลายคนต้องบินไปสักการะกันถึงประเทศจีนกันเลยแหละค่ะ 9.พริกไทยเสฉวน (พริกหม่าล่า) ทุกวันนี้คงไม่มีใครรู้จักหม่าล่า เพราะทุกวันนี้เราก็ยังคงเห็นหม่าล่าตามท้องตลาดกันอยู่บ่อยๆ (แอดมินกินทุกวัน) หม่าล่าที่เรากินนั้นทำมาจาก พริกไทยเสฉวน นั่นเอง ซึ่งชาวจีนนิยมนำมาสังสรรเมนูอาหาร ไม่ว่าจะเป็นผัด ต้ม ปิ้งย่าง หรือชาบู พริกไทยเสฉวนก็เป็นวัตถุดิบหลักๆของการปรุงอาหารเหล่านี้ ปัจจุบันมีหลายยี่ห้อมากๆแต่ถ้าอยากได้ของแท้ ต้องไปซื้อที่จีนจะชัวร์กว่า ไหนๆก็ไปเที่ยวแล้วก็ซื้อกลับมาฝากเลยละกันเนอะ 10.ของประดับ ตกแต่งบ้าน มาของฝากจากจีนสิ่งสุดท้าย เป็นของฝากที่ผู้ใหญ่และนักสะสมหลายคนจะชอบเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็น แจกัน รูปปั้นเทพเจ้า จาน แก้ว ซึ่งไฮไลท์ของของประดับจากเมืองจีนเหล่านี้อยู่ที่ลวดลาย ความเก่า และประวัติความเป็นมาค่ะ ยิ่งเก่ายิ่งแพง ด้วยความที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ทำให้เครื่องประดับและของตกแต่งบ้านของจีนดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากหาซื้อได้ตามร้านค้าตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปหรือในร้านรัฐบาลที่ทางประเทศนั้นจัดเพื่อรองรับลูกทัวร์ค่ะ บอกเลยว่าไกด์จีนขายเก่งมากกกก และสิ่งหนึ่งที่เราไม่ค่อยจะรู้กัน เกี่ยวกับธรรมเนียมการให้ของขวัญของฝาก ซึ่งในจีน มักจะมีความเชื่อหรือ ธรรมเนียมที่กันมา เช่น คนจีนมักจะปฎิเสธการรับของฝากไว้ก่อน ซึ่งแสดงถึงความถ่อมตัวเสมอ ๆ คนจีนมักจะไม่ให้นาฬิกา เนื่องจากเหมือนเป็นลางว่าเป็นการนับถอยหลัง หรือพัดลม เป็นสิ่งที่เหมือนจะต้องห้ามเพราะเป็นคำที่พ้องกับคำว่า แยกทาง ซึ่งคือคำว่า Shan นั่นเอง หรือการห่อ ที่มักจะนิยมที่จะห่อด้วยกระดาษแดงเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยเหมือนกัน หากเราคิดจะเลือกของขวัญของฝากก็ ลองดูข้อห้ามเหล่านี้ไว้บ้าง ก็ดีไม่น้อยเหมือนกันนะคะ บทความแนะนำ >>อัพเดท !! 12 สถานที่ท่องเที่ยวจีน..สวยจนหยุดหายใจ
5 แหล่งกาชาปอง โตเกียว ไปกี่เที่ยวก็หมดตัว!
พาช้อป
5 แหล่งกาชาปอง โตเกียว ไปกี่เที่ยวก็หมดตัว!
กาชาปอง (Gachapon) ตู้หยอดของเล่นอัติโนมัติที่มักจะเชื้อเชิญให้เราหลงกลเสียตังค์อยู่เสมอเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น เพราะตู้กาชาปองนั้นมีสินค้าที่โดนใจทุกกลุ่ม ทั้งการ์ตูนในดวงใจ เกมส์ ภาพยนต์ และของน่ารักๆมากมาย โดยราคาในการกดกาชาปองก็จะเริ่มตั้งแต่ 100 เยน ไปจนถึง 300 เยน เราสามารถเจอตู้กาชาปองได้ตามแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปของญี่ปุ่น แต่วันนี้ทัวร์ครับจะพาทุกคนไปบุกแหล่งตู้กาปองของโตเกียว เมืองหลวงแสนทันสมัยที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกันอย่างคึกคัก เพราะโตเกียวนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งขุมทรัพย์แห่งกาชาปองของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้างนั้น ตามทัวร์ครับมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ อากิฮาบาระ (Akihabara) Credit : japanetour.com เริ่มต้นกันที่ย่านศูนย์รวมของเล่นและของสะสมแห่งโตเกียวอย่าง อากิฮาบาระ ที่นักสะสมตัวละครมังงะนิยมไปตามหาตัวละครในดวงใจกันที่นี่ แน่นอนว่าภายในย่านอากิฮาบาระจึงเต็มไปตู้กาชาปองหลายจุด ซึ่งตู้กาชาปองถูกติดตั้งในย่านอากิฮาบาระแห่งนี้มายาวนานกว่า 10 ปีเลยทีเดียวค่ะ สาวกล่ากาชาปองต่างล่ำลือกันว่า กาชาปองในย่านอากิฮาบาระแห่งนี้นั้น เต็มไปกาชาปองหายาก และมีให้เลือกเยอะมากมายจนเลือกไม่ถูก นอกจากตู้กาชาปองแล้ว ยังมีร้านขายของที่ระลึกของตัวการ์ตูน และตัวละครมังงะอีกมากมาย ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์หมดตัวในย่านนี้กันได้ทั้งนั้นค่ะ Credit :beacon-akiba.com อูเอโนะ (Ueno) อูเอโนะอีกหนึ่งย่านท่องเที่ยว เป็นที่ตั้งของตลาดอาเมโยโกะ สถานที่ช้อปปิ้งสุดฮิตของคนไทย ซึ่งหลายๆคนอาจไม่ทราบว่าที่นี่นั้นก็เป็นอีกแหล่งขุมทรัพย์กาชาปองแห่งโตเกียวเช่นกันค่ะ เพราะในย่านอูเอโนะแห่งนี้มีร้านชื่อว่า Yamashiroya ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในย่านอูเอโนะ ชินจูกุ (Shinjuku) หากพูดถึงแหล่งช้อปปิ้งของโตเกียว ต้องมีชื่อของชินจูกุ ติดอยู่ในลิสอย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งนอกจากชินจุกุจะเต็มไปร้านค้า ร้านขายของมากมาย ยังเป็นที่ตั้งของตู้กาชาปองที่ซ่อนตัวอยู่ตามตึกต่างๆ แต่ละที่นั้นก็มีตู้กาชาปองให้เลือกดกันมากกว่าหลายร้อยตู้ ใครที่ช้อปปิ้งจนเบื่อแล้ว ก็อย่าลืมแวะไปหยอดกาชาปองแก้เบื่อกันในย่านชิจูกุได้นะคะ โตเกียว สเตชั่น (Tokyo Station) ขอพาทุกคนมายังสถานทีรถไฟศูนย์กลางของโตเกียวอย่างโตเกียว สเตชั่น สถานีรถไฟที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้าของฝากญี่ปุ่นมากมาย และไฮไลท์ของเราก็อยู่ที่ชั้น 1B นี่เอง เพราะเป็นที่ตั้งของ Tokyo Gashapon Street ถนนแห่งกาชาปอง ที่เพิ่งจะเปิดให้บริการได้ไม่นาน แต่เรียกได้ว่าขนมาทุกคอลเลคชั่นกันเลยค่ะ ทัวร์ครับแนะนำให้ตั้งสติกันให้ดี งานนี้มีหมดตัวแน่นอนค่ะ สนามบินนาริตะ (Narita Airport) หากใครไม่มีเวลาไปตามรอยแหล่งตู้กาชาปองที่เราได้บอกไปด้านบน ทัวร์ครับยังมีอีกหนึ่งทีให้แก้ตัวค่ะ และที่สำคัญทุกคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องผ่านที่นี่อย่างแน่นอน เพราะสถานที่ที่ว่าก็คือ สนามบินนาริตะ ประตูสู่ญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ โดยเราสามารถไปหาตู้กาชาปองได้ทั้ง 2 Terminal กันเลยทีเดียวค่ะ สำหรับ Terminal 1 จะอยู่ที่ชั้น 2 ส่วน Terminal 2 จะอยู่ที่ชั้น B1 ผ่าน Terminal ก็แวะไปหยอดติดไม้ ติดมือกลับไปเป็นของฝากกันได้นะคะ หวังว่าจะถูกอด ถูกใจเหล่าสาวกกาชาปองกันนะคะ การได้หยอดตู้กาชาปองตอนไปเที่ยวญี่ปุ่นนั้น ถือเป็นอีกความสุขทางใจ ความรู้สึกตื้นเต้นตอนกำลังลุ้นว่าจะได้กาชาปองแบบที่อยากได้หรือเปล่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ดีดีที่จะเติมเต็มให้การไปเที่ยวญี่ปุ่นของเรานั้นสนุกยิ่งขึ้นค่ะ ส่วนครั้งหน้าทัวร์ครับจะมีเรื่องเที่ยวดีดีอะไรมานำเสนออีกนั้น ต้องคอยติดตามให้ดีนะคะ
ของดีนำโชค! แนะนำ 10 เครื่องรางจากญี่ปุ่น ต้องมีไว้ครอบครอง
พาช้อป
ของดีนำโชค! แนะนำ 10 เครื่องรางจากญี่ปุ่น ต้องมีไว้ครอบครอง
ทัวร์ครับ รวบรวม 10 เครื่องรางนำโชคของญี่ปุ่น เด็ดๆ ที่ใครๆ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไปเที่ยวญี่ปุ่น ต้องซื้อกลับมาแล้วเป็นของที่ต้องมีจริงๆ นะเออสำหรับชาวสายมูฯ ใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่าพลาดเด็ดขาด จะต้องซื้อติดไม้ติดมือ ติดกระเป๋า หรือเป็นของฝากได้ด้วยนะ 1. เครื่องรางญี่ปุ่น- เหรียญ 5 เยน เริ่มกันที่เครื่องรางแรก เป็นเครื่องรางชั้นยอดที่หาง่ายมากๆ ไม่ต้องไปบูชาที่วัดไหน เพราะเป็นเหรียญที่ทุกคนสามารถมีได้เมื่อไปญี่ปุ่นค่ะ แต่ถ้าจะให้เราแนะนำ เราขอแนะนำให้นำเหรียญไปล้างน้ำมนต์ที่วัดที่ญี่ปุ่นก่อนนะคะ สำหรับเหรียญ 5 เยนนั้น คนญี่ปุ่นเชื่อว่ารูตรงกลางของเหรียญ คือรูที่ทำให้สิ่งเลวร้ายต่างๆ เรื่องไม่ดี ความโชคร้ายลอดผ่านออกไป นอกจากนี้คำว่า 5 เยน ในภาษาญี่ปุ่น อ่านว่า โกะ-เอ็น ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำว่า โกะ-เอ็น (ご縁) ที่แปลว่า การขอพรจากเทพเจ้า เพราะฉะนั้น เหรียญ 5 เยน จึงเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีนั่นเองค่ะ ใครไปญี่ปุ่นก็อย่าลืมเก็บเหรียญ 5 เยนไว้ แล้วนำมาพกติดตัวนะคะ หรือจะทำเป็นพวงกุญแจห้อยก็ได้นะ 2. เครื่องรางญี่ปุ่น - ด้านความรัก วัดอาซากุสะ พูดถึงชื่อวัดนี้แล้ว เชื่อว่าใครๆ ก็ต้องรู้จัก เพราะถือว่า เป็นวัดชื่อดังที่นักท่องเที่ยวทุกคนที่ไปโตเกียวต้องไปนั่นเองค่ะ บอกเลยว่า คนส่วนมากที่มาขอพรที่วัดนี้ สมหวังกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเครื่องรางจากวัดนี้เลยเป็นของแรร์ไอเท็ม ที่หลายๆ คนต้องบูชากลับไปค่ะ แน่นอนว่า ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก ใครๆ ก็อยากมี หรือที่มีแล้วก็อยากให้มันดีขึ้นไปอีก และ เครื่องรางความรัก วัดอาซากุสะ ก็ศักดิ์สิทธิ์จนทำให้หลายๆ คนเห็นผลกันมามากแล้วค่ะ คนที่บูชาไปพกติดตัวไว้ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คนจีบเพียบ ที่มีแฟนอยู่แล้วก็รู้สึกว่าดี๊ดี ไม่มีเรื่องมากวนใจ มาทะเลาะกันเลยล่ะ ใครอยากมีโชคเรื่องความรัก ก็อย่าลืมไปบูชามาติดตัวไว้นะคะ 3. เครื่องรางญี่ปุ่น - ขอให้สมปรารถนา วัดอาซากุสะ ยังอยู่กับ วัดอาซากุสะ หรืออีกชื่อคือ วัดเซนโซจิ ค่ะ (คนไทยหลายคน รู้จักในชื่อ วัดโคมแดง) นอกจาก เครื่องรางความรัก ที่บอกไปข้างต้นแล้ว ที่วัดนี้ยังมีเครื่องรางอีกมากมายให้เราไปบูชา ดังเช่น เครื่องรางสมปรารถนา อันนี้นั่นเอง เครื่องรางสมปรารถนา วัดอาซากุสะ เป็นเครื่องรางที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า เหมือนเป็นตัวแทนของเทพเจ้าของวัดเลยล่ะค่ะ พกติดตัวไว้แล้ว ไม่ว่าเราจะขอพรในเรื่องอะไร ท่านก็จะอวยพรให้เราสมปรารถนา ดังที่ใจเราต้องการ ถ้าเราอธิษฐานด้วยใจจริง สิ่งที่เราอธิษฐานก็จะเป็นจริงค่ะ ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้นะคะ 4. เครื่องรางญี่ปุ่น -ด้านการเงิน วัดอาซากุสะ บอกแล้วว่า วัดอาซากุสะ ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ นะคะ เพราะเครื่องรางของวัดนี้ มีหลายชิ้นมากๆ ให้พรในแต่ละด้าน ต่างกันไป ถ้าใครมีโอกาสไปก็อย่าลืม เลือกเรื่องที่เราอยากให้ประสบความสำเร็จ แล้วบูชาเครื่องรางมาพกติดตัวไว้นะคะ สำหรับ เครื่องรางการเงิน จากวัดอาซากุสะ นั้น ดลบันดาลให้ผู้ที่บูชา เห็นผลมานักต่อนักแล้วค่ะ ใครที่กำลังกระเป๋าเบา หรือเงินขาดมือ รู้สึกสภาพการใช้จ่ายไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ หรือใครค้าขาย ทำธุรกิจ แล้วอยากได้กำไร แนะนำให้บูชาเครื่องรางอันนี้ไว้ เค้าว่ากันว่า ขอแสนได้แสน ขอล้านได้ล้านเลยนะจะบอกให้ Cr: https://pbs.twimg.com/media/DMU_UMLUIAUsOQd.jpg 5. เครื่องรางญี่ปุ่น - ด้านการเรียน วัดอาซากุสะ จริงๆ แล้วเครื่องรางของวัดอาซากุสะ ยังมีอีกหลายชิ้นที่น่าสนใจ และน่าบูชาติดตัวไว้ แต่วันนี้เราคัดมาแต่ชิ้นที่เด็ดๆ ที่โด่งดังและถือว่าเป็น the must ที่ต้องบูชาจริงๆ มาแนะนำให้ทุกคน และเครื่องรางอันนี้ก็เหมาะกับ น้องๆ ในวัยเรียนค่ะ เครื่องรางด้านการเรียนของวัดอาซากุสะ นั้น เด็กนักเรียนญี่ปุ่นหลายคนบูชาพกติดตัวไว้ตลอด เพราะจะช่วยส่งเสริมในเรื่องของ การเรียน การสอบต่างๆ และเชื่อว่าจะช่วยให้มีสมาธิ มีใจจดจ่อกับเรื่องเรียนมากขึ้นด้วยค่ะ ใครที่กำลังจะสอบเข้า หรือสอบเลื่อนขั้น เลื่อนชั้นต่างๆ อย่าลืมไปหามาพกติดตัวไว้นะคะ 6. เครื่องรางญี่ปุ่น - เทพเจ้าจิ้งจอก คิสึเนะ ข้ามภูมิภาค จากโตเกียว มาที่เกียวโต กันบ้างค่ะ กับ วัดฟูชิมิอินาริ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ศาลจิ้งจอกขาว ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ของเทพเจ้าจิ้งจอกมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วค่ะ ซึ่ง เครื่องรางเทพเจ้าจิ้งจอก นี้นั้น เป็นเครื่องรางแห่งความสำเร็จ หากใครที่กำลังจะทำอะไร หรือทำอะไรอยู่ แล้วต้องการให้ผลออกมาสำเร็จ สมปรารถนาที่ใจต้องการ ไม่ว่าจะเรื่อง การงาน การเรียน การสอบต่างๆ บูชาเครื่องรางนี้ เค้าว่าเทพเจ้าจิ้งจอก จะบันดาลให้สมความปรารถนาค่ะ หากใครสนใจไปเที่ยวญี่ปุ่น ศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอก ดูตามโปรแกรมนี้เลย >> คลิก!! 7. เครื่องรางญี่ปุ่น - เสริมความรัก เก็นจิ ยังอยู่กันที่เกียวโต กับอาราชิยามะ หรือสวนไผ่ชื่อดัง ที่ใครไปเที่ยวแถบ คันไซ ต้องแวะไปเยี่ยมเยียนนั่นเอง และที่นี่ก็ยังเป็น จุดกำเนิดของนิยายความรักสุดคลาสสิคอย่าง เก็นจิโมโนกาตาริ ด้วยล่ะค่ะ สำหรับ เครื่องรางความรัก เก็นจิ ต้องบูชาที่ ศาลเจ้า โนโนมิยะค่ะ สาวๆ ญี่ปุ่นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บูชาไว้แล้วพบเจอแต่คนดีๆ มีแต่คนดีๆ เข้ามาจีบ นอกจากนี้ ยังให้พรในเรื่องของ คู่ครอง และการมีลูกด้วยนะคะ ใครที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ สามารถบูชามาแล้วขอพรให้ลูกคลอดง่ายๆ และเชื่อว่าลูกที่คลอดออกมานั้นจะเป็นคนดีด้วยค่ะ 8. เครื่องรางญี่ปุ่น - เสริมความรักวัดน้ำใส วัด คิโยมิซุ หรือวัดน้ำใส ที่คนไทยรู้จักกันดี ก็มีเครื่องรางชื่อดังเหมือนกันนะคะ นอกจากจะแวะไปขอพรจากเทพเจ้า และดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว เราขอแนะนำให้บูชาเครื่องรางกลับมาพกติดตัวไว้ด้วย โดยเฉพาะคนที่อยากมีโชคในด้านความรักค่ะ เนื่องจาก เทพเจ้าโอคุนินูชิ นั้น เป็นเทพที่มีลูกกว่า 180 คนเลยทีเดียว คนญี่ปุ่นจึงเชื่อว่า ท่านเป็นเทพนักรัก และสามารถช่วยดลบันดาลให้สมปรารถนาในเรื่องความรักได้ นักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา รวมถึงคนญี่ปุ่นเองจึงนิยมเดินทางมาขอพรเรื่องความรัก และขอลูกจากท่านค่ะ 9. เครื่องรางญี่ปุ่น - เสริมดวงดี ศาลเจ้าไคจู มาถึงเครื่องรางอันนี้ ที่บอกเลยว่ากำลังเป็นกระแสมาแรงในทวิตเตอร์มากๆ กับ เครื่องรางดวงดี จาก ศาลเจ้าไคจู อินาริ (Kaichu Inari) ค่ะ ศาลเจ้านี้มีชื่อในเรื่องของการเสี่ยงดวงต่างๆ อย่างเช่น ลอตเตอรี่ หรือแม้กระทั่ง การกดบัตรคอนเสิร์ต !! ใครที่กำลังจะเสี่ยงโชคในเรื่องต่างๆ เช่น ไปเล่นเกมไว้ตามเพจ ตามเว็บ แล้วอยากให้ชื่อเราเป็นผู้ถูกเลือก หรืออยากไปดูคอนเสิร์ตนึงมากๆ และกลัวว่าจะกดซื้อบัตรไม่ทัน ลองบูชาเครื่องรางนี้ติดตัวไว้ เค้าว่ากันว่าสมปรารถนามานักต่อนักแล้วค่ะ หรือหากใครชอบซื้อลอตเตอรี่ อยากมีดวงในเรื่องการเสี่ยงโชคบ้าง ก็สามารถขอพรจากเครื่องรางนี้ได้เช่นเดียวกันนะคะ 10. เครื่องรางญี่ปุ่น - สุขภาพ ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ ปิดท้ายกันที่เครื่องรางจาก ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ จังหวัดโอกินาว่า กันค่ะ เนื่องจากตอนนี้เส้นทาง โอกินาว่า กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเลยทีเดียว เราเลยหยิบเครื่องรางหนึ่งชิ้น ที่เค้าว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ มาแนะนำกันค่ะ สำหรับศาลเจ้านามิโนะอุเอะนั้น เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดโอกินาว่า เป็นศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษโดยอาณาจักรริวกิวค่ะ เครื่องรางสุขภาพ ของที่นี่นั้น เค้าว่ากันว่าให้ผลดีมากๆ เลย ใครที่ป่วยเรื้อรังมานานไม่หายสักที ก็กลับดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ ซื้อเป็นของฝากของเยี่ยมไข้ คนป่วยก็มีหน้าตาที่สดใสดูดีขึ้น อาการทุเลาลงมากเลยล่ะค่ะ เหมาะมากสำหรับบูชาเป็นของฝาก หรือจะบูชาไว้ให้ตัวเองก็ดีเหมือนกันนะคะ ส่งท้าย ก่อนจากกัน ขอแนะนำเพิ่มเติมในเรื่องของ วิธีการบูชาเครื่องรางญี่ปุ่น สักนิดนะคะ เพื่อให้ได้พรที่ศักดิ์สิทธิ์ ให้การบูชาได้ผลที่สุด แนะนำว่า ให้พกติดตัวไว้ตลอดเวลา พกใส่ในกระเป๋า หรือถ้าในกระเป๋าสตางค์ได้ยิ่งดีเลยค่ะ และเครื่องรางญี่ปุ่นนั้นมีวันหมดอายุโดยส่วนมากจะอยู่ที่ 1 ปี เพราะฉะนั้นจดจำวันที่บูชามาดีๆ เมื่อครบปีแล้ว แนะนำให้เอาไปคืนที่วัดที่บูชามา แล้วบูชาเครื่องรางอันใหม่มาแทน หรือหากไม่สะดวกนำไปคืนที่วัดเดิม ก็สามารถนำไปคืนไว้ที่ศาลเจ้าหรือวัดอื่นก็ได้เช่นกัน สำหรับเครื่องรางญี่ปุ่น ทั้ง 10 ชิ้นที่ทัวร์ครับเลือกมาแนะนำนั้น มีหลากหลายด้านเลยนะคะ หากใครได้ไปญี่ปุ่น อย่าลืมบูชาเครื่องรางติดตัวกลับมาด้วย หรือจะบูชาเป็นของฝากให้กับคนที่คุณรักก็ไม่ผิด ถือว่าเป็นของฝากชั้นยอดเลยค่ะ ❤️ บทความแนะนำ >>5 อันดับของฝาก น่าสนใจ จากญี่ปุ่น❤️
ไอเทมสุด Cute! จากร้าน Miniso ไปเที่ยวจีนต้องโดน!
พาช้อป
จีน
ไอเทมสุด Cute! จากร้าน Miniso ไปเที่ยวจีนต้องโดน!
ไปเที่ยวจีนทีไร หลายคนก็ยังมีข้อสงสัยว่า ควรซื้ออะไรเป็นของฝากจากจีน? เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง หยก พุทธรา เกาลัค หรือรูปปั้นแกะสลักของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆแน่นอน แต่ขอบอกเลยว่าวันนี้ทัวร์ครับจะพาทุกไปดูไอเทมสุดน่ารัก ของร้าน Miniso ที่มีสาขาอยู่ในประเทศไทยเช่นกัน แต่หลายคนที่เคยมีโอกาสได้ไปช้อปปิ้งร้าน Miniso ที่จีน ต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ราคาถูกกว่าที่เมืองไทย แถมเต็มไปด้วยสินค้าน่ารักๆ มากมาย ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็อยากจะหยิบใส่ตระกร้าให้หมด จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น มาดูกันเลย ซื้อทัวร์จีน กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) https://tourkrub.co/china-tour 1. Pink Panther Collection เจ้าแมวสีชมพู ที่ไม่ว่าสาวๆคนไหนเห็นต้องวิ่งเข้ามา สำหรับ Pink Panter ซึ่ง Miniso เองนั้นก็ได้ผลิตสินค้า Pink Panter ออกมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นถุงเท้า เครื่องสำอางค์ เครื่องเขียน กระเป๋า และถึงแม้ว่าคอลเลคชั่นนี้จะมีขายในประเทศไทยแล้ว แต่บางอย่างที่เมืองไทยก็ยังไม่ได้นำเข้ามาค่ะ ดังนั้นหากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวจีน ก็อย่าลืมไปช้อปปิ้งสินค้า Pink Panter กลับมาเป็นของฝาก ของที่ระลึกจากจีน บอกเลยว่าแต่ละอย่างน่ารักจนอดใจไม่ซื้อไม่ไหว แถมยังมีสินค้ามากมายหลากหลายประเภท ในราคาไม่แพง เหมาะกับการเป็นของฝากจากจีนสุดๆ ไปเลย ซื้อThe Pink Panther Collection กับ ลาซาด้า 2. We Bare Bear Collection มากันที่อีกหนึ่งคอลเลคชั่นขวัญใจวัยรุ่น อย่าง We Bare Bear Collection จาก Miniso ซึ่งเคยเป็นกระแสช่วงหนึ่งในเมืองไทย ซึ่งหาก สาวก We Bare Bear ได้มีโอกาสไปเที่ยวจีนละก็ จะต้องร้องกับสินค้า We Bare Bear หลากหลายรูปแบบ บางแบบก็ยังไม่มีขายในประเทศไทยค่ะ แถมราคาไม่แพงเลยค่ะ สามารถช้อปเป็นของฝากจากจีนกันได้แบบเพลินใจ จะฝากตัวเอง หรือฝากเพื่อนๆ ก็ต้องชื่นชอบกันอย่างแน่นอน ใครจะไม่หลงรักเจ้าหมีอ้วน 3 ตัวนี้บ้างล่ะ? ซื้อWe Bare Bear Collection กับ ลาซาด้า 3. Red Dot Design Award คอลเลกชั่นสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ อาจจะเหมาะกับคนที่ชอบการดีไซน์สุดล้ำ เพราะน้อยคนนักที่จะรู้ว่าร้าน Miniso นั้นมีสินค้าที่ได้รับรางวัล Red Dot Design อยู่หลายชิ้นด้วยกัน ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่ได้รับรางวัล Red Dot Design มักจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ไม่ใช่กับ Miniso ค่ะ เพราะถึงแม้จะได้รับรางวัล ราคาสินค้าก็ยังสบายกระเป๋าเช่นเดิม เป็นของฝากจากจีนที่เหมาะกับการซื้อฝากผู้ใหญ่ หรือจะฝากเพื่อนร่วมงานก็เก๋ไม่เบาเลย เป็นไงบ้างคะ กับไอเทมสุด Cute จากร้าน Miniso ซึ่งร้าน Miniso เนี่ย ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการซื้อของฝากจากจีน นอกเหนือจากของฝากสุดฮิตอย่าง พุทรา เกาลัค หรือเครื่องประดับ ใครที่เบื่อของฝากจีนรูปแบบเดิมๆกันแล้ว ก็สามารถไปแวะช้อปสินค้าน่ารักๆ ใน Miniso กันได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีสาขาอยู่ตามร้านแหล่งช้อปปิ้งของเมืองหลักๆในจีน ยิ่งหากไปกับทัวร์ครับล่ะก็ ไม่ต้องกลัวพลาด เพราะเราจะพาคุณไปตะลุยทุกแหล่งช้อปขึ้นชื่อของแต่ละประเทศแน่นอน ส่วนครั้งหน้าทัวร์ครับจะมีอะไรมาแนะนำอีกบ้างนั้น ต้องคอยติดตามกันให้ดี รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
บุกร้าน 100 เยนในตำนาน แหล่งของฝากญี่ปุ่นราคาประหยัด!
พาช้อป
ญี่ปุ่น
บุกร้าน 100 เยนในตำนาน แหล่งของฝากญี่ปุ่นราคาประหยัด!
เที่ยวญี่ปุ่น...เรื่องที่พลาดไม่ได้ก็คงต้องเป็นเรื่องช้อปปิ้ง เพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่ของน่าซื้อเต็มไปหมด อดใจไม่ไหวสักที ช้อปไป ช้อปมาเงินเยนในกระเป๋าที่ตอนนี้เริ่มจะร้อนแล้ว เพราะเหลือน้อยลงทุกที เชื่อว่าขาช้อปตัวจริงต้องเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ หรือเคยมีประสบการณ์กันบ้างแล้วอย่างแน่นอนค่ะ วันนี้ทัวร์ครับจะพาทุกคนไปรู้จักกับร้าน 100 เยนของญี่ปุ่น ร้านที่มีขายทุกอย่างตั้งแต่สากกะเบือ ยันเรือรบ แถมยังมุ้งมิ้งสุดๆ และที่สำคัญคือทุกชิ้นราคา 100 เยน หรือ 30 บาทเท่านั้น!! ราคาน่าคบขนาดนี้ จะพลาดได้ไง ตามไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่าจะมีร้านไหนบ้าง ? จองทัวร์ญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) https://tourkrub.co/japan-tour 1. ของฝากญี่ปุ่น - ไดโซะ (Daiso) ร้านที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเปิดสาขาอย่างแพร่หลายในเมืองไทยเช่นกัน แต่ในเมืองไทยจะราคา 60 บาททุกอย่าง แต่ในญี่ปุ่นนั้นราคาเพียง 100 เยน หรือ 30 บาทเท่านั้นค่ะ โดยร้านไดโซะญี่ปุ่นก็ยังคงเต็มไปด้วยสินค้ามากมาย หลากหลายชนิด ตั้งแต่เครื่องครัว ขนม เครื่องสำอางค์ ของตกแต่งบ้าน เครื่องเขียน และสินค้าบางอย่างที่ยังไม่นำเข้ามายังสาขาในประเทศไทย ซึ่งบางทีจะมีสินค้าลิขสิทธิ์อย่าง Mickey Mouse, Hello Kitty, ไข่ขี้เกียจ Gudetama โดยจะเปลี่ยนประเภทสินค้าไปตามช่วงเวลาค่ะ ไม่ว่าใครที่ได้เดินเข้าร้านไดโซะญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ เหมือนโดนดูดอยู่ในเขาวงกต กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เต็มตระกร้าแล้วค่ะ ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่เหมาะกับการหาของฝากญี่ปุ่นราคาประหยัด แถมยังน่ารักอีกด้วย ซื้อของ Daiso Thailand กับ ลาซาด้า 2. ของฝากญี่ปุ่น - แคน ดู (Can Do) แคน ดู อีกหนึ่งร้าน 100 เยนที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น มีสาขาอยู่ตามห้างสรรพสินค้า และสถานีรถไฟหลักๆของญี่ปุ่น โดยร้านนี้จะมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาวอยู่ตรงกลางระหว่างคำว่า Can และ Do มองหาได้ไม่ยากเลย ซึ่งตามคอนเซ็ปของร้านคือทุกอย่างราคา 100 เยน และมีสินค้าที่หลากหลายให้เลือกซื้อ แต่จะเป็นสไตล์วัยรุ่นกว่าไดโซะนิดหน่อย ซึ่งร้านแคนดูนี้ก็มีสินค้าที่มีลายการ์ตูนลิขสิทธิ์เช่นกันค่ะ อย่าง Hello Kitty, Thomas And Friends หรือคุณโทมัสยอดหัวรถจักร แต่ละอย่างน่าซื้อทั้งนั้นเลยค่ะ เป็นอีกร้านที่บอกเลยว่าต้องช้อปเพลินแน่นอน แถมไม่ต้องคิดราคาให้ปวดหัว เพราะทุกอย่างราคา 100 เยนเท่านั้นเองค่ะ 3. ของฝากญี่ปุ่น - ซีเรีย (Seria) อีกร้าน 100 เยนสุดเด็ดของญี่ปุ่น ที่มีสาขาอยู่ตามแหล่งช้อปหลักของเมือง หาได้ไม่ยากเลยค่ะ ภายในร้านตกแต่งง่ายๆ ดูสบายตา ส่วนสินค้าก็มีให้เลือกมากมาย ไม่แพ้ 2 ร้านด้านบน แต่จะเป็นสไตล์มินิมอล เหมาะกับคนที่ชอบของแบบชิคๆ แต่ก็มีสินค้าลายการ์ตูนลิขสิทธิ์จำหน่ายเช่นกัน เป็นอีกร้าน 100 เยนที่เต็มไปด้วของน่ารักๆ เต็มไปหมด ทั้งของใช้ ขนมกรุบกรอบ เครื่องเขียน เป็นอีกหนึ่งร้านที่คุณจะได้ของฝากจากญี่ปุ่น ราคาไม่แพง แถมยังถูกใจทั้งคนให้และคนรับแน่นอน 4. ของฝากจากญี่ปุ่น - ทรีคอยส์ (3 Coins) มาถึงร้านสุดท้ายที่แม้จะไม่ใช่ร้าน 100 เยน แต่เป็นร้านราคา 300 เยน หรือประมาณ 90 บาท แต่ทัวร์ครับคอนเฟิร์มว่าคุณจะได้เจอแต่สินค้าญี่ปุ่นน่ารักๆ จนอดใจไม่ไหวต้องซื้อกลับมาเป็นของฝากจากญี่ปุ่นกันสักหน่อย ซึ่งร้านนี้ก็เป็นอีกร้านที่มีสินค้าหลากหลายทั้งของตกแต่งบ้าน ของใช้ส่วนตัวและ เสื้อผ้า ว่ากันว่า ร้าน ทรีคอยส์ เป็นร้านยอดนิยมของเหล่าสาวๆชาวญี่ปุ่น เพราะมีสินค้าที่น่ารักถูกใจ แถมราคายังสบายกระเป๋าอีกด้วย หากใครไปเที่ยวญี่ปุ่น ก็อย่าลืมมองป้ายร้านทรีคอยส์นะคะ รับรองว่าคุณจะได้ของฝากจากญี่ปุ่นสุดน่ารัก ในราคาไม่แพงแน่นอน ทัวร์ครับหวังว่าจะถูกใจขาช้อปทั้งหลายนะคะ ใครที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นก็อย่าลืมจดร้าน 100 เยน ทั้ง 3 ร้านนี้ไว้เลยนะคะ จะได้ช้อปของฝากจากญีปุ่่นได้อย่างสบายใจ แถมราคายังสบายกระเป๋าอีกด้วย แต่ถ้าหากเป็นทัวร์ญี่ปุ่น ราคาสบายกระเป๋าล่ะก็ ต้องทัวร์ครับเลย >>>>ทัวร์ญี่ปุ่นคุณภาพ ราคาสบายกระเป๋า<<<<
5 สุดยอด!  ครีมกันแดดญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ต้องไปเหมา!
พาช้อป
ญี่ปุ่น
5 สุดยอด! ครีมกันแดดญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ต้องไปเหมา!
ครีม กันแดด (Sunscreen) ไอเท็มสำคัญที่ขาดไม่ได้ของสาวและหนุ่มๆ ก็อยู่เมืองร้อนก็ต้องดูแลตัวเองกันหน่อย โดยเฉพาะแดดเมืองไทยร้อนขนาดนี้หากขาดครีมกันแดดไป ผิวหน้าคงจะแย่ ไหม้เกรียมเอาง่ายๆดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น คนไทยเราจึงไม่ควรพลาดหอบเครื่องสำอาง และครีมกันแดดญี่ปุ่นกลับมาด้วยทุกครั้ง ก็ครีมกันแดดของญี่ปุ่นเขาดี มีหลายแบรนด์ที่ทั้งคนญี่ปุ่นและคนไทยเองการันตีว่า ใช้แล้วเริด ดีกับผิวคนไทย อีกทั้งยังคุ้มค่าในราคาและคุณภาพ และเพื่อไม่ให้เสียเวลาสำหรับมือใหม่ที่อยากใช้ครีมกันแดดทัวร์ครับจึงรวมมาให้ 5 สุดยอด ครีมกันแดดญี่ปุ่น ที่สาวๆ และหนุ่มชาวญี่ปุ่น การันตีว่าเด็ดจริงๆ จะมีอันไหนน่าโดนบ้าง ไปดูกันเลย จองทัวร์ญี่ปุ่นกับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) https://tourkrub.co/japan-tour 5 ครีม กันแดดญี่ปุ่น 1. ANESSA Perfect UV Sunscreen Aqua Booster เริ่มต้นกับครีมกันแดดญี่ปุ่นในตำนานอย่าง ANESSA ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักกี่ปี ก็ไม่มีอำนาจมาลบล้างได้ เป็นอีกหนึ่งของฝาก และของฝากซื้อกันมากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย ความดีงามของครีมกันแดดตัวนี้คงไม่ต้องพูดถึงค่ะ เพราะคือที่สุดของครีมกันแดดญี่ปุ่นแล้ว การันตีด้วย รางวัล Cosme ญี่ปุ่นให้เป็นที่สุดของครีมกันแดดมายาวนานถึง 3 ปีซ้อน ส่วนในเรื่องราคาอาจจะแรงกว่ายี่ห้ออื่นนิดหน่อย แต่มั่นใจได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ซื้อครีม กันแดดญี่ปุ่นANESSA กับ ลาซาด้า 2. Biore UV Aqua Rich Waterly Essence Sunscreen มาต่อกันที่อีกหนึ่งครีมกันแดดญี่ปุ่นยี่ห้อ Biore สูตร Aqua Rich ที่นอกจากจะเป็นครีมกันแดดแล้ว ยังมีส่วนผสมของสารบำรุงให้ความชุ่มชื้น พร้อมเนื้อสัมผัสที่แสนจะบางเบา ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ทา แต่ปกป้องแดดระดับเทพ จะทาทับเมคอัพก็ไม่ทิ้งคราบ แถมราคาไม่แพงอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งครีมกันแดดที่ใครๆก็ยกนิ้วให้เลยค่ะ ซื้อครีม กันแดดญี่ปุ่นBiore Aqua Richกับ ลาซาด้า 3. ALLIE Extra UV Gel หากใครเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น อาจจะเคยเห็นยี่ห้อ ALLIE ผ่านตากันมาบ้างตามร้าน Drug Store ในญี่ปุ่น เพราะว่าแบรนด์ ALLIE เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องสำอางค์ยอดนิยมของสาวชาวญี่ปุ่น เป็นแบรนด์ลูกในเครือของบริษัท Kanebo จึงมั่นใจเรื่องคุณภาพได้เลยค่ะ ซึ่งหลายเสียงการันตีว่า ครีมกันแดดรุ่นนี้นั้น โดดเด่นในเรื่องกันน้ำ กันเหงื่อ เพราะเป็นเนื้อเจล ที่มีส่วนผสมของน้ำ จึงให้ความชุ่มชื่นตลอดวัน พร้อมป้องกันแสงแดดได้ยาวนาน เนื้อบางเบาสุดๆ จึงเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยบ้านเรามากๆเลยค่ะ ซื้อครีม กันแดดญี่ปุ่นALLIE กับ ลาซาด้า 4. Decorte Sun Shelter Multi-Protection เห็นชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นตากันเท่าไหร่ แต่ขอบอกว่าครีมกันแดดญี่ปุนตัวนี้ เพิ่งจะได้รับรางวัล Cosme The Best Sunscreen อันดับที่ 2 ประจำปี 2017 มาเลยนะคะ ดังนั้นต้องมีดีแน่ๆ ไม่งั้นสาวญี่ปุ่นคงไม่เทใจโหวตจนได้รับรางวัลแน่ๆ ความโดดเด่นของครีมกันแดด Decorte รุ่นนี้ก็คือความบางเบาของเนื้อครีม ที่มีเป็นเนื้อครีมแบบน้ำนม (Sunscreen Milk) แต่บางเบา ทนน้ำและเหงื่อสุด พร้อมสารบำรุงผิวที่จะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี จะทาก่อนแต่งหน้า หรือจะทาทับระหว่างวัน ก็ไม่ต้องกลัวเป็นคราบ ดีขนาดนี้ จะไม่โดนได้ยังไงกันคะ ซื้อครีม กันแดดญี่ปุ่นDecorte กับ ลาซาด้า 5. NIVEA Sun creme care UV cream ปิดท้ายด้วยครีมกันแดดที่ไม่ใช่แบรนด์ญี่ปุ่น แต่มีรางวัล Cosme The Best Sunscreen รางวัลที่ 3 ประจำปี 2017 การันตี ซึ่งสาเหตุที่สาวๆญี่ปุ่นโหวตให้กับครีมดันแดด NIVEA รุ่นนี้ก็เพราะว่าถึงแม้จะเป็นเนื้อครีม แต่กลับบางเบาเหมือนไม่ได้ทาครีมกันแดด พร้อมด้วยสารบำรุงผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุขภาพดี ควบคุมความมันได้ดี ไม่ต้องกลัวหน้ามันระหว่างวันค่ะ ป้องกันแดดได้ดีสุดๆ ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมสาวๆญี่ปุ่นถึงหลงรักครีมกันแดด NIVEA รุ่นนี้ ซื้อครีม กันแดดญี่ปุ่นNIVEA Sun กับ ลาซาด้า อย่าลืมจดลิส 5 ครีมกันแดดญี่ปุ่นที่ทัวร์ครับรวบรวมมาให้ในวันนี้ให้แม่นเลยหากใครกลัวลืม ก็กดแชร์ไว้กันกันลืมกันได้พอถึงร้านก็โชว์รูปให้พนักงานดูเลย รับรองว่าได้ครีมกันแดดญี่ปุ่นกลับมาใช้ หน้าใส ไม่กลัวแดดเมืองไทยแน่นอนค่ะ ส่วนครั้งหน้าทัวร์ครับจะมีไอเทมเด็ดๆอะไรมาแนะนำอีก ต้องคอยติดตามกันให้ดี จองทัวร์ญี่ปุ่นกับ ทัวร์ครับ (Tourkrub)