All articles abouts ทัวร์ยุโรป

ฤดูไหนดีที่สุด ? เที่ยวสวิส อิตาลี ฝรั่งเศส

ฤดูไหนดีที่สุด ? เที่ยวสวิส อิตาลี ฝรั่งเศส

05 ต.ค. 61

        สวิสเซอร์แลนด์ (Switzerland) อิตาลี (Italy) ฝรั่งเศส (France) เป็นกลุ่มประเทศโซนยุโรปที่คนไทยนิยมไปเที่ยวกันเป็นแพ็คคี่ 3 ประเทศคู่หูร่วมกันเสมอ ด้วยความเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกัน แถมยังเดินทางไปได้อย่างสะดวก เพียงแค่มีวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) เท่านั้น ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวสวิส อิตาลี ฝรั่งเศสได้แบบสบายๆ ว่าแต่จะไปฤดูไหนดี ? เดือนไหนถึงจะโดนใจสุด ? ทัวร์ครับได้รวบรวมข้อมูลสำหรับการเที่ยวสวิส อิตาลี ฝรั่งเศสมาให้ทุกคน พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยครับ… เที่ยวสวิส อิตาลี ฝรั่งเศส ฤดูไหนดีที่สุด ?        ประเทศสวิส อิตาลี ฝรั่งเศส ถือเป็นประเทศ ยุโรปในโซนตะวันตก ซึ่งสามารถแบ่งฤดูกาลออกได้เป็น 4 ฤดูหลักๆด้วยกัน ได้แก่ ❄️ฤดูหนาว (Winter)❄️ เดือน : ธันวาคม - กุมภาพันธ์ (Switzerland)        ในช่วงฤดูหนาวของสวิส อิตาลี ฝรั่งเศส อากาศจะหนาวเย็นสุดๆ มีหิมะปกคลุมหนาแน่นในหลายพื้นที่ และด้วยความเย็นยะเยือกสุดๆ ร่างกายคนเมืองร้อนอย่างเราอาจไม่เหมาะสักเท่าไหร่ครับ เพราะเราอาจป่วยหรือไม่สบายได้ โดยจะมี อุณหภูมิประมาณ - 3 องศา ถึง 6 องศา ซึ่งหากเป็นพื้นที่บนภูเขาสูงอาจมีอุณหภูมิ - 10 องศาก็เป็นได้ครับ แต่หากใครชื่นชอบการเล่นสกี และอยากสัมผัสบรรยากาศความสวยงามของการเฉลิมฉลองคริสมาสต์ และวันปีใหม่สไตล์ยุโรป ท่ามกลางบรรยากาศแบบหิมะๆ ก็ควรมาเยือนในฤดูนี้เลยครับ  🌳 ฤดูใบไม้ผลิ (Spring)🌳  เดือน : มีนาคม - พฤษภาคม (Cinque Terre, Italy)        เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ความอบอุ่นก็กลับมาอีกครั้ง ซึ่งฤดูใบไม้ผลิ ถือเป็น ช่วงเวลาที่เหมาะสุดในการมาเที่ยวสวิส อิตาลี ฝรั่งเศสเลยครับ ทัวร์ครับขอรับประกัน อากาศเย็นสบายกำลังดี อุณหภูมิประมาณ 7 องศา - 14 องศา นอกจากจะได้ฟินกับอากาศดีดีแล้ว ในฤดูนี้ก็ยังเป็นช่วงที่ ดอกไม้ กำลังผลิดอก บานซะพรั่ง เพิ่มสีสันให้กับบรรยากาศสุดฟิน โดยในช่วงนี้พระอาทิตย์จะขึ้นเร็วกว่าเดิม ทำให้มีช่วงเวลากลางวันที่ยาวขึ้น เราจึงสามารถเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของสวิส อิตาลี ฝรั่งเศส ได้มากขึ้นอีกด้วยครับ  🌞ฤดูร้อน (Summer)🌞 เดือน : มิถุนายน - สิงหาคม (Provence, France)        หากใครอยากสัมผัสความอุ่นขึ้นมาสักหน่อย ฤดูร้อนก็เหมาะเลยครับ เพราะเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น เปลี่ยนประมาณ 20 องศา - 28 องศา คล้ายๆบ้านเรา และจะเย็นขึ้นในช่วงตอนเย็น พระอาทิตย์จะออกมาทักทายบ่อยขึ้น ท้องฟ้าแจ่มใส แต่อาจได้เจอกับฝนในบางครั้ง บรรยากาศจะคึกคักสุดๆ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แถมเป็นฤดูที่มีเวลากลางวันยาวนานที่สุด ทำให้เที่ยวสวิส อิตาลี ฝรั่งเศสได้แบบจุใจ เลยครับ 🍁ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn)🍁 เดือน : กันยายน - พฤศจิกายน        อีกหนึ่งฤดูกาลที่ฮิตในหมู่คนไทยไม่แพ้ฤดูใบไม้ผลิเลยค่ะ เพราะเป็น ช่วงเวลาของใบไม้เปลี่ยนสียุโรป กับภาพความสวยงามของใบไม้สีส้มแดง ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายขึ้น อุณหภูมิประมาณ 7 องศา - 13 องศา เป็นอีกหนึ่ง จุดหมายปลายทางสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีงามไม่แพ้ที่อื่น เลยล่ะครับ ทัวร์ครับขอบอก  👍 ไฮไลท์เด็ดสวิสเซอร์แลนด์ (Switzerland) ภูเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn)        ยอดเขาที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึกคุ้นเคยกับลักษณะยอดเขารูปทรงพีระมิเแบบนี้กันบ้าง เนื่องจากถูกใช้เป็นโลโก้ของช็อคโกแลต Toblerone นั่นเองครับ ความสวยงามของแมทเทอร์ฮอร์น เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวสวิสที่ใครๆก็อยากมาเยือน กับความอลังการของทัศนียภาพสุดตระการตา กับการนั่งรถไฟขึ้นไปชมยอดเขาก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลยครับ กรินเดลวาลด์ (Grindelwald)          เมืองตากอากาศยอดฮิตประจำสวิสเซอร์แลนด์ เมืองเล็กๆท่ามกลางหุบเขาน้อยใหญ่ด้วยความสูงจากน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร ล้อมด้วยความสมบูรณ์ของธรรมชาติสุดตระการตา ซึ่งเราสามารถมองเห็นหิมะบนยอดเขาได้ตลอดทั้งปี เป็นวิวที่เรียกได้ว่าสวยเกินบรรยาย ไม่ว่าใครที่ได้ไปต่างตกหลุมกับมนต์เสน่ห์ของที่นี่กันทุกราย  👍 ไฮไลท์เด็ดอิตาลี (Italy) กรุงโรม (Rome)   (Trevi Fountain, Italy)        มาอิตาลีก็ต้องไม่พลาดกรุงโรม เมืองสุดยิ่งใหญ่ของอิตาลี เต็มไปด้วย สถาปัตยกรรม ประติมากรรม ร่องรอยของประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 2,800 ปี  แหล่งอารยธรรมยุโรปโบราณสุดคลาสสิค แน่นอนว่าต้องไม่พลาดแลนด์มาร์คเด็ดของกรุงโลมอย่าง โคลอสเซียม (Colosseum) สนามกี่ฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก หรือจะเป็น มหาวิหารแพนธีออน  (Pantheon) มหาวิหารขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างมานานกว่า 2,000 ปี ด้วยการออกแบบที่สุดแสนจะพิเศษ เพราะภายมหาวิหารไม่มีเสากลางในการรับน้ำหนัก ซึ่งสำหรับ 2,000 ปีที่แล้วถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากๆเลยทีเดียว ปิดท้ายด้วย น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) น้ำพุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโรม ด้วยการออกแบบสุดโดดเด่นสไตล์บารอค ทำให้น้ำพุเทรวี่กลายเป็น แลนด์มาร์คสุดฮิตประจำกรุงโรม เลยละครับ  หมู่บ้านชาวประมงชิงเคว เตเร่ (Cinque Terre)          หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ทางตอนเหนือของอิตาลี ภายในบริเวณประกอบด้วยหมู่บ้านเล็กๆจำนวน 5 หมู่บ้านด้วยกัน ซึ่งแต่ละหมู่บ้านจะอยู่ติดๆกันเราจึงสามารถเดินชมได้ครบทุกหมู่บ้านกันเลยทีเดียวครับ โดยแต่ละหมู่บ้านก็จะสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างสไตล์ชาวประมงแบบยุโรป ทั้งบ้านเรือน โบสถ์ และปราสาทเก่าแก่ ซึ่งความโดดเด่นของหมู่บ้านชาวประมงแห่งนี้อยู่ที่ อาคารบ้านเรือนสีสดใส ตั้งอยู่ริมทะเล ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล และสีเขียวจากธรรมชาติ จึงกลายเป็น เอกลักษณ์ประจำ ของที่นี่เลยครับ  👍 ไฮไลท์เด็ดฝรั่งเศส (France) ทุ่งลาเวนเดอร์ เมืองโพรวองซ์ (Provence)          เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนฝรั่งเศส ในเดือนกรกฏาคม ก็ได้เวลาการเบ่งบานของดอกไม้สีม่วงอย่าง ลาเวนเดอร์ ในเมืองโพรวอซ์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ภาพความสวยงามของทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา กับอากาศเย็นสบายๆ ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางชมความสวยงามของทุ่งลาเวนเดอร์กันอย่างคึกคักทุกๆปี ซึ่งนอกจากจะได้ชมความสวยงามของทุ่งลาเวนเดอร์แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ของฝากซึ่งแปรรูปมาจากลาเวนเซอร์ให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านกันอีกด้วยครับ  เยือนดินแดนสวรรค์ของคนรักไวน์ บอร์กโดซ์ (Bordeaux)          ปิดท้ายเอาใจคนรักไวน์กันสักหน่อย กับแคว้นผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส บอร์กโดซ์ เมืองแห่งไวน์และไร่องุ่น แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ไร่องุ่นนะครับ เพราะบอร์กโดซ์นั้นยังเต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่โดดเด่นไม่แพ้กัน บอร์กโดซ์จึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จาก UNESCO มาถึงแหล่งผลิตไวน์ที่ดีที่สุดในโลกทั้งทีจึงไม่ควรพลาดลองลิ้ม ชิมรสชาติไวน์ฝรั่งเศสกันสักหน่อย ทัวร์ครับบอกเลยว่าเด็ดสุดๆครับ         ทัวร์ครับหวังว่าหลายท่านคงจะได้คำตอบกันแล้วนะครับ สำหรับช่วงเวลาที่ดีสำหรับการไปเที่ยวสวิส อิตาลี ฝรั่งเศส ซึ่งจริงๆแล้วสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลยครับ เพราะแต่ละช่วงเวลาก็จะมีความสวยงามที่มีสเน่ห์แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ต้องวางแผนจองทัวร์สวิส อิตาลี ฝรั่งเศสกันตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าช้าอาจไม่ทันการ อดไปชมความสวยงาม เสียดายแย่เลย... หากใครอยากได้ข้อมูลเที่ยสวิสแบบเจาะลึกขึ้น ตามไปอ่านบทความจากทัวร์ครับด้านล่างแล้วรับรองว่าจะอยากไปเที่ยวสวิสแน่นอน... >>>สวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝัน ! ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องไปสัมผัส..<<<  

อ่านเพิ่มเติม
10 อุบายที่สายเที่ยวควรระวัง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อในต่างแดน
10 อุบายที่สายเที่ยวควรระวัง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อในต่างแดน

29 ต.ค. 61

วันนี้ทัวร์ครับ เลยนำ 10 อุบายที่มิจฉาชีพมักใช้หลอกนักท่องเที่ยวมาเล่าให้ฟังกันครับ ใครมีแพลนกำลังจะออกเดินทางไปยังที่ไหนก็ตาม ลองอ่านกันดูนะครับ จะได้เตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆจะได้ไม่โดนหลอก.. 1. หลอกถามทาง วิธีนี้เป็นวิธีที่ฮิตมากๆ ในแถบยุโรป เพราะมิจฉาชีพเหล่านี้จะมีคนนึงในกลุ่ม แต่งตัวเป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกับเรา ถือแผนที่ขนาดใหญ่ และเดินตรงเข้ามาขอความช่วยเหลือให้เราช่วยดูแผนที่ให้หน่อย ในขณะเดียวกันมิจฉาชีพคนอื่นๆ ก็จะอาศัยจังหวะที่เราไม่ทันระวังตัว มาแอบล้วงกระเป๋าหรือหยิบฉวยของเราไปนั่นเอง วิธีหลีกเลี่ยงพวกนี้ก็คือ อย่าไปคุย ให้เดินหนีเลยครับ พึงระลึกไว้เสมอว่า คนที่หลงทางจริงๆ จะมาถามนักท่องเที่ยวด้วยกันทำไม หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ระมัดระวังกระเป๋าให้ดีๆห้ามประมาทเลยล่ะ 2. ขอทาน คนไทยเราเป็นเหยื่อให้กับมิจฉาชีพที่ใช้วิธีนี้ได้ง่ายมากๆ เพราะด้วยพื้นฐานเราเป็นคนขี้สงสาร และมีน้ำใจ โดยวิธีที่คนร้ายจะใช้ก็คือ ปลอมตัวเป็นขอทาน (หรือขอทานจริง) เดินเข้ามาขอเงินกันโต้งๆ เลยครับ อาจจะมาในรูปแบบของเด็กเล็ก หรือคนแก่ที่น่าสงสารมากๆ และพอเราควักกระเป๋าสตางค์ออกมาก็ฉกกระเป๋าเราแล้ววิ่งหนีไปดื้อๆ เลย ซึ่งวิธีนี้พบได้ทั่วโลก!! นอกจากนี้อาจจะมีกรณีที่ ให้เงินกับขอทาน 1 คน แล้วโดนขอทานมารุมอีกเป็นสิบ !! ไม่ให้ก็ไปจากตรงนั้นไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นมิจฉาชีพรูปแบบหนึ่งเหมือนกันนะ ใครไปเที่ยวก็อย่าลืมเลี่ยงคนเหล่านี้ไว้ด้วยนะครับไม่งั้นจะเป็นเราเองที่ไม่มีเงิน 555555555+  3.ให้เครื่องประดับ กำไลข้อมือ หรือของจุกจิก ทั้งสองอย่างนี้คือตัวอันตรายเลยครับ พวกมิจฉาชีพจะตรงดิ่งเข้ามาหาคุณ และ พยายามยัดเยียดของที่จะใส่ให้ข้อมือ ของคุณให้จงได้ ถ้าเจอต้องรีบหนีอย่างด่วนๆ เพราะหากเผลอรับมาแล้ว อาจจะต้องเสียเงินจำนวนมหาศาลสำหรับสายสิญจน์เส้นเล็กๆ หรือบางครั้งอาจจะเป็นการดึงความสนใจของคุณ เพื่อล้วงกระเป๋าก็ได้ครับ ซึ่งวิธีนี้มักจะเจอที่แถบยุโรป ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กครับ  4. การแสดงริมถนน จำไว้ให้มั่นเลย ว่าหากมีการแสดงริมถนนที่มีการล้อมวง คนเยอะๆ อย่าไปสนใจ อย่าไปอยากรู้อยากเห็นเด็ดขาด เพราะเป็นแหล่งทำงานชั้นดีของเหล่ามิจฉาชีพเลยล่ะ พวกนี้จะอาศัยจังหวะที่เราสนใจการแสดง ล้วงกระเป๋าหรือขโมยของเรา วิธีนี้พบเจอได้ทั้งประเทศในเอเชียเรา และทางแถบยุโรปเลยครับ ถ้าไปยืนดูการแสดง ทัวร์ครับ ก็แนะนำให้ปิดกระเป๋าให้มิดชิดและเอากระเป๋ามาไว้ด้านหน้าลำตัวหรือดูแลจับตามองกระเป๋าเราให้ดี จะได้ไม่เปิดช่องให้มิจฉาชีพได้มาขโมยกันได้ง่ายๆ  5. ถ่ายรูปให้หน่อย อย่าแปลกใจถ้าหากคุณไปท่องเที่ยวกับแฟนเพียงสองคนแล้วอยากมีรูปคู่ แต่ไปขอให้ใครช่วยถ่ายก็ไม่มีใครถ่ายให้ เพราะการขอให้ช่วยถ่ายรูป ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มิจฉาชีพชอบใช้เช่นกันครับ โดยพวกเค้าจะทำทีมาขอให้เราถ่ายรูปให้ ด้วยกล้องที่ใช้งานไม่ได้ และพอเราส่งคืนเค้าก็จะแกล้งทำตก และแน่นอนว่าเราต้องชดใช้ค่าเสียหายให้เค้าด้วยราคาที่แพงมากเลยล่ะ 6. ถ่ายรูปให้ไหม นอกจาก ถ่ายรูปให้หน่อย แล้ว วิธีถ่ายรูปให้ไหม ก็ยังเป็นวิธียอดฮิตของเหล่ามิจฉาชีพเช่นเดียวกัน ซึ่งมักจะเข้าหานักท่องเที่ยวที่มาคนเดียว หรือมาเป็นคู่รักครับ โดยถ้าเราหลงกล เค้าก็อาจจะเก็บค่าถ่ายรูปกับเราในราคาแพงแสนแพง บางทีหนักหน่อย ก็อาจจะโดนวิ่งราวกล้องไปต่อหน้าต่อตาเลยครับ 7. ตำรวจปลอม วิธีนี้น่ากลัวมากๆ และเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลยครับ เพราะมิจฉาชีพเหล่านี้จะทำทีว่าตัวเองเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ มาขอดูพาสปอร์ตของเรา หรือวีซ่าของเรา แล้วบอกว่าวีซ่าเรามีปัญหา หรือแกล้งบอกว่าเราทำอะไรผิดต่างๆ นานา ก่อนจะแกล้งทำทีเสนอให้เราจ่ายค่าปรับตรงนี้แทนที่จะไปสถานีตำรวจ ถ้าเราไม่ยอมให้ก็อาจจะข่มขู่ มากไปถึงการทำร้ายร่างกายเลยล่ะ วิธีแก้ง่ายๆคือให้เราค้นหาเบอร์ตำรวจของประเทศนั้นๆ ไว้ พอเจอพวกนี้เข้ามาปั๊บ ก็โทรหาตำรวจตัวจริงก่อนเลย 8. ตั๋วปลอม ในระหว่างที่เราต่อแถวรอซื้อตั๋วเพื่อเข้าสถานที่ต่างๆ หรือทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ก็อาจจะมีมิจฉาชีพเข้ามาทำทีอ้างว่ามีตั๋วมาขายในราคาที่ถูกกว่า บอกเลยว่าอย่าไปหลงกลเด็ดขาดนะครับ ถึงราคาจะถูกกว่าครึ่งหนึ่งก็ตาม เพราะตั๋วที่ได้มามักจะเป็นตั๋วปลอม ใช้งานไม่ได้ นอกจากเสียเงินแล้วยังเสียเวลาอีก เซ็งแย่ 9. แท็กซี่เถื่อน รู้ๆ กันอยู่แล้วล่ะเนอะข้อนี้ เพราะในบ้านเราก็มี (เฮ้อ...พูดแล้วเซ็ง) และแน่นอนว่าทั่วโลกก็มีเช่นกันครับ แท็กซี่พวกนี้จะไม่ยอมกดมิเตอร์ และชาร์จราคาแพงกว่าปกติ วิธีหลีกเลี่ยงง่ายๆ ก็คือใช้บริการรถไฟฟ้าให้คล่อง หรือเรียกรถจากแอพต่างๆ ที่มีให้บริการดีกว่า 10.  คนน้ำใจงาม เหมือนจะดูเป็นคนดี แต่พวกนี้บอกเลยว่าร้ายสุดๆ เพราะในขณะที่เรากำลังยกกระเป๋าขึ้นรถไฟ หรือแบกกระเป๋าเดินทางใบโตไปไหนมาไหนดูท่าทีลำบ๊ากลำบาก มิจฉาชีพพวกนี้ก็จะทำทีแสดงน้ำใจ มาช่วยเรายกของ ขนของ และพอเสร็จก็จะขอเงินจากเรานั่นเอง ถ้าหากไม่จ่ายก็อาจจะโดนข่มขู่ หรือทำร้ายร่างกายนั่นเองครับ เห็นมั้ยล่ะครับ? ว่าการเที่ยวแต่ละครั้งก็ไม่ได้มีแต่ความสุข แต่ก็ไม่ใช่ว่าที่มาเล่าจะทำให้กลัวจนไม่อยากเที่ยวนะครับ ต้องอย่าลืมรู้จักป้องกันตัวเอง ดูแลตัวเอง และระมัดระวังตัวเองอย่างดี เพียงเท่านี้ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพ และแน่นอนว่ามาเที่ยวกับทัวร์ครับ ปลอดภัยหายห่วง..    ใครกำลังจะไปเที่ยว อ่านต่อนี่เลย !! >> จัดกันมันส์ทุกทริป ! 10 ทริคเที่ยวต่างประเทศแบบประหยัด  

อ่านเพิ่มเติม
#ขอพื้นที่ติ่ง! ตามรอยประธานยูจินอู & จองฮีจู แห่งซีรีย์ Memories of the Alhambra
#ขอพื้นที่ติ่ง! ตามรอยประธานยูจินอู & จองฮีจู แห่งซีรีย์ Memories of the Alhambra

23 ม.ค. 62

เนื้อหาของเรื่องแบบย่อๆ เลยก็คือ ยูจินอู พระเอกของเราได้เดินทางมายังประเทศสเปน เพื่อที่จะตามหาตัว จองเซจู โปรแกรมเมอร์อัจฉริยะที่เป็นนักพัฒนาเกม AR ที่ใช้ในการต่อสู้ในยุคกลาง โดยคิดว่าเกมที่เซจูพัฒนาสามารถนำมาต่อยอดใช้คู่กับเทคโนโลคอนแทคเลนส์ของตนเองได้ แต่แล้วเซจูกลับหายตัวไปอย่างปริศนา ก่อนหน้าที่เซจูนัดหมายให้ จินอูมาพบที่โฮสเทลแห่งหนึ่งในเมืองกรานาดา ประเทศสเปน จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้พบกับ จองฮีจู นางเอกของเรื่องที่เป็นพี่สาวของเซจูผู้เป็นเจ้าของโฮสเทลแห่งนี้ แน่นอนว่าเรื่องนี้นอกจากโลเคชั่นในเกาหลีแล้ว ยังบินไปถ่ายทำก้นถึงที่ ประเทศสเปน และ ประเทศสโลวาเกีย กันเลยล่ะครับ เพราะฉะนั้นแต่ละฉากในเรื่องจึงมีบรรยากาศที่สวยงามของยุโรปให้เราได้เพลิดเพลินไปพร้อมกับลุ้นระทึกกับเหตุการณ์ในเรื่อง วันนี้แอดมิน (ซึ่งเป็นติ่งซีรีย์เรื่องนี้ อิอิ) เลยขอพาทุกคนบินไปยุโรปด้วยกัน แล้วไปตามรอย ยูจินอู & จองฮีจู ด้วยกันนะครับ ไปกันเล๊ย ~ 1.พระราชวังอัลฮัมบรา (เมืองกรานาดา ประเทศสเปน) แผนที่ :  Alhambra Palace จุดเริ่มต้นของเรื่องราวและชื่อเรื่องนี้คือที่นี่ครับ พระราชวังเก่าแก่ที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกเรียบร้อยแล้ว มีความสวยงาม เก่าแก่ และคงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่ตระการตา คำว่า “อาลัมบรา” มาจากภาษาอาหรับที่แปลว่า สิ่งที่มีสีแดง ซึ่งป้อมปราการของที่นี่ก็ถูกสร้างขึ้นด้วยหิน ดิน และอิฐสีแดง ทำให้มีสีงดงามเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาพระอาทิตย์สาดส่องเข้ามา ยิ่งสวยราวกับภาพวาดเลยครับ 2.ตึกใน Barri Vell (เมืองชีโรนา ประเทศสเปน) แผนที่ : Barri Vell (old quarter) of Girona โบนิต้าโฮสเทลของ จองฮีจู สถานที่แรกที่พระเอกและนางเอกพบกัน ในซีรีย์ถูกเซ็ทให้เป็นโฮสเทลในกรานาดา แต่จริงๆ แล้วตึกนี้อยู่ที่ เมืองชีโรนา ครับ เป็นตึกที่ถูกเซ็ทออกมาให้ดูเก่าๆ ซ่อมซ่อ บ่งบอกฐานะของนางเอกได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าพระเอกประธานบริษัทของเราไม่ปลื้มสภาพของโฮสเทลแห่งนี้สุดๆ เลยล่ะครับ 3.ร้าน La Terra (เมืองชีโรนา ประเทศสเปน) อยู่ใกล้ๆ กันกับตึกที่ใช้เป็นโบนิต้าโฮสเทลเลยครับ เป็นหนึ่งในร้านเด็ดของย่านนั้น ที่มีบรรยากาศที่ดึงดูด รสชาติอาหารที่อร่อย และเครื่องดื่มที่พร้อมพาทุกคนไปฟิน ถูกใช้เป็นฉากที่พระเอกมาหา “ดาบอันแรก” เพื่อไปต่อสู้กับผู้ร้ายในเกมครับ 4.เมืองลูบลิยานา ประเทศสโลวีเนีย แผนที่ : ljubljana ,slovenia ในซีรีย์ถูกเซ็ทให้เป็นหนึ่งสถานที่ในกรานาดา จุดเริ่มต้นของเกมนี้เกิดที่นี่แหละครับ เรียกได้ว่าเป็นด่านแรกของเกมเลย ซึ่งจุดที่กองซีรีย์เรื่องนี้ยกขบวนกันไปถ่ายทำก็คือตรง น้ำพุเฮอคิวลิส ที่พระเอกของเราต้องออกแรงสู้สุดชีวิตกับศัตรูที่โผล่มา โอ๊ยย ลุ้นหัวใจจะวาย! 5.Gavà Railway Station (เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน) แผนที่ : Gavà Railway Station สถานีรถไฟกรานาดาในซีรีย์ แต่ไม่ได้ถ่ายที่สถานีรถไฟกรานาดานะจ๊ะ! งงมั้ย ฮ่าๆๆ แต่คือสถานีรถไฟกาวา ในเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เช่นกันครับ เป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ มีความคลาสสิคสุดๆ เหมาะสมแล้วที่ได้เป็นฉากสุดดราม่าแห่งซีรีย์เรื่องนี้ แต่จะดราม่ายังไง ต้องไปชมกันเอาเองนะคะ และนี่ก็เป็น 5 จุดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราพอจะตามรอยซีรีย์เรื่องนี้ได้ครับ อาจจะไม่ได้เยอะมาก เพราะจริงๆ แล้วเรื่องนี้ถ่ายทำที่ยุโรปเพียงเดือนเดียวเท่านั้น โดยฉากก็จะซ้ำๆ เพราะไปที่เดิมๆ ที่เกิดดหตุการณ์ต่างๆ แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากลองไปตามรอยมากกว่านี้ ขอแนะนำให้ไป 4 ที่ คือ กรานาดา, บาร์เซโลนา, ชีโรนา และเมือง ลูบลิยานา นะครับ รับรองว่าเดินเพลินๆ อาจจะเจอฉากหนึ่งฉากใดที่มาโผล่ในเรื่องนี้ก็ได้ ~ ใครอยากไปสัมผัสบรรยากาศอันน่าค้นหาก็สามารถสอบถาม ทัวร์ครับได้เลย เพราะเรามีบริการ จัดกรุ๊ปทัวร์ส่วนตัว ให้เลือกได้ตามใจเลยครับ ว่าอยากไปที่ไหน เที่ยวสบายได้ทั่วโลกกกกก    อ่านต่อ..บทความแนะนำ >>Hello Oppa! รวม 10 ซีรีส์เกาหลีสุดฟิน ดูแล้วอินสุดๆ!!<<  

อ่านเพิ่มเติม
ไปสักครั้งแล้วจะติดใจ! รวม 10 แลนด์มาร์ก “เที่ยวยุโรป”
ไปสักครั้งแล้วจะติดใจ! รวม 10 แลนด์มาร์ก “เที่ยวยุโรป”

24 เม.ย. 62

วันนี้ ทัวร์ครับ เลยขอนำเอา 10 แลนด์มาร์กที่แอดมินได้ลิสต์ไว้ว่าอยากไปเยือน มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันครับ เผื่อว่าเราจะได้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันบ้าง อิอิ ไปดูกันเลยย ~ 1. หอเอนปิซา ประเทศอิตาลี แผนที่ : Tower of Pisa รู้จักกันเป็นอย่างดี เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เราเรียนกันมานั่นเองครับ ความพิเศษและเก๋ไก๋สไลเดอร์ของที่นี่คงหนีไม่พ้นการมาเยี่ยมเยือน พร้อมกับทำท่าถ่ายรูปเก๋ๆ กับเจ้าหอเอนฯ บางคนก็ช่วยยันไว้ บางคนก็ยืนพิง แค่คิดก็น่าจะสนุกสุดๆ แล้วล่ะ แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ ได้ลองครีเอทท่าเก๋ๆ ไว้ไปถ่ายกับ หอเอนปิซา บ้างแล้วหรือยังเอ่ย? 2. โคลอสเซียม ประเทศอิตาลี แผนที่ : Colosseum อีกหนึ่งใน 7 มหัศจรรย์ของโลก ที่ได้ขึ้นชื่อในเรื่องของความยิ่งใหญ่ ที่ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเสื่อมสภาพจากในอดีตลงไปมาก แต่ก็ยังเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงความรุ่งโรจน์และรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมัน มีความใหญ่โตมโหฬาร และยังคงไว้ซึ่งความสวยงามอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยครับ ต้องลองมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งนะครับ นี่เลย >> ทัวร์อิตาลีสุดฮิต ราคาเริ่มต้น 34,999 !! 3. สโตนเฮนจ์ ประเทศอังกฤษ แผนที่ : Stonehenge สำหรับคนที่เสพติดความมหัศจรรย์ ก็ต้องไม่พลาดมาที่นี่ครับ เพราะสโตนเฮนจ์ถือได้ว่าเป็นสถานที่สุดพิเศษ ที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครหาคำตอบได้ว่า ณ ที่แห่งนี้ใครเป็นคนสร้าง แล้วทำยังไงถึงเอาหินก้อนเบอเร่อไปวางเรียงกันจนเกิดเป็นความมหัศจรรย์ขนาดนั้น ใครมีแพลนไปยุโรป ลองมองหาทริปที่จะมาสัมผัสด้วยตาตัวเอง และหาคำตอบไปด้วยกันสักครั้งนะครับ 4. หอนาฬิกาบิ๊กเบน ประเทศอังกฤษ แผนที่ : Bigben    แลนด์มาร์กประจำลอนดอน ที่ใครมาเยือนยังประเทศอังกฤษ แล้วไม่แวะมาที่นี่ถือว่าผิดเลยล่ะ เพราะนอกจากจะได้มาเช็คอินกับสถานที่ยอดฮิตแห่งนี้แล้ว ยังเป็นการยืนยันได้อย่างดีว่ามาถึงยถโรปแล้วแน่นอน เพราะหอนาฬิกายิ่งใหญ่แบบนี้มีที่เดียวนะจ๊ะ นอกจากนี้ใกล้ๆ กับหอนาฬิกาบิ๊กเบน ยังมี Shopping Street และ London Eye ชิงช้าสวรรค์อันเบอเร่ออีกด้วย เอาเป็นว่ามาจุดเดียวเที่ยวได้หลายที่เลยครับ  ใครอยากไปทัวร์อังกฤษสุดคุ้ม เริ่มต้นแค่ 35,900 บาท คลิกเลยรออะไร 5. พระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส แผนที่ : Versailles Palace ความสวยงาม อลังการ ตระการตา ทุกอย่างรวมอยู่ที่ทัวร์ฝรั่งเศสนี่เลยครับ แล้วขอบอกเลยว่าแค่ 3 คำนี้ไม่พอที่จะอธิบายความงดงามของพระราชวังแห่งนี้ได้เลยจริงๆ สมกับฉายาว่าเป็น พระราชวังที่สวยงามที่สุดในโลกจริงๆ ด้านในถูกตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาวทั้งหมด รวมกับกระจกมากมาย เมื่อเจอกับไฟสีทองนวลมากระทบ ทำให้ระยินระยับ ดูสวยงามจนเราตกตะลึงไปเลยล่ะครับ 6. หอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส แผนที่ : Eiffel Tower ถ้าพูดถึงยุโรป แล้วไม่พูดถึงแลนด์มาร์กสุดพีคที่นี่ก็คงไม่ได้อย่าง หอไอเฟล หรือ Eiffel Tower นั่นเอง ถือได้ว่าเป็น Top List ของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว ด้วยความที่นอกจากจะเป็นแลนด์มาร์กอันโดดเด่น ที่เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าอยู่ยุโรปแล้ว ยังได้บรรยากาศของความโรแมนติกผสมเข้าไปอีก ลองคิดภาพตามนะครับว่าถ้าเรายิ่งไปช่วงฤดูหนาว มีหิมะตกเบาๆ กับคนพิเศษ มันจะเป็นความทรงจำที่สุดยอดขนาดไหน!   7. ซานโตรินี่ ประเทศกรีซ แผนที่ : Santorini หากใครเคยไปเที่ยวที่ชะอำ จ.เพชรบุรี บ้านเรา ก็คงได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของสถานที่แห่งนี้ และได้พอสัมผัสกับความสวยงามของตัวอาคารสีขาว และหลังคาสีน้ำเงินกันบ้างแล้ว แต่พูดไปจะหาว่าเว่อร์เพราะนั่นยังไม่ได้ครึ่งของสถานที่จริงเลยครับ! ที่หมู่บ้านริมทะเลแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งความสวยงามตามธรรมชาติของเกาะซานโตรินี่ บวกกับความสวยงามของสิ่งปลูกสร้าง ลงตัวกันเป็นอย่างดีกับท้องฟ้าอันสดใสในช่วงซัมเมอร์ เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ 8. วิหารพาร์เธนอน ประเทศกรีซ แผนที่ : The Parthenon อีกแลนด์มาร์กอันน่าสนใจ ณ ประเทศกรีซครับ สำหรับสถานที่แห่งนี้ถ้าใครอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความลงตัวขององค์ประกอบต่างๆ เป็นอย่างไร ต้องไม่พลาดมาที่นี่เลย เพราะถึงแม้ว่าจะเหลือเพียงเศษซาก และร่องรอยทางประวัติศาสตร์ แต่ก็ยังเห็นได้ถึงความงดงาม สัดส่วน และองค์ประกอบที่ลงตัวอยู่ดีครับ 9. หมู่บ้านฮัลสตัทท์ ประเทศออสเตรีย แผนที่ : Hallstatt , Austria สุดยอดแห่งความโรแมนติกในพ.ศ.นี้ ต้องยกให้ที่นี่จริงๆ ครับ เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่คู่รักต่างตบเท้ากันเข้ามาสัมผัสกับความสวยงามของหมู่บ้านริมทะเลสาบ ที่มีฉากหลังเป็นทิวเขาอันสวยงาม โรแมนติกสุดๆ เลยล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว บอกเลยว่าไม่มีอะไรฟินไปกว่า การตื่นเช้าขึ้นมาแล้วเปิดประตูระเบียงไปเจอกับวิวของหมู่บ้านฮัลสตัทท์แล้วครับ 10. หมู่บ้านกังหันลม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แผนที่ : Zaanse Schans มาถึงแลนด์มาร์กสุดท้าย ที่แอดมินภูมิใจนำเสนอสุดๆ เพราะเป็นที่ที่แอดมินอยากไปมากเลยล่ะครับ ใครอยากเห็นกังหันลมของแท้ ต้องมาที่นี่เท่านั้น ยิ่งบวกรวมกับทุ่งดอกทิวลิปอันสวยงามแล้ว เป็นภาพที่อยากจะลั่นชัตเตอร์เก็บความทรงจำไว้สักร้อยภาพเลยครับ และนี่ก็เป็น 10 แลนด์มาร์กที่น่าสนใจในยุโรป ที่แอดมินคัดมาแนะนำให้รู้จักกัน แต่ที่ยุโรปไม่ได้มีดีแค่ 10 สถานที่นี้เท่านั้นที่น่าสนใจนะครับ ยังเหลืออะไรให้เราเที่ยวอีกเพียบ! ใครอยากไปสัมผัสกับอีกซีกหนึ่งของโลกดูสักครั้ง ก็เริ่มหยอดกระปุกกันได้เลยยย     

อ่านเพิ่มเติม
ไม่ดังแต่มีดี! รวม 10 ที่เที่ยวยุโรปเมืองรองไม่ดังแต่ปังมาก
ไม่ดังแต่มีดี! รวม 10 ที่เที่ยวยุโรปเมืองรองไม่ดังแต่ปังมาก

03 พ.ค. 62

วันนี้ทัวร์ครับจะขอเปิดตัว 10 เมืองยุโรปที่ไม่ดังแต่สวยมาก ให้ทุกคนได้รู้จักกันแบบซอฟท์ๆ เผื่อว่าใครเบื่อเมืองใหญ่ๆ แล้ว อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสเมืองเล็กๆ ได้พบกับ Hidden Gems เม็ดงามกันบ้าง จะได้ลองดูเป็นแนวทางนะครับ เลื่อนลงไปดูกันเล๊ย!   1.Bruges : Belgium แผนที่ : Bruges , Belgium เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เวนิสของทางเหนือ” เพราะเป็นเมืองที่มีคูคลองกลางเมือง คล้ายคลึงกับเวนิสนั่นเองครับ ความโดดเด่นของเมืองนี้คือบ้านรูปทรงแบบ Ginger Bread ที่ทำให้เมืองมีความน่ารัก และสวยงาม ถ้ายิ่งไปในช่วงคริสมาสต์จะได้เจอกับบรรยากาศเฟสทีฟสุดแสนโรแมนติกบวกเข้าไปด้วย ทำให้เมืองนี้กลายเป็นสุดยอด Hidden Gems แห่งยุโรปเลยล่ะ   2. Sintra : Portugal แผนที่ : Sintra , Portugal เมืองเล็กๆ บนเทือกเขาที่โดดเด่นด้วยบ้านเรือนสีสันสวยงาม ชวนให้เพลิดเพลินไปกับการลั่นชัตเตอร์ Be a Model ถ่ายรูปเก๋ๆ เก็บไว้ หากใครมีภาพจำของปราสาทเลโก้มาจากสมัยเด็กๆ จะยิ่งอินเข้าไปใหญ่ เพราะบอกเลยว่าที่นี่ เหมือนปราสาทเลโก้มากๆ เห็นแล้วอยากนำตัวต่อเจ้าชายกับเจ้าหญิงมาวางเลยอ่ะ!   3. Gdansk : Poland แผนที่ : Gdansk , Poland ใครที่เป็นสายแฟชั่น รักการแต่งตัว และมักมี Theme ในการแต่งตัวให้เข้ากับสถานที่อยู่เสมอจะรักเมืองนี้! เพราะอาหารบ้านเรือนสีโทนร้อน เช่น เหลือง ครีม ชมพู และหลังคาสีแดง จะช่วยให้คุณเลือกชุดได้ง่ายและ Enjoy ไปกับการแต่งตัวมากขึ้น เพลิดเพลินไปกับการนั่งจิบกาแฟรับลมริมทะเลบอลติกเก๋ๆ Live like a Celebrity กันไปเลย!   4. Bled : Slovenia แผนที่ : Bled , Slovenia สวยราวกับเทพนิยาย คือนิยามของเมืองนี้! เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ตีนเขาแอลป์ อยู่บนทะเลสาบที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในโลกเลยครับ เป็นเมืองเล็กๆ เหมาะมาพักผ่อนสบายๆ แบบเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย และได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่อยู่ตรงหน้าแบบเต็มๆ เสมือนว่าได้ชาร์จแบตให้ตัวเองมีพลังลุยต่อครับ   5. Novi Sad : Serbia แผนที่ : Novi Sad , Serbia เมืองที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ และอนุสาวรีย์มากมาย จนได้ชื่อว่าเป็น เมืองหลวงทางด้านวัฒนธรรมของประเทศเซอร์เบีย มีความโดดเด่นด้วยป้อม Petrovaradin ซึ่งสามารถมองเห็นวิวด้านหน้าที่สวยงามแบบพาโนราม่า และแม่น้ำดานูบ ถึงเมืองนี้จะไม่ดังมากแต่ขอบอกเลยว่ามีเสน่ห์สุดๆ ลองไปครั้งนึงแล้วจะหลงรัก   6. Cesky Krumlov : Czech Republic แผนที่ : Cesky Krumlov , Czech Republic เมืองเล็กสุดน่ารัก ที่ผู้คนต่างเป็นมิตรและ welcome นักท่องเที่ยวอยู่เสมอ มีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยถนนหนทาง และสะพานเก่าแก่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมเดิม บวกรวมเข้ากับบ้านเรือนของผู้คนที่มีการสร้างออกมาได้อย่างน่ารัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวยังเมืองนี้ จะต้องกลับออกมาพร้อมกับความประทับใจทุกคน   7. Annecy : France แผนที่ : Annecy , France ลืมปารีสไปก่อน เพราะที่ฝรั่งเศสยังมีเมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบแห่งนี้ที่รอให้ทุกคนไปเยือนอยู่ ใครอยากสัมผัสความเป็นชาวฝรั่งเศสของแท้ ที่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมท้องถิ่นต้องมาเยือนที่นี่ดูสักครั้ง เดินเล่นชมเมืองเพลินๆ พร้อมทั้งแวะไปชมปราสาทเก่าแก่ แล้วคุณจะหลงรักแบบสุดๆ เลยล่ะครับ   8. Albarracin : Spain แผนที่ : Albarracin , Spain สาวๆ ต้องกรี๊ดแน่นอน เพราะที่นี่คือเมืองสีชมพู ที่เหมือนเราหลุดเข้าไปในโลกของเทพนิยายเลยครับ เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีถนนหนทางเล็กๆ ผู้คนนิยมเดินเท้ากัน ไปสัมผัสวิถีชีวิตแบบคนท้องถิ่น และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยการเดินชมเมืองอันน่าค้นหานี้ น่าจะเป็นอีกเรื่องประทับใจในยุโรปแน่ๆ   9. Reine : Norway แผนที่ : Reine , Norway เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวริมฝั่งมหาสมุทธใกล้แถบขั้วโลก ที่มีฉากหลังเป็นทิวเขาเรียงตัวกันอย่างสวยงามราวกับเทพนิยายเลยล่ะครับ และแน่นอนว่าเพราะที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมง ทำให้คุณสามารถชิมอาหารทะเลที่สดเว่อร์ในราคาที่ถูกแสนถูก จะมีอะไรเพลินไปกว่าการกินอิ่ม และนอนหลับสบายในบรรยากาศที่ดีๆ แบบนี้!   10. Giethoorn : Netherlands แผนที่ : Giethoorn , Netherlands ความเงียบสงบที่แท้ทรูเป็นยังไง อยากรู้ต้องลองมาดูเองที่เมืองนี้ครับ! ที่นี่ไม่มีรถ ไม่มีถนนใหญ่ มีแต่คูคลองและเรือ ทำให้การเดินทางไปยังจุดต่างๆ ต้องนั่งเรือไปนั่นเอง มีความเงียบสงบ และคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตดั้งเดิมมากๆ ใครอยากมาพักร้อนในที่ใหม่ๆ ที่ได้รับพลังบวกกลับไปเต็มๆ จองตั๋วมาที่นี่ด่วนๆ เลยนะครับ  >>  ไปสักครั้งแล้วจะติดใจ! รวม 10 แลนด์มาร์ก “เที่ยวยุโรป” นี่แค่ซอฟท์ๆ อย่างที่บอก  ที่ยุโรปยังมีเมืองสวยๆ ที่ไม่ค่อยดังอยู่อีกเพียบรอให้ทุกคนได้ไปสำรวจกันอยู่ หากใครเบื่อความวุ่นวายของเมืองใหญ่ๆ แล้ว ลองมองหา Hidden Gems ดีๆ สักเม็ดที่ถูกใจ แล้วไปเปิดประสบการณ์ใหม่ดู แล้วคุณอาจจะหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้นเลยก็ได้! หรือหากใครสนใจทัวร์ยุโรปเที่ยวสถานที่สุดฮิต คลิกเลย !! 

อ่านเพิ่มเติม
ลับเฉพาะ! พาไปดู 8 สถานที่ลึกลับในยุโรป ที่เหล่า Backpacker ต้องลอง !
ลับเฉพาะ! พาไปดู 8 สถานที่ลึกลับในยุโรป ที่เหล่า Backpacker ต้องลอง !

08 พ.ค. 62

  วันนี้ ทัวร์ครับ เลยขอเอาใจสาย Hidden Gems ด้วยการมาแนะนำ 8 สถานที่และเมืองลับๆ ที่น้อยคนนักจะรู้จักในยุโรปกัน ใครอยากลองไปดูเพื่อให้ได้รู้ก่อนใคร ก็เตรียมจดชื่อไว้เลยนะครับ 1.Barrio de Cuevas พิกัด : Barrio de Cuevas มองเผินๆ จากไกลๆ ก็คงเห็นเป็นหน้าผาธรรมดาๆ แต่ใครจะรู้ว่าหน้าผาเหล่านี้แหละมีบ้านซ่อนตัวอยู่กว่า 2,000 ครัวเรือน! โดยบ้านทุกหลังจะทาสีขาวกลืนไปกับหน้าผา และแทรกตัวอยู่แทบจะทุกเนินเขาหรือเนินดินเลยครับ หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Guadix ทางตอนใต้ของประเทศสเปน และยังเป็นถ้ำที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วยนะ 2. Catacombs de Paris พิกัด : Catacombs de Paris นี่คือสุสานลับใต้ดินที่กินอาณาเขตกว่า 180 ไมล์ในปารีส ! อยากรู้มั้ย ขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วจะบอก ... สุสานลับใต้ดินแห่งนี้ซ่อนอยู่ใต้หอไอเฟล แลนด์มาร์กชื่อดังของฝรั่งเศสนั่นเองครับ เหลือเชื่อเลยใช่ไหมล่ะ ที่นี่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ช่วงศตวรรษที่ 17 และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้วยนะ แต่เปิดเพียงแค่ 1 ไมล์เท่านั้น ได้ในจะค่อนข้างคดเคี้ยวเหมือนเขาวงกต และเต็มไปด้วยโครงกระดูกกว่า 6 ล้านร่างกายที่ถูกเรียงรายตามแนวกำแพง ใครขวัญอ่อนอย่าไปดีกว่านะจ๊ะ 3. Aldwych Station พิกัด : Aldwych Station อดีตสถานีรถไฟใต้ดินที่ถูกใช้เป็นสถานที่หลบภัยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นที่ซ่อนสมบัติของพิพิธภัณฑ์อังกฤษ ปัจจุบันนี้ไม่เปิดใช้งาน แต่มักจะเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างๆ หรืองานแสดงนิทรรศการ งานเปิดตัวหนังสือ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่มีคนมาเช่าสถานที่ครับโดยที่นี่จะพิเศษตรงที่เหนือสถานีจะมีช่องลมช่องหนึ่ง ที่สามารถมองออกไปเห็นหอฬิกาบิ๊กเบนได้พอดิบพอดีเลยล่ะ 4. London Post Office Railway ด้านใต้ของโรงแรมสุดหรูอย่างเซนต์แพนคราสเรเนซองส์ ก็มีสถานที่ลับเช่นกันนะครับ ที่นี่ก็คือที่ทำการไปรษณีย์รถไฟลอนดอนนั่นเอง มีไว้เพื่อส่งจดหมายโดยเฉพาะครับ แต่ปัจจุบันก็แปรสภาพมาเป็นพิพิธภัณฑ์ และรอต้อนรับนักท่องเที่ยวแทน โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจก็คือ การที่ให้นักท่องเที่ยวลองนั่งรถไฟส่งจดหมาย และดูระบบการทำงาในสมัยนั้นผ่านกระจกใสของรถไฟครับ >> ทัวร์ลอนดอนราคาสุดคุ้ม คลิกเลย 5. The Bourbon Tunnel พิกัด : The Bourbon Tunnel ในพระราชวังหลวง ก็ต้องมีเส้นทางลับใช่ไหมล่ะครับ? และนี่แหละคือเส้นทางลับของพระราชวังหลวงแห่งจักรวรรดิโรมัน ถูกสร้างโดยจักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 2 ในปี 1853 แต่ยังสร้างไม่เสร็จและถูกปล่อยให้รกร้างอยู่ใต้ดินของเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลีมาจนถึงปัจจุบัน แต่ก็มีประโยชน์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะถูกใช้เป็นที่หลบภัย และเป็นโรงพยาบาลทหารครับ cr. https://en.wikipedia.org/wiki/Bourbon_Tunnel 6. Wieliczka salt พิกัด : Wieliczka salt   ณ เมืองกรากุฟ ประเทศโปแลนด์ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าลึกที่สุดในโลก นั่นก็คือที่เหมืองเกลือแห่งนี้นี่เอง บอกเลยว่าที่นี่เหมือนเป็นอีกเมืองหนึ่งเลยล่ะครับ เพราะมีความกว้างใหญ่ ที่คนงานเหมืองได้ขุดเจาะอุโมงค์รวมความยาวกว่า 245 กิโลเมตร มีห้องโถงต่างๆ กว่า 2400 ห้อง แถมยังมีโบถส์และวิหารอยู่ที่ใต้ดินนี้อีก ซึ่งปัจจุบันก็ยังดำเนินการอยู่ และเปิดให้นักท่องเที่ยวลงไปเยี่ยมชมได้ลึกถึง 130 เมตรเลยทีเดียว 7. San Cassiano พิกัด : San Cassiano หมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขาในประเทศอิตาลี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบความสงบ และเบื่อความวุ่นวายในเมืองใหญ่อย่างโรม เวนิช หรือฟลอเรนซ์ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติแบบเต็มๆ เพราะที่นี่คือที่ตั้งของอุทยานธรรมชาติอย่าง Fanes-Senes-Braies ครับ ใครอยากมาฟินไปกับธรรมชาติที่สรรค์สร้างความสวยงามได้อย่างลงตัว เงียบสงบ ต้องมาที่นี่นะครับ 8. Gordes พิกัด : Gordes หมู่บ้านบนยอดเขาในแถบเทือกเขาลูแบรง แหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส เป็นหมู่บ้านที่ติดอันดับว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของฝรั่งเศสเลยล่ะครับ มาที่นี่แน่นอนว่าจะได้ชิมไวน์จากแหล่งผลิตไวน์ของแท้ แล้วยังได้เพลิดเพลินไปกับวิวแบบ Panorama และทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่ล้อมรอบหมู่บ้านอีกด้วยนะครับ ฟินได้อีก! เหล่า Backpacker คงจะสมใจไปกับ 8 Hidden Gems ที่เรานำมาฝากกันแล้วนะครับ จริงๆ ที่เหล่านี้จะเรียกว่าลับก็คงไม่เต็มปากนัก เรียกว่าคนไม่ค่อยไปกันดีกว่า เอาเป็นว่าใครเบื่อเที่ยวแลนด์มาร์กแล้ว ลองเปลี่ยนดูให้กระชุ่มกระชวยหัวใจกันก็ได้นะ  

อ่านเพิ่มเติม
It’s Fairytale รวม 8 เมืองสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย
It’s Fairytale รวม 8 เมืองสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย

09 พ.ค. 62

    บอกก่อนว่า 8 เมืองเหล่านี้อาจจะไม่ใช่เมืองที่เป็น “ต้นแบบ” จริงๆ ของเทพนิยายนะครับ แต่ด้วยความสวยงาม ด้วยบรรยากาศโดยรอบ ที่เห็นแล้วคิดถึงเทพนิยาย เลยทำให้เราเลือกมาให้เพื่อนๆทุกคนได้ชมกัน ถ้าพร้อมเจอกับเมืองเทพนิยายเหล่านี้แล้ว ก็เลื่อนลงไปดูพร้อมๆ กันเลย !!  1.Karlovy Vary, Czech Republic พิกัด : Karlovy Vary, Czech Republic เมืองเก่าแก่กลางหุบเขา ที่มีบ้านเรือน และอาคารสีพาสเทลสุดสวยตั้งเรียงรายอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำ ทำให้พอย่างเท้าเข้าไปแล้วเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกของเทพนิยายเลยครับ แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีที่สถาปัตยกรรมอันสวยงามเหล่านี้เท่านั้นนะครับ ยังขึ้นชื่อในเรื่องขอบ่อน้ำพุร้อน และสปาอีกด้วย ใครอยากมาพักผ่อนในบรรยากาศดีๆ แบบนี้ พลาดที่นี่ไม่ได้เลยครับ 2. Giethoorn, Netherland พิกัด : Giethoorn, Netherland เวนิสแห่งเนเธอแลนด์ หมู่บ้านเล็กๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังเดินอยู่ในหมู่บ้านของเจ้าหญิงดิสนีย์คนโปรดอยู่ (แล้วแต่จะสะดวกจินตนาการเลยนะครับว่าเป็นใคร อิอิ) ที่นี่มีความน่ารักของผู้คน รวมถึงความเป็นธรรมชาติและวิถีชีวิตดั้งเดิม ไม่มีถนน ไม่มีรถ เส้นทางหลักที่ใช้กันคือคลอง และการเดินลัดเลาะไปตามที่ต่างๆ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้หมู่บ้านนี้มีอากาศที่บริสุทธิ์ และมีความเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุดมากๆครับ 3. Hallstatt, Austria พิกัด : Hallstatt, Austria หมู่บ้านชื่อดังของประเทศออสเตรีย ซึ่งแน่นอนว่าที่ผู้คนต่างหลั่งไหลมาที่นี่ เพราะมันมีภูมิทัศน์ที่สวยงามราวกับว่าเราเข้าไปอยู่ในโลกเทพนิยายจริงๆ ฉากหลังเป็นทิวเขา ด้านหน้าเป็นทะเลสาบ และหมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลสาบ ทำให้ทุกอย่างดูลงตัว เข้ากันอย่างดี เห็นแล้วอยากใส่ชุดราตรีฟูฟ่อง ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงจริงๆครับ 4. Bibury, United Kingdom พิกัด : Bibury, United Kingdom เห็นที่นี่แล้วคิดถึงบ้านของคนแคระทั้ง 7 ที่หลบภัยชั้นเยี่ยมของเจ้าหญิงสโนว์ไวท์เลยครับ ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากลอนดอนมากนัก และได้รับการขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยที่สุดของอังกฤษ มีธรรมชาติของต้นไม้ที่เขียวชะอุ่ม เข้ากันได้ดีกับบ้านแบบดั้งเดิมที่สร้างจากหิน บวกรวมเข้ากับลำธารและถนนเล็กๆ ทำให้ลงตัวราวกับว่าเป็นหมู่บ้านที่สร้างมาเพื่อเป็นเทพนิยายเลยล่ะ 5. Burghausen, Germany พิกัด : Burghausen, Germany ในเทพนิยาย ภาพที่เห็นจนคุ้นชินนั่นก็คือปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขา และมีเมืองอยู่ด้านล่าง บอกเลยว่าที่เมืองนี้เป็นแบบนั้นจริงๆครับ! ภาพของปราสาทเบิร์กฮาวเซน ปราสาทที่ยาวที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่ด้านบน และมีหมู่บ้านล้อมรอบ ตอบโจทย์ความเป็นเทพนิยายสุดๆ ที่เมืองนี้คุณจะได้พบกับร้านค้า และร้านกาแฟเล็กๆ น่ารักมากมาย พร้อมการต้อนรับเป็นอย่างดีของชาวบ้าน รับรองว่าเพลิดเพลินใจแน่นอน 6. Colmar, France พิกัด : Colmar, France หากใครเป็นแฟนตัวยงของเทพนิยายชื่อดังของดิสนีย์อย่างเรื่อง Beauty and the Beast หรือ โฉมงามกับเจ้าชายอสูร จะต้องอยากมาที่นี่แน่นอน เพราะที่เมืองกอลมาร์นี้คือต้นแบบของหมู่บ้านที่เบลล์อาศัยอยู่ครับ บ้านเรือนน่ารักๆ หลากสีสัน ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทางของถนนเล็กๆ มีสวนดอกไม้แซมบ้าง มีฟาร์มนิดๆ หน่อยๆ สวยสะกดตาสุดๆครับ 7. Edinburgh, Scotland พิกัด : Edinburgh, Scotland   เมืองเก่าแก่ที่มีประวัติมาอย่างยาวนานแห่งนี้ ไม่ต่างอะไรกับเมืองในเทพนิยายที่มีปราสาทของเจ้าชายตั้งอยู่บนเขา และล้อมรอบไปด้วยบ้านของประชาชน มาที่นี่นอกจากจะได้ฟีลความเป็นเทพนิยายแล้ว ยังได้ฟีลความเป็นยุโรปแบบเต็มๆ เพราะบ้านเรือนยังคงความเป็นยุโรปสมัยเก่าอยู่ครับและแน่นอนว่าด้วยความที่เมืองเอดินเบิร์กเป็นเมืองใหญ่ ทำให้หายห่วงเรื่องความเหงาไปได้เลยเพราะมีกิจกรรมให้เลือกทำเพียบ! 8. Lisbon, Portugal พิกัด : Lisbon, Portugal เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกสแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสุดๆ และถึงแม้จะเป็นเมืองใหญ่ที่ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเที่ยว แต่ก็ยังมีบางเสี้ยวของเมืองที่ให้ความเป็นเทพนิยายสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือนแบบฉบับยุโรปสมัยก่อน สีสันที่สดใส และร้านค้าพื้นเมืองเล็กๆ ก็ทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นเทพนิยายของเมืองนี้เหมือนกันนะครับ และนี่ก็เป็น 8 เมืองสวยแนวเทพนิยายที่น่าสนใจที่เรานำมาฝากกัน เพื่อนๆ คนไหนชื่นชอบเทพนิยายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อยากแนะนำให้ลองไปสัมผัสตามเส้นทางทั้ง 8 ที่ที่ ทัวร์ครับ เลือกมาให้ดูสักครั้ง รับรองว่าฟินสุดๆ ไปเลยล่ะครับ ! สนใจ ทัวร์ยุโรป ราคาสุดคุ้มกับ ทัวร์ครับ คลิกเลย !!

อ่านเพิ่มเติม
เที่ยวยุโรปแบบสะใจ กับ 20 พิกัด มัดรวมรวมกันมาให้แล้ว
เที่ยวยุโรปแบบสะใจ กับ 20 พิกัด มัดรวมรวมกันมาให้แล้ว

24 ม.ค. 63

ทัวร์ยุโรป - เชื่อว่า 70% ของสายเที่ยวอยากไปเที่ยวต่างประเทศให้ได้สักครั้ง หลายๆ คนอาจคิดว่า คงได้แค่ความฝัน แต่เดี๋ยวนี้การไปเที่ยวยุโรป ไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป ไม่ว่าจะไปเที่ยวเอง หรือที่สะดวกเลยก็คือการไปเที่ยวทัวร์ยุโรป ทัวร์ยุโรปราคาไม่แพงมาก แต่ได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติกได้เลย วันนี้เราจะมาลิสต์เมืองน่าเที่ยวยุโรปแบบสะใจ กับ 20 พิกัด มัดรวมรวมกันมาให้เพื่อนๆ ได้เลือกแล้ว จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้นไปดูกันเลย   ซื้อทัวร์ยุโรป กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub)  คลิกเลย     20 ที่เที่ยว ทัวร์ยุโรป   1.ทัวร์ยุโรป - ลอนดอน อังกฤษ มาเริ่มกันที่ประเทศแรกกับประเทศอังกฤษ เป็นประเทศแรกๆ เลยที่นักท่องเที่ยวต่างตั้งเป็นจุดหมายปลายทางในการพักผ่อน เรียกได้ว่าประเทศแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมายไม่ว่าจะเป็น หอนาฬิกาบิ๊กเบน ลอนดอนอาย หรือจะเป็นพระราชวังบักกิงแฮม และอีกมากมายที่จะชวนให้คุณได้มาสัมผัสกับบรรยากาศของเมืองลอนดอนสุดยอดของความโรแมนติก   2. ทัวร์ยุโรป - ปารีส ฝรั่งเศส มาถึงประเทศที่ใครหลายๆ คนฝันที่อยากจะเดินทางไปสักครั้งในชีวิตอย่างประเทศฝรั่งเศส เป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างมาก ด้วยเรื่องความโรแมนติกและความคลาสสิคเรียกได้ว่าไม่ได้มาเยือนประเทศนี้สักครั้งคงรู้สึกเสียดายอย่างแน่นอน ที่นี่มีสถานที่ชื่อดังอย่าง พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หอไอเฟล หรือจะเป็นประตูชัยฝรั่งเศส และอีกมากมายชวนให้คุณไปอินกับสถาปัตยกรรมของประเทศนี้   3. ทัวร์ยุโรป  - เวนิส อิตาลี  เมื่อพูดถึง เวนิส หลายคนคงพูดได้เลยว่าเป็นเมืองที่ใฝ่ฝันที่อยากจะไปเยือนสักครั้งในชีวิต เมืองที่ได้รับฉายาว่า เมืองแห่งสายน้ำ เป็นเมืองที่มีความสวยงามอย่างมากเปรียบเสมือนหลุดเข้าไปในโลกนิยายกันแบบนั้นเลย ซึ่งเวนิสมีสถานที่ยอดนิยมอย่าง มหาวิหารซานมาร์โก้ โบสถ์ซานตามาเรีย เดลลา ซาลูเต หรือจะเป็นสะพานรีอัลโตที่สวยงามและยังมีอีกมากมาย    4.ทัวร์ยุโรป - โรม อิตาลี ยังอยู่ที่ประเทศอิตาลี กับกรุงโรม เป็นอีกเมืองที่มีนักท่องเที่ยวแห่กันเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศที่โดดเด่นเรื่องศาสนาและสถาปัตยกรรมแบบโบราณสมัยเก่า ชวนให้คุณได้หลงใหลไปกับประเทศแห่งนี้อย่างแน่นอนอีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Colosseum ,Roman Forum ,Trevi Fountain, Spanish Steps และอีกมากมาย    5. ทัวร์ยุโรป - เวียนนา ออสเตรีย มาถึงประเทศออสเตรีย กับเมืองเวียนนาดินแดนแห่งเสียงดนตรีและศิลปะ ที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอย่างโรงละครโอเปร่า ที่ไว้ใช้สำหรับแสดงดนตรีคลาสสิค หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์ที่สามารถให้นักท่องเที่ยวเดินชมได้อย่างเต็มที่ พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มากมายที่รอให้คุณได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบสไตล์ยุโรป   6. ทัวร์ยุโรป - แลปแลนด์ ฟินแลนด์ เมื่อพูดถึงประเทศฟินแลนด์ หลายๆ คนได้ยินคงอยากจะรีบบินไปเยือนสักครั้งแน่ๆ เป็นดินแดนที่มีแต่กลางคืนสำหรับใครที่ชื่นชอบหิมะคงบอกได้ว่าฟินมากแน่นอนเพราะในหนึ่งปีจะมี 3 เดือนที่คุณสามารถเห็นพระอาทิตย์ได้ 24 ชั่วโมง ไฮไลท์ประเทศนี้ยังมีการตามล่าหาแสงเหนือสามารถมองเห็นได้ถึง 200 คืนต่อปี และที่สำคัญยิ่งเป็นช่วงคริสต์มาสแล้วนั้นคงไม่อยากพลาดแน่นอนเพราะเชื่อกันว่าสถานที่แห่งเป็นบ้านเกิดของซานต้าที่เต็มไปด้วยฝูงกวางเรนเดียร์และไซบีเรียนฮัสกี้   7. ทัวร์ยุโรป -  เรคยาวิก ไอซ์แลนด์ ใครที่ได้เคยดูซีรีย์ Game of Throne คงได้เห็นภาพฉากหลังที่สวยงามของหุบเขา ซึ่งภาพนั้นมาจากสถานที่แห่งนี้คือ เรคยาวิก ไอซ์แลนด์ เป็นสถานที่อันโด่งดังที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมสถานที่ถ่ายทำซีรีย์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของหุบเขาที่เป็นเหมือนกำแพงหิมะสีขาวใหญ่โต พร้อมได้รับชมแสงเหนือสวยงามไปพร้อมกับเก็บเกี่ยวบรรยากาศบริเวณโดยรอบที่มีธารน้ำแข็งชวนให้คุณเก็บภาพไปฝากเพื่อนๆ ของคุณ   8. ทัวร์ยุโรป - เบิร์น สวิตเซอร์แลนด์ มาถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่มีเมืองหลวงตั้งอยู่ยอดเขายุงเฟรา ยอดเขาสูงที่สุดในยุโรปที่ระดับความสูงถึง 3,454 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และเป็นสถานที่ที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรปโดย UNESCO แน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากให้เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ทั้งบนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะระหว่างเดินทางด้วยรถไฟผ่านเส้นทางสายชนบทมีวิวที่เรียกได้ว่าสวยงามตลอดเส้นทางชวนให้คุณเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอย่างแน่นอน   9. ทัวร์ยุโรป - บาเซโลนา สเปน มาถึงประเทศสเปน ที่มีสถานที่ท่องท่องเที่ยวอย่างบาร์เซโลนา เมืองที่เปี่ยมด้วยสถาปัตยกรรมสุดเจ๋งของเกาดี (Gaudi) ไม่ว่าจะเป็นมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลีย (Basilica of the Sagrada Familia) ซึ่งสถานที่แห่งนี้ยังดำเนินการสร้างไม่เสร็จแต่ก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาดูผลงานอย่างไม่ขาดสาย และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเมืองแห่งนี้สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา หรือเจ้าบุญทุ่ม ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก สาวกทีมฟุตบอลคงไม่อยากพลาดการไปชมแมทช์การแข่งขันด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต   10. ทัวร์ยุโรป - เยอรมนี เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวคงจะมีประเทศแห่งนี้อยู่ในอันดับแรกๆ ที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางไปจำนวนไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน เป็นประเทศที่ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเรื่องการพักผ่อนหลากหลายรูปแบบพร้อมด้วยวิวสวยๆ นอกจากโรงแรมและสปา ยังมีกิจกรรมยอดนิยมของประเทศนี้คือการปั่นจักรยานบนเส้นทางเลียบแม่น้ำ ซึ่งมีให้เลือกถึง 5 เส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนสายกว้างเหมาะกับการชมทิวทัศน์กันแบบครอบครัว หรือจะปั่นทางไกลตลอดหลายร้อยกิโลเมตรชมสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค บาวาเรียน ชมวิวของเทือกเขาสูงและทุ่งหญ้ากว้าง   11. ทัวร์ยุโรป - สต็อกโฮล์ม สวีเดน  เดินทางมาถึงประเทศสวีเดน ดินแดนของชาวไวกิ้งที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ผสมกับสถาปัตยกรรมร่วมสมัยผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งสวีเดนมีเมืองหลวงอยู่ติดปากแม่น้ำติดชายทะเลบาลติค เมืองสตอร์คโฮมยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังดรอตต์นิงฮอล์ม (Drottningholm Palace) ที่เรียกได้ว่าสวยงามอย่างมากและยังมีบรรยากาศที่จะชวนให้คุณหลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์เมืองนี้อย่างแน่นอน   12. ทัวร์ยุโรป - บูดาเปสต์ ฮังการี สำหรับเมืองบูดาเปสต์ ตั้งอยู่ในประเทศฮังการี สำหรับใครที่ชื่นชอบการแช่น้ำพุร้อนคงไม่อยากพลาดที่จะไปเมืองแห่งนี้เพราะเมืองแห่งนี้ได้ชื่อว่า City of baht มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายที่ แต่ที่นิยมมากที่ในเหล่านักท่องเที่ยวคงหนีไม่พ้น Szechenyi baths เป็นโรงอาบน้ำที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดดเด่นด้วยสระน้ำพุร้อนกลางแจ้งขนาดใหญ่ หรือจะเป็นการเดินชมสถาปัตยกรรมโรมัน โกธิค เรเนสซองค์ไปจนถึงศิลปะออตโตมัน ที่จะชวนให้คุณตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศอย่างแน่นอน   13. ทัวร์ยุโรป - Praia da Uras โปรตุเกส ข้ามมาที่ประเทศโปรตุเกสกันบ้าง เรื่องวิวคือสวยเกินเรื่องเกินราว ยิ่งเป็น Praia de Ursa ชายหาดรู้จักกันดีของคนท้องถิ่น ชายหาดแห่งนี้ไม่ได้เดินทางไปง่ายๆ อย่างที่คุณคิด การเข้าไปถึงต้องอาศัยทักษะในการปีนเขานิดหน่อย แต่เมื่อคุณเดินทางมาถึงคุณจะได้สัมผัสกับทรายที่นุ่มและน้ำทะเลที่สวยงาม หรือจะเป็นธรรมชาติโดยรอบชวนให้คุณอินกับบรรยากาศรับรองได้ว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน   14.ทัวร์ยุโรป - เช็ก ปราก เมื่อพูดถึงสาธารณรัฐเช็ก คงหนีไม่พ้นเมืองปรากอย่างแน่นอน เป็นเมืองเก่าที่จะพาเราย้อนไปยังอดีตเมื่อ 700 ปีก่อน ไฮไลท์ของกรุงปรากส่วนมากจะนิยมกันคือ เดินชมจัตุรัสเมืองรับบรรยากาศของเมืองแห่งนี้พร้อมทั้งได้ชมมหาวิหารปรากอันเก่าแก่ กับสะพานชาร์ลส์ที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำกว้างใหญ่ ชวนให้คุณเพลิดเพลินกับวิวบรรยากาศแบบนี้คงหาได้ยากจากที่ไหนๆ นอกจากกรุงปรากเท่านั้น   15. ทัวร์ยุโรป - เนเธอร์แลนด์ มาถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีสถานที่ชื่อดังเรื่องการปลูกทิวลิปที่ใหญ่และสำคัญของเนเธอร์แลนด์ ณ เมืองลิซเซ่ ใกล้กับกรุงอัมสเตอร์ดัม เป็นไฮไลท์ของประเทศนี้เลยก็ว่าได้ ยิ่งเป็นช่วงเวลาเทศกาลดอกไม้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ ที่นี่มีดอกไม้กว่า 7,000,000 ดอก บนพื้นที่กว่า 320,000 ตารางเมตร เรียกได้ว่ามองไปทางก็เจอแต่ดอกไม้ หรือจะเป็นกังหันไม้ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ไปแล้ว สำหรับใครที่ชื่นชอบดอกไม้คงไม่อยากจะพลาดที่จะมาเที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์อย่างแน่นอน   16. ทัวร์ยุโรป - รัสเซีย ตั้งแต่ประเทศรัฐเซียเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศได้ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศของประเทศปีละหลายล้านคน เพื่อมาสัมผัสศิลปวัฒนธรรม และศึกษาประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ยิ่งกรุงมอสโก เมืองหลวงของประเทศรัฐเซียจะเป็นจุดรวมตัวของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพื่อมาชมสถานที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นจัตุรัสแดง พระราชวังเครมลิน หรือจะเป็นการมาล่าแสงเหนือก็ตามที ก็ทำให้ประเทศแห่งนี้ติดอยู่อันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวเลือกที่จะมาเยือนกัน   17. ทัวร์ยุโรป - โปแลนด์ มาต่อกันที่ประเทศโปแลนด์ ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในยุโรปตะวันออก ภูมิประเทศถูกรายล้อมด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งภูเขา ทะเลสาบ และชายหาด มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานทางวัฒนธรรม มีความวิจิตรงดงามอย่างมาก อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น คราคูฟ โบสถ์เซนต์แมรี หรือ ปราสาทวาเวล และอีกมากมายที่รอให้คุณไปสัมผัสบรรยากาศที่อยากจะลืมได้ลง   18. ทัวร์ยุโรป -  กรีซ มาถึงประเทศกรีซที่มีสถานที่ชื่อดังอย่าง Santorini เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนจะดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รูปแบบตัวอาคารสีขาวดูแปลกตาสร้างขึ้นตามเชิงเขาสูงชันและมีโบสถ์สีฟ้าสดใสประดับไว้อยู่ สถานที่แห่งเป็นที่นิยมอย่างมากในเรื่องการมาพักผ่อนของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศชวนให้หลงใหลหรือจะเป็นวิวธรรมชาติชวนให้อินเรียกได้ว่าสถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสวรรค์ที่ใครหลายคนอยากมาพักผ่อนสักครั้ง   19. ทัวร์ยุโรป -  Saint Lucia   มาต่อกันที่ประเทศเซนต์ลูเซีย เป็นเกาะตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลแคริบเบียน มีลักษณะเป็นเกาะภูเขาไฟ นับได้ว่าเป็นอีกประเทศที่ได้รับความสนใจของนักท่องเที่ยวในเวลานี้ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ น้ำทะเล ที่ไม่ได้ถูกปรุงแต่งแต่อย่างใด   20.ทัวร์ยุโรป - USA มาถึงสถานที่สุดท้ายอย่าง เยลโลว์ สโตน เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของอเมริกาและแห่งแรกของโลกด้วย มีพื้นที่ทั้งหมดอยู่บนที่ราบสูงบนเทือกเขาร็อคกี้ มากกว่า 2 ล้านเอเคอร์ เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องบ่อน้ำร้อนและน้ำพุร้อนมากกว่า 10,000 แห่ง ซึ่งดินแดนแห่งนี้มาอายุมากกว่า 600,000 ปี เรียกได้ว่าเก่าแก่อย่างมาก บริเวณโดยรอบเป็นภูเขาสูงและหุบเหวมากมาย อีกทั้งยังสามารถรับชมสัตว์ป่าได้ที่บริเวณแห่งนี้   20 ที่เที่ยวยุโรป เป็นไงกันบ้างคะเพื่อนๆ มีที่ไหนถูกใจและตั้งเป้าว่าต้องไปให้ได้บ้างเอ่ย แต่ถ้าจะให้แนะนำ ไปมันทั้งหมดนั่นแหละ!! สักครั้งในชีวิต การออกเที่ยวคือของขวัญสำหรับการทำงานหนัก ใครห่งเรื่องการเดินทาง การเที่ยว หรือจำกัดงบ ก็ไปเที่ยวยุโรปกับทัวร์ได้เลย เพราะจำกัดงบได้ สามารถเข้าไปดู ทัวร์ยุโรป กับ ทัวร์ครับ >>  https://tourkrub.co/europe-tour  ได้เลย รับรองเที่ยวยุโรป สนุก และความคุ้มค่าแน่นอน    

อ่านเพิ่มเติม
15 เมืองหลวงยุโรป น่าเที่ยวของแต่ละประเทศ
15 เมืองหลวงยุโรป น่าเที่ยวของแต่ละประเทศ

14 เม.ย. 63

ยุโรป  พิกัดดินแดนในฝันของเหล่านักท่องเที่ยวทั่วโลก  ที่สักครั้งในชีวิตของให้ได้ออกไปพิชิตให้สมใจอยาก  ว่าแต่ว่าทวีปยุโรปเองมีตั้ง 50 ประเทศ แค่เที่ยวเมืองหลวงของแต่ละประเทศให้ครบก็น่าจะเข้าขั้นหมดตัวได้  ว่าแล้วมาดูกันดีกว่าว่าจะล็อคเป้าพิกัดประเทศไหนในยุโรปกันดี กับ  “15 เมืองหลวงน่าเที่ยวของแต่ละประเทศ”  แล้วจะได้มาเลือกกันถูกว่าตามแต่จริตเราควรไปที่ไหนกันดี  ไปกันเลย เที่ยวยุโรป ทั้งทีบินก็ไกล  เวลาก็น้อย แต่เราต้องอย่าให้เรื่องเวลามาเป็นอุปสรรคในการเที่ยวของเรา  เพียงแค่ประหยัดระยะเวลาการเดินทาง การต่อคิวเข้าแถวขึ้นรถลงเรือ ด้วยการไปเที่ยวยุโรปกับทัวร์ที่ดูแลเราอย่างมืออาชีพและมีครบจบพร้อมสรรพในที่เดียว  กับ หาทัวร์ครบจบที่ทัวร์ครับ  เพียงเท่านี้ก็มีเวลาเหลือเผื่อการเที่ยวชิลล์อีกเพียบเลย จองทัวร์เที่ยวยุโรป  กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) https://tourkrub.co/europe-tour    15 เมืองหลวงยุโรปน่าเที่ยว   1.กรุงปารีส  ประเทศฝรั่งเศส (Paris, France) มหานครอันเป็นที่สุดของความโรแมนติก  จุดหมายปลายทางในฝันของคู่นักนักเดินทาง  และศิลปินจากทั่วทุกมุมโลก กับกรุงปารีส  เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส  พิกัดแหล่งรวมศิลปะชิ้นสำคัญของโลก  สิ่งปลูกสร้างและสถาปัตยกรรมระดับโลก  ไปจนถึงถนนที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก  ริมแม่น้ำแซนอันแสนโรแมนติก กับเมืองหลวงอันเป็นที่สุดของมหานครระดับโลก  จึงต้องขอบอกว่าควรต้องได้มาเยือนกรุงปารีสสักครั้งในชีวิตเป็นอย่างน้อย   2.กรุงลอนดอน  สหราชอาณาจักร (London, United Kingdom) พิกัดของเมืองหลวงที่ชิค  และคลาสสิคที่สุดของยุโรป กับมหานครอันทรงเสน่ห์ทั้งทางด้านศิลปวัฒนธรรม  สถาปัตยกรรม และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ที่กรุงลอนดอน  สหราชอาณาจักร  เมืองผู้ดีที่ลงตัวด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย  ผู้คนที่เป็นกันเอง และสถาปัตยกรรมที่งดงามอย่างลงตัว  ทั้งอาคารบ้านเรือนเก่าแก่สุดอลังการฉบับอังกฤษแท้ ๆ สุดตระการตาที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับวิถีชีวิตของผู้คนที่ทันสมัยโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสมัยที่สะดุดตา  ริมแม่น้ำเทสม์ที่ให้บรรยากาศสุดคลาสสิค ที่คงต้องบอกว่าถ้าไม่ได้มากรุงลอนดอนสักครั้ง ต้องของบอกว่าพลาดมาก ๆ พูดเลย   3.กรุงโรม  ประเทศอิตาลี (Rome, Italy) กรุงโรม  เมืองหลวงของประเทศประเทศอิตาลี  เมืองเก่าแก่อันเคยเป็นทั้งศูนย์กลางอารยธรรม  ศิลปวัฒนธรรมอำนาจและการปกครอง ไปจนถึงศูนย์การศาสนาของอาณาจักรโรมันอันเก่าแก่ที่ยังคงความรุ่งเรืองอย่างยาวนานกว่า 3,000 ปีในอดีต  ที่เป็นเครื่องการันตีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และมนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมและบรรยากาศคลาสสิคของกรุงโรม กับนิยามของเมืองหลวงของประเทศอิตาลีแห่งนี้ที่ว่า  “เมืองอมตะ หรือนครที่ไม่มีวันตาย” มาต้องมนต์เสน่ห์ของศิลปะและสถาปัตยกรรมโบราณเก่าแก่สุดอลังการที่น่าหลงใหล และสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ทีเป็นมิตรและเป็นกันเองของชาวอิตาลี  พร้อมลิ้มชิมรสชาติพาสต้าสูตรต้นฉบับแท้ ๆ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเมืองแห่งนี้จึงได้ชื่อว่านครที่ไม่มีวันตาย   4.กรุงวาติกัน  นครรัฐวาติกัน (State of the Vatican City) นครรัฐวาติกัน  อันโด่งดังของประเทศเล็ก ๆ ที่มีพื้นที่เพียง 250 ไร่  กับนครเล็ก ๆ ท่ามกลางเมืองใหญ่อย่างกรุงโรม ที่แยกตนเองออกเป็นเอกเทศไม่ขึ้นตรงกับใคร  นครรัฐวาติกันเป็นแหล่งศูนย์รวมศรัทธาของศาสนาคริสต์ กับพิกัดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เล็ก ๆ ที่ทรงคุณค่าทัท้งทางศาสนา  และประวัติศาสตร์ วัฒนะธรรม ที่ได้รวบรวมเอาไว้ซึ่งผลงานทางสถาปัตยกรรมวิจิตรประณีตงดงาม ศิลปกรรมและ วิทยาการที่ล้ำนำสมัย  และโดดเด่นอลังการตระการตาเป็นที่สุด ที่ต้องเรียกว่าเป็นพิกัดเล็ก ๆ ที่ถึงจะเล็กแต่ก็เล็กพริกขี้หนู เพราะคุณภาพคับแก้วมาก ๆ    5.กรุงปราก  สาธารณรัฐเช็ก (Prague, Czech) กรุงปราก  สาธารณรัฐเช็ก  เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็ก  กับเมืองที่ขึ้นชื่อได้ว่าสะอาดที่สุดในโลก และยังเป็นอีกหนึ่งเมืองมรดกโลกที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานนับ 1,000 ปี  โดยเฉพาะเรื่องความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมเก่าแก่สุดคลาสสิคตระการตา และบรรยากาศสุดชิลล์ยามค่ำคืนริมแม่น้ำแสนโรแมมติกของย่านเมืองเก่า  ที่ต้องบอกว่าคนมาเป็นคู่ต้องประทับใจไม่มีวันลืมแน่ ๆ   6.กรุงอัมสเตอร์ดัม  ประเทศเนเธอร์แลนด์ (Amsterdam, Netherlands) กรุงอัมสเตอร์ดัม  ประเทศเนเธอร์แลนด์  เมืองแห่งสายน้ำริมฝั่งแม่น้ำอัมสเติล (Amstel)  ที่รายล้อมไปด้วยคลองกว่า 100 สาย จนได้รับการยกให้เป็น  “เวนิสแห่งตอนเหนือของยุโรป” นอกเหนือกับความชิลล์สุด ๆ กับบรรยากาศของเมืองหลวงแห่งสายน้ำแห่งนี้แล้ว  เมืองแห่งนี้ยังรายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมเฉพาะตัวอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองที่น่ารัก สดใส และลงตัวสุด ๆ นอกจากนี้กรุงอัมสเตอร์ดัมยังเป็นมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญทวีปยุโรปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 อีกด้วย     7.กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี (Budapest, Hungary) กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี  เมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งเป็นเครื่องรับประกันความงดงามของเมืองหลวงแห่งนี้  กับพิกัดของเมืองหลวงสวย ๆ ในบรรยากาศสุดคลาสสิค และโรแมนติกด้วยทำเลที่ตั้งริมแม่น้ำดานูบ แม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับที่ 2 ของทวีปยุโรป  และสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอโคโลเนียลสุดอลังการ จนได้รับการขนานน้ำว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ”     8.กรุงเวียนนา  ประเทศออสเตรีย (Vienna, Austria) กรุงเวียนนา  เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย  อีกหนึ่งพิกัดแห่งดินแดนแสนโรแมนติกของทวีปยุโรป  กับบรรยากาศของเมืองเล็กแสนโรแมนติก ที่เคยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่สะอาดที่สุด  และมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลกในปี ค.ศ. 2014 อีกด้วย ทั้งสวยงามและน่าอยู่แบบนี้  ก็ไม่แปลกใจที่ใคร ๆ ที่แวะเวียนมาที่กรุงเวียนนา จะหลงรักเมืองและปักหยุดให้กรุงเวียนนาเป็น Honeymoon Destination ในดวงใจของหลาย ๆ คน  ด้วยทัศนียภาพของธรรมชาติ อันรายล้อมไปด้วยแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญที่ทรงเสน่ห์ และสถาปัตยกรรมแบบยุโรปแท้ ๆ ที่สวยงสมอลังการ จึงทำให้กรุงเวียนนากลายเป็นที่หนึ่งในดวงใจของใครหลาย ๆ คนได้ไม่ยาก     9.กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย (Moscow, Russia) กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย อีกหนึ่งเมืองเก่าแก่ของทวีปยุโรปที่คงไม่มีใครไม่รู้จัก  กับเมืองสวย ๆ อันทรงเสน่ห์ด้วยวัฒนธรรมสุดน่ารักในแบบฉบับของต้นเอง  และสถาปัตยกรรมที่เป็นรูปแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ที่ทำให้สักครั้งควรต้องได้มาเยี่ยมเยือน  โดยเฉพาะนักเที่ยวชาวไทยที่สามารถเดินทางเข้ารัสเซียได้โดยไม่ต้องทำวีซ่าอีกด้วย (สะดวกสุด ๆ)  และที่สำคัญคือการเดินทางท่องเที่ยวในกรุงมอสโคว์นั้นสะดวกสบาย ด้วยเป็นเมืองหลวงที่มีระบบขนส่งมวลชนคุณภาพดีที่สุดของโลกอีกด้วย  ใครกำลังมองหาเมืองหลวงบรรยากาศดี ๆ คูล ๆ สถาปัตยกรรมอลังการอยู่ละก็ ล็อคเป้ากันกรุงมอสโคว์ไว้ได้เลย เพราะแค่ความงดงามของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินก็สวยงามอลังการติดระดับโลกแล้วทีเดียว     10.กรุงเอเธนส์  ประเทศกรีซ (Athens, Greece) กรุงเอเธนส์  เมืองหลวงของประเทศกรีซ  อีกหนึ่งเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของโลก  ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนามมากกว่า 3,000 ปี  ดินแดนแห่งอารยธรรมอันเป็นจุดเริ่มต้น และจุดกำเนิดของอารยธรรมตะวันตก  ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของประชาธิปไตยอีกด้วย ที่นอกเหนือจากมนต์เสน่ห์ของคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนานแล้ว  ภูมิประเทศของกรุงเอเธนส์เองก็สวยงามโดเด่นไม่แพ้ชาติใดในยุโรป กับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใครในโลก ที่แม้จะดูเรียบง่าย  แต่กลับมีชีวิตชีวา น่ารักสดใส และน่าประทับใจเป็นที่สุด ทั้งยังแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ทั้ง ภูเขา ท้องทะเลสวย ๆ และหมู่เกาะจำนวนมาก  กับความสวยงามของทัศนียภาพที่สมแล้วที่ได้รับการยกให้เป็นดินแดนของเทพเจ้าในตำนานกรีซโบราณ     11.กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน (Stockholm, Sweden) กรุงสตอกโฮล์ม เมืองหลวงของประเทศสวีเดน  เมืองแห่งความหลากหลาย  ริมชายฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกที่ห้อมล้อมด้วยลำคลองและแม่น้ำหลากหลายสาย  ลงตัวด้วยการผสมผสานระหว่างเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน กับเมืองสมัยใหม่ที่ทันสมัย  ในรูปแบบที่น่ารักเป็นกันเอง ไม่เหมือนใคร นับเป็นอีกหนึ่งเมืองหลวงน่ารักน่าเที่ยวของยุโรปเลยทีเดียว     12.กรุงออสโล  ประเทศนอร์เวย์ (Oslo, Norway) กรุงออสโล  ประเทศนอร์เวย์  เมืองหลวงแห่งทะเลสาบ  ขุนเขา และความอุดมสมบูรณ์แห่งธรรมชาติ  กับเมืองหลวงแห่งกิจกรรมกลางแจ้ง และการเฉลิมฉลอง  ที่ต้องขอบอกว่ากรุงออสโลแห่งนี้มีงานเทศกาลแทบทุกเดือนตลอดทั้งปี  นักเที่ยวสายธรรมชาติที่หลงรักความสนุกสนานครื้นเครง นืคือพิกัดเมืองหลวงน่าเที่ยวสุด ๆ สำหรับคุณ  เพราะจะได้ทั้งดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงามอลังการ ไปพร้อม ๆ กับสีสัน ความน่ารัก และความอบอุ่นของชาวเมือง   13.กรุงเรคยาวิก  ประเทศไอซ์แลนด์ (Reykjavik, Ireland) กรุงเรคยาวิก  เมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์  เมืองหลวงที่ขึ้นชื่อว่าอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด  พิกัดเมืองหลวงสุดฮิปที่เป็นพื้นที่รวบความมหัศจรรย์แห่งปรากฏการณ์ธรรมชาติ  ทั้งปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun) และ ปรากฏการณ์แสงเหนือ (Aurora Light)  ซึ่งจัดเป็นอีกหนึ่งเมืองหลวงน่าเที่ยวโยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ที่ต้องไม่พลาดความพิเศษสุด ๆ ของปรากฏการณ์สุดอลังการที่กรุงเรคยาวิกแห่งนี้   14.กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ (Warsaw, Poland) กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์  เมืองหลวงของดินแดนใจกลางทะทวีปยุโรป  กับดินแดนอันสงบ เรียบง่าย และเป็นส่วนตัวของพื้นที่ราบริมแม่น้ำวิสทูลา  อันเป็นเมืองศูนย์กลางของอุตสาหกรรมหนัก และศูนย์กลางการศึกษาของทวีปยุโรป แต่แม้จะเป็ฯศูนย์กลางอุตสาหกรรมของทวีป  กรุงวอร์ซอ ก็ยังคงงดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลฉบับยุโรปแท้ ๆ แบบดั้งเดิม และด้วยมนต์เสน่ห์แห่งความเก่าแก่คลาสสิคของตัวเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ดูแลเป็ฯอย่างดี  ทำให้กรุงวอร์ซอเป็ฯอีกหนึ่งเมืองสวย ๆ ของยุโรปที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) อีกด้วย     15.กรุงเคียฟ  ประเทศยูเครน (Kiev, Ukraine) หนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปของประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป  ซึ่งถูกขนานนามว่า “มารดาของเมืองทั้งปวง” กับ กรุงเคียฟ  เมืองหลวงของประเทศยูเครน  เมืองเก่าที่แวดล้อมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของมีสถาปัตยกรรมโบราณที่สวยงามและน่าสนใจ   ในบรรยากาศแบบตะวันตกอันมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองที่น่าค้นหา ทั้งจากสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์  และบรรยากาศเมืองสุดคลาสสิคของพิกัดดินแดนอันแสนลึกล้ำที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมในรูปแบบผสมผสามของเมืองที่เคยเป็นส่วนหนึ่งสภาพโซเวียตที่ยิ่งใหญ่เมื่อครั้งอดีต   ครบกันไปแล้วกับทั้ง 15 พิกัดของยุโรปใน  “15 เมืองหลวงน่าเที่ยวของแต่ละประเทศ”  ซัมเมอร์ปีนี้บินไกลไปเที่ยวยุโรปก็เก๋ไม่หยอกจริงไหม?  ว่าแล้วบอกเลยว่าอดใจแทบไม่ไหว อยากไปสัมผัสบรรยากาศคูลๆ ท่ามกลางเมืองอันสวยงามติดอันดับโลกกันได้เลย จองทัวร์ยุโรป กับ ทัวร์ครับ >> https://tourkrub.co/europe-tour 

อ่านเพิ่มเติม