All articles abouts สถานที่เที่ยวยุโรป

ไปสักครั้งแล้วจะติดใจ! รวม 10 แลนด์มาร์ก “เที่ยวยุโรป”

ไปสักครั้งแล้วจะติดใจ! รวม 10 แลนด์มาร์ก “เที่ยวยุโรป”

24 เม.ย. 62

วันนี้ ทัวร์ครับ เลยขอนำเอา 10 แลนด์มาร์กที่แอดมินได้ลิสต์ไว้ว่าอยากไปเยือน มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันครับ เผื่อว่าเราจะได้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันบ้าง อิอิ ไปดูกันเลยย ~ 1. หอเอนปิซา ประเทศอิตาลี แผนที่ : Tower of Pisa รู้จักกันเป็นอย่างดี เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เราเรียนกันมานั่นเองครับ ความพิเศษและเก๋ไก๋สไลเดอร์ของที่นี่คงหนีไม่พ้นการมาเยี่ยมเยือน พร้อมกับทำท่าถ่ายรูปเก๋ๆ กับเจ้าหอเอนฯ บางคนก็ช่วยยันไว้ บางคนก็ยืนพิง แค่คิดก็น่าจะสนุกสุดๆ แล้วล่ะ แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ ได้ลองครีเอทท่าเก๋ๆ ไว้ไปถ่ายกับ หอเอนปิซา บ้างแล้วหรือยังเอ่ย? 2. โคลอสเซียม ประเทศอิตาลี แผนที่ : Colosseum อีกหนึ่งใน 7 มหัศจรรย์ของโลก ที่ได้ขึ้นชื่อในเรื่องของความยิ่งใหญ่ ที่ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเสื่อมสภาพจากในอดีตลงไปมาก แต่ก็ยังเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงความรุ่งโรจน์และรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมัน มีความใหญ่โตมโหฬาร และยังคงไว้ซึ่งความสวยงามอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยครับ ต้องลองมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งนะครับ นี่เลย >> ทัวร์อิตาลีสุดฮิต ราคาเริ่มต้น 34,999 !! 3. สโตนเฮนจ์ ประเทศอังกฤษ แผนที่ : Stonehenge สำหรับคนที่เสพติดความมหัศจรรย์ ก็ต้องไม่พลาดมาที่นี่ครับ เพราะสโตนเฮนจ์ถือได้ว่าเป็นสถานที่สุดพิเศษ ที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครหาคำตอบได้ว่า ณ ที่แห่งนี้ใครเป็นคนสร้าง แล้วทำยังไงถึงเอาหินก้อนเบอเร่อไปวางเรียงกันจนเกิดเป็นความมหัศจรรย์ขนาดนั้น ใครมีแพลนไปยุโรป ลองมองหาทริปที่จะมาสัมผัสด้วยตาตัวเอง และหาคำตอบไปด้วยกันสักครั้งนะครับ 4. หอนาฬิกาบิ๊กเบน ประเทศอังกฤษ แผนที่ : Bigben    แลนด์มาร์กประจำลอนดอน ที่ใครมาเยือนยังประเทศอังกฤษ แล้วไม่แวะมาที่นี่ถือว่าผิดเลยล่ะ เพราะนอกจากจะได้มาเช็คอินกับสถานที่ยอดฮิตแห่งนี้แล้ว ยังเป็นการยืนยันได้อย่างดีว่ามาถึงยถโรปแล้วแน่นอน เพราะหอนาฬิกายิ่งใหญ่แบบนี้มีที่เดียวนะจ๊ะ นอกจากนี้ใกล้ๆ กับหอนาฬิกาบิ๊กเบน ยังมี Shopping Street และ London Eye ชิงช้าสวรรค์อันเบอเร่ออีกด้วย เอาเป็นว่ามาจุดเดียวเที่ยวได้หลายที่เลยครับ  ใครอยากไปทัวร์อังกฤษสุดคุ้ม เริ่มต้นแค่ 35,900 บาท คลิกเลยรออะไร 5. พระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส แผนที่ : Versailles Palace ความสวยงาม อลังการ ตระการตา ทุกอย่างรวมอยู่ที่ทัวร์ฝรั่งเศสนี่เลยครับ แล้วขอบอกเลยว่าแค่ 3 คำนี้ไม่พอที่จะอธิบายความงดงามของพระราชวังแห่งนี้ได้เลยจริงๆ สมกับฉายาว่าเป็น พระราชวังที่สวยงามที่สุดในโลกจริงๆ ด้านในถูกตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาวทั้งหมด รวมกับกระจกมากมาย เมื่อเจอกับไฟสีทองนวลมากระทบ ทำให้ระยินระยับ ดูสวยงามจนเราตกตะลึงไปเลยล่ะครับ 6. หอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส แผนที่ : Eiffel Tower ถ้าพูดถึงยุโรป แล้วไม่พูดถึงแลนด์มาร์กสุดพีคที่นี่ก็คงไม่ได้อย่าง หอไอเฟล หรือ Eiffel Tower นั่นเอง ถือได้ว่าเป็น Top List ของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว ด้วยความที่นอกจากจะเป็นแลนด์มาร์กอันโดดเด่น ที่เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าอยู่ยุโรปแล้ว ยังได้บรรยากาศของความโรแมนติกผสมเข้าไปอีก ลองคิดภาพตามนะครับว่าถ้าเรายิ่งไปช่วงฤดูหนาว มีหิมะตกเบาๆ กับคนพิเศษ มันจะเป็นความทรงจำที่สุดยอดขนาดไหน!   7. ซานโตรินี่ ประเทศกรีซ แผนที่ : Santorini หากใครเคยไปเที่ยวที่ชะอำ จ.เพชรบุรี บ้านเรา ก็คงได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของสถานที่แห่งนี้ และได้พอสัมผัสกับความสวยงามของตัวอาคารสีขาว และหลังคาสีน้ำเงินกันบ้างแล้ว แต่พูดไปจะหาว่าเว่อร์เพราะนั่นยังไม่ได้ครึ่งของสถานที่จริงเลยครับ! ที่หมู่บ้านริมทะเลแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งความสวยงามตามธรรมชาติของเกาะซานโตรินี่ บวกกับความสวยงามของสิ่งปลูกสร้าง ลงตัวกันเป็นอย่างดีกับท้องฟ้าอันสดใสในช่วงซัมเมอร์ เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์กที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ 8. วิหารพาร์เธนอน ประเทศกรีซ แผนที่ : The Parthenon อีกแลนด์มาร์กอันน่าสนใจ ณ ประเทศกรีซครับ สำหรับสถานที่แห่งนี้ถ้าใครอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าความลงตัวขององค์ประกอบต่างๆ เป็นอย่างไร ต้องไม่พลาดมาที่นี่เลย เพราะถึงแม้ว่าจะเหลือเพียงเศษซาก และร่องรอยทางประวัติศาสตร์ แต่ก็ยังเห็นได้ถึงความงดงาม สัดส่วน และองค์ประกอบที่ลงตัวอยู่ดีครับ 9. หมู่บ้านฮัลสตัทท์ ประเทศออสเตรีย แผนที่ : Hallstatt , Austria สุดยอดแห่งความโรแมนติกในพ.ศ.นี้ ต้องยกให้ที่นี่จริงๆ ครับ เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่คู่รักต่างตบเท้ากันเข้ามาสัมผัสกับความสวยงามของหมู่บ้านริมทะเลสาบ ที่มีฉากหลังเป็นทิวเขาอันสวยงาม โรแมนติกสุดๆ เลยล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาว บอกเลยว่าไม่มีอะไรฟินไปกว่า การตื่นเช้าขึ้นมาแล้วเปิดประตูระเบียงไปเจอกับวิวของหมู่บ้านฮัลสตัทท์แล้วครับ 10. หมู่บ้านกังหันลม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แผนที่ : Zaanse Schans มาถึงแลนด์มาร์กสุดท้าย ที่แอดมินภูมิใจนำเสนอสุดๆ เพราะเป็นที่ที่แอดมินอยากไปมากเลยล่ะครับ ใครอยากเห็นกังหันลมของแท้ ต้องมาที่นี่เท่านั้น ยิ่งบวกรวมกับทุ่งดอกทิวลิปอันสวยงามแล้ว เป็นภาพที่อยากจะลั่นชัตเตอร์เก็บความทรงจำไว้สักร้อยภาพเลยครับ และนี่ก็เป็น 10 แลนด์มาร์กที่น่าสนใจในยุโรป ที่แอดมินคัดมาแนะนำให้รู้จักกัน แต่ที่ยุโรปไม่ได้มีดีแค่ 10 สถานที่นี้เท่านั้นที่น่าสนใจนะครับ ยังเหลืออะไรให้เราเที่ยวอีกเพียบ! ใครอยากไปสัมผัสกับอีกซีกหนึ่งของโลกดูสักครั้ง ก็เริ่มหยอดกระปุกกันได้เลยยย     

อ่านเพิ่มเติม
ไม่ดังแต่มีดี! รวม 10 ที่เที่ยวยุโรปเมืองรองไม่ดังแต่ปังมาก
ไม่ดังแต่มีดี! รวม 10 ที่เที่ยวยุโรปเมืองรองไม่ดังแต่ปังมาก

03 พ.ค. 62

วันนี้ทัวร์ครับจะขอเปิดตัว 10 เมืองยุโรปที่ไม่ดังแต่สวยมาก ให้ทุกคนได้รู้จักกันแบบซอฟท์ๆ เผื่อว่าใครเบื่อเมืองใหญ่ๆ แล้ว อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสเมืองเล็กๆ ได้พบกับ Hidden Gems เม็ดงามกันบ้าง จะได้ลองดูเป็นแนวทางนะครับ เลื่อนลงไปดูกันเล๊ย!   1.Bruges : Belgium แผนที่ : Bruges , Belgium เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เวนิสของทางเหนือ” เพราะเป็นเมืองที่มีคูคลองกลางเมือง คล้ายคลึงกับเวนิสนั่นเองครับ ความโดดเด่นของเมืองนี้คือบ้านรูปทรงแบบ Ginger Bread ที่ทำให้เมืองมีความน่ารัก และสวยงาม ถ้ายิ่งไปในช่วงคริสมาสต์จะได้เจอกับบรรยากาศเฟสทีฟสุดแสนโรแมนติกบวกเข้าไปด้วย ทำให้เมืองนี้กลายเป็นสุดยอด Hidden Gems แห่งยุโรปเลยล่ะ   2. Sintra : Portugal แผนที่ : Sintra , Portugal เมืองเล็กๆ บนเทือกเขาที่โดดเด่นด้วยบ้านเรือนสีสันสวยงาม ชวนให้เพลิดเพลินไปกับการลั่นชัตเตอร์ Be a Model ถ่ายรูปเก๋ๆ เก็บไว้ หากใครมีภาพจำของปราสาทเลโก้มาจากสมัยเด็กๆ จะยิ่งอินเข้าไปใหญ่ เพราะบอกเลยว่าที่นี่ เหมือนปราสาทเลโก้มากๆ เห็นแล้วอยากนำตัวต่อเจ้าชายกับเจ้าหญิงมาวางเลยอ่ะ!   3. Gdansk : Poland แผนที่ : Gdansk , Poland ใครที่เป็นสายแฟชั่น รักการแต่งตัว และมักมี Theme ในการแต่งตัวให้เข้ากับสถานที่อยู่เสมอจะรักเมืองนี้! เพราะอาหารบ้านเรือนสีโทนร้อน เช่น เหลือง ครีม ชมพู และหลังคาสีแดง จะช่วยให้คุณเลือกชุดได้ง่ายและ Enjoy ไปกับการแต่งตัวมากขึ้น เพลิดเพลินไปกับการนั่งจิบกาแฟรับลมริมทะเลบอลติกเก๋ๆ Live like a Celebrity กันไปเลย!   4. Bled : Slovenia แผนที่ : Bled , Slovenia สวยราวกับเทพนิยาย คือนิยามของเมืองนี้! เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ตีนเขาแอลป์ อยู่บนทะเลสาบที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในโลกเลยครับ เป็นเมืองเล็กๆ เหมาะมาพักผ่อนสบายๆ แบบเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย และได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่อยู่ตรงหน้าแบบเต็มๆ เสมือนว่าได้ชาร์จแบตให้ตัวเองมีพลังลุยต่อครับ   5. Novi Sad : Serbia แผนที่ : Novi Sad , Serbia เมืองที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ และอนุสาวรีย์มากมาย จนได้ชื่อว่าเป็น เมืองหลวงทางด้านวัฒนธรรมของประเทศเซอร์เบีย มีความโดดเด่นด้วยป้อม Petrovaradin ซึ่งสามารถมองเห็นวิวด้านหน้าที่สวยงามแบบพาโนราม่า และแม่น้ำดานูบ ถึงเมืองนี้จะไม่ดังมากแต่ขอบอกเลยว่ามีเสน่ห์สุดๆ ลองไปครั้งนึงแล้วจะหลงรัก   6. Cesky Krumlov : Czech Republic แผนที่ : Cesky Krumlov , Czech Republic เมืองเล็กสุดน่ารัก ที่ผู้คนต่างเป็นมิตรและ welcome นักท่องเที่ยวอยู่เสมอ มีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยถนนหนทาง และสะพานเก่าแก่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมเดิม บวกรวมเข้ากับบ้านเรือนของผู้คนที่มีการสร้างออกมาได้อย่างน่ารัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวยังเมืองนี้ จะต้องกลับออกมาพร้อมกับความประทับใจทุกคน   7. Annecy : France แผนที่ : Annecy , France ลืมปารีสไปก่อน เพราะที่ฝรั่งเศสยังมีเมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบแห่งนี้ที่รอให้ทุกคนไปเยือนอยู่ ใครอยากสัมผัสความเป็นชาวฝรั่งเศสของแท้ ที่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมท้องถิ่นต้องมาเยือนที่นี่ดูสักครั้ง เดินเล่นชมเมืองเพลินๆ พร้อมทั้งแวะไปชมปราสาทเก่าแก่ แล้วคุณจะหลงรักแบบสุดๆ เลยล่ะครับ   8. Albarracin : Spain แผนที่ : Albarracin , Spain สาวๆ ต้องกรี๊ดแน่นอน เพราะที่นี่คือเมืองสีชมพู ที่เหมือนเราหลุดเข้าไปในโลกของเทพนิยายเลยครับ เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีถนนหนทางเล็กๆ ผู้คนนิยมเดินเท้ากัน ไปสัมผัสวิถีชีวิตแบบคนท้องถิ่น และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยการเดินชมเมืองอันน่าค้นหานี้ น่าจะเป็นอีกเรื่องประทับใจในยุโรปแน่ๆ   9. Reine : Norway แผนที่ : Reine , Norway เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่บริเวณอ่าวริมฝั่งมหาสมุทธใกล้แถบขั้วโลก ที่มีฉากหลังเป็นทิวเขาเรียงตัวกันอย่างสวยงามราวกับเทพนิยายเลยล่ะครับ และแน่นอนว่าเพราะที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมง ทำให้คุณสามารถชิมอาหารทะเลที่สดเว่อร์ในราคาที่ถูกแสนถูก จะมีอะไรเพลินไปกว่าการกินอิ่ม และนอนหลับสบายในบรรยากาศที่ดีๆ แบบนี้!   10. Giethoorn : Netherlands แผนที่ : Giethoorn , Netherlands ความเงียบสงบที่แท้ทรูเป็นยังไง อยากรู้ต้องลองมาดูเองที่เมืองนี้ครับ! ที่นี่ไม่มีรถ ไม่มีถนนใหญ่ มีแต่คูคลองและเรือ ทำให้การเดินทางไปยังจุดต่างๆ ต้องนั่งเรือไปนั่นเอง มีความเงียบสงบ และคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตดั้งเดิมมากๆ ใครอยากมาพักร้อนในที่ใหม่ๆ ที่ได้รับพลังบวกกลับไปเต็มๆ จองตั๋วมาที่นี่ด่วนๆ เลยนะครับ  >>  ไปสักครั้งแล้วจะติดใจ! รวม 10 แลนด์มาร์ก “เที่ยวยุโรป” นี่แค่ซอฟท์ๆ อย่างที่บอก  ที่ยุโรปยังมีเมืองสวยๆ ที่ไม่ค่อยดังอยู่อีกเพียบรอให้ทุกคนได้ไปสำรวจกันอยู่ หากใครเบื่อความวุ่นวายของเมืองใหญ่ๆ แล้ว ลองมองหา Hidden Gems ดีๆ สักเม็ดที่ถูกใจ แล้วไปเปิดประสบการณ์ใหม่ดู แล้วคุณอาจจะหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้นเลยก็ได้! หรือหากใครสนใจทัวร์ยุโรปเที่ยวสถานที่สุดฮิต คลิกเลย !! 

อ่านเพิ่มเติม
It’s Fairytale รวม 8 เมืองสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย
It’s Fairytale รวม 8 เมืองสวยงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย

09 พ.ค. 62

    บอกก่อนว่า 8 เมืองเหล่านี้อาจจะไม่ใช่เมืองที่เป็น “ต้นแบบ” จริงๆ ของเทพนิยายนะครับ แต่ด้วยความสวยงาม ด้วยบรรยากาศโดยรอบ ที่เห็นแล้วคิดถึงเทพนิยาย เลยทำให้เราเลือกมาให้เพื่อนๆทุกคนได้ชมกัน ถ้าพร้อมเจอกับเมืองเทพนิยายเหล่านี้แล้ว ก็เลื่อนลงไปดูพร้อมๆ กันเลย !!  1.Karlovy Vary, Czech Republic พิกัด : Karlovy Vary, Czech Republic เมืองเก่าแก่กลางหุบเขา ที่มีบ้านเรือน และอาคารสีพาสเทลสุดสวยตั้งเรียงรายอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำ ทำให้พอย่างเท้าเข้าไปแล้วเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกของเทพนิยายเลยครับ แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีที่สถาปัตยกรรมอันสวยงามเหล่านี้เท่านั้นนะครับ ยังขึ้นชื่อในเรื่องขอบ่อน้ำพุร้อน และสปาอีกด้วย ใครอยากมาพักผ่อนในบรรยากาศดีๆ แบบนี้ พลาดที่นี่ไม่ได้เลยครับ 2. Giethoorn, Netherland พิกัด : Giethoorn, Netherland เวนิสแห่งเนเธอแลนด์ หมู่บ้านเล็กๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังเดินอยู่ในหมู่บ้านของเจ้าหญิงดิสนีย์คนโปรดอยู่ (แล้วแต่จะสะดวกจินตนาการเลยนะครับว่าเป็นใคร อิอิ) ที่นี่มีความน่ารักของผู้คน รวมถึงความเป็นธรรมชาติและวิถีชีวิตดั้งเดิม ไม่มีถนน ไม่มีรถ เส้นทางหลักที่ใช้กันคือคลอง และการเดินลัดเลาะไปตามที่ต่างๆ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้หมู่บ้านนี้มีอากาศที่บริสุทธิ์ และมีความเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนในวันหยุดมากๆครับ 3. Hallstatt, Austria พิกัด : Hallstatt, Austria หมู่บ้านชื่อดังของประเทศออสเตรีย ซึ่งแน่นอนว่าที่ผู้คนต่างหลั่งไหลมาที่นี่ เพราะมันมีภูมิทัศน์ที่สวยงามราวกับว่าเราเข้าไปอยู่ในโลกเทพนิยายจริงๆ ฉากหลังเป็นทิวเขา ด้านหน้าเป็นทะเลสาบ และหมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลสาบ ทำให้ทุกอย่างดูลงตัว เข้ากันอย่างดี เห็นแล้วอยากใส่ชุดราตรีฟูฟ่อง ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงจริงๆครับ 4. Bibury, United Kingdom พิกัด : Bibury, United Kingdom เห็นที่นี่แล้วคิดถึงบ้านของคนแคระทั้ง 7 ที่หลบภัยชั้นเยี่ยมของเจ้าหญิงสโนว์ไวท์เลยครับ ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากลอนดอนมากนัก และได้รับการขนานนามว่าเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยที่สุดของอังกฤษ มีธรรมชาติของต้นไม้ที่เขียวชะอุ่ม เข้ากันได้ดีกับบ้านแบบดั้งเดิมที่สร้างจากหิน บวกรวมเข้ากับลำธารและถนนเล็กๆ ทำให้ลงตัวราวกับว่าเป็นหมู่บ้านที่สร้างมาเพื่อเป็นเทพนิยายเลยล่ะ 5. Burghausen, Germany พิกัด : Burghausen, Germany ในเทพนิยาย ภาพที่เห็นจนคุ้นชินนั่นก็คือปราสาทที่ตั้งอยู่บนยอดเขา และมีเมืองอยู่ด้านล่าง บอกเลยว่าที่เมืองนี้เป็นแบบนั้นจริงๆครับ! ภาพของปราสาทเบิร์กฮาวเซน ปราสาทที่ยาวที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่ด้านบน และมีหมู่บ้านล้อมรอบ ตอบโจทย์ความเป็นเทพนิยายสุดๆ ที่เมืองนี้คุณจะได้พบกับร้านค้า และร้านกาแฟเล็กๆ น่ารักมากมาย พร้อมการต้อนรับเป็นอย่างดีของชาวบ้าน รับรองว่าเพลิดเพลินใจแน่นอน 6. Colmar, France พิกัด : Colmar, France หากใครเป็นแฟนตัวยงของเทพนิยายชื่อดังของดิสนีย์อย่างเรื่อง Beauty and the Beast หรือ โฉมงามกับเจ้าชายอสูร จะต้องอยากมาที่นี่แน่นอน เพราะที่เมืองกอลมาร์นี้คือต้นแบบของหมู่บ้านที่เบลล์อาศัยอยู่ครับ บ้านเรือนน่ารักๆ หลากสีสัน ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทางของถนนเล็กๆ มีสวนดอกไม้แซมบ้าง มีฟาร์มนิดๆ หน่อยๆ สวยสะกดตาสุดๆครับ 7. Edinburgh, Scotland พิกัด : Edinburgh, Scotland   เมืองเก่าแก่ที่มีประวัติมาอย่างยาวนานแห่งนี้ ไม่ต่างอะไรกับเมืองในเทพนิยายที่มีปราสาทของเจ้าชายตั้งอยู่บนเขา และล้อมรอบไปด้วยบ้านของประชาชน มาที่นี่นอกจากจะได้ฟีลความเป็นเทพนิยายแล้ว ยังได้ฟีลความเป็นยุโรปแบบเต็มๆ เพราะบ้านเรือนยังคงความเป็นยุโรปสมัยเก่าอยู่ครับและแน่นอนว่าด้วยความที่เมืองเอดินเบิร์กเป็นเมืองใหญ่ ทำให้หายห่วงเรื่องความเหงาไปได้เลยเพราะมีกิจกรรมให้เลือกทำเพียบ! 8. Lisbon, Portugal พิกัด : Lisbon, Portugal เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกสแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสุดๆ และถึงแม้จะเป็นเมืองใหญ่ที่ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเที่ยว แต่ก็ยังมีบางเสี้ยวของเมืองที่ให้ความเป็นเทพนิยายสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือนแบบฉบับยุโรปสมัยก่อน สีสันที่สดใส และร้านค้าพื้นเมืองเล็กๆ ก็ทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นเทพนิยายของเมืองนี้เหมือนกันนะครับ และนี่ก็เป็น 8 เมืองสวยแนวเทพนิยายที่น่าสนใจที่เรานำมาฝากกัน เพื่อนๆ คนไหนชื่นชอบเทพนิยายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อยากแนะนำให้ลองไปสัมผัสตามเส้นทางทั้ง 8 ที่ที่ ทัวร์ครับ เลือกมาให้ดูสักครั้ง รับรองว่าฟินสุดๆ ไปเลยล่ะครับ ! สนใจ ทัวร์ยุโรป ราคาสุดคุ้มกับ ทัวร์ครับ คลิกเลย !!

อ่านเพิ่มเติม
ชวนแฟนไปฟินกับ 10 สถานที่สุดโรแมนติก ณ ยุโรป
ชวนแฟนไปฟินกับ 10 สถานที่สุดโรแมนติก ณ ยุโรป

14 พ.ค. 62

ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมไปชมสถานที่สุดโรแมนติกในยุโรปไปพร้อมๆ กับ ทัวร์ครับ กันเลยจ้าาา 1.หอไอเฟล (Tour Eiffel) พิกัด : Tour Eiffel ถ้าพูดถึงสถานที่ที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกแล้ว ไม่มีชื่อของหอไอเฟลก็คงไม่ได้ เพราะหลายๆ คู่รักก็เลือกที่จะสารภาพรักกัน หรือขอแต่งงานกัน ณ ที่แห่งนี้ครับ ด้วยความที่มีสักขีพยานเป็นหอไอเฟลขนาดใหญ่ และบรรยากาศโดยรอบที่เป็นใจเหลือเกิน มันอดใจไม่ไหวจริงๆ ที่จะร่วมกันสร้างความโรแมนติกที่นี่ ห้ามพลาด!! เที่ยวสถานที่สุดโรแมนติกกับ ทัวร์ฝรั่งเศส กันได้ที่นี่ 2. ดิสนีย์แลนด์ (Disneyland Paris) พิกัด : Disneyland Paris ยังอยู่กันที่ปารีสนะครับ ซึ่งพอฟังชื่ออาจจะคิดว่า อ้าว! สวนสนุกเนี่ยนะจะไปโรแมนติกอะไร? แต่อยากขอบอกให้ลองดูสักครั้งครับ เพราะเมื่อคุณก้าวเท้าเข้าไปยังดินแดนแห่งเทพนิยายแห่งนี้แล้ว คุณจะตกไปอยู่ในห้วงของความโรแมนติกเลยครับ ตอนกลางวันก็สนุกสุดๆ ไปกับเครื่องเล่นต่างๆ ส่วนตอนกลางคืนก็เพลิดเพลินไปกับแสงสี และขอให้สังเกตุช่วงเวลาที่เค้าจุดพลุดีๆ นะครับ เพราะมีคู่รักคุกเข่าขอแต่งงานกันหลายคู่เลยล่ะ 3. เวนิส (Venice) พิกัด : Venice รักใครให้พามา “เวนิส” เพราะที่นี่มีแต่ความโรแมนติกแทรกตัวอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เต็มไปหมด ด้วยสถาปัตยกรรมที่มีการออกแบบ และสรรค์สร้างมาอย่างดี ทำให้จะมุมไหนก็สวยงาม อย่าลืมชวนคนที่คุณรักไปล่องเรือกอนโดลา ด้วยนะครับ ความโรแมนติกจะได้คูณสอง คูณสาม หรือคูณสิบไปเลย !!! ทัวร์อิตาลี ล่องเรือสุดโรแมนติกที่ เวนิส คลิกเลย!! 4. ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) พิกัด : Neuschwanstein Castle ปราสาทแห่งเทพนิยาย แน่นอนเมื่อพูดถึงเทพนิยายแล้วนั้นก็ต้องนึกถึงเจ้าชายกับเจ้าหญิงนั่นเอง ชวนแฟนไปสัมผัสกับความโรแมนติกของเมืองมิวนิคสักครั้ง และสัมผัสกับความรู้สึกแสนพิเศษประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเจ้าชายกับเจ้าหญิงดู โรแมนติกสุดๆ เลยล่ะครับ 5. กรุงปราก (Prague) พิกัด : Prague ไม่ติดโผคงไม่ได้ เพราะกรุงปราก ประเทศเช็ค ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่ได้ขึ้นชื่อของความโรแมนติก ที่เหล่าคู่รักต่างพากันมาใช้ช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันที่นี่ นอกจากความโรแมนติกของสถาปัตยกรรมต่างๆ แล้ว ถนนหนทางมากมายก็มีความโรแมนติกคลอบงำเต็มไปหมด แถมที่เมืองนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหาอร่อยอีกด้วย เหมาะที่สุดที่จะมาดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับคนรู้ใจนะครับ 6. เมืองบูดาเปสต์ (Budapest) พิกัด : Budapest เมืองหลวงของกรุงฮังการี ที่มีแม่น้ำไหลผ่านตรงกลาง เมื่อนำมาผสมกันกับสถาปัตยกรรมอันสวยงามที่เรียงรายกันทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ และท้องฟ้าที่ถูกทอแสงสีทองในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะตก ทำให้เมืองนี้นั้นได้กลายเป็นสถานที่สุดโรแมนติกที่ทุกอย่างดูเข้ากันเป็นอย่างดี ลงตัวสุดๆ ชวนคุณแฟน ควงแขนกันมาเดินเล่นรับลม เป็นช่วงเวลาที่ถือว่าเป็น Golden Hour สุดๆ เลยล่ะ 7. เมืองลูเซิร์น (Luzern) พิกัด : Luzern ประเทศในฝันของใครหลายๆ คนอย่าง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จะพลาดไม่ติดโผสถานที่สุดโรแมนติกได้ยังไงล่ะครับ ที่นี่เป็นเมืองริมทะเลสาบ ที่มีฉากหลังเป็นทิวเขาอันสวยงาม ทั้งหมดถูกรวมเข้าด้วยกันทำให้ดู Perfect สำหรับวันพักผ่อนสุดๆ เป็นความโรแมนติกแบบไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเลย 8. หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) พิกัด : Hallstatt นั่งรถออกมาจากเวียนนาสักหน่อย เพื่อให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศโรแมนติกเต็มๆ กับหมู่บ้านริมทะเลสาบอันโรแมนติกแห่งนี้ จะมาในฤดูร้อนก็ได้เห็นความเขียวขจี อุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ หรือจะมาในฤดูหนาวก็ยิ่งฟิน เพราะจะมีหิมะตกโปรยปราย เดินจับมือกับคนรักฟินสุดๆ ไปเลยล่ะครับ 9. เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) พิกัด : Florence แค่ฟังชื่อก็รู้สึกได้ถึงความโรแมนติกแล้วล่ะ กับเมืองใหญ่ของประเทศอิตาลีแห่งนี้ ที่ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมอันสวยงามมากมาย บวกกับศิลปะเข้าด้วยกัน ทำให้ที่นี่ถูกแต่งแต้มไปด้วยความโรแมนติกไปซะทุกพื้นที่ ถึงเมืองจะใหญ่แค่ไหนแต่รับรองว่ามาคนเดียวเหงาแน่นอน เพราะฉะนั้นมากับแฟนดีที่สุดนะครับ 10. ซานโตรินี่ (Santorini) พิกัด : Santorini ปิดท้ายกันที่เมืองอันโด่งดังของประเทศกรีซ ที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะมาพักผ่อนในช่วงซัมเมอร์กับคนรู้ใจ ท้องฟ้าสดใส กับน้ำทะเลสุดสวย บวกกับความสวยงามของอาคารบ้านเรือนต่างๆ ที่นี่ เป็นการเติมเต็มช่วงเวลาได้ดีสุดๆ จูงมือคนรักขึ้นดาดฟ้าของที่พัก แล้วรอดูพระอาทิตย์ตกดินไปด้วยกัน รับรองว่ามีมดขึ้น ได้ 10 สถานที่สุดโรแมนติก ณ ยุโรปกันไปแล้ว เลือกได้หรือยังครับว่าจะชวนแฟนไปเที่ยวไหนดี ? หรือหากใครมีเวลา วางแผนดีๆ แล้วเก็บให้ครบทั้ง 10 ที่เลยก็ดีนะ หรือสนใจ ทัวร์ยุโรป ราคาสุดคุ้ม ดูได้ ที่นี่ เลย     

อ่านเพิ่มเติม
6 สถานที่ท่องเที่ยวยุโรป เมืองสวยที่ไม่ควรพลาด
6 สถานที่ท่องเที่ยวยุโรป เมืองสวยที่ไม่ควรพลาด

14 ส.ค. 62

จองทัวร์ยุโรป เริ่มต้น 27,999 บาท กับ Tourkrub   1.ประเทศโปแลนด์ พิกัด: Poland ประเทศโปแลนด์ เป็นดินแดนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของยุโรปตะวันออก ภูมิประเทศของโปแลนด์ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบเกือบทั้งประเทศ รายล้อมด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งภูเขา ทะเลสาบ และชายหาด เมืองโปแลนด์มีสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่ผสมผสานทางวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน มีความงดงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สถานที่ท่องเที่ยวโปแลนด์ที่แนะนำ เช่น คราคูฟ อดีตเมืองหลวงเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งแรกของโปแลนด์ บรรยากาศภายในเมืองถูกรอบด้วยสถาปัตยกรรมทุกยุคทุกสมัยทำให้มีความโดดเด่ดอย่างมากและมีโบสถ์เซนต์แมรี โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางจัตุรัสกลางเมือง สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่สูงถึง 81 เมตร ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของที่นี่เลยก็ว่าได้ ยังไม่หมดแค่นั้นที่นี่ยังมีปราสาทวาเวล และพิพิธภัณฑ์ค่ายกักกันเอาซ์วิทช์ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาชมความงดงามและชมประวัติศาสตร์ของเมือง   2.ประเทศฮังการี พิกัด: Hungary ฮังการี เป็นประเทศเล็กๆ อยู่ในโซนยุโรปตะวันออก มีความหมายทางประวัติศาสตร์ในด้านของวัฒนธรรมที่ยาวนานตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ว่าด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมายและงดงามมีคุณค่า ที่สำคัญฮังการีเป็นประเทศเกษตรกรรม ทำให้มีธรรมชาติล้อมรอบเมืองอุดมสมบูรณ์น่าอยู่  บูดาเปสต์ เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี มีสมยานามว่า ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ เพราะมีแม่น้ำดานูบ แม่น้ำสายสำคัญของยุโรปกั้นแบ่งเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งเมืองบูดาและฝั่งเมืองเปสต์ ซึ่งปัจจุบันเชื่อมต่อกันด้วย สะพานเชน หนึ่งในสะพานที่สวยที่สุดในยุโรปและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบูดาเปสต์ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในฮังการี มีสถานที่ท่องชื่อดังอย่าง ป้อมปราการฟิชเชอร์แมนบาสเตียน (Fisherman’s Bastion) และ อาคารรัฐสภาฮังการี ซึ่งแน่นอนทุกอย่างที่เอ่ยมาทั้งหมดควรค่าแก่การไปชมทั้งสิ้น   3.ประเทศออสเตรีย พิกัด: Austria เมื่อหาสถานที่ท่องเที่ยวแถวยุโรปตะวันออกคงนี้ไม่พ้น ประเทศออสเตรีย เพราะประเทศนี้ขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพที่งดงามและอากาศบริสุทธิ์เหมาะแก่การพักผ่อน ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติและผสมผสานกับสถาปัตยกรรมยุโรปที่สวยงาม สถานที่แนะนำคือเมืองฮัลล์สตัทท์ เมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก เรียกได้ว่าเป็นเมืองในฝันของเราเลยล่ะ เคยมาแล้วก็อยากจะมาอีกซ้ำๆ ใครกำลังหาสถานที่ที่พาแฟนมาเดท หรือพามาฮันนูมูนเราขอชูป้ายไฟให้ที่นี่สุดใจ   4.ประเทศรัสเซีย พิกัด: Russia ถ้าพูดถึงประเทศรัสเซียคงต้องรู้จัก กรุงมอสโคว์ เพราะเป็นเมืองหลวงของประเทศรัสเซียเป็นศูนย์กลางในหลายๆด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง และในด้านของการเดินทาง แถมยังได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นเมืองหลวงที่มีระบบขนส่งมวลชนคุณภาพดีที่สุดเมืองหนึ่งของโลก มีชื่อเสียงในเรื่องความงดงามของสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ สถานที่ที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างเช่น พระราชวังเครมลินที่ชอบไปปรากฏตัวในหนังดังบ่อยมากที่นี่แสดงให้เห็นถึงความงดงามของสถาปัตยกรรมยุคเก่าแก่ มีปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1586 และระฆังของพระเจ้าซาร์ เป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือจะไปเที่ยวจัตุรัสแดงแห่งรัสเซีย ที่มีชื่อเสียงอย่างมากสร้างด้วยหินแกรนิตและหินอ่อน ตอกลงบนพื้นจนกลายเป็นลานหินโมเสก  แต่ถ้าใครกำลังมองหาทริปล่าแสงเหนือล่ะก็รัสเซียก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมมาล่าแสงเหนือกัน แต่การเดินทางอาจจะต้องนั่งเครื่องต่อไปยังมูร์มรังส์ เมืองตอนเหนือของรัสเซีย เพื่อชมแสงเหนืออีกต่อหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นความงดงามของธรรมชาติที่เพื่อนๆ จะได้รับก็คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม   5.ประเทศมอนเตเนโกร พิกัด: Montenegro มอนเตเนโกร เป็นประเทศมีขนาดไม่ใหญ่มากนักแยกตัวจากยูโกสลาเวีย ชื่อมีความหมายว่า ภูเขาดำ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย เมืองกอเตอร์ เป็นเมืองที่เก่าแก่ชายฝั่งของประเทศมอนเตเนโกร ว่าด้วยสถาปัตยกรรมยุคกลางและมรดกทางวัฒนธรรมมากมาย โดยที่นี่ยังได้ขึ้นเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและมรดกทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ปี 1970 ทุกอย่างในเมืองมีสถานที่เก่าแก่มากมายรวมถึงโบสถ์ที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 809 แน่นอนว่าภูมิประเทศเป็นภูเขาล้อมรอบทำให้เมืองแห่งนี้มีความสวยงามเหมือนหลุดออกมาจากจินตนาการ มองไปทางไหนก็เจอแต่ธรรมชาติบวกกับสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศชวนอันน่าหลงไหลรับรองว่าทุกคนจะได้รับวิวที่สวยงามไม่เหมือนที่ไหนเลยล่ะ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง โบสถ์พระแม่มารีย์แห่งหิน ที่ตั้งอยู่ใจกลางอ่าวโคเตอร์เป็นเกาะเล็กๆ ถูกสร้างขึ้นปี 1632    6.ประเทศโครเอเชีย พิกัด: Croatia ประเทศโครเอเชียหลายคนอาจจะเคยได้ยินบ่อยๆ ถ้าเป็นคนดูฟุตบอล แต่เรื่องท่องเที่ยวที่นี่ก็ไม่เป็นสองรองใคร มีความงามของเมืองและวิวทิวทัศน์ขึ้นชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีมรดกโลกอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าใครต่างก็ยืนยันว่าโครเอเชียเป็นประเทศที่งดงามและควรค่าแก่การไปสัมผัสบรรยากาศริมทะเลเป็นที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นยังได้สมยานามว่า ดินแดนพระจันทร์เสี้ยว มาจากรูปร่างของประเทศที่คล้ายกับพระจันทร์เสี้ยวหรือเกือกม้า  สถานทีท่องเที่ยวที่แนะนำอย่างเช่น อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่  เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย มีน้ำตก ป่าไม้ และทะเลสาบอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ไม่ควรพลาดเลย คือ ความงามของ บิ๊กวอเตอร์ฟอลส์ น้ำตกใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามและยังมีบริการล่องเรือในทะเลสาบโกมยาค ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีที่ท่องเที่ยวอย่างเมืองเก่าโทรเกียร์  เป็นเมืองที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองมรดกโลกจาก UNESCO ตั้งแต่ปี 1997 มีความสวยงามเข้ากันอย่างลงตัวด้วยภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากอิฐ  อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนถึงประเทศโครเอเชียก็คือ เมืองดูโบรฟนิค เป็นที่รู้จักในนักท่องเที่ยวว่าเป็น ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก ความสวยและบรรยากาศเรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวยุโรปตะวันออกที่เพอร์เฟค ! เป็นไงกันบ้าง ?? บอกแล้วว่าอย่าตัดสินแค่ว่าเพราะเขาไม่ฮิตกันจริงมั้ยล่ะครับ? นี่เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเริ่มจดลิสต์กันไว้แล้วว่าอยากไปประเทศไหนใน 6 ประเทศนี้ก่อนดี แต่ถ้าให้แอดมินเลือกส่วนตัวแอดมินชอบประเทศโครเอเชีย ดินแดนพระจันทร์เสี้ยวของยุโรป เพราะภูมิประเทศของเขาเรียกได้ว่าอย่างกับหลุดมาในหนังยังไงยังงั้นเลย มันสุดจริง แต่ประเทศอื่นก็มีดีแตกต่างกันไปอยู่ที่เพื่อนๆ แล้วล่ะครับ ว่าชอบแบบไหน เลือกได้แล้วก็กดจองตั๋วออนทัวร์กับ Tourkrub กันเลยยยย 

อ่านเพิ่มเติม
Merry Christmas !!  15 สถานที่เที่ยววันคริสต์มาส คริสต์มาสนี้เที่ยวไหนดีนะ
Merry Christmas !! 15 สถานที่เที่ยววันคริสต์มาส คริสต์มาสนี้เที่ยวไหนดีนะ

04 ธ.ค. 62

1.Lapland (Finland) พิกัด: Lapland คริสต์มาสเที่ยวไหนดี ? ถ้าพูดถึงเทศกาลคริสต์มาสต้องนึกถึงที่นี่เลยกับประเทศฟินแลนด์ ที่ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์มีความเชื่อกันว่ามี ซานตาคลอส ตัวจริงอาศัยอยู่ที่เมือง Rovaniemi ใน แลปแลนด์ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นแหล่งดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวให้เดินไปพบเขาและยังสามารถช่วยแจกของในเทศกาลคริสต์มาสหรืออาจจะอยากทำให้ความฝันในวัยเยาว์เป็นจริงขึ้นมาก็ได้นั่นก็คือไปขอของขวัญจากคุณลุงซานตาคลอส ที่นี่จะมีผู้คนมากมายต่างเฝ้ารอการมาของซานต้าอยู่หน้าบ้านเป็นจำนวนมากในวันเทศกาล หรืออีกทางเลือกหนึ่งให้ไปที่ เมือง Kuusamo เป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับคนที่ไม่ชอบเบียดเสียดผู้คน และต้องการสัมผัสกับความหนาวยะเยือกของหิมะแต่กลับอบอุ่นด้วยเตาผิงอันน้อยในค่ำคืนแห่งความสุข 2. Nuremberg (Germany) พิกัด: Nuremberg ในเทศกาลคริสมาสต์ มีอยู่เมืองนึงที่ถูกขานนามว่าเป็นเมืองคริสมาสต์หมายเลข 1 แห่งประเทศเยอรมนีนั้นคือ นูเรมเบิร์ก ซึ่งทุกปีผู้คนจำนวนมากพากันออกมาจับจ่ายซื้อของ เพื่อเฉลิมฉลอง ไฮไลท์ คือตลาดคริสต์มาส ที่หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นอบเชย เหล้าองุ่น อัลมอนด์คั่ว และไส้กรอกสูตรเฉพาะหรือจะเป็นบ้าน Volfshera ซึ่งจะจัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ของวันคริสต์มาส โดยแต่ละปีจะนำเสนอเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับเทศกาลเฉลิมฉลองของคริสต์มาส เหมาะสำหรับใครที่ไม่ชอบความพลุกพล่านก็สามารถมาหาความสงบได้ หรือจะเป็นที่ Dresden ก็สวยไม่แพ้กันที่นี่รวมความแตกต่างของตลาดคริสมาสต์ มาเข้าด้วยกันมีทั้งเสียงดนตรีและเสียงการเฉลิมฉลองทำให้รู้สึกเข้าถึงบรรยากาศเทศกาลคริสมาสต์ 3. Vienna (Austria) พิกัด: Vienna เวียนนาเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในยุโรปสำหรับเทศกาลคริสมาสต์ ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เป็นเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในจัตุรัสใจกลางกรุงเวียนนาจะกลายเป็นตลาดคริสมาสต์ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่คึกคักและมีกลิ่นอายของความดั้งเดิม เทศกาลคริสมาสต์ในกรุงเวียนนาเปรียบเสมือนเวทมนต์ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในหนึ่งปี มีการตกแต่งเต็มไปด้วยต้นเคริสมาสต์ ของขวัญคริสมาสต์ เครื่องดื่ม ขนม  ครัวซอง และยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่ชวนให้เด็กสนุกสนาน หากยังไม่รู้ว่าคริสต์มาสเที่ยวไหนดี ที่เวียนนาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรมาเยือนด้วยตัวเองสักครั้งในชีวิต 4. Rome (Italy) พิกัด: Rome กรุงโรมคงไม่มีใครไม่รู้จักที่ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี ที่มีความโดดเด่นด้านประวิติศาสตร์แต่ยังมีอีกสีสันนึงเป็นสีสันแห่งคริสต์มาสจึงกลายเป็นความสวยงามของนานาต้นไม้ อย่าง ต้นส้ม ไซปรัส และปาล์ม แน่นอนว่าประเทศอิตาลีเป็นประเทศที่คุ้นเคยกับหิมะกันแทบทุกฤดูกาล ทำให้คนกรุงโรมไม่ตื่นเต้นกับหิมะ แต่ครึกครื้นกับสีสันพันธุ์ไม้เพื่อเฉลิมฉลองวันสุดพิเศษในเทศกาลคริสต์มาส ทั่วเมืองจะอบอวลด้วยเทศกาลขนมอันหลากหลาย ต้นคริสต์มาสยักษ์ใจกลางเมืองที่จะมอบให้นครรัฐวาติกันนั้นก็ได้รับของขวัญประดับประดาจากนานาประเทศ ยิ่งทำให้เทศกาลคริสต์มาสในกรุงโรมกลายเป็นปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก 5. London (English) พิกัด: London กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายของเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวต้อนรับเทศการลคริสต์มาส เป็นเมืองที่สามารถพบกับซานตาครอสได้ทุกสถานที่ มีการประดับประดาไฟสวยงาม มีต้นคริสต์มาสเกือบทุกสถานที่สำคัญในกรุงลอนดอนไม่ว่าจะเป็น Oxford street, Regent Street, Mayfair, Harrods ซึ่งไฟเริ่มเปิดตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน หรือจะไปเดินชมไฟที่ London eye ลากยาวผ่าน Southbank ไปถึง Tate modern ข้ามไป St. Paul แถวๆ southbank จะมี Chrismas Market ให้ช๊อปปิ้งกัน หรือจะ Covent Garden ก็เป็นทางเลือกนึง และอย่าลืมไปเดินเล่น Winter Wonderland ที่ Hyde Park มีบรรยากาศอากาศเย็นๆ พร้อมดื่ม Mulled wine แล้วไปเล่น ice skating ก็ทำให้คุณรู้สึกเข้าเทศกาลคริสต์มาสกันแบบฟินๆ คริสต์มาสไม่รู้เที่ยวไหนดีลอนดอนก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ทัวร์ครับแนะนำ ! 6. ICONSIAM (Thailand) พิกัด: ICONSIAM คริสต์มาส เที่ยวไหนดี กลับมาที่บ้านเรากันบ้างอย่าง ICONSIAM ที่เที่ยวแห่งใหม่ ตั้งอยู่ถนนเจริญนคร กรุงเทพ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทาง ICONSIAM จัดงาน “ICONSIAM Presents Bangkok Illumination 2019” มหัศจรรย์ประดับประดาแสงไฟและขบวนต้นคริสต์มาสเอกลักษณ์ไทยยาวที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมเฉลิมฉลองบรรยากาศแห่งความสุขต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่ยิ่งใหญ่ตระการตา อีกทั้งด้านในเราจะได้พบกับขบวนต้นคริสต์มาสที่ยาวที่สุด ความยาวกว่า 400 เมตร ตกแต่งประดับไฟสุดตระการตา  แน่นอนว่าอยากได้มุมสวยทางเราแนะนำว่าให้ขึ้นลิฟต์ไปชั้น 3 และ 4 บริเวณร้าน True Branding Shop บอกเลยว่าจากมุมนี้ จะสามารถมองเห็นไฟ และโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างสวยงาม ใครๆ ที่ไม่อยากเดินทางไปยังต่างประเทศ ก็ขอแนะนำ ICONSIAM ก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่จะมาเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส ถึงจะไม่ได้มีหิมะเหมือนใครเขา แต่แน่นอนว่าความอลังการเราไม่แพ้ที่ไหนๆ Facebook: https://www.facebook.com/ICONSIAM 7. Granada (Spain) พิกัด: Granada สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในช่วงคริสต์มาส ของประเทศสเปน คงหนีไม่พ้นเมืองกรานาดา ที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างพากันมาสัมผัสความงดงามของหิมะที่ปกคลุมยอดเขา Sierra Nevada ซึ่งสถานที่นี้ถือเป็นสุดยอดของการเล่นสกี นอกจากนี้ยังมีขบวนพาเหรดสุดแฟนตาซี และอีกสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของเมืองกรานาดา คือ พระราชวัง Alhambra ที่มีความงดงามคงความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศสเปน ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเซียรา เนวาดา ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของสกีแล้วล่ะก็เราขอแนะนำเมืองนี้เลย    8. New York (USA) พิกัด: New York ใครๆ ก็คงอยากไป นิวยอร์ค ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ที่เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งที่ไม่มีสิ้นสุดอย่าง Fifth Avenue พร้อมกับบรรยากาศสีสันในช่วงเทศกาลกับต้นคริสต์มาสจำนวนมากภายในเมืองหรือจะเป็นการไปเล่นสกีน้ำแข็ง และสิ่งที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างเลยก็คือชมสะพานบรูคลิน พร้อมฟังเพลงประสานเสียงที่ ไทม์แสควร์ และเดินเล่นรอบเมืองที่ประดับประดาด้วยแสงสี สัญลักษณ์แห่งเทศกาลคริสต์มาสกิจกรรมแน่นขนาดนี้แน่นอนว่าคงไม่อยากพลาดเทศกาลคริสต์มาสที่นิวยอร์คกันล่ะสิ 9. Amsterdam (Netherlands) พิกัด: Amsterdam เมืองอัมสเตอร์ดัม ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์รวมแห่งร้านกาแฟชื่อดัง มีความคลาสสิกผสมผสานระหว่างตรอกแคบและคลองอันแปลกตา ทำให้ได้บรรยากาศแบบ City of Angels ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสมีการประดับประดาไฟสว่างไสวทั่วเมือง นักท่องเที่ยวจะได้พบกับ ซานตาคลอสต้นแบบ ซึ่งเป็นนักบุญแห่งฮอลแลนด์ และใครอยากจะขอพรให้สมปราถนา แนะนำให้มุ่งตรงไปที่ พิพิธภัณฑ์ Amstelkring หรือ โบสถ์แห่งความลับ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่าน Red Light 10. Prague (Czech Republic) พิกัด: Prague กรุงปราก คงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ว่ากันว่าในช่วงที่อบอุ่นที่สุดของฤดูหนาว ปราก ก็ยังคงมีหิมะตก แน่นอนว่าในยามค่ำคืนแสงของไฟที่ประดับอยู่ผสมผสานเข้ากับหิมะสีขาวให้ความสวยงามและบรรยากาศที่หนาว เหน็บซึ่งทุกแห่งหนจะมีเหล้าองุ่นขายเพื่อคลายอาการสั่น ผู้คนที่นี่นิยมประดับประดาต้นไม้ไว้ในถัง และร่วมกันบริจาคอุปกรณ์ตกแต่งให้กลายเป็น Bethlehem ดินแดนแห่งพระประสูติกาลขององค์พระเยซูคริสต์ 11. Oslo  (Norway) พิกัด: Oslo ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ใครที่ชื่นชอบหิมะคงหนีไม่พ้น ประเทศนอร์เวย์ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ประเทศที่มีหิมะปกคลุมมากที่สุดในโลกถ้าอยากเห็นกับตาต้องไปสัมผัสและกระโดดสกีที่ Holmenkollen บนเขาออสโลสักครั้ง สามารถเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินไป หรือใครที่ชอบความคลาสสิกสามารถเดินทางด้วยกวางลากเลื่อนเป็นกลิ่นอายแบบคริสต์มาสจ๋าๆ และหวังว่าคงได้เจอกับซานตาครอสระหว่างทาง   12. Edinburgh (Scotland) พิกัด: Edinburgh เมืองเอดินบะระ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งย้อนยุค แนะนำว่าใครที่ชื่นชอบให้มาฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่เมืองเอดินบะระ เพื่อเข้าสู่ยุคกลาง ยุคแห่งประเพณีและวัฒนธรรมการเป่าปี่ ขับขานเพลงคริสต์มาสแบบดั้งเดิม พร้อมเพลิดเพลินกับเทศกาลอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงประสานเสียง โชว์คาบาเร่ต์ ขบวนแห่ยานไวกิ้ง และตระการตากับพลุสุดอลังการ ทำให้เมืองเอดินบะระ เป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก 13. Paris (France) พิกัด: Paris แน่นอนว่าไม่มีทีไหนที่สามารถจะสู้ความเก๋ เลิศ หรู ไปกว่ากรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสได้อีกแล้ว ยิ่งช่วงฤดูหนาวของทุกปีก็จะมีการประดับประดาไฟตามสถานที่สำคัญไม่ว่าจะเป็น หอคอยไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์หรือตามร้านค้าต่างๆ ที่ไม่ควรพลาดเลยคือต้นคริสต์มาสที่มีความสูง 27 เมตร ตั้งอยู่ ลาฟาแยตต์แกลอรี่ ซึ่งเป็นเป็นศูนย์การค้าชื่อดังของกรุงปารีส เอาล่ะได้เวลาสวมโค้ท ใส่บูทสูงแล้วไปสนุกกันแล้ว! 14. Stockholm (Sweden) พิกัด: Stockholm กรุงสตอกโฮลม์ ประเทศสวีเดน ตั้งอยู่แถบสแกนดิเนเวีย เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมพื้นเมืองและวัฒนธรรมร่วมสมัย รวมไปถึงเทศกาลคริสต์มาส กิจกรรมประจำปีนั่นก็คือช้อปปิ้งตามตลาดคริสต์มาสที่ตกแต่งอย่างพลิ้วไหวไปตามเทศกาล แน่นอนว่าบรรยากาศที่กรุงสตอกโฮลม์ มีความหนาวเหน็บ เมื่อเดินทางมาถึงขอแนะนำให้คุณนั่งจิบไวน์พร้อมขนมรสขิงอันเลื่องชื่อของที่นี่ซะก่อน 15. Tokyo (Japan) พิกัด: Tokyo มาถึงประเทศญี่ปุ่น ที่ขาดไม่ได้เลยคือความโดดเด่นเรื่องการจัดไฟที่สวยงามอย่างมากไม่ว่าจะเป็น Caretta Shiodome ที่จัดมาต่อเนื่องเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว, ถนน Keyakizaka, Tokyo Disneyland, และอีกหลากสถานที่ทั่วญี่ปุ่น หรือจะเป็น Nabana no Sato Winter Illumination หนึ่งในเทศกาลแสงสีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีตลาดคริสต์มาส มีกลิ่นอายแบบยุโรป ไม่ว่าจะสถาปัตยกรรมของตัวร้านค้า ประเภทของสินค้าที่วางจำหน่าย รวมถึงศิลปะการตกแต่ง ตลาดคริสมาสต์ที่มีชื่อเสียงมากคือ “Tokyo Christmas Market” จัดขึ้นที่สวน Hibiya Park แน่นอนว่าดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากสำหรับเทศกาลคริสต์มาสในประเทศญี่ปุ่น 15 ที่เที่ยวในเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆ ใครมีแพลนไปไหนกันบ้างแล้วชูมือหน่อย วันหยุดยาวทั้งทีไม่เที่ยวล่ะก็เสียดายแย่ แต่ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะไปไหนดีมาจดลิสต์จาก Tourkrub ได้เลยเพราะเรามีสถานที่สวยๆ มาแนะนำเพื่อนๆ แน่นอน! ขอให้เทศกาลคริสต์มาสนี้มีความสุขกันทุกคนนะครับ อ่านต่อ  Happy New Year ปีใหม่นี้ เที่ยวประเทศไหนดีนะ ?  เที่ยวญี่ปุ่นปีใหม่ไฉไลกว่าเดิม ! 10 กิจกรรมเที่ยวญี่ปุ่นช่วงปีใหม่

อ่านเพิ่มเติม
นับถอยหลังข้ามปี กับ 15 สถานที่เคาท์ดาวน์สุดปังจากทั่วโลก
นับถอยหลังข้ามปี กับ 15 สถานที่เคาท์ดาวน์สุดปังจากทั่วโลก

11 ธ.ค. 62

1. ICONSIAM (Bangkok,Thailand) แผนที่: ICONSIAM ในช่วงเวลาเคาท์ดาวน์ปีใหม่นี้คงหนีไม่พ้น ไอคอนสยาม หนึ่งในแลนด์มาร์คของกรุงเทพ เป็นสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ในปี 2020 การันตีความอลังการและความสวยงาม พร้อมโลเคชั่นชมพลุริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พร้อมถ่ายรูปไปกับไฟที่ทางไอคอนสยาม ส่งมอบความสุขและเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ 2. CentralWorld (Bangkok,Thailand) แผนที่: CentralWorld สถานที่ยอดฮิตเคาท์ดาวน์ปีใหม่ในกรุงเทพ ใครๆก็คงต้องนึกถึงสถานที่แห่งนี้เป็นอันดับแรกอย่างCentralWorld ห้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงมีการเดินทางที่สะดวกสบาย พร้อมทั้งมีการประดับไฟแสงสีสวยงาม นับว่าเป็นแลนด์มาร์คในสถานที่เคาท์ดาวน์ของทุกๆปี พร้อมกับคอนเสิร์ตสนุกๆในคืนส่งท้ายปีเก่าอีกทั้งชมการแสดงพลุและดอกไม้ไฟที่ทาง CentralWorld ขนมาให้ชมอย่างยิ่งใหญ่ 3. Asiatique The Riverfront (Bangkok,Thailand) แผนที่: Asiatique The Riverfront  อีกหนึ่งพิกัดที่ไม่ควรพลาดนั้นก็คือ Asiatique The Riverfront ในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เป็นสถานที่ชิวๆ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เนรมิตรท่าเรือให้กลายเป็นโลกอนาคตที่รวมความสนุก และความบันเทิง  เพลีดเพลินไปกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมกับชมการแสดงพลุและดอกไม้ไฟ อีกทั้งยังมีคอนเสิร์ตของเหล่าดาราที่จะพาคุณสนุกไปกับค่ำคืนส่งปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 4. New York City (United States of America) แผนที่: New York City จัดว่าเป็นสถานที่อันดับหนึ่งในการเคาท์ดาวน์ปีใหม่เลยทีเดียว ในย่าน Time Square ใจกลางเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีผู้คนจากทั่วโลกพากมารวมตัวเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในปีใหม่ ที่จะถึงนี้จะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ที่ไม่แพ้ปีก่อนๆที่ผ่านมาไฮไลท์ของการเคาท์ดาวน์ที่จัตุรัส Time Square แห่งนี้อยู่ที่การแสดงจากศิลปินชื่อดังระดับโลก พร้อมการแสดงพลุดอกไม้ไฟแสงสีเสียง และอีกหนึ่งไฮไลท์คือการโปรยกระดาษสีต่างๆในช่วงเวลานับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินไปกับความสุข แน่นอนว่าเวลาจะช้ากว่าประเทศไทยอยู่ 12 ชั่วโมง สำหรับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศการเคาท์ดาวน์ปีใหม่ สุดอลังการสักครั้งในชีวิตแนะนำเลยว่าคุ้มค่าอย่างมาก 5. Sydney (Australia) แผนที่: Sydney อีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่ผู้คนต่างพากันไปเคาท์ดาวน์ที่ อ่าวซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งนับเป็นสถานที่แห่งแรกของโลกที่เข้าสู่ปีใหม่ก่อนใครเพื่อน ไฮไลท์อยู่ที่การแสดงดอกไม้ไฟสุดอลังการหลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่บริเวณโอเปร่าเฮ้าส์ การแสดงน้ำตกดอกไม้ไฟจากสะพานฮาร์เบอร์ และการแสดง Habour of Light Parade พาเหรดเรือประดับไฟสวยงามในอ่าวซิดนีย์ ทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับบรรยกาศสุดเกินคำบรรยาย แน่นอนว่าเวลาประเทศออสเตรเลียเร็วกว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นกะเวลากันให้ดีจะได้ไม่พลาดช่วงเวลาแห่งความสุข 6. London (England, United Kingdom ) แผนที่: London ข้ามมาฝั่งยุโรปกันบ้าง สถานที่ยอดฮิตคงไม่พ้นประเทศอังกฤษ รับรองว่าไม่แพ้กับเมืองใหญ่อื่นๆแน่นอน บริเวณสถานที่จัดงานจะตั้งอยู่บริเวณหอนาฬิกาบิ๊กเบนโดยไฮไลท์จะอยู่ที่การรอฟังเสียงนาฬิกาบิ๊กเบนส่งเสียงสัญญาณเตือนว่าเข้าสู้ปีใหม่กันแล้ว พร้อมชมการแสดงพลุดอกไม้ไฟ และยังมีสะพานทาวเวอร์บริดจ์ที่ประดับไปด้วยไฟแสงสีเสียงตระการตา แต่ว่าเวลาในประเทศอังกฤษจะช้ากว่าประเทศไทยถึง 7 ชั่วโมงต้องกะเวลากันดีๆ อีกที 7. Berlin (Germany) แผนที่: Berlin อีกหนึ่งสถานที่เคาท์ดาวน์ที่ขึ้นชื่อว่าจัดยิ่งใหญ่คงไม่พ้นที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงสุดอลังการจะว่าใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปเลยก็ว่าได้ สถานที่จัดงานจะอยู่บริเวณประตูชัยบรันเดนบูร์ก ซึ่งไฮไลท์ก็อยู่ที่ช่วงเคาท์ดาวน์จะมีการแสดงดอกไม้ไฟด้านหลังบริเวณประตูชัย อีกทั้งยังมีการแสดงจากศิลปินดังระดับโลกให้ได้ชมแล้วยิ่งไปกว่านั้นยังมีการแสดง EDM ที่สาวกต่างพากันมาเต้นกันสุดเหวี่ยง เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสนุกสนาน สำหรับเวลาการเคาท์ดาวน์ในประเทศเยอรมนีจะช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง  8. Dubai (United Arab Emirates) แผนที่: Dubai เป็นอีกประเทศที่มีเทศกาลเคาท์ดาวน์ ผู้คนต่างพากันพูดถึง เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีการจัดงานตั้งแต่ตามชายฝั่งและตามตึกสูงทรงสวยต่างๆ รวมระยะทาง 60 ไมล์ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่ Burj Khalifa ตึกสูงระฟ้าที่มีความสูงที่สุดในโลก เมื่อเวลาเดินมาถึงวินาทีขึ้นปีใหม่ จะมีการจุดพลุดอกไม้ไฟที่ตัวตึก พร้อมการแสดงแสงสีเสียง มีความอลังการสวยงาม ซึ่งเวลาดูไบช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง 9. Singapore แผนที่: Singapore มาแถวเพื่อนบ้านใกล้ๆ อย่างสิงคโปร์นี่เอง โดยงานเคาท์ดาวน์จะจัดขึ้นบริเวณอ่าวมาริน่าเบย์ ภายในงานมีทั้งการแสดงแสงสีเสียงความบันเทิงขบวนพาเหรดและการแสดงดอกไม้ไฟสุดตระการตาถือว่าเป็นไฮไลท์หลักของงาน ในแต่ละปีก็จะมีการเปลี่ยนธีมงานของแต่ละปี และอีกหนึ่งไฮไลท์คือการเขียนคำขอพรบนเว็บไซต์ที่ทางผู้จัดงาน ซึ่งคำขอพรและชื่อของคุณจะไปปรากฎอยู่บนโปรเจ็คเตอร์ขนาดยักษ์ที่ตึกโรงแรม The Fullerton Hotel Singapore เป็นอีกความพิเศษที่น่าสนใจอย่างมาก ซึ่งเวลาสิงคโปร์เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง เป็นเวลาที่ไม่แตกต่างกันมาก   10. Taipei (Taiwan) แผนที่: Taipei ที่สุดฮิตคงหนีไม่พ้นไทเป ประเทศไต้หวัน ก็ฮิตติดอันดับของโลกเลยก็ว่าได้ในสถานที่จัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่หรือเคาท์ดาวน์ นอกจากมีการแสดงบนเวทีจากดารานักร้องมากมายแล้วนั้น ไฮไลท์ของงานที่ทุกคนพากันรอคอยคือ การแสดงดอกไม้ไฟสุดตระการตาเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ที่ ตึก Taipei 101ที่โดนเด่นในเมืองไทเป จุดรับชมดอกไม้ไฟสามารถชมได้ 2 จุด สามารถชมได้ทั้งภายในตึกและภายนอกของตึก Taipei 101 ทำให้เก็บภาพได้หลากหลายมุม ซึ่งเวลาที่ไทเปนั้นเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง 11. Huis Ten Bosch (Japan) แผนที่: Huis Ten Bosch ใครๆ คงไม่อยากพลาดงานเทศกาลเคาท์ดาวน์ที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะมีความอลังการด้วยดอกไม้ไฟนับร้อยดวงพุงสู่ท้องฟ้าอย่างต่อเนื่องนาน 20 นาที เป็นการแสดงเทศกาลดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย 12. Hong Kong แผนที่: Hong Kong ถ้าพูดถึงสถานที่ชมพลุดอกไม้ไฟที่งดงามที่สุดในเอเชีย คงหนีไม่พ้น ฮ่องกง ซึ่งในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกปีจะมีการแสดงพลุและดอกไม้ไฟเหนืออ่าววิคตอเรียที่ยิ่งใหญ่อลังการน่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้ทุกๆปี ฮ่องกงกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมักนิยมมาเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กัน 13.  Shanghai (China)  แผนที่: Shanghai เป็นอีกสถานที่หนึ่งในที่สำคัญของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ซึ่งทำให้ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในปี 2020 นี้ได้มีการจัดไฟสว่างไสวทั่วเมืองเซี่ยงไฮ้ และยังมีการแสดง HARBIN ICE & SNOW WORLD หรือที่รู้จักกันดีในชื่อว่า BINGXUE LARGE WORLD ประติมากรรมน้ำแข็งสุดล้ำที่เหล่านักท่องเที่ยวต่างพากันมาชมความงดงามในช่วงนี้ ถือเป็นช่วงฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่ของจีนอีกด้วย 14. Rio De Janeiro (Brazil) แผนที่: Rio De Janeiro ใครกำลังมองหาบรรยากาศปาร์ตี้ริมหาดทรายต้อนรับช่วงสิ้นปีแล้วละก็ มา ริโอเดอจาเนโร ไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะที่หาดโคปาคาบาน่า มีการจัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แบบสุดเหวี่ยง ด้วยคอนเสิร์ตสุดมันส์ พร้อมกับชมพลุดอกไม้ไฟ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานตามสไตล์บราซิลผู้รักการปาร์ตี้กันอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าในวันงานจะต้องใส่ชุดสีขาวเพราะเขามีความเชื่อที่ว่ามันจะนำความโชคดีมาให้  15. Las Vegas (United States of America) แผนที่: Las Vegas  เป็นอีกสถานที่ที่ผู้คนต่างพากันไปในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คงหนีไม่พ้น  Las Vegas หากคุณเป็นคนที่หลงรักแสงสียามค่ำคืน ต้องไม่พลาดที่จะไปสัมผัสช่วงเวลาปีใหม่สุดตระการตากัน ซึ่งปกติแล้วลาสเวกัสก็เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีตลอดทั้งปีอยู่แล้ว แต่สำหรับช่วงฉลองปีใหม่จะยิ่งพิเศษกว่านั้น เพราะจะมีการปิดถนนเพื่อเฉลิมฉลอง เมื่อมาถึงเวลาสิ้นปีเหล่าคาสิโนต่างๆ ก็จะพร้อมใจกันจุดพลุฉลองกันทำให้ภาพออกมาสวยงามอย่างมากบวกกับแสงสีเสียงของตัวเมือง ยิ่งทำให้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง หยุดยาวปีใหม่ใครยังไม่มีแพลนในหัว เอาไอเดีย 15 สถานที่ เคาท์ดาวน์ปีใหม่ เราไปขายคนข้างๆ ได้เล้ยย รับรองว่าปีใหม่นี้จะต้องเป็นปีที่ดีที่สุดอีกหนึ่งปีแน่นอน เริ่มต้นปีด้วยความสุขแล้วก็ขอให้ทั้งปีหน้าเป็นปีที่ดีทั้งปีเลยนะครับ

อ่านเพิ่มเติม
เที่ยวยุโรป 5 ประเทศที่ไม่ควรพลาด เก็บให้หมดอย่าให้เหลือ
เที่ยวยุโรป 5 ประเทศที่ไม่ควรพลาด เก็บให้หมดอย่าให้เหลือ

23 ม.ค. 63

ทวีปยุโรป ถือเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยเมืองแห่งความโรแมนติค แต่ก็ต้องยอมรับว่าการจะไปในแต่ละครั้งนั้นต้องใช้งบประมาณเยอะกว่าการเที่ยวในประเทศเอเชีย แถมการเดินทางก็ใช้เวลานานมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุผลนี้ทำให้คนนิยมเที่ยวในประเทศเอเชียกันมากกว่า แต่ด้วยอากาศ และบรรยากาศที่หาไม่ได้ในประเทศแถบเอเชีย และมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจที่แตกต่างจากเราทำให้การไปท่องเที่ยวในยุโรปถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และน่าไปสักครั้งในชีวิต วันนี้เราเลยจะมาแนะนำสำหรับคนที่อยากไปประเทศแถบยุโรปเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องของบรรยากาศที่ดีคุ้มค่าสมกับราคาที่จ่ายออกไป จะเดินทางทั้งทีใช้เวลามากพอสมควร แต่ไหนๆ ก็ไปแล้วเราเลยอยากจะแนะนำให้เที่ยวหลายๆ ประเทศไปเลยจะได้ไม่ต้องเทียวบินไปบินมาให้เสียเวลา  เราแนะนำเส้นทางยอดฮิตในประเทศยุโรปทั้งหมด 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศเยอรมัน ฮังการี เช็ค สโลวัค และออสเตรีย ซึ่งทั้ง 5 ประเทศนี้อยู่ติดกันเกือบทั้งหมดทำให้ไม่ต้องเดินทางนาน แถมได้เปิดประสบการณ์ใหม่อีกด้วย แนะนำให้เก็บเงินกันให้เต็มที่ แล้วปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการท่องเที่ยวที่สุดแสนจะเพอร์เฟคนี้ไปดูกันเลยว่าจะคุ้มค่าสมการรอคอยมากแค่ไหน เที่ยวยุโรปสุดคุ้ม เริ่มต้น 27,999 บาท จองทัวร์ยุโรป กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) 1.เที่ยวยุโรป - เยอรมนี        พิกัด: Germany เริ่มต้นการเดินทางด้วยประเทศที่ใหญ่ที่สุดใน 5 ประเทศนี้ ได้แก่ ประเทศเยอรมัน เป็นประเทศที่นำที่ 1 ได้เรื่องระบบเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการศึกษาที่เข้มแข็ง ทำให้เรื่องภาษาไม่เป็นปัญหาของคนที่นี่เพราะเราสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับเขาได้แบบไร้ปัญหา สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในประเทศเยอรมันที่เราอยากจะแนะนำให้ไปก็คือ เมืองมิวนิก ยิ่งเป็นช่วงกันยายน-พฤศจิกายน ด้วยแล้วรับรองว่าสวยคุ้มค่าการในนั่งเครื่องแน่นอนเพราะเพื่อนๆ จะได้เห็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แล้วยิ่งขึ้นไปดูที่ ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) ด้วยแล้วรับรองว่าบรรยากาศโรแมนติคสุดๆ มโนตัวเองเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์กันได้เลย ด้วยสถาปัตยกรรมสวยงามราวกับในเทพนิยายจนได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองในฝันแห่งยุโรปกลาง ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ ถือเป็นปราสาทที่สวยที่สุดในโลกก็คงจะไม่มากเกินไปนัก   2.เที่ยวยุโรป - ฮังการี  พิกัด: Hungary อีกประเทศที่น่าสนใจ และควรมาเยือนสักครั้งในชีวิต เมืองแห่งสถาปัตยกรรมที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายสถานที่ อีกทั้งบรรยากาศนั้นโรแมนติคสุดๆ ไปเลย จะไปทั้งทีแนะนำให้ไปเมืองหลวงอย่าง บูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงประจำประเทศฮังการีที่มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” เพราะเมืองนี้ยังตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำดานูบเพราะฉะนั้นทำให้ต้องมีสะพานเชื่อมอย่าง สะพานเชนเซเชนยี สะพานที่พาดระหว่างแม่น้ำดานูบเพื่อเชื่อมฝั่งบูดากับฝั่งเปสต์ สะพานนี้ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของประเทศฮังการีเลยก็ว่าได้ นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมประเทศจึงไม่พลาดที่จะแวะมาเก็บภาพไฮไลท์ของประเทศฮังการีกันที่นี่   3.เที่ยวยุโรป - เช็ก  พิกัด: Czech Republic ต่อกันที่ ประเทศเช็ก คงไม่มีใครไม่รู้จักเมืองหลวงที่สวยงาม และมีบรรยากาศที่โรแมนติคอย่างกรุงปราก ที่ต้องบอกเลยว่าบรรยากาศคือสุดจริง ใครมาฮันนีมูนแนะนำที่นี่เลย ได้อารมณ์คล้ายๆ กรุงปารีสย่อยๆ เลยก็ว่าได้ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมที่สวยงามระดับโลกที่คุณไม่ควรพลาด สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในกรุงปรากก็คือสถาปัตยกรรมแบบโกธิคอย่าง ปราสาทปราก (Prague Castle)  ที่ได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทำงานของประธานาธิบดี อีกหนึ่งสถานที่ที่เมื่อมาปราสาทปรากแล้วอยากให้ลองไปชมกันได้แก่ สะพานชาร์ลส์ สะพานหินที่เชื่อมระหว่างเมืองเก่ากับปราสาทปรากไว้ด้วยกัน มีอายุยาวนานกว่า 600 ปี  สามารถเดินเล่นชมเมืองได้ทั้งช่วงกลางวัน และช่วงเย็นรับรองว่าจะได้สัมผัสบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติคจนยากที่จะลืมเลือน   4.เที่ยวยุโรป - สโลวาเกีย พิกัด: Slovakia          สโลวัค หรือ สโลวาเกีย อีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจ แม้จะเพิ่งเข้าร่วมสมาชิกกับกลุ่มทวีปยุโรปก็ตามแต่ความสวยงามของสถาปัตยกรรมก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าประเทศอื่นเลยยิ่งเป็นปราสาทเก่าแก่อย่าง ปราสาทบราติสลาวา (Bratislava Castle) ด้วยแล้วถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างขาติมากมาย ถือเป็นจุดสูงสุดของเมืองบราติสลาวา ทำให้สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของแม่น้ำดานูบได้ชัดเจน นอกจากนั้นบริเวณภายในของปราสาทยังมีจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติสโลวักอีกด้วย   5.เที่ยวยุโรป - ออสเตรีย  พิกัด: Austria เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นชินกับประเทศนี้กันพอสมคววรอยู่แล้วอย่างเมืองแห่งนักดนตรี อย่างประเทศออสเตรีย ต้นกำเนิดนักดนตรีที่มีชื่อเสียงของโลกเช่น โมซาร์ท บีโทเฟ่น และยังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องของมหาวิทยาลัยที่ชาวไทยหลายคนนิยมมาศึกษาต่อ ส่วนเรื่องของบรรยากาศและสถาปัตยกรรมก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของประเทศออสเตรีย เพราะถือว่าเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ล้ำค่าอีกประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้ สถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อได้มาเยือนออสเตรียนอกจากเมืองหลวงที่เราอยากแนะนำแล้วเราอยากให้เพื่อนๆ ได้ไป ฮัลส์สตัทท์ เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบ Hallstatt See โรแมนติกมากแบบกอไก่ล้านตัวเลย ยิ่งถ้าได้จูงมือแฟนไปกันสองคนแล้วล่ะก็เผลอๆ มีอยู่ต่อยาวๆ ไหนๆ ก็เป็นเมืองสุดท้ายในทริปแล้ว เพราะสิ่งแรกที่จะสัมผัสได้ก็คืออากาศอันแสนบริสุทธิ์ เงียบสงบ ผู้คนที่นี่ก็ไม่พลุดพล่านทำให้ชีวิตได้แบบชิวๆ ไม่ต้องรีบเร่ง แนะนำให้เป็นที่สุดท้ายในทริปเลย รับรองว่าติดใจเผลอๆ กลับมาอีกเป็นครั้งที่สองด้วยตัวเมืองที่เล็กๆ น่ารัก โอบด้วยภูเขาสีเขียว อีกด้านหันหน้าเข้ากับทะเลสาบ เดินชมทัศนียภาพสวยๆ ของตัวเมือง กลางวันก็งาม บรรยากาศกลางคืนก็เลิศ มีแสงไฟสวยๆ  ให้เราได้เดินเล่นชมความสวยงามกันแบบชิวๆ อวยขนาดนี้มาเถอะ อยากให้ทุกคนได้เห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ เพราะนี่คือสวรรค์บนดินที่แท้ทรู กลับมาจากทริปท่องยุโรป 5 ประเทศติด ถือเป็นการเปิดประสบการณ์อีกครั้งหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว หากใครพอมีเวลาแนะนำให้มาตามรอยกัน รับรองว่าคุ้มค่าเกินกว่าราคาที่จ่ายไปแน่นอนหรือจะจัดเป็นทริปฮันนีมูนก็น่าสนใจไม่แพ้ที่ไหนๆ เลย    

อ่านเพิ่มเติม
เที่ยวยุโรปแบบสะใจ กับ 20 พิกัด มัดรวมรวมกันมาให้แล้ว
เที่ยวยุโรปแบบสะใจ กับ 20 พิกัด มัดรวมรวมกันมาให้แล้ว

24 ม.ค. 63

ทัวร์ยุโรป - เชื่อว่า 70% ของสายเที่ยวอยากไปเที่ยวต่างประเทศให้ได้สักครั้ง หลายๆ คนอาจคิดว่า คงได้แค่ความฝัน แต่เดี๋ยวนี้การไปเที่ยวยุโรป ไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป ไม่ว่าจะไปเที่ยวเอง หรือที่สะดวกเลยก็คือการไปเที่ยวทัวร์ยุโรป ทัวร์ยุโรปราคาไม่แพงมาก แต่ได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศสุดโรแมนติกได้เลย วันนี้เราจะมาลิสต์เมืองน่าเที่ยวยุโรปแบบสะใจ กับ 20 พิกัด มัดรวมรวมกันมาให้เพื่อนๆ ได้เลือกแล้ว จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้นไปดูกันเลย   ซื้อทัวร์ยุโรป กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub)  คลิกเลย     20 ที่เที่ยว ทัวร์ยุโรป   1.ทัวร์ยุโรป - ลอนดอน อังกฤษ มาเริ่มกันที่ประเทศแรกกับประเทศอังกฤษ เป็นประเทศแรกๆ เลยที่นักท่องเที่ยวต่างตั้งเป็นจุดหมายปลายทางในการพักผ่อน เรียกได้ว่าประเทศแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมายไม่ว่าจะเป็น หอนาฬิกาบิ๊กเบน ลอนดอนอาย หรือจะเป็นพระราชวังบักกิงแฮม และอีกมากมายที่จะชวนให้คุณได้มาสัมผัสกับบรรยากาศของเมืองลอนดอนสุดยอดของความโรแมนติก   2. ทัวร์ยุโรป - ปารีส ฝรั่งเศส มาถึงประเทศที่ใครหลายๆ คนฝันที่อยากจะเดินทางไปสักครั้งในชีวิตอย่างประเทศฝรั่งเศส เป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างมาก ด้วยเรื่องความโรแมนติกและความคลาสสิคเรียกได้ว่าไม่ได้มาเยือนประเทศนี้สักครั้งคงรู้สึกเสียดายอย่างแน่นอน ที่นี่มีสถานที่ชื่อดังอย่าง พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ หอไอเฟล หรือจะเป็นประตูชัยฝรั่งเศส และอีกมากมายชวนให้คุณไปอินกับสถาปัตยกรรมของประเทศนี้   3. ทัวร์ยุโรป  - เวนิส อิตาลี  เมื่อพูดถึง เวนิส หลายคนคงพูดได้เลยว่าเป็นเมืองที่ใฝ่ฝันที่อยากจะไปเยือนสักครั้งในชีวิต เมืองที่ได้รับฉายาว่า เมืองแห่งสายน้ำ เป็นเมืองที่มีความสวยงามอย่างมากเปรียบเสมือนหลุดเข้าไปในโลกนิยายกันแบบนั้นเลย ซึ่งเวนิสมีสถานที่ยอดนิยมอย่าง มหาวิหารซานมาร์โก้ โบสถ์ซานตามาเรีย เดลลา ซาลูเต หรือจะเป็นสะพานรีอัลโตที่สวยงามและยังมีอีกมากมาย    4.ทัวร์ยุโรป - โรม อิตาลี ยังอยู่ที่ประเทศอิตาลี กับกรุงโรม เป็นอีกเมืองที่มีนักท่องเที่ยวแห่กันเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศที่โดดเด่นเรื่องศาสนาและสถาปัตยกรรมแบบโบราณสมัยเก่า ชวนให้คุณได้หลงใหลไปกับประเทศแห่งนี้อย่างแน่นอนอีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง Colosseum ,Roman Forum ,Trevi Fountain, Spanish Steps และอีกมากมาย    5. ทัวร์ยุโรป - เวียนนา ออสเตรีย มาถึงประเทศออสเตรีย กับเมืองเวียนนาดินแดนแห่งเสียงดนตรีและศิลปะ ที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอย่างโรงละครโอเปร่า ที่ไว้ใช้สำหรับแสดงดนตรีคลาสสิค หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์ที่สามารถให้นักท่องเที่ยวเดินชมได้อย่างเต็มที่ พร้อมด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มากมายที่รอให้คุณได้มาสัมผัสบรรยากาศแบบสไตล์ยุโรป   6. ทัวร์ยุโรป - แลปแลนด์ ฟินแลนด์ เมื่อพูดถึงประเทศฟินแลนด์ หลายๆ คนได้ยินคงอยากจะรีบบินไปเยือนสักครั้งแน่ๆ เป็นดินแดนที่มีแต่กลางคืนสำหรับใครที่ชื่นชอบหิมะคงบอกได้ว่าฟินมากแน่นอนเพราะในหนึ่งปีจะมี 3 เดือนที่คุณสามารถเห็นพระอาทิตย์ได้ 24 ชั่วโมง ไฮไลท์ประเทศนี้ยังมีการตามล่าหาแสงเหนือสามารถมองเห็นได้ถึง 200 คืนต่อปี และที่สำคัญยิ่งเป็นช่วงคริสต์มาสแล้วนั้นคงไม่อยากพลาดแน่นอนเพราะเชื่อกันว่าสถานที่แห่งเป็นบ้านเกิดของซานต้าที่เต็มไปด้วยฝูงกวางเรนเดียร์และไซบีเรียนฮัสกี้   7. ทัวร์ยุโรป -  เรคยาวิก ไอซ์แลนด์ ใครที่ได้เคยดูซีรีย์ Game of Throne คงได้เห็นภาพฉากหลังที่สวยงามของหุบเขา ซึ่งภาพนั้นมาจากสถานที่แห่งนี้คือ เรคยาวิก ไอซ์แลนด์ เป็นสถานที่อันโด่งดังที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมสถานที่ถ่ายทำซีรีย์ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของหุบเขาที่เป็นเหมือนกำแพงหิมะสีขาวใหญ่โต พร้อมได้รับชมแสงเหนือสวยงามไปพร้อมกับเก็บเกี่ยวบรรยากาศบริเวณโดยรอบที่มีธารน้ำแข็งชวนให้คุณเก็บภาพไปฝากเพื่อนๆ ของคุณ   8. ทัวร์ยุโรป - เบิร์น สวิตเซอร์แลนด์ มาถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่มีเมืองหลวงตั้งอยู่ยอดเขายุงเฟรา ยอดเขาสูงที่สุดในยุโรปที่ระดับความสูงถึง 3,454 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และเป็นสถานที่ที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรปโดย UNESCO แน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากให้เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ทั้งบนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะระหว่างเดินทางด้วยรถไฟผ่านเส้นทางสายชนบทมีวิวที่เรียกได้ว่าสวยงามตลอดเส้นทางชวนให้คุณเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอย่างแน่นอน   9. ทัวร์ยุโรป - บาเซโลนา สเปน มาถึงประเทศสเปน ที่มีสถานที่ท่องท่องเที่ยวอย่างบาร์เซโลนา เมืองที่เปี่ยมด้วยสถาปัตยกรรมสุดเจ๋งของเกาดี (Gaudi) ไม่ว่าจะเป็นมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลีย (Basilica of the Sagrada Familia) ซึ่งสถานที่แห่งนี้ยังดำเนินการสร้างไม่เสร็จแต่ก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาดูผลงานอย่างไม่ขาดสาย และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเมืองแห่งนี้สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา หรือเจ้าบุญทุ่ม ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก สาวกทีมฟุตบอลคงไม่อยากพลาดการไปชมแมทช์การแข่งขันด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต   10. ทัวร์ยุโรป - เยอรมนี เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวคงจะมีประเทศแห่งนี้อยู่ในอันดับแรกๆ ที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางไปจำนวนไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน เป็นประเทศที่ส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเรื่องการพักผ่อนหลากหลายรูปแบบพร้อมด้วยวิวสวยๆ นอกจากโรงแรมและสปา ยังมีกิจกรรมยอดนิยมของประเทศนี้คือการปั่นจักรยานบนเส้นทางเลียบแม่น้ำ ซึ่งมีให้เลือกถึง 5 เส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนสายกว้างเหมาะกับการชมทิวทัศน์กันแบบครอบครัว หรือจะปั่นทางไกลตลอดหลายร้อยกิโลเมตรชมสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค บาวาเรียน ชมวิวของเทือกเขาสูงและทุ่งหญ้ากว้าง   11. ทัวร์ยุโรป - สต็อกโฮล์ม สวีเดน  เดินทางมาถึงประเทศสวีเดน ดินแดนของชาวไวกิ้งที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ผสมกับสถาปัตยกรรมร่วมสมัยผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งสวีเดนมีเมืองหลวงอยู่ติดปากแม่น้ำติดชายทะเลบาลติค เมืองสตอร์คโฮมยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังดรอตต์นิงฮอล์ม (Drottningholm Palace) ที่เรียกได้ว่าสวยงามอย่างมากและยังมีบรรยากาศที่จะชวนให้คุณหลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์เมืองนี้อย่างแน่นอน   12. ทัวร์ยุโรป - บูดาเปสต์ ฮังการี สำหรับเมืองบูดาเปสต์ ตั้งอยู่ในประเทศฮังการี สำหรับใครที่ชื่นชอบการแช่น้ำพุร้อนคงไม่อยากพลาดที่จะไปเมืองแห่งนี้เพราะเมืองแห่งนี้ได้ชื่อว่า City of baht มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายที่ แต่ที่นิยมมากที่ในเหล่านักท่องเที่ยวคงหนีไม่พ้น Szechenyi baths เป็นโรงอาบน้ำที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดดเด่นด้วยสระน้ำพุร้อนกลางแจ้งขนาดใหญ่ หรือจะเป็นการเดินชมสถาปัตยกรรมโรมัน โกธิค เรเนสซองค์ไปจนถึงศิลปะออตโตมัน ที่จะชวนให้คุณตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศอย่างแน่นอน   13. ทัวร์ยุโรป - Praia da Uras โปรตุเกส ข้ามมาที่ประเทศโปรตุเกสกันบ้าง เรื่องวิวคือสวยเกินเรื่องเกินราว ยิ่งเป็น Praia de Ursa ชายหาดรู้จักกันดีของคนท้องถิ่น ชายหาดแห่งนี้ไม่ได้เดินทางไปง่ายๆ อย่างที่คุณคิด การเข้าไปถึงต้องอาศัยทักษะในการปีนเขานิดหน่อย แต่เมื่อคุณเดินทางมาถึงคุณจะได้สัมผัสกับทรายที่นุ่มและน้ำทะเลที่สวยงาม หรือจะเป็นธรรมชาติโดยรอบชวนให้คุณอินกับบรรยากาศรับรองได้ว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน   14.ทัวร์ยุโรป - เช็ก ปราก เมื่อพูดถึงสาธารณรัฐเช็ก คงหนีไม่พ้นเมืองปรากอย่างแน่นอน เป็นเมืองเก่าที่จะพาเราย้อนไปยังอดีตเมื่อ 700 ปีก่อน ไฮไลท์ของกรุงปรากส่วนมากจะนิยมกันคือ เดินชมจัตุรัสเมืองรับบรรยากาศของเมืองแห่งนี้พร้อมทั้งได้ชมมหาวิหารปรากอันเก่าแก่ กับสะพานชาร์ลส์ที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำกว้างใหญ่ ชวนให้คุณเพลิดเพลินกับวิวบรรยากาศแบบนี้คงหาได้ยากจากที่ไหนๆ นอกจากกรุงปรากเท่านั้น   15. ทัวร์ยุโรป - เนเธอร์แลนด์ มาถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีสถานที่ชื่อดังเรื่องการปลูกทิวลิปที่ใหญ่และสำคัญของเนเธอร์แลนด์ ณ เมืองลิซเซ่ ใกล้กับกรุงอัมสเตอร์ดัม เป็นไฮไลท์ของประเทศนี้เลยก็ว่าได้ ยิ่งเป็นช่วงเวลาเทศกาลดอกไม้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ ที่นี่มีดอกไม้กว่า 7,000,000 ดอก บนพื้นที่กว่า 320,000 ตารางเมตร เรียกได้ว่ามองไปทางก็เจอแต่ดอกไม้ หรือจะเป็นกังหันไม้ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ไปแล้ว สำหรับใครที่ชื่นชอบดอกไม้คงไม่อยากจะพลาดที่จะมาเที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์อย่างแน่นอน   16. ทัวร์ยุโรป - รัสเซีย ตั้งแต่ประเทศรัฐเซียเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศได้ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศของประเทศปีละหลายล้านคน เพื่อมาสัมผัสศิลปวัฒนธรรม และศึกษาประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ยิ่งกรุงมอสโก เมืองหลวงของประเทศรัฐเซียจะเป็นจุดรวมตัวของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพื่อมาชมสถานที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นจัตุรัสแดง พระราชวังเครมลิน หรือจะเป็นการมาล่าแสงเหนือก็ตามที ก็ทำให้ประเทศแห่งนี้ติดอยู่อันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวเลือกที่จะมาเยือนกัน   17. ทัวร์ยุโรป - โปแลนด์ มาต่อกันที่ประเทศโปแลนด์ ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในยุโรปตะวันออก ภูมิประเทศถูกรายล้อมด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งภูเขา ทะเลสาบ และชายหาด มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานทางวัฒนธรรม มีความวิจิตรงดงามอย่างมาก อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น คราคูฟ โบสถ์เซนต์แมรี หรือ ปราสาทวาเวล และอีกมากมายที่รอให้คุณไปสัมผัสบรรยากาศที่อยากจะลืมได้ลง   18. ทัวร์ยุโรป -  กรีซ มาถึงประเทศกรีซที่มีสถานที่ชื่อดังอย่าง Santorini เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนจะดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รูปแบบตัวอาคารสีขาวดูแปลกตาสร้างขึ้นตามเชิงเขาสูงชันและมีโบสถ์สีฟ้าสดใสประดับไว้อยู่ สถานที่แห่งเป็นที่นิยมอย่างมากในเรื่องการมาพักผ่อนของนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศชวนให้หลงใหลหรือจะเป็นวิวธรรมชาติชวนให้อินเรียกได้ว่าสถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสวรรค์ที่ใครหลายคนอยากมาพักผ่อนสักครั้ง   19. ทัวร์ยุโรป -  Saint Lucia   มาต่อกันที่ประเทศเซนต์ลูเซีย เป็นเกาะตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลแคริบเบียน มีลักษณะเป็นเกาะภูเขาไฟ นับได้ว่าเป็นอีกประเทศที่ได้รับความสนใจของนักท่องเที่ยวในเวลานี้ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ น้ำทะเล ที่ไม่ได้ถูกปรุงแต่งแต่อย่างใด   20.ทัวร์ยุโรป - USA มาถึงสถานที่สุดท้ายอย่าง เยลโลว์ สโตน เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของอเมริกาและแห่งแรกของโลกด้วย มีพื้นที่ทั้งหมดอยู่บนที่ราบสูงบนเทือกเขาร็อคกี้ มากกว่า 2 ล้านเอเคอร์ เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องบ่อน้ำร้อนและน้ำพุร้อนมากกว่า 10,000 แห่ง ซึ่งดินแดนแห่งนี้มาอายุมากกว่า 600,000 ปี เรียกได้ว่าเก่าแก่อย่างมาก บริเวณโดยรอบเป็นภูเขาสูงและหุบเหวมากมาย อีกทั้งยังสามารถรับชมสัตว์ป่าได้ที่บริเวณแห่งนี้   20 ที่เที่ยวยุโรป เป็นไงกันบ้างคะเพื่อนๆ มีที่ไหนถูกใจและตั้งเป้าว่าต้องไปให้ได้บ้างเอ่ย แต่ถ้าจะให้แนะนำ ไปมันทั้งหมดนั่นแหละ!! สักครั้งในชีวิต การออกเที่ยวคือของขวัญสำหรับการทำงานหนัก ใครห่งเรื่องการเดินทาง การเที่ยว หรือจำกัดงบ ก็ไปเที่ยวยุโรปกับทัวร์ได้เลย เพราะจำกัดงบได้ สามารถเข้าไปดู ทัวร์ยุโรป กับ ทัวร์ครับ >>  https://tourkrub.co/europe-tour  ได้เลย รับรองเที่ยวยุโรป สนุก และความคุ้มค่าแน่นอน    

อ่านเพิ่มเติม
7 มรดกโลกในยุโรป เช็คอินถ่ายภาพ สวยเหมือนดั่งอยู่ในความฝัน
7 มรดกโลกในยุโรป เช็คอินถ่ายภาพ สวยเหมือนดั่งอยู่ในความฝัน

29 ม.ค. 63

เที่ยวยุโรปครั้งนี้เราจะเนรมิตทำวันพักผ่อนให้เป็นวันพิเศษสุดๆ ด้วยทริปที่สามารถเพลินเพลินไปกับความงดงามของสถานที่ท่องที่ที่สุดแสนจะสวยงามอลังการตระการตาเหล่านี้กันค่ะ กล้องไม่ต้องแพง ไม่ต้องไปลงคลอสเรียนถ่ายภาพ ไม่ต้องมีอุปกรณ์เยอะแยะให้สิ้นเปลือง มีมือถือเครื่องเดียวก็ได้รูปที่สวยสุดยอดได้ เรียกว่าถ่ายยังไงก็สวยค่ะ เก็บมาฝากไว้ให้แล้ว    จองทัวร์ยุโรป กับ ทัวร์ครับ กดตรงนี้   7. มรดกโลกในยุโรป   1. Hallstatt Austria เป็นเมืองมรดกโลกที่งดงามราวกับภาพในฝันเลยล่ะค่ะ ไปมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกสวยยังไงครั้งที่ 2 ก็ยังคงสวยเหมือนเคย อยากแนะนำไปแชะภาพตอนกลางคืนนะคะ สวยมากๆ เพราะจะได้บรรยากาศเปลี่ยนไปอีกแบบโดยเฉพาะถ้าใครได้ไปช่วงสิ้นปี หรือเทศกาลวันอีสเตอร์ เทศกาลวันคริสต์มาสด้วยแล้วล่ะก็ ถนนเส้นเล็กๆเส้นนี้จะมีการประดับประดาตกแต่งพร๊อบต่างๆมากมายบนถนนเลียบริมทะเลสาบค่ะ โดยเฉพาะถ้าไปในช่วงปลายปี อากาศเริ่มหนาว ทะเลสาบนี้จะกลายเป็นทะเลสาบน้ำแข็ง ที่มีทั้งนกเป็ดน้ำและปลาแซลมอนแหวกหว่ายอยู่ใต้ผืนน้ำ การไปหาที่พักที่ Hallstatt แนะนำให้จองล่วงหน้านะคะ และราคาที่พักโดยเฉพาะช่วงปลายปีจะค่อนข้างสูงมาก แนะนำให้ท่านที่สนใจอยากไปเมืองมรดกโลกแห่งนี้ ไปจองที่พักในอีกฟากฝั่งนึงของ Hallstatt ที่มีชื่อว่า Oberton ค่ะ ราคาดีกว่ามากๆ เลย จุดถ่ายภาพที่ Oberton ก็สวยมากๆเช่นกันค่ะ ตรงนั้นจะมีท่าเรือที่สามารถข้ามฟากไป Hallstatt ได้ ใครอยากได้บรยากาศแบบฟินสุดๆแนะนำให้ลองนั่งเรือนะ สวยมากๆจริงๆแต่ต้องรีบไปนิดนึงนะคะ เพราะเรือเที่ยวสุดท้ายหมด 18.00 น. และเรือจะมาแค่ชม.ละครั้งค่ะ ค่าบริการเรือข้ามฟากเพียง 8 ยูโรค่ะ ไป-กลับก็ 16 ยูโร ถ้านั่งแท็กซี่ไปราคาราวๆ 15-21 ยูโร แต่เราขับรถไปเอง ไปจอดแถวนั้นราคาชั่วโมงละ 3 ยูโรค่ะ อยู่ที่นั่นราวๆ 3-4 ชม.ก็ 12 ยูโรพอกัน     2. Bear Pit Burn Switzerland  เป็นเมืองที่สวยทุกอณูเลยล่ะค่ะ คือเหมาะมากกับการไปพักผ่อนหรือฮันนีมูนมาก บ้านเมืองเค้าคือสามารถรักษาธรรมชาติไว้ได้สมบูรณ์แบบมากๆ ที่ที่แนะนำให้ไปแชะภาพกันคือ เขตเมืองเก่าค่ะ สวยหมดเลย เป็นอนุสรณ์สถาน และเป็นเมืองมรดกโลกแห่งยูเนสโกด้วย เดินเที่ยวเล่นจากใจกลางเมืองก็สวยเก็บภาพได้เป็นกระบุงเลยจ่ะ หรือจะไต่ขึ้นไปบนยอดหอคอยที่วิหารเบิร์นไปชม Heiliggeistkirche (โบสถ์แห่งวิญญาณบริสุทธิ์) ในเขตเมืองเก่า (Altstadt) ก็ได้  อาคารรัฐบาลของเค้าก็สวยเหลือเกิน Bundesplatz ที่นั่นจะมีธนาคารสวิสหลายแห่งตั้งอยู่ ยังมีนาฬิกาที่เก่าแก่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์อยู่ที่ Zyttglogge อีกด้วย ถ้าใครมีเวลาว่างหน่อยแนะนำไปที่นี่เลยจ้า Rosengarten ที่มีกุหลาบมากกว่า 220 สายพันธุ์สวยมากเริ่ชเว่อร์ลองแวะไปแชะภาพกันได้จ่ะ    3. Toredo Spain  มหาวิหารโทเลโด หมาวิหารแห่งนี้วิริศมาหราเริ่ชหรูตระการตาเป็นที่สุดค่ะ มหาวิหารโทเลโดยังติดอันดับ 5 กับโบสถ์ที่รวยที่สุดในโลกด้วย บอกเลยว่าสมคำร่ำลือเด้อแม่ สวยมากแม่ งานดีงานละเอียดเฉียดของแท้สุดๆ ว่ากันว่ากว่าจะสร้างเสร็จนี่ใช้เวลานานกว่า 200 ปีเลย มหาวิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ Plaza del Ayuntamiento (จัตุรัสใจลางเมือง) และมันช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกินค่ะคุณขาเพราะเมืองเมืองนี้สวยมากจริงๆ ถ่ายแต่ภาพจตุรัสก็ว่าสวยมากแล้ว ถ่ายภาพเมืองพร้อมกับมหาวิหาร Toredo ยิ่งสวยหนักเข้าไปอีก  ไม่พอด้านนอกนี่คือสุดยอดแล้ว เข้าไปด้านใน สวยหนักมว้ากกกเว่อร์เพดานสูงมากและมีการสร้างงานปั้น งานฉลุ งานกระจกและลงสีลวดลายต่างๆไว้อย่างงดงามตามแบบศิลปะแบบกอทิก กระจกสีในแต่ละด้านทำให้แสงส่องผ่านและส่องสว่างในที่มืด เลอค่าอาม่าปลื้มมากค่ะ ทุกวันนี้ยังจำติดตาเลยอะ สวยมากจริงๆ ครั้งนึงในชีวิตแนะนำไป     4. Plaza Mayor Madrid  ที่นี่เป็นจตุรัสที่มีระเบียงเรียงรายเป็นสีสีนสวยงามตั้งอยู่ในใจกลาง Hapsburg Madrid ค่ะ เรียกว่าเป็นย่านเมืองเก่า Casa de la Panadería การตกแต่งของที่นี่ต่างจากในอดีตโขอยู่จ่ะ ตะก่อนเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังบนหน้าอาคารซึ่งเป็นผลงานของคาร์ลอสฟรังโก  รูปปั้นของ Philip III กษัตริย์บนหลังม้า เป็นผลงานศิลปะที่ออกแบบโดย  Giambologna แต่ก็สร้างไม่เสร็จ มาสร้างเสร็จเอาสมัย Pietro Tacca ในปี 1616 ใกล้ๆ Plaza Mayor จัตุรัสเป็นจุดที่เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่กิโลเมตรที่ 0 ของกรุงมาดริด  นักท่องเที่ยวมากมายก็ฮิตที่จะไปถ่ายรูปกันค่ะ ส่วนชาวไทยก็เชื่อว่า การไปเหยียบที่หลักกิโล km 0 เนี่ยะ ORIGEN DE LAS CARRETERAS RADIALES เหยียบแล้ว จะได้กลับไปที่นี่อีกครั้ง แต่จะจริงหรือปล่าวก็ลองดูกันจ่ะ เผื่อจะโชดดีได้รางวัลฝาขวดชาเขียวได้ไปเที่ยวอีก ประติมากรรมสีดำรูปหมีกินผลมาโดรโย่ ที่มีชื่อว่า Estatua del Oso y el madrono ตรงนี้ทีแรกก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าคนเค้าไปถ่ายรูปอะไรกันเยอะแยะ ไม่เห็นมีอะไรเลย 555+ คือมีแค่รูปปั้งหมีสีน้ำตาลจริงๆ จากใจแต่ไหนๆก็เดินผ่านละ เอ้อ เอาหน่อยกะดะ      5.Alhambra De Granada มรดกโลกมาอีกแล้วจ้าพี่จ๋า ที่กรานาดานับว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ คือมีความทันสมัยผสมผสานกับความเก่าแก่ของอารยธรรมเอาไว้ได้ลงตัวมากๆ เมืองเค้าดูดีสะอาดสะอ้านกว่าแมดริดหรือบาเซโลน่าเยอะ เราชอบที่นี่มากๆ Granada แปลว่า ทับทิม Alhambra ถูกสร้างขึ้นในปี 1870 เพื่อปกป้องพยานหลักฐานทางโบราณคดีจำนวนมากที่ถูกทำลายไป เมืองนี้เป็นเหมือนเมืองเล็กๆเมืองนึงเลยล่ะ โดนบุก โดนเข้ายึด เปลี่ยนมือการปกครองบ่อยมาก ทำให้มีความหลากหลายทางศิลปะดั้งเดิม Alhambra ถูกค้นพบ และบูรณะอีกครั้งหลังจากความพ่ายแพ้ของนโปเลียน  ด้วยความงดงามของศิลปะแบบดั้งเดิม อาลัมบราจึงกลายเป็นอีกแห่งในเมืองมรดกโลกที่เราต้องมาดูให้ได้ครั้งนึงในชีวิต สมญานาม "ไข่มุกแห่งมรกต" ซึ่งเป็นบอกเล่าถึงสีของอาคารและป่ารอบ ๆ พระราชวังบนยอดเขาและสวน (Alameda de la Alhambra) ที่นี่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่าและหญ้าในฤดูใบไม้ผลิถูกปลูกอย่างงดงามทุ่งด้วยกุหลาบส้มและน้ำพุซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความงามแห่งศรวงสวรรค์มีการใช้เสาโค้งน้ำพุด้วยน้ำไหลและสระสะท้อนแสงเพื่อเพิ่มความสวยงาม จึงไม่ผิดเลยที่จะเรียกว่า "สวรรค์บนดิน" งามมากแม่ เดินเหนื่อยมากด้วย 3-4 ชม.ไม่พอเด้อ ต้องมีครึ่งวันโน่นล่ะจ่ะ แต่รับรองได้เลยว่าคุ้มค่ามหาศาลที่ได้ไปเยอือนอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ    6. ตลาด บุคเคอเรีย Mercat De La Boqueria Barcelona  ตลาดที่ใหญ่ที่สุด เก่าแก่ที่สุดของเมือง เป็นอันดับ 1 ของโลกซะด้วย อาหารต่างๆนาๆเยอะมากๆ แบ่งเป็นโซนต่างๆ อย่างชัดเจน ทั้งโซนของสด ซึ่งถ้าไปค่ำๆจะปิดแล้วนะค้า แต่โซนอื่นๆยังเปิดตามปกติค่ะ    อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ขาหมูรมควันที่ทำแบบพาร์ม่าแฮมอันนี้อร่อยมากสุดยอด ขอว่าด้วยขาหมูรมควันสักเล็กน้อย คนสเปนนิยมมาก มีร้านเยอะเว่อร์วังในสเปน นี่เข้าไป 4-5 ร้าน เด็ชทุกร้านเด้อ กินกะขนมปังจืดๆยังอร่อยอะแกรเอ๊ย กินกะชีส+ไวน์สักแก้ว นี่เรียกว่าสุดจัดปลัดบอกเด้อแม่ ใครมีโอกาสได้ไปทานที่นั่นแนะนำลองเลยจ่ะพี่จ๋า มันเริ่ช ของเค้าดีจริงๆ ถั่วและผลไม้อบแห้งเยอะมากๆ หลายร้านเลย เลือกแทบไม่ไหว เดินไปกินไปอิ่มพอดีเลย ที่สำคัญราคาไม่แพงเลย ขนมปังก็มีให้เลือกหลายแบบ น้ำผลไม้ปั่นนี่ปั่นกันตั้งแต่ศากเบือยันเรือรบ อยากกินอะไรปั่นล่ะ มีหมดจ้า รากไม้ ใบผัก ผลไม้แทบทุกชนิดบนโลกนี้ มีเยอะมากเว่อร์ ราคาดี กินให้อุจาระแตกอุจาระแตนกันไปเลย สะหนนราคาที่แก้วละ 1-2.5 ยูโร   7. Dachstein Krippenstein Obertraun Five Finger อีกหนึ่งมรดกโลกที่อยู่ไม่ไกลจาก Hallstat ค่ะ ภูมิใจนำเสนอมากๆกับ มุมมองแบบพาโนรามาที่ไม่เหมือนใครของธารน้ำแข็ง Dachstein อันยิ่งใหญ่และสวยงามมาก Weltnaturerbeblick อยู่ใกล้ๆกับเขา Krippenstein เชื่อว่าใครได้ขึ้นไป คุณจะรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึง ที่นี่จะมีกระเช้าที่ความสูง สูงมากสุดลูกตา สวยสมคำร่ำลืออีกแล้วครับพี่น้อง    ที่นี่แนะนำว่า ถ้าใจเสาะ! อย่าไปเด้อ 5 fingers นี้จะทำให้ทั้งรู้สึกภูมิใจที่กว่าจะเดินขาลากมาถึงและหวาดเสียวด้วย เหนื่อยด้วย ร้อนด้วย แต่อากาศก็เย็นด้วย ตื่นเต้นด้วย เพลินด้วย งงไปหมด ความสูงที่ระดับ 400 เมตร ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ ความหนาวที่ระดับ 0 องศาก็ไม่ธรรมดา สรุปว่ามันหลายฟิลลิ่งมาก ชอบ ชอบมากอะ ชอบสุดๆ  Dachstein Krippenstein แห่งนี้ถ้าใครจะไปเที่ยว แนะนำว่า ท่านต้องมีเวลามากพอน้า ครึ่งวันโน่นแหละ ถ้ามีเวลาน้อยกว่านี้แนะนำวางแผนใหม่เด้อ เพราะขึ้นกระเช้าไปทีได้เที่ยวเยอะมาก ที่นี่เป็นแหล่งเหมืองเกลือเก่า ที่เป็นกรุสมบัติที่ซ่อนทองคำขาวเป็นจำนวนมาก นอกจากจะถ่ายรูปกันฟินๆเพลินๆกับทัศนียภาพระหว่างทางเดินไป 5 Fingers แล้ว ยังมีถ้ำน้ำแข็งยักษ์ Dachstein ถ้ำหิน น้ำแข็ง สะพานเชือกสุดเสียวสูง 30 ม. ที่ที่ค้นพบต้นกำเนิดของอัญมณีแห่งธรรมชาตินี้ หินงอกหินย้อยหลากสีวาววับสะดุดตา ทางเดินและห้องโถงก็เต็มไปด้วยเสียงคำรามถ้ำหมี Ben + Boris  ยังไม่หมดเด้อ ยังมีถ้ำแมมมอธ และจุดแชะภาพที่เป็นปลาฉลามอีก ถ้ำแมมมอธซึ่งเคยเป็นที่ล่าสัตว์ในห้องใต้ดินในอดีต เป็นการสร้างเพื่อการเชื่อมต่อทางด้านตะวันตกของถ้ำน้ำแข็งแดชสไตน์กับด้านตะวันออก สรุปเป็นว่าน่าไปหมด แนะนำไปเช้าหน่อยแดดไม่แรงมาก สัก 7.30น. - 8.00น. ตอนเราไปก็ประมาณนี้กลับลงมาอีกที บ่าย 2 พี่จ๋า เทโปรแกรมอื่นๆ ณ บัดนาว แต่รับรองว่าคุ้มค่าที่ได้มาเยือน ของเค้าดีจริงจ่ะ    ทั้งหมดนี้เก็บมาฝากนะคร้า สำหรับทริปแบ็คแพ็คยุโรป สเปน สวิส ออสเตรีย ประมาณ 10 กว่าวันได้ ไปเองเช่ารถขับไม่ใช่เรื่องยาก หรือจะนั่งพวกรถไฟความเร็วสูงของเค้าก็ได้ค่า ที่โน่นเจริญมากมาย เดินทางง่ายสะดวก แต่ถ้าใครขี้เกียจวางแผนการเดินทาง ไปเที่ยวกับทัวร์ก็ง่ายดี แอบกระซิบนิสนุง ที่สเปนมิจฉาชีพค่อนข้างเยอะ ระมัดระวังกระเป๋าดีๆ ค่า เห็นนักท่องเที่ยว 80% โดนกันเลยเก็บมาเตือน และขอจบทริปสเปน สวิส ออสเตรีย แต่เพียงเท่านี้นะคร้า บั๊ยยยยย…. จองทัวร์ครบจบที่ทัวร์ครับ   จองทัวร์ยุโรป กับ ทัวร์ครับ กดตรงนี้    

อ่านเพิ่มเติม