เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่เขตเซปัง รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย ห่างจากตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2541 เพื่อใช้เป็นท่าอากาศยานหลักแทนท่าอากาศยานสุลต่าน อับดุล อาซิส ซาห์(สูบัง) ซึ่งตั้งห่างอยู่ทางทิศเหนือ (ปัจจุบันเปิดทำการในสายภายในประเทศ และเครื่องบินขนาดเล็ก)
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปมาโตเกียว โยโกฮาม่า และจังหวัดใกล้เคียงได้กว่า 35 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว) โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 65 สายการบิน
กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดเซนโซ หรือเซนโซจิ แต่นิยมเรียกว่าวัดอาซากุสะเนื่องจากตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะนั่นเอง เป็นวัดในศาสนาพุทธ สัญลักษณ์ของวัดนี้ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ โคมไฟสีแดงขนาดใหญ่
เป็นถนนคนเดินที่อยู่ติดกับวัดอาซากุสะ วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ถนนเส้นนี้มีร้านค้ามากมายตลอดความยาวทั้ง 250 เมตร ไม่นับร้านค้าที่อยู่ในซอยแยกย่อยไปอีก ทำให้ตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาหาซื้อของฝากอย่างไม่ขาดสาย
เป็นหอที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่และยังเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของโตเกียว ตั้งอยู่ใจกลางของ Sumida City Ward ไม่ไกลจาก วัดอาซากุสะ มีความสูงถึง 634 เมตร บริเวณรอบๆเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ รวมทั้งมีอควอเรียมอยู่ในนั้น
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 ที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ และเป็นสถานที่สวยติดอันดับในการถ่ายภาพวิวภูเขาไฟฟูจิ ถือได้ว่าเป็นเส้นที่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด จนเรียกได้ว่าเป็นประตูสู่ฟูจิ เป็นจุดชมความงามของภูเขาไฟฟูจิในหลากหลายวิว
เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของญี่ปุ่น และแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกมาไว้ด้วยกันที่นี่ บนเชิงภูเขาไฟฟูจิ ริม Tomei Expressway ที่เชื่อมระหว่าง ภูเขาฟูจิ-อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ กับมหานครโตเกียว นับว่าเป็นเอ้าท์เลทที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่ให้คุณช้อปปิ้งได้อย่างไม่รู้จบ และเต็มอิ่มไปกับสุดยอดวิวทิวทัศน์ของภูเขาฟูจิ แค่สถานที่ตั้งก็ดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น รอบๆ ภูเขาเต็มไปด้วยธรรชาติอันงดงาม ภูเขาไฟฟูจิมีอิทธิพลต่อศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ เรียกได้ว่าภูเขาไฟฟูจินี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของความเป็นญี่ปุ่น การเดินทางขึ้นภูเขาไฟฟูจินั้นหากใช้พาหนะจะสามารถขึ้นมาได้ถึงบริเวณชั้น 5 ซึ่งมีความสูงประมาณ 2,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตรงชั้น 5 นี้จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบทั้ง 5 ที่ล้อมภูเขาไฟได้
พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในละแวกทะเลสาบทั้ง 5 ของภูเขาไฟฟูจิ อยู่ระหว่าง ทะเลสาป Kawaguchiko และ Yamanakako โอชิโนะ ฮัคไคมีบ่อน้ำทั้งหมด 8 บ่อ เกิดจากการหลอมละลายของหิมะและไหลลงมาจากภูเขาไฟฟูจิ ซึมผ่านชั้นของลาวาที่เป็นรูพรุน ใช้เวลานานถึง 80 ปี ทำให้น้ำในบ่อที่หมู่บ้านนี้ใสมาก บ่อน้ำพุธรรมชาติทั้ง 8 บ่อ มีความเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นคนมักจะมาขอพรกัน แต่ละบ่อก็จะมีความศักดิ์สิทธิที่แตกต่างกันไป เช่น เรื่องสุขภาพ คู่ครอง ฯลฯ
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 ที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ และเป็นสถานที่สวยติดอันดับในการถ่ายภาพวิวภูเขาไฟฟูจิ ถือได้ว่าเป็นเส้นที่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด จนเรียกได้ว่าเป็นประตูสู่ฟูจิ เป็นจุดชมความงามของภูเขาไฟฟูจิในหลากหลายวิว
ที่นี่เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
เป็นสวนสาธารณะอันเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นย่านที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งวัฒนธรรม เพราะเป็นที่ตั้งของสถานที่ทางวัฒนธรรมอย่างหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์มากมาย ที่นี่เป็นจุดชมซากุระที่โด่งดังงที่สุดของโตเกียว โดยซากุระที่สวนอุเอโนะ จะเริ่มบานประมาณสิ้นเดือนมีนาคม และสิ้นสุดประมาณเดือนพฤษภาคม
เพลิดเพลินกับการชมซากุระและถ่ายรูปตามอัธยาศัย โดยดอกซากุระนั้นถือเป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่นที่จะผลิดอกเพียงช่วงเวลาสั้นๆไม่เกิน 2 อาทิตย์ อีกทั้งท่านจะได้เห็นบรรยากาศที่คนญี่ปุ่นจะมาจับจองพื้นที่เพื่อชมซากุระอย่างมีความสุข และฉลองกันอย่างสนุกสนาน
ตลาดที่คึกคักเกือบตลอดเวลาตั้งอยู่ระหว่างสถานีอุเอโนะ และสถานีโอคาชิมาชิ ปัจจุบันมีสินค้าหลากหลายชนิดทั้ง ของสด ของใช้ เครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้าทั้งของญี่ปุ่น และของนำเข้าที่ส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่าในห้างบางร้านอาจจะต่อราคาเพิ่มได้อีก อาหารทะเล ผลไม้ ผักสด ร้านขนมของกินเล่น
เป็นเกาะถมที่สร้างขึ้นมาจากการถมทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งใจจุดสนใจทางด้านการค้าโดยเฉพาะของสินค้า Electronic และ Modern Culture
เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง ก็จะมีร้านค้าสำหรับคอกันดั้ม อย่างกันดั้มคาเฟ่ (Gundam Cafe) และถ้าอยากเข้าไปดูนิทรรศกาลกันดั้ม ก็ต้องไปที่ กันดั้มฟรอนท์ (Gundam Front) ซึ่งอยู่ในบริเวณห้าง
อิสระเต็มวัน หรือ เลือกซื้อทัวร์โตเกียวดิสนีย์แลนด์ เชิญท่านพบกับความอลังการซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งตำนานและจินตนาการของการผจญภัย สัมผัสกับเครื่องเล่นในหลายรูปแบบ อาทิ ท้าทายความมันส์เหมือนอยู่ในอวกาศไปกับ SPACE MOUTAIN, ระทึกขวัญกับ HAUNTED MANSION บ้านผีสิง,เป็นต้น หรือ อิสระในเมืองโตเกียว เพื่อความสะดวกในการเดินทาง หรือช้อปปิ้งในย่านการค้าอันทันสมัยของมหานครโตเกียวศูนย์รวมวัยรุ่นแหล่งช้อบปิ้งชื่อดัง ย่านฮาราจูกุ ท่านจะได้พบเพลิดเพลินกับการช้อบปิ้งกับร้านค้าหลากหลายสองฝั่งถนนทาเคชิตะ และ โอโมเตะซันโด อิสระช้อปปิ้งต่อย่าน“ชิบูย่า” ร้านค้ามากมาย มากกว่า 100 ร้านค้า
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปมาโตเกียว โยโกฮาม่า และจังหวัดใกล้เคียงได้กว่า 35 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว) โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 65 สายการบิน
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่เขตเซปัง รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย ห่างจากตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2541 เพื่อใช้เป็นท่าอากาศยานหลักแทนท่าอากาศยานสุลต่าน อับดุล อาซิส ซาห์(สูบัง) ซึ่งตั้งห่างอยู่ทางทิศเหนือ (ปัจจุบันเปิดทำการในสายภายในประเทศ และเครื่องบินขนาดเล็ก)
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย