เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำเมืองคยา เมืองสำคัญเมืองหนึ่งของรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองคยาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 12 กิโลเมตร ท่าอากาศยานนี้ให้บริการเที่ยวบินแสวงบุญทั้งจากประเทศไทย, พม่า, ภูฏาน, เวียดนาม, ศรีลังกา, ญี่ปุ่นและทั่วโลกเพื่อเป็นประตูสู่สถานที่แสวงบุญที่ได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกที่หนึ่ง
เป็นเมืองที่อยู่ในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ 100 กิโลเมตรทางใต้ของเมืองปัฏนา ตัวเมืองทอดยาวไปตามชายฝั่งของแม่น้ำเนรัญชรา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสำคัญทั้งของศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู เพราะเป็นทั้งที่ตั้งของสถานที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธศาสนา และสถานที่ๆ ถูกกล่าวถึงในตำนานอินเดียต่างๆ
สถูปพุทธคยา ทรงศิขระที่ได้รับการบูรณะใหม่ภายในประดิษฐานพระพุทธรูป “พระพุทธเมตตา” ปางมารวิชัย แล้วนำนมัสการต้นศรีมหาโพธิ์ที่ได้นำพันธุ์มาปลูกตรงที่เชื่อกันว่าเป็นจุดที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งบำเพ็ญเพียรจนตรัสรู้สมโพธิญาณ
นมัสการต้นศรีมหาโพธิ์ที่ได้นำพันธุ์มาปลูกตรงที่เชื่อกันว่าเป็นจุดที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งบำเพ็ญเพียรจนตรัสรู้สมโพธิญาณ
สัตตมหาสถาน คือ สถานที่สำคัญ 7 แห่งที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเสวยวิมุตติสุข หลังจากได้ตรัสรู้ธรรมวิเศษแล้วเป็นเวลาแห่งละ 1 สัปดาห์
เสาอโศก เป็นเสาหินโบราณที่สร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช พระมหาจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เมารยะ ที่ปกครองอนุทวีปอินเดียในช่วงยุคพุทธศตวรรษที่ 4 พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างเสาหินทราย (ซึ่งต่อมาเรียกกันว่า "เสาอโศก") ขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อระบุสถานที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา เสาหินนี้ตั้งกระจายอยู่หลายๆ ที่ในพุทธสังเชนียสถานของอินเดีย-เนปาล
ศิลปะอินเดียสมัยพระเจ้าอโศกอายุกว่า ๒,๒๐๐ ปี ชมเสาพระเจ้าอโศกที่ทรงให้สร้างเพื่อประกาศศาสนาและถวายเป็นพุทธบูชาแก่สังเวชนียสถาน ชมประตูโทรณะที่สลัก เรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ
เมืองโบราณในสมัยพุทธกาล มีความสำคัญในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของคณะเจ้าลิจฉวี ที่มีปกครองแคว้นวัชชีด้วยระบอบคณาธิปไตยแห่งแรก
วัดป่ามหาวัน (Wat Mahawan) เป็นสถานที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จมาประทับทุกครั้งที่มาเมืองไวสาลี และวัดแห่งนี้ ยังเป็นที่กำเนิดภิกษุณีเป็นครั้งแรก คือ พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้พระนางมหาปชาบดี และบริวารบวชได้ และที่วัดป่ามหาวันแห่งนี้ บริเวณกูฏาคารศาลา ยังมีเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งนับว่าเป็นเสาที่มีความสมบูรณ์ และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งยังคงตั้งตระหง่านอยู่
เมืองกุสินาราซึ่งเป็นสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
เมืองกุสินาราซึ่งเป็นสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า
เป็นสถานที่ที่พระเจ้าอโศกมหาราชสร้างไว้และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพานอยู่ภายใน มหาปรินิพพานสถูปแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของปูชนียสถานอื่นๆ ที่สร้างขึ้นมาภายหลังในบริเวณนั้น
เป็นเจดีย์ที่มีความสูงประมาณ 50 ฟุต ตั้งอยู่บนเนินดินซึ่งหันหน้าเข้าหาถนน Buddha Marg ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองกุสินาราเพียง 1 กิโลเมตร สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า 'มกุฏพันธนเจดีย์' ได้ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช บริเวณด้านตะวันออกของเมืองกุสินารา หรือปัจจุบันคือ 'ตำบลกาเซีย' รัฐอุตตรประเทศ ตรงบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระของพระพุทธเจ้าในวันอัฏฐมีบูชา
เป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญแห่งที่ 1 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาตรัสรู้เป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งอยู่ที่อำเภอไภรวา แคว้นอูธ ประเทศเนปาล เป็นพุทธสังเวชนียสถาน 4 ตำบลเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกประเทศอินเดีย ลุมพินีวัน เดิมเป็นสวนป่าสาธารณะหรือวโนทยานที่ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน ในสมัยพุทธกาลลุมพินีวันตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองกบิลพัสดุ์กับเมืองเทวทหะ ในแคว้นสักกะ บนฝั่งแม่น้ำโรหิณี หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชได้โปรดให้สร้างเสาหินขนาดใหญ่มาปักไว้ตรงบริเวณที่ประสูติ เรียกว่า เสาอโศก ที่จารึกข้อความเป็นอักษรพราหมีว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ตรงนี้
เป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญแห่งที่ 1 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ
สังเวชนียสถานแหล่งที่ ๓ สวนลุมพินีวัน เป็นสถานที่พระนางสิริมหามายาประสูติเจ้าชายสิทธัตถะกุมาร เมื่อวันศุกร์ วันเพ็ญเดือน ๖ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ปี ซึ้งภายในบริเวณมีวิหารมหามายา สระโบกขรณี และเสาพระเจ้าอโศกที่มีขนาดความสูง ๒๒ ฟุต ๔ นิ้วและมีข้อความจารึกเป็นหลักฐานว่า “ณ ที่นี่คือ สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ และพระเจ้าอโศกเสด็จมาบูชาในปีที่ ๒๐ แห่งรัชกาลของพระองค์” (ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๓ )
เป็นเมืองหลวงของแคว้นกาสี ในสมัยพุทธกาล เป็นเมืองที่ศักดิสิทธิ์ที่สุดหนึ่งในเจ็ดเมืองศักดิสิทธิ์ ในความเชื่อของศาสนาฮินดูและศาสนาเชน
ล่องเรือแม่น้ำคงคา แม่น้ำที่ชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากเป็นจุดที่ตุ้มหูของพระศิวะตกอยู่ใต้แม่น้ำแห่งนี้ ในทางพุทธศาสนาเองเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ได้นำพระอัฐิของพระพุทธเจ้ามาลอยอังคารที่แม่น้ำแห่งนี้ด้วย ท่านจะได้นั่งเรือเพื่อไปถวายกระทงเป็นพุทธบูชา ณ ที่นี่เองท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวฮินดูซึ่งจะมาอาบน้ำ ดื่มน้ำรวมทั้งท่าน้ำที่นี่จะมีพิธีเผาศพในช่วงเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
นั่งเรือเพื่อไปถวายกระทงเป็นพุทธบูชา ณ ที่นี่เองท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวฮินดูซึ่งจะมาอาบน้ำ ดื่มน้ำรวมทั้งท่าน้ำที่นี่จะมีพิธีเผาศพในช่วงเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น
สังเวชนียสถานแหล่งที่ 2 สารนาถ สถานที่แสดงปฐมเทศนา นมัสการสถูปเจาคันธี สถานที่พระพุทธเจ้าพบปัจจัคคีอีกครั้งหลังจากตรัสรู้แล้ว นำนมัสการธรรมเมขสถูป ที่เชื่อกันว่าเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาหัวข้อธรรมจักกัปปวัตตนสูตรทำให้พระโกณฑัญญะบรรลุโสดาบันพระพุทธศาสนาจึงมีพระรัตนตรัยครบ 3 ประการ
สถูปเจาคันธี (Chaukhandi Stupa) สถานที่พระพุทธเจ้าพบปัจจัคคีอีกครั้งหลังจากตรัสรู้แล้ว
ธรรมเมขสถูป ที่เชื่อกันว่าเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาหัวข้อธรรมจักกัปปวัตตนสูตรทำให้พระโกณฑัญญะบรรลุโสดาบันพระพุทธศาสนาจึงมีพระรัตนตรัยครบ ๓ ประการ
พิพิธภัณฑ์แห่งเมืองสารนาถ มีพระพุทธรูปโบราณซึ่งน่าทึ่ง และงดงามตามแบบฉบับของคนอินเดีย อายุนับพันปีมากมายครับ แต่เสียดายที่ถูกห้ามนำกล้องมาถ่ายภาพภายใน ต้องใช้เทคนิคพิเศษ จึงมีรูปมาให้ชมกันไม่มาก พอดูเป็นสังเขป อย่างพระพุทธรูปปางปฐมเทศนา (รูปพระพุทธองค์แรก) เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยคุปตะ อายุประมาณปี พ.ศ.800 - 1,200
พระพุทธรูปแบบคุปตะปางปฐมเทศนา ที่ค้นพบบริเวณใกล้ๆกับ มูลคันธกุฎี หรือ เขาคิชชกูฎ สถานที่จำพรรษาของพระพุทธเจ้า “อนึ่งศิลปะคุปตะได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามและสมบูรณ์แบบที่สุดในศิลปะอินเดียทั้งมวลและเมืองสารนาถยังเป็นศูนย์กลางของโรงเรียนสกุลช่างคุปตะ ที่อายุเก่าแก่ถึง ๑,๔๐๐ ปีมาแล้ว
เป็นเมืองที่อยู่ในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ 100 กิโลเมตรทางใต้ของเมืองปัฏนา ตัวเมืองทอดยาวไปตามชายฝั่งของแม่น้ำเนรัญชรา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสำคัญทั้งของศาสนาพุทธและศาสนาฮินดู เพราะเป็นทั้งที่ตั้งของสถานที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธศาสนา และสถานที่ๆ ถูกกล่าวถึงในตำนานอินเดียต่างๆ
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติประจำเมืองคยา เมืองสำคัญเมืองหนึ่งของรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองคยาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 12 กิโลเมตร ท่าอากาศยานนี้ให้บริการเที่ยวบินแสวงบุญทั้งจากประเทศไทย, พม่า, ภูฏาน, เวียดนาม, ศรีลังกา, ญี่ปุ่นและทั่วโลกเพื่อเป็นประตูสู่สถานที่แสวงบุญที่ได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกที่หนึ่ง
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี