เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นสนามบินที่ตั้งอยู่ในเมืองอะคิตะ
เป็นตลาดชุมชนของจังหวัดอะคิตะที่มีสินค้าครบครันตามฤดูกาล ตั้งแต่ปลาสดๆ ที่จับมาจากทะเลในท้องถิ่น ผักป่า เห็ด ผลไม้ รวมทั้งอาหารขึ้นชื่อของอาคิตะ เช่น คิริทังโปะนาเบะ เหล้าพื้นเมืองอาคิตะ
ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังในบานะที่เป็นถิ่นฐานของชาวซามูไรและเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทคาคุโนะดาเตะ สิ่งของเก่าแก่มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของซามูไรในสมัยก่อน ในปัจจุบันยังมีบ้านพักอาศัยอยู่ประมาณ 80 หลังคาเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมซามูไรแบบดั้งเดิมที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีบ้านเพียง 6 หลังที่เปิดให้ผู้คนได้เข้าไปชมความสวยงามภายในบ้าน
เป็นทะเลสาบที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและยังคงความเป็นธรรมชาติที่เรียบง่าย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยมีความลึกประมาณ 423 เมตร ปลายสุดทางทิศเหนือเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโกซะโนอิชิ เดิมเป็นที่สำหรับขุนนางท้องถิ่นแวะมาชมธรรมชาติ และทางด้านทิศตะวันตกของทะเลสาบมีรูปปั้นผู้หญิงสีทองที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ทาสุโกะ เชื่อกันตามตำนานว่านางเป็นสาวสวยที่อธิษฐานขอให้ความงามของนางคงอยู่ตลอดไป แต่กลับโดนคำสาปและกลายเป็นมังกรจมสู่ทะเลสาบเบื้องล่างแห่งนี้
เป็นน้ำผึ้งที่มีชื่อเสียงของเมือง มีสินค้ามากมายที่ใช้น้ำผึ้งเป็นวัตถุดิบ เช่นซอฟต์ครีมแสนอร่อย มีรสน้ำผึ้งอ่อน ๆ อันเป็นที่นิยม
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
ที่นี่มีส่วนหนึ่งเป็นลานสกีชิสุกุอิชิ เป็นบริเวณที่เที่ยวเล่นหิมะได้ ซึ่งมีบันไดเลื่อนหิมะที่เด็กเล็ก ก็สามารถสนุกกับการเล่นสกีได้ นอกจากนี้ยังมีการเล่นหิมะในแบบต่างๆ ใหัได้เลือกสำหรับผู้สนใจ เช่น มอเตอร์ไซด์สี่ล้อที่วิ่งบนหิมะ สกู๊ตเตอร์บนหิมะ(รถเลื่อนบนหิมะ) และอื่นๆ
เดิมทีเป็นเพียงวัดธรรมดาสร้างโดยพระจิคาคุ ไดชิ บ้างรู้จักกันในชื่อพระเอ็นนิน (Ennin) ชูซอนจิเข้าสู่ยุครุ่งเรืองเมื่อตระกูลฟูจิวาระย้ายฐานอำนาจมายังเมืองฮิราอิซูมิ “ฟูจิวาระ คิโยฮิระ” (Fujiwara Kiyohira) มีบัญชาให้ปรับปรุงวัดครั้งใหญ่จนทำให้วัดชูซอนจิมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ มีอาคารทั่วทั้งวัดกว่า 300 หลังเลยทีเดียว
เป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งในภูมิภาคโทโฮคุที่มีประชากรกว่าล้านคนอยู่อาศัย ถึงแม้ว่าเซนไดจะเป็นเมืองใหญ่และทันสมัย แต่ความก้าวหน้าในด้านต่างๆ ของเมืองได้ผสมกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างได้สมดุล หลายๆแห่งในเมืองมีทัศนียภาพงดงามชวนให้ต้องหยุดมอง เช่น ทิวทัศน์น้ำใสไหลรินของแม่น้ำฮิโระเซะ หรือต้นเคยะขิที่เขียวชอุ่มเป็นแนวตลอดสายถนน ความเขียวขจีของแมกไม้ในเมืองนี้เองที่ทำให้เซนไดได้สมญาว่าเป็น “เมืองแห่งต้นไม้"
เป็นย่านช้อปปิ้งหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซนได ตรงบริเวณสถานีรถไฟเซนไดและสถานีรถไฟใต้ดินโอบะ โดริ อิจิบังโจ ย่านนี้ถือเป็นย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางยาวไปหลายช่วงตึก เริ่มตั้งแต่อาคาร AER และ Parco ยาวไปจนถึงโคคุบุนโช มีทั้งสินค้าต่างๆ มากมาย ร้านแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ร้านอาหารหลากชนิด คาเฟ่ ไปจนถึงร้าน 100 เยน
อิสระให้ท่านได้พักผ่อน หรือท่องเที่ยวในเมืองเซนไดกันตามอัธยาศัยได้แบบเต็มวัน สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเซนได คือนั่งรถบัส loople ซึ่งเป็นรสบัสสำหรับเที่ยวชมบรรยากาศรอบเมืองเซนได เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเซนไดครั้งแรก
เป็นกระเช้าที่นำพานักท่องเที่ยวขึ้นชมวิวอันงดงามของภูเขาซาโอะ กระเช้าลอยฟ้าซาโอะไม่เพียงแต่ใช้ในการเดินทางเท่านั้นแต่ยังเป็นวิธีการชมวิวที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ด้วยภูมิทัศน์อันงดงามทำให้ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และในแต่ละซีซั่นก็จะมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงด้วย
เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามใบของต้นเฟอร์จนเกิดเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาด คล้ายกับมนุษย์หิมะ จึงได้ชื่อว่า Ice Monster หรือ Snow Monster นั่นเอง อีกทั้งยังมีกิจกรรม อาทิ การเล่นสกีและสนุกกับสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว นั่งสโนว์โมบิลขบวน “Wild Monster” ไปเที่ยวชมบริเวณที่มีปีศาจน้ำแข็งอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นต้น
สวนสตอเบอร์รี่ ถือเป็นผลไม้ขึ้นชื่ออย่างหนึ่งที่เป็นที่รู้จัก ที่มีรสชาติอร่อย ให้ท่านได้ชมและภ่ายภาพประทับใจรวมถึงให้ท่านเก็บผลไม้สดๆจากต้นด้วยตัวท่านเอง
เป็นสถานที่อันโด่งดังจากการเป็นหนึ่งในโลเคชั่นถ่ายทำละครเรื่องโอชิน เป็นโรงเก็บข้าวหลักของเมืองโชไนที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1893 สามารถเก็บข้าวได้มากถึง 10,800 ตัน และที่ด้านข้างโกดังเก็บข้าวมีอาคาร Yume No Kura ภายในอาคารแห่งนี้คุณสามารถซื้อสินค้าของฝากพื้นเมืองซากาตะได้
เป็นสนามบินที่ตั้งอยู่ในเมืองอะคิตะ
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย