เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์แบบชนบทที่งดงาม ซึ่งในเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ และในช่วงฤดูหนาวเมืองแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นที่นิยมสำหรับเล่นสกีเนื่องจากเป็นอีกเมืองที่มีหิมะลงพอสมควร
เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมกลางป่าใหญ่ และเป็นแหล่งช้อปปิ้งน่ารักๆ ที่ขายเฉพาะสินค้าหัตถกรรม กระท่อมแต่ละหลังจะขาย ของทำมือที่แตกต่างกันไป เช่นบ้านภาพเขียน บ้านเครื่องแก้ว บ้านแกะสลักไม้ เหมาะกับการถ่ายรูป เดินพักผ่อน
เป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะโดยใช้สุนัขฮักกี้ลากรถเลื่อน
เป็นเมืองเล็กๆ ล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของภูเขาและทุ่งนาอันกว้างใหญ่ เสน่ห์ของเมืองนี้ คือ การขี่จักรยานหรือขับรถผ่านเนินเขา และเยี่ยมชมทุ่งดอกไม้ระหว่างทาง ในหน้าหนาวเมืองนี้จะล้อมรอบด้วยหิมะขาวโพลน สวยไปอีกแบบ
เป็นชิคิไซโนะโอกะในช่วงฤดูหนาว ที่ไม่มีดอกไม้ให้ท่านได้ถ่ายรูป แต่มี “ลานหิมะ” ซึ่งจะมีกิจกรรมฤดูหนาวต่างๆ รอให้บริการนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น SNOW MOBILE , SNOW RAFTING หรือ SNOW BANANA BOAT
เป็นห้างอิออนหน้าสถานีอาซาฮิคาว่า มีความสะดวกสบาย หาของกินง่าย มีร้านค้า, Supermarket, Food court และโรงภาพยนต์อยู่ภายใน ที่นี่มีสินค้ามากมายให้เลือกช้อปปิ้ง และ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ขนาดใหญ่
เป็นสวนสัตว์เมืองหนาวที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด บรรดาสัตว์ที่อยู่ภายในสวนสัตว์จะได้อยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติเพื่อให้สัตว์ได้แสดงพฤติกรรมของเขาออกมาได้โดยไม่ทำให้สัตว์เกิดอาการเครียด สัตว์บางชนิดจะถูกปล่อยให้เดินออกมาอย่างเป็นอิสระนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน จึงสามารถสัมผัสกับสัตว์ได้อย่างใกล้ชิดและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่านี้มีร้านราเมง 8 ร้านมาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว เสมือนหมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว โดยราเมนที่อาซาฮิคาว่านั้น เป็นราเมนที่มีประวัติมายาวนาน สามารถนับย้อนหลังไปตั้งแต่สมัยต้นโชวะ โดยมีการผสมผสานบะหมี่หลายชนิดของจีนจนกลายมาเป็นราเมงขึ้นชื่อที่ได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ
เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของฮอกไกโด ที่นี่เป็นแหล่งวัตถุดิบทางทะเลที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนฮอกไกโด
คลองโอตารุขนาบข้างด้วยโกดังเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านค้า น้ำในคลองใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์อาคารและในยามอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าก็จะสะท้อนภาพออกมาเป็นเงาที่ดูแล้วรู้สึกถึงความโรแมนติก
เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรุปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะเป็นอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่มีอายุร้อยกว่าปีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
โรงงานเครื่องแก้วนี้สร้างเมื่อปี 1891 โดยใช้หินเป็นส่วนประกอบของอาคาร มีอีกชื่อคือ Sangokan แปลว่า บ้านหลังที่สาม .. ภายในมีผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เป็นเครื่องแก้ว ทั้งภาชนะเครื่องครัวต่างๆ และมีห้องน้ำชาที่ประดับโคมไฟถึง 167 ตัวเพื่อสร้างบรรยากาศที่สุดแสนจะประทับใจอีกด้วย
เป็นร้านกาแฟอันมีชื่อที่อยู่ไม่ไกลจากคลองโอตารุ มีจุดเด่นคือตัวร้านมีบรรยากาศน่ารักๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง "คิตตี้"
ร้านสินค้ามือสอง ภายในร้านจะมีจำหน่ายสินค้าสภาพดี อาทิ กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน เครื่องจามชาม ชุดกาแฟ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
เมืองเอกบนฮอกไกโดซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น แม้ในเมืองซัปโปโรจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายนักแต่ในฤดูหนาวที่นี่จะมีการจัดเทศกาลน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยทุกๆปีจะมีนักแกะสลักน้ำแข็งฝีมือดีจากทั่วโลกเดินทางมาแสดงฝีไม้ลายมือให้ได้เห็นกัน
แหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก เหมาะสำหรับจับจ่ายซื้อหาของฝากจากฮอกไกโด เป็นชุมชนร้านค้าประมาณ 200 ร้านทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตรตลอดทิศตะวันออกและตะวันตกของใจกลางเมืองซัปโปโร เชื่อมต่อกันด้วยหลังคาโครงสร้างที่รองรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่เขตนิชิ 1 โจเมะจนถึงนิชิ 7 โจเมะ จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงฝนหรือหิมะ แสงแดด
ศาลเจ้าฮอกไกโด เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าโยฮะชิระผู้พิทักษ์ฮอกไกโดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนนี้จึงมีผู้ศรัทธาไปมนัสการมากตลอดปี จากศาลเจ้ามีพื้นที่เชื่อมต่อกับสวนมารุยามะ ในฤดูใบไม้ผลิเหมาะแก่การชมดอกซากุระบาน
เป็นโรงงานสุดน่ารักที่มีธีมพาร์คสไตล์ยุโรปอยู่ข้างหน้า ที่นี่ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และก็โรงงานช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของฮอกไกโด โดยอาคารร้านขายของจะถูกตกแต่งให้มีลักษณะคล้ายๆ กับสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปชมอุปกรณ์การผลิตยุคแรกเริ่ม แบบจำลองของโรงงาน สายการผลิตเป็นลำดับ และขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งชิมและเลือกซื้อช็อกโกแลตหรือไอศครีมแบบต่างๆ ซึ่งผลิตจากนมสดของเกาะฮอกไกโด
เป็นตลาดกลางขายส่งของเมือซัปโปโร และเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมซึ่งสามารถลองลิ้มชิมรสข้าวหน้าอาหารทะเล หรือซูชิที่ใช้อาหารทะเลสดๆ ที่เพิ่งซื้อมาในตอนเช้าจากสถานที่ต่างๆ ในฮอกไกโดอย่างเต็มที่ ปูที่เรียงรายอยู่หน้าร้านได้รับความนิยมที่สุดเพื่อเป็นของฝากจากทะเล ขอเชิญดื่มด่ำไปกับความอร่อยที่มีเฉพาะในตลาดเท่านั้น
เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำฮอกไกโด
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย