เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปมาโตเกียว โยโกฮาม่า และจังหวัดใกล้เคียงได้กว่า 35 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว) โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 65 สายการบิน
เป็นองค์พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งได้รับการบันทึกอยู่ในกินเนสบุ๊คด้วยความสูง 120 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปภายในองค์พระพุทธรูปและขึ้นลิฟท์ที่มีความสูง 85 เมตรไปยังส่วนหน้าอกขององค์พระได้ นอกจากนี้ ภายในสวนก็เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ที่บานตามแต่ละฤดูกาลทั้งสี่และสวนแบบนิกายโจโด และยังมีสวนสัตว์เล็กๆ ที่เลี้ยงกระรอกกับกระต่ายให้วิ่งเล่นอย่างอิสระ
เป็นเมืองเล็กๆ ในจัหวัดโทชิกิที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นพื้นที่ของครอบครัวในตระกูลโทกุกาว่า โดยเฉพาะโขกุนอิเอยะสุ โทกุกาว่า ผู้สร้างเมืองเอโดะให้เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ (โตเกียว) มาจนถึงปัจจุบันนี้ อัฐฐิของโชกุนท่านนี้ก็ยังบรรจุที่สุสาน ภายในบริเวณศาลเจ้าโทโชกุที่ยิ่งใหญ่ สวยงามด้วยผลงานศิลปะที่แปลกตา สลับซับซ้อน
เป็นศาลเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพแห่งแสงสว่างของภาคตะวันออก ในตอนแรกนั้นบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับฝั่งศพ ต่อมาจึงก็มีการสร้างอาคารและขนายศาลเจ้าเพิ่มเติมจนมีขนาดใหญ่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน อาคารต่างๆ ของศาลเจ้านั้นมีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม และสร้างอยู่ภายในป่าเขาจึงทำให้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
เป็นสะพานที่ติดอันดับหนึ่งในสามของสะพานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า สะพานอสรพิษคู่ เป็นสะพานโค้งสีแดงที่ทอดข้ามแม่น้ำไดยะ
เมืองนาสุเป็นเมืองที่คึกคักไปด้วยสกีรีสอร์ท โดยจะมีกระเช้าลอยฟ้าเคลื่อนพาชมทัศนียภาพที่งดงามของเทือกเขานาสุในทุกฤดูกาล
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคมากกว่า 150 กิโลเมตร ลึกเข้าไปในภูเขาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู พื้นที่ 10% เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ส่วนที่เหลืออีก 90%(พื้นที่กว้างในภาคตะวันตกของฟูกุชิมะ รวมถึงภูเขา และเมืองประวัติศาสตร์อาอิซุ-วาคามัตสึ(Aizu-Wakamatsu) ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
เป็นหมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่มีบ้านแบบมุงหลัง ปัจจุบันยังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี และมีการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และบ้านพักแบบโฮมสเตย์ต่างๆ อาหารยอดนิยมคือบะหมี่โซบะ และปลาเทร้าต์ย่าง นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าและวัดประจำเมืองโออูจิจูคุ นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองได้จากบริเวณด้านบนของวัดได้ตามอัธยาศัย
เมืองไอสุวาคามัสสึ หรือมีชื่อเรียกสั้นๆ ว่าเมืองไอสุ ตั้งอยู่ในจังหวัดฟูกุชิมะ มีจุดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นเยอะแยะมากมาย โด่งดังในงานฝีมือดั้งเดิมที่เรียกว่า“เครื่องเคลือบไอสึ”นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งผลิตข้าวและเหล้าสาเกอีกด้วย
เป็นปราสาทที่เป็นศูนย์รวมการปกครองทางทหารในแถบเมือง Aizu-wakamatsu ปัจจุบัน ภายในปราสาทถูกจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ มีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของปราสาทแห่งนี้ รวมถึงวิถีชีวิตของเหล่าซามูไรอีกด้วย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมได้ถึงชั้นบนสุดของปราสาท ส่วนบริเวณสวนรอบปราสาทนั้นรายรอบไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนปราสาทแห่งนี้ในช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี
ร่วมกิจกรรมเพนส์ตุ๊กตาวัวแดง โดยตุ๊กตาดังกล่าวเป็นเครื่องรางที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายไม่ให้ทำอันตรายเด็กๆ ดังนั้นตุ๊กตา Akabeko จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
สวนฮานามิยาม่าเป็นสวนบนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยพื้นที่ทำการเกษตรในชนบทที่ตั้งอยู่นอกใจกลางเมืองฟูกุชิมะ ซึ่งเริ่มแรกเกษตรกรในท้องถิ่นเป็นผู้เริ่มปลูกไม้ดอกและไม้ประดับบนเนินเขารอบที่ดินของตนเอง แล้วขยายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 1959 ได้เปิดเป็นพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนได้เข้าชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิของทุกๆปี มีดอกซากุระพันธุ์โยเมโยชิโนะ ชื่อดังมากที่สุด ให้ท่านได้ถ่ายรูปเก็บความ
สวนสาธารณะ Funaoka Joshi Park เมืองเซ็นได เป็นสถานที่ชมซากุระยอดนิยมอีกแห่งที่ต้องแนะนำให้มาชม สวนแห่งนี้จะตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ที่ปลูกต้นซากุระเต็มไปหมดทั้งเขานอกจากนี้ยังมีดอกไม้สีสันสวยงามอีกมากมาย และยังเป็นสถานที่จัดงาน “งานเทศกาลชมดอกซากุระ” (Sakura Matsuri) ในช่วงกลางเดือนเมษายน อันเป็นเวลาที่ซากุระแห่งเซ็นไดบานเต็มที่อีกด้วย ไฮไลท์หลักของที่นี่ก็คือ การนั่งรถราง Slope Car (ราคาเพียงเที่ยวละ 250 เยน!) ซึ่งเจ้ารถรางนี้จะค่อย ๆ ขึ้นเขาผ่านต้นซากุระที่ปลูกเรียงรายสองข้างทางยาว ราวกับเป็นอุโมงค์ซากุระ ความยาว 305 เมตร เป็นภาพที่สวยงาม เหมาะแก่การมาเก็บรูปพร้อมชมบรรยากาศงามๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่มาก
หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิในภูเขาของจังหวัดมิยากิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1990 ภายในหมู่บ้านมีสัตว์นานาชนิดกว่า 100 ตัว รวมถึงสุนัขจิ้งจอก 6 สายพันธุ์ที่วิ่งไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่กว้าง ในประเทศญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่สำคัญชนิดหนึ่ง ตั้งแต่ระดับชาวบ้านมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกมีวิญญาณของเทพอินาริโอคามิ หรือเทพเจ้าของศาสนาพุทธชินโตอยู่ ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ของการเกษตร(ข้าว, ใบช้า) และความเจริญรุ่งเรือง ให้ท่านได้สัมผัสความน่ารักของสุนัขจิ้งจอก และป้อนอาหารสุนัขจิ้งจอก พร้อมเก็บภาพความประทับใจ
เป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งในภูมิภาคโทโฮคุที่มีประชากรกว่าล้านคนอยู่อาศัย ถึงแม้ว่าเซนไดจะเป็นเมืองใหญ่และทันสมัย แต่ความก้าวหน้าในด้านต่างๆ ของเมืองได้ผสมกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างได้สมดุล หลายๆแห่งในเมืองมีทัศนียภาพงดงามชวนให้ต้องหยุดมอง เช่น ทิวทัศน์น้ำใสไหลรินของแม่น้ำฮิโระเซะ หรือต้นเคยะขิที่เขียวชอุ่มเป็นแนวตลอดสายถนน ความเขียวขจีของแมกไม้ในเมืองนี้เองที่ทำให้เซนไดได้สมญาว่าเป็น “เมืองแห่งต้นไม้"
หมู่บ้านออนเซ็นกินซัง (Ginzan Onsen) เมืองน้ำพุร้อนที่เงียบสงบในภูเขาของจังหวัดยามากาตะ มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่นว่าเป็นเมืองออนเซ็นที่สวยงาม เรียกังของที่นี่เป็นสไตล์ดั้งเดิม ที่เป็นคาคารไม้ 3-4 ชั้น ผสมผสานกับผนังปูนสีขาวสะอาดทำให้รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีต และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์ดังของญี่ปุ่น โอชิน แล้วก็เป็นหมู่บ้านแรงบันดาลใจของคุณ Hayao Miyazaki ในการเอามาทำเรื่องแอนิเมชั่นดังเรื่อง Spirited Away
เป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งในภูมิภาคโทโฮคุที่มีประชากรกว่าล้านคนอยู่อาศัย ถึงแม้ว่าเซนไดจะเป็นเมืองใหญ่และทันสมัย แต่ความก้าวหน้าในด้านต่างๆ ของเมืองได้ผสมกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างได้สมดุล หลายๆแห่งในเมืองมีทัศนียภาพงดงามชวนให้ต้องหยุดมอง เช่น ทิวทัศน์น้ำใสไหลรินของแม่น้ำฮิโระเซะ หรือต้นเคยะขิที่เขียวชอุ่มเป็นแนวตลอดสายถนน ความเขียวขจีของแมกไม้ในเมืองนี้เองที่ทำให้เซนไดได้สมญาว่าเป็น “เมืองแห่งต้นไม้"
เป็นซากปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1600 โดยเจ้าเมืองเซนไดชื่อ Date Masamune ในช่วง 400 ปี หลังยุคศักดินาถูกต่อต้านในช่วงสมัยเมจิเกิดไฟใหม้ในปี 1882 และโดนระเบิดในปี 1945 จึงทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซากกำแพงหินด้านนอกและหอรักษาความปลอดภัย จากทำเลที่ตั้งของปราสาทเดิมทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเซนไดด้านล่างที่งดงามได้
เป็นย่านช้อปปิ้งหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซนได ตรงบริเวณสถานีรถไฟเซนไดและสถานีรถไฟใต้ดินโอบะ โดริ อิจิบังโจ ย่านนี้ถือเป็นย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางยาวไปหลายช่วงตึก เริ่มตั้งแต่อาคาร AER และ Parco ยาวไปจนถึงโคคุบุนโช มีทั้งสินค้าต่างๆ มากมาย ร้านแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ร้านอาหารหลากชนิด คาเฟ่ ไปจนถึงร้าน 100 เยน
หรือรถไฟหัวกระสุน เป็นเครือข่ายของรถไฟความเร็วสูงในญี่ปุ่น ความยาวเส้นทางรวม 2,459 กิโลเมตร โดยสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะเกิดแผ่นดินไหวหรือพายุไต้ฝุ่น ก็สามารถวิ่งได้ตามปกติ ในรางปกตินั้นรถไฟสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 443 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นความเร็วสถิติโลกเมื่อวิ่งด้วยรางรถไฟแม่เหล็ก (แม็คเลฟ)
กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก
ที่นี่เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง ก็จะมีร้านค้าสำหรับคอกันดั้ม อย่างกันดั้มคาเฟ่ (Gundam Cafe) และถ้าอยากเข้าไปดูนิทรรศกาลกันดั้ม ก็ต้องไปที่ กันดั้มฟรอนท์ (Gundam Front) ซึ่งอยู่ในบริเวณห้าง
สามารถเข้าไปชมได้ฟรี ตั้งอยู่ใกล้ๆกับห้าง Diver City Tokyo นอกจากหุ่นกันดั้มแล้ว จะมีอีกหลายโซนสำหรับแฟนคลับกันดั้มโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Museum Space, Experiece Field , DOME-G เป็นต้น โดยมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม นอกจากนี้ยังมี Gundam Official Shop และ Guadam Cafe อีกด้วย เปิดตั้งแต่ 10.00-20.00 น
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว ในอดีตเคยเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของญี่ปุ่น ก่อนที่จะย้ายไปที่ท่าอากาศยานนาริตะ ท่าอากาศยานฮาเนดะเปิดให้บริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกว่า 25 แห่งใน 17 ประเทศ
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย