เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว ในอดีตเคยเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของญี่ปุ่น ก่อนที่จะย้ายไปที่ท่าอากาศยานนาริตะ ท่าอากาศยานฮาเนดะเปิดให้บริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกว่า 25 แห่งใน 17 ประเทศ
เป็นสนามบินที่ตั้งอยู่ในเมือง Kitaakita จังหวัดอะคิตะทางตอนเหนือ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2541
เป็นทะเลสาบที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและยังคงความเป็นธรรมชาติที่เรียบง่าย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยมีความลึกประมาณ 423 เมตร ปลายสุดทางทิศเหนือเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโกซะโนอิชิ เดิมเป็นที่สำหรับขุนนางท้องถิ่นแวะมาชมธรรมชาติ และทางด้านทิศตะวันตกของทะเลสาบมีรูปปั้นผู้หญิงสีทองที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ทาสุโกะ เชื่อกันตามตำนานว่านางเป็นสาวสวยที่อธิษฐานขอให้ความงามของนางคงอยู่ตลอดไป แต่กลับโดนคำสาปและกลายเป็นมังกรจมสู่ทะเลสาบเบื้องล่างแห่งนี้
ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังในบานะที่เป็นถิ่นฐานของชาวซามูไรและเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทคาคุโนะดาเตะ สิ่งของเก่าแก่มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของซามูไรในสมัยก่อน ในปัจจุบันยังมีบ้านพักอาศัยอยู่ประมาณ 80 หลังคาเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมซามูไรแบบดั้งเดิมที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีบ้านเพียง 6 หลังที่เปิดให้ผู้คนได้เข้าไปชมความสวยงามภายในบ้าน
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอิวาเตะ นับเป็น 1 ใน 3 ของสถานที่นอกตัวเมืองในภูมิภาคโทโฮคุ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตสำหรับชมซากุระ ภายในสวนมีต้นซากุระรวมกว่า 10,000 ต้น เรียงรายตามทางยาวกว่า 2 กม.
ล่องเรือชมหุบเขาเกบิเคย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางแห่งธรรมชาติที่มีชื่อโด่งดังแห่งจังหวัดอิวะเตะ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินผาที่มีรูปร่างแตกต่างกันไป และหินรูป"เกบิ" ที่แปลว่าจมูราชสีห์ นี่เองที่เป็นที่มาของชื่อ"เกบิเคย์" เกบิเคย์ขึ้นชื่อในการมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี มีความงดงามที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติผสานรวมกับเรื่องราวและความเชื่อของชาวญี่ปุ่นทำให้เกบิเคย์ยังคงเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเยียนอยู่ไม่ขาดสาย ส่วนในฤดูหนาวพื้นที่ผาริมน้ำจะเป็นสีขาวปุยของหิมะ ให้บรรยากาศที่โรแมนติกไม่แพ้ไปกว่าหน้าใบไม้เปลี่ยนสีเลย
ชื่อนี้แปลว่า ซากุระ 1,000 ต้น ที่เห็นได้ครั้งเดียวบริเวณริมแม่น้ำชิโรอิชิในเมืองเซนได จังหวัดมิยากิ โดยที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,200 ต้น ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวราว 8 กิโลเมตร ในวันที่ท้องฟ้าโปร่ง จะสามารถมองเห็นเทือกเขาซะโอเป็นฉากหลัง ซึ่งทิวทัศน์อันงดงามนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของภูมิภาคโทโฮคุ
เมืองไอสุวาคามัสสึ หรือมีชื่อเรียกสั้นๆ ว่าเมืองไอสุ ตั้งอยู่ในจังหวัดฟูกุชิมะ มีจุดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นเยอะแยะมากมาย โด่งดังในงานฝีมือดั้งเดิมที่เรียกว่า“เครื่องเคลือบไอสึ”นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งผลิตข้าวและเหล้าสาเกอีกด้วย
เป็นหนึ่งในโรงกลั่นที่ใหญ่ และมีชื่อเสียงในการผลิตเหล้าสาเกในภูมิภาคโทโฮคุ ก่อตั้งในปี 1850 เป็นกิจการครอบครัวที่สืบทอดมาแล้ว 8 รุ่น เหล้าสาเกของที่นี่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ได้รับราชวัลชนะเลิศระดับประเทศและต่างประเทศ เหล้าระดับพรีเมี่ยมผลิตด้วกรรมวิธีดั้งเดิมที่เรียกว่า Yamahai คือการชะลอการหมักเพื่อรสชาติสาเกที่ซับซ้อน นอกจากนี้ยังมีร้านค้าจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
เป็นปราสาทที่เป็นศูนย์รวมการปกครองทางทหารในแถบเมือง Aizu-wakamatsu ปัจจุบัน ภายในปราสาทถูกจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ มีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของปราสาทแห่งนี้ รวมถึงวิถีชีวิตของเหล่าซามูไรอีกด้วย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมได้ถึงชั้นบนสุดของปราสาท ส่วนบริเวณสวนรอบปราสาทนั้นรายรอบไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนปราสาทแห่งนี้ในช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี
ไร่สตรอเบอร์รี่ของชาวญี่ปุ่นที่มีการปลูกอย่างพิถีพิถัน และได้รับการดูแลเอาใจใส่ทุกกระบวนการทุกขั้นตอน ทำให้ผลของสตรอเบอร์รี่นั้นมีขนาดใหญ่ สีแดงสด และรสชาติหวานกว่าในประเทศไทย ท่านจะได้ชมถึงวิธีการเก็บสตรอเบอร์รี่และสามารถชิมสตรอเบอร์รี่ในไร่นี้ได้ โดยสามารถเด็ดจากต้นด้วยตัวเอง และยังซื้อกลับมาเป็นของฝากแก่คนที่บ้านได้
เป็นเขตการปกครองระดับจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภาคคันโต มีเมืองหลวงชื่อเดียวกันคือ ไซตะมะ จังหวัดไซตะมะเป็นจังหวัดที่มีความเจริญมากเพราะอยู่ติดกับกรุงโตเกียว ซึ่งเขตชิชิบุ ในจังหวัดนี้มีเทือกเขา ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม จึงเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมา
เป็นเมืองเก่าในสมัยเอโดะที่ยังคงอนุรักษ์บรรยากาศความโบราณตั้งแต่ในอดีตให้คงอยู่มาจนถึงปัจจุบันจนได้รับฉายาว่าเป็น 'ลิตเติ้ลเอโดะ' (Koedo) ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ สามารถชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่า ๆ ของญี่ปุ่นในถนนบางสายของเมืองที่อนุรักษ์บ้านเรือนหรือห้างร้านเก่าแก่เอาไว้เป็นอย่างดี เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องของ ‘มันหวาน’ ที่มีรสชาติอร่อยอีกด้วย
กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก
ที่นี่เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดเซนโซ หรือเซนโซจิ แต่นิยมเรียกว่าวัดอาซากุสะเนื่องจากตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะนั่นเอง เป็นวัดในศาสนาพุทธ สัญลักษณ์ของวัดนี้ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ โคมไฟสีแดงขนาดใหญ่
เป็นเอ้าท์เล็ตที่มีขนาดใหญ่ถึง 215,000 ตารางเมตร และใหม่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ด้วยจำนวนร้านค้า 250 ร้านค้า และอีก 21สินค้าแบรนด์ของญี่ปุ่นที่ยังไม่เคยเจอในเอ้าท์เล็ตที่ไหนมาก่อน ทำให้เอ้าท์เล็ตแห่งนี้ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง ก็จะมีร้านค้าสำหรับคอกันดั้ม อย่างกันดั้มคาเฟ่ (Gundam Cafe) และถ้าอยากเข้าไปดูนิทรรศกาลกันดั้ม ก็ต้องไปที่ กันดั้มฟรอนท์ (Gundam Front) ซึ่งอยู่ในบริเวณห้าง
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว ในอดีตเคยเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของญี่ปุ่น ก่อนที่จะย้ายไปที่ท่าอากาศยานนาริตะ ท่าอากาศยานฮาเนดะเปิดให้บริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกว่า 25 แห่งใน 17 ประเทศ
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย