เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปมาโตเกียว โยโกฮาม่า และจังหวัดใกล้เคียงได้กว่า 35 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว) โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 65 สายการบิน
เป็นเมืองเก่าในสมัยเอโดะที่ยังคงอนุรักษ์บรรยากาศความโบราณตั้งแต่ในอดีตให้คงอยู่มาจนถึงปัจจุบันจนได้รับฉายาว่าเป็น 'ลิตเติ้ลเอโดะ' (Koedo) ที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ สามารถชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่า ๆ ของญี่ปุ่นในถนนบางสายของเมืองที่อนุรักษ์บ้านเรือนหรือห้างร้านเก่าแก่เอาไว้เป็นอย่างดี เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องของ ‘มันหวาน’ ที่มีรสชาติอร่อยอีกด้วย
เป็น Outlet ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น แต่ที่นี่ไม่ได้มีแต่ที่ช็อปปิ้ง เป็นที่พักตากอากาศสำหรับคนไฮโซด้วย และเป็นเอาท์เล็ทขนาดกว้างใหญ่มาก ในแผนที่ดูเหมือนเป็นตึกเดียวแล้วมีร้านเยอะๆแต่ความจริงคือเป็น Open Mall มีช้อปหลายๆ ช้อปเรียงกันเป็นโซนๆ มีแผนที่ภาษาอังกฤษให้หยิบตามเสา สำหรับคนที่ชอบการช็อปปิ้ง ขอแนะนำให้มาที่คิวคารุ่ยซาว่าในตอนเช้า ส่วนตอนบ่ายแนะนำให้อยู่ Outlet เพราะว่าของเยอะ สินค้าที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องแต่งกาย รองเท้า เครื่องประดับและของกิน
ปราสาทมัตสึโมโต้เป็นปราสาทไม้ที่คงความดั้งเดิมและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นและได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติล้ำค่าประจำชาติ การตัดกันของสีดำและสีขาวของผนังปูนด้านนอกปราสาท ทำให้ปราสาทแห่งนี้ดูโดดเด่นงดงามตัดกับฉากหลังของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ปราสาทมัตสึโมโต้ มีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า ปราสาทอีกา
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นกำแพงหิมะสุดสวยบนเทือกเขาทาเทยาม่า ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดของเกาะฮอนชูทางตอนกลางของประเทศ ที่มีเทือกเขาที่สวยงาม ลักษณะคล้ายๆ กับเทือกเขาแอลป์ จึงได้รับการขนานนามว่า เป็น เจแปนแอลป์ นักท่องเที่ยวบางท่านก็จะรู้จักสถานที่แห่งนี้ในนามของเจแปนแอลป์ ที่นี่มีจุดไฮไลท์คือกำแพหิมะอันขาวโพลน ที่ได้ชื่อว่าเป็นกำแพงหิมะที่สวยที่สุดในโลก
เป็นสถานีที่สามารถต่อรถบัสและรถรางซึ่งเป็นเส้นทาง Japan Alps เป็นสถานีรถบัสและรถรางที่อยู่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง Japan Alps ซึ่ง้ชื่อมทั้งของเส้นทางทั้งบัสและรถราง
เป็นสถานีกระเช้าลอยฟ้าที่เชื่อมต่อกับรถบัสขึ้นเขา Japan Alps ซึ่งตั้งอยู่ในเขตโทยาม่า
เป็นเส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เดินชมเพื่อเป็นกิจกรรมสำหรับการศึกษาธรรมชาติ ชมตำนานต้นสนยักษ์ “บิโจสุงิ”(ต้นสนหญิงงาม)ตั้งแต่ยุคสมัยแรก ๆ สูงตระหง่านขึ้นขวักไขว่ทอดไปตามแนวถนนสำหรับเดินเล่น ดูรายละเอียดที่หน้าเส้นทางสำหรับเดินเล่น. นอกจากนี้กิจกรรมท่องเที่ยวดูนกก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ชมวิวปล่องภูเขาไฟทาเตยามะ ถนนเดินชมธรรมชาติที่ทุ่งมิดางะฮาระ
น้ำตกโชเมียวซึ่งสูงที่สุดในญี่ปุ่นนั้นได้ไหลตกลงมารวดเดียวพร้อมๆ กับละอองน้ำกระเซ็นออกมาโดยไหลตกลงมาด้วยความสูงถึง 350 เมตร ในฤดูใบไม้ผลิจะมีน้ำจากหิมะที่ละลายของเทือกเขาทาเตยามะไหลมารวมกัน เกิดเป็นน้ำตกฮันโนะคิซึ่งอยู่ทางด้านขวาของน้ำตกโชเมียวปรากฏเป็นน้ำตกสองสายไหลตกลงมาอย่างสวยงาม ทั้งยังมีสเน่ห์กับบรรยากาศที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล
เป็นสถานีรถรางหรือรถไฟฟ้าที่ใช้เพื่อเดินทางไปยัง Japan Alps ได้ อยู่ที่เมือง ทาเทยาม่า
รถรางที่ใช้พลังงานไฟฟ้า วิ่งผ่านอุโมงค์ระหว่าง Murodo กับ Daikanbo ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที ค่าใช้จ่าย 2,160 เยน
เป็นสถานีกระเช้าไฟฟ้า ที่เชื่อมต่อไปยังรถรางไฟฟ้าเพื่อไปชมเขื่อน Kurobe เป็นเส้นทางการเดินทางข้าม Japan Alps
เขื่อนนี้มีความสูง 186 เมตร ซึ่งเป็นเขื่อนที่สูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลาก่อสร้างนาน 7 ปี โดยใช้สำหรับผลิตไฟฟ้าให้แก่ภูมิภาคคันไซ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเส้นทางทาเทยาม่า คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) อีกด้วย ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน – กลางเดือนตุลาคมจะมีการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนทุกวัน ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามภาพหนึ่ง
เป็นสถานีกระเช้าทาเทยาม่าที่ตั้งอยู่ในเขตโทยาม่า
หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม หมู่บ้านแห่งนี้ใช้โครงสร้างที่เรียกว่า กัสโช ซึ่งแปลว่าสร้างแบบพนมมือ ด้านหน้าทำเป็นหน้าจั่วแบบบ้านทรงไทย มีการเจาะช่องหน้าต่างเพื่อรับแสงสว่างจากภายนอก เมื่อมองจากภายนอกจึงดูมีสัดส่วนสวยงาม
เป็นเมืองแห่งปราสาทที่บ้านเมืองยังคงมีภาพของสะท้อนของประวัติศาสตร์เก่าแก่ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนที่มีโครงหน้าต่างขัดกันเป็นตาราง และวัดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่
ใช้เป็นทั้งที่ทำงาน และที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะมาเป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนโตกุกาว่า ในสมัยเอะโดะ หรือกว่า 300 ปีที่แล้ว เป็นที่ทำการรัฐในยุคเอะโดะเพียงแห่งเดียวที่ข้ามพ้นยุคสมัยมาได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งภายในนี้ประกอบด้วยบริเวณไต่สวนพิจารณาคดี ห้องขังนักโทษ โรงครัว และห้องพักของเจ้าหน้าที่
เป็นเมืองเก่าสมัยเอโดะ ที่มีอายุกว่า 300 ปี แต่ยังคงอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ ทั้งวัดวาอาราม ศาลเจ้า บ้านแบบดั้งเดิมของชาวนาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
เมืองนารา เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโอซาก้า มีกวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา เนื่องจากชาวนารามีความเชื่อว่ากวางเป็นสัตว์รับใช้เทพเจ้า ปัจจุบันเมืองนารามีกวางเดินอยู่อย่างอิสระทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า วัด หรือตามท้องถนนก็ตาม
เป็นวัดหลวงพ่อโตไดบุทสึแห่งเมืองนาราที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งยังมีความสำคัญทางศาสนาของญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศ มีจุดเด่นคือตัวอาคารหลักของวัดเป็นอาคารไม้ที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก
หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาว เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าชื่อดังที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดี เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แด่เทพอินาริ เทพเจ้าแห่งกสิกรรม เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวได้ ผลผลิตดีมีคุณภาพ สิ่งที่น่าสนใจนอกจากจะมาสักการะเทพเจ้าแล้ว ก็คือการเดินเล่นลอดอุโมงค์เสาโทริอิกว่าหมื่นต้นที่เรียงต่อทอดยาวจากด้านล่างขึ้นไปบนยอดเขาสูงถึง 233 เมตร ระยะทางราว 4 กิโลเมตร
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี