เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
วนอุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจาก Hakodate ไปทางทิศเหนือเพียง 20 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพที่งดงามของเกาะ ทะเลสาบ และภูเขาไฟโคมะงาตาเกะ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ พื้นที่ที่น่าสนใจที่สุดของอุทยานแห่งนี้ คือระหว่างทะเลสาบโอนุมะและทะเลสาบโคนุมะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจพื้นที่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะมีเส้นทางการเดินคาบสมุทรและเกาะแก่งต่างๆที่เชื่อมต่อด้วยสะพานเล็กๆ ใช้เวลาประมาณ 15-60 นาที
เป็นเมืองทางใต้สุดของเกาะฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเพราะป้อมปราการ/สวนรูปทรงดาว และเป็นเมืองที่เปิดท่าเรือเพื่อแลกเปลี่ยนกับชาวต่างชาติเป็นเมืองแรกในยุคเปิดประเทศของญี่ปุ่น
หอคอยโกเรียวคาคุ เป็นหอคอยเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1964 ในโอกาสฉลองปราสาทโกะเรียวคะคุครบรอบ 100 ปี เดิมมีความสูง 60 เมตร ต่อมาได้มีการพัฒนากลายเป็นหอคอยที่ทันสมัยและเปิดบริการครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน ปี 2006 ปัจจุบันหอคอยมีความสูง 107 เมตร จากด้านบนนักท่องเที่ยวจะได้เห็นป้อมรูปดาวเบื้องล่าง และวิวของเมืองฮาโกดาเตะได้รอบทิศทาง
นั่งกระเช้าขึ้นไปยังเขาฮาโกดาเตะ หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น โดยจุดชมวิวบนยอดเขาฮาโกดาเตะนี้ ในฤดูหนาวจะ ขึ้นไปได้แต่รถกระเช้าเท่านั้นส่วนในฤดูอื่นอาจเรียกแท็กซี่หรือนั่งรถบัสขึ้นไปได้ด้วย แต่รถกระเช้าก็ยังคงเป็นทางเลือกที่เร็วและสะดวกที่สุดอยู่ดี
เป็นภูเขาประจำเมืองฮาโกดาเตะ มีความสูง 334 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในป่าทางตอนใต้ของปลายคาบสมุทร ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ที่นี่นับเป็นจุดชมวิวติดอันดัน 1 ใน 3 สถานที่ที่ดีที่สุด ร่วมกับภูเขาอินาซะที่นางาซากิ และภูเขารอคโคที่โกเบ บนยอดเขามีจุดชมวิว ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และร้านอาหารสไตล์โรงอาหารเปิดให้บริการ
เป็นตลาดเช้าหลังสถานีรถไฟที่มีผัก ผลไม้ และอาหารสดๆ ส่งตรงมาจากฟาร์มของ มาให้เราเลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลิน ในราคาซื้อง่ายขายคล่องแบบชาวบ้าน รอต้อนรับพวกเราอย่างอารมณ์ดี ตามสไตล์ของชาวฮาโกดาเตะ ที่เป็นคนเรียบง่าย น่ารัก และอัธยาศัยดี นอกจากนี้ตรงบริเวณ Food court ที่มีอาหารทำสดๆ ให้ได้เลือกทานกันอีกด้วย
เป็นโรงเก็บของเก่าที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี 1907 ที่นี่มีความโดดเด่นให้ความรู้สึกโรแมนติคด้วยเรือแบบอย่างยุโรปที่เรียงรายรอบอ่าว และโรงเก็บของแห่งนี้ได้ถูกดัดแปลงให้กลายมาเป็นร้านค้า ร้านช็อคโกแล็ต ร้านขายของที่ระลึกน่ารักมากมาย
เป็นย่านที่อยู่บริเวณเชิงเขาฮาโกดาเตะ ตั้งแต่สถานีรถราง Jujigai ถึง Suehiro-Cho บริเวณนี้เป็นเนินลาดเอียงขึ้นไปตามเชิงเขา เมื่อมองลงมาจากถนนที่ตัดขึ้นสู่ด้านบน จะทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ของท่าเรือ ในอดีตแถบนี้เป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าต่างชาติที่เข้ามาทำการค้าขายกับญี่ปุ่น จึงเกิดชมชุนต่างชาติขึ้นมา สิ่งก่อสร้างบริเวณนี้จึงมีทั้งโบสถ์ วัด สถานกงสุลเก่ารวมทั้งอาคารร้านค้าบ้านเรือนที่ก่อสร้างในแบบสถาปัตยกรรมแบบยุโรป
เมืองเอกบนฮอกไกโดซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น แม้ในเมืองซัปโปโรจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายนักแต่ในฤดูหนาวที่นี่จะมีการจัดเทศกาลน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยทุกๆปีจะมีนักแกะสลักน้ำแข็งฝีมือดีจากทั่วโลกเดินทางมาแสดงฝีไม้ลายมือให้ได้เห็นกัน
ศาลเจ้าฮอกไกโด เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าโยฮะชิระผู้พิทักษ์ฮอกไกโดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนนี้จึงมีผู้ศรัทธาไปมนัสการมากตลอดปี จากศาลเจ้ามีพื้นที่เชื่อมต่อกับสวนมารุยามะ ในฤดูใบไม้ผลิเหมาะแก่การชมดอกซากุระบาน
ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย
เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำฮอกไกโด
เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์แบบชนบทที่งดงาม ซึ่งในเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ และในช่วงฤดูหนาวเมืองแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นที่นิยมสำหรับเล่นสกีเนื่องจากเป็นอีกเมืองที่มีหิมะลงพอสมควร
เป็นฟาร์มทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรีอย่างอิสระ ใกล้ๆ กับทุ่งดอกไม้ยังมีร้านกาแฟ ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากลาเวนเดอร์อีกด้วย
ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ (Lavenders) บานสะพรั่งเหมือนพรมสีม่วงในฤดูร้อนที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมากมาย มาเที่ยวชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอย่างเต็มอิ่ม สามารถชมความงามและสัมผัสกลิ่นหอมเย็นของดอกลาเวนเดอร์ในทุ่งสีม่วง ซึ่งโดยปกติทุ่งดอกลาเวนเดอร์จะเริ่มบานในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมของทุกปี (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
เป็นสวนดอกไม้ 4 ฤดู ที่มีดอกไม้หลากหลายชนิดรวมถึงดอกลาเวนเดอร์ และมีหุ่นฟางขนาดใหญ่ชื่อโรลคุงและโรลจังเป็นสัญลักษณ์ของสวน ) สวนดอกไม้สุดสวยแห่งเมืองบิเอ ที่สวนแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าเนินสี่ฤดู เนื่องจากมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์จัดเรียงสลับสีกันอย่างสวยงาม และดูได้ตลอดทุกฤดูกาลนั่นเอง สวนดอกไม้ ขนาดใหญ่มีพื้นที่ 7 เฮคเตอร์ ในช่วงฤดูร้อนเต็มไปด้วยดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ให้ท่านได้เพลินเพลินกับการชมและเก็บภาพความสวยงามของดอกไม้นานาพรรณตามอัธยาศัย ณ สวนแห่งนี้ท่านสามารถเลือกเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมต่างๆ เช่น การนั่งรถ NOROKKO (รถลากที่ถูกลากโดยรถแทร็คเตอร์) นั่งรถกอล์ฟสำหรับ 4 ท่าน หรือจะเลือกเล่นรถ ATV ก็ได้
เป็นเนินเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้ อิสระให้ท่าน ได้เพลิดเพลินเดินชมความงามของทุ่งดอกไม้และถ่ายรูปตามอัธยาศัย กับวิวเนินเขากว้างใหญ่ที่มีดอกไม้นานาพันธุ์นับ 10 ชนิดปลูกเรียงรายสลับสีกันเป็นแนวยาว ให้ท่านได้เดินลัดเลาะตามทุ่งถ่ายรูป และชมความงามของแห่งสีสันของดอกไม้ที่ไกลสุดลูกตา
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เพิ่งเริ่มมีชื่อเสียงได้ไม่นานของฮอกไกโด ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบิเอะ มีน้ำสีฟ้าที่สดใสเกินกว่าบ่อน้ำตามธรรมชาติทั่วไป และตอไม้สูงจำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นความใสแปลกตาที่แสนพิเศษของน้ำในบ่อ
เมืองอาซาฮิคาว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากซัปโปโร ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาของฮอกไกโดและเป็นเมืองที่หนาวที่สุดแห่งหนึ่งของญีปุ่น สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองส่วนใหญ่จึงมักเกี่ยวข้องกับเรื่องราวความหนาวเย็นและฤดูหนาวของญี่ปุ่น
เป็นห้างอิออนหน้าสถานีอาซาฮิคาว่า มีความสะดวกสบาย หาของกินง่าย มีร้านค้า, Supermarket, Food court และโรงภาพยนต์อยู่ภายใน ที่นี่มีสินค้ามากมายให้เลือกช้อปปิ้ง และ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ขนาดใหญ่
เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของฮอกไกโด ที่นี่เป็นแหล่งวัตถุดิบทางทะเลที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนฮอกไกโด
คลองโอตารุขนาบข้างด้วยโกดังเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านค้า น้ำในคลองใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์อาคารและในยามอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าก็จะสะท้อนภาพออกมาเป็นเงาที่ดูแล้วรู้สึกถึงความโรแมนติก
เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรุปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะเป็นอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่มีอายุร้อยกว่าปีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
เป็นร้านกาแฟอันมีชื่อที่อยู่ไม่ไกลจากคลองโอตารุ มีจุดเด่นคือตัวร้านมีบรรยากาศน่ารักๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง "คิตตี้"
ร้านสินค้ามือสอง ภายในร้านจะมีจำหน่ายสินค้าสภาพดี อาทิ กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน เครื่องจามชาม ชุดกาแฟ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
เป็นอาคารสีแดงอิฐ สร้างในปี 1888 นับเป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่น เรียงรายด้วยต้นซากุระ และต้นแปะก๊วย อาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นสมัยบุกเบิกเกาะฮอกไกโด ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องทำงานต่างๆ และหอสมุดเก็บบันทึกทางราชการ
หอนาฬิกาซัปโปโร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากไม้ ตั้งอยู่ในเขตจูโอ เมืองซัปโปโร ออกแบบด้วยศิลปะแบบอเมริกัน เป็นอาคารทรงตะวันตกแห่งหนึ่ง ในจำนวนน้อยที่หลงเหลืออยู่ในเมืองนี้ ทำให้รู้จักในฐานะสัญลักษณ์ของเมือง
แหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก เหมาะสำหรับจับจ่ายซื้อหาของฝากจากฮอกไกโด เป็นชุมชนร้านค้าประมาณ 200 ร้านทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตรตลอดทิศตะวันออกและตะวันตกของใจกลางเมืองซัปโปโร เชื่อมต่อกันด้วยหลังคาโครงสร้างที่รองรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่เขตนิชิ 1 โจเมะจนถึงนิชิ 7 โจเมะ จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงฝนหรือหิมะ แสงแดด
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี