เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว ในอดีตเคยเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของญี่ปุ่น ก่อนที่จะย้ายไปที่ท่าอากาศยานนาริตะ ท่าอากาศยานฮาเนดะเปิดให้บริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกว่า 25 แห่งใน 17 ประเทศ
เป็นท่าอากาศยานที่ตั้งอยู่ในเมืองอาโอโมริ จังหวัดอาโอโมริ หนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคโทโฮคุ
ปาสาทฮิโรซากิ ตั้งอยู่ในเมืองฮิโรซากิ จังหวัดอาโอโมริ ปราสาทแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิโรซากิ มีความสวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น เป็นปราสาทโบราณถูกโอบล้อมด้วยปราการกำแพงหินและคูน้ำ 3 ชั้น ภายในปราสาทถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งของวัตถุโบราณ อาทิ ชุดเกราะสำหรับซามูไร
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อาคารภายนอกถูกปกคลุมด้วยแผ่นโลหะสีแดงมีความโดดเด่น ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟอาโอโมริ ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเทศกาลเนบูตะมัตสุริที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ผู้เข้าชมจะได้ซึมซับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของประวัติศาสตร์และประเพณีสำคัญ
นักท่องเที่ยวสามารถชมสวนผลไม้ และเลือกซื้อ ชิมความอร่อย หรือเก็บผลไม้สดๆได้จากต้น
เป็นกลุ่มยอดภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองอาโอโมริ และทะเลสาบโทวาดะ ถือเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีชื่อเสียงของความงดงามตามฤดูกาลต่างๆ รวมถึงเส้นทางเดินป่าทางธรรมชาติ และน้ำพุร้อนที่โด่งดัง นอกจากนี้แล้ว ภูเขาที่สูง 1,585 เมตร ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ซึ่งจะเปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณปลายเดือนกันยายน-กลางตุลาคม และในช่วงฤดูหนาวหิมะจะตกในบริเวณภูเขาเป็นปริมาณมาก ทำให้เกิดต้นไม้แช่แข็ง
เป็นทะเลสาบที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีความลึกเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น และอยู่ในเวิ้งของภูเขาไฟที่ดับแล้ว สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร เมื่อมองจากมุมสูงรูปร่างของทะเลสาบจะคล้ายหม้อ ใช้เรียกพื้นที่ตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูก ที่มีลักษณะยุบลงเป็นทรงคล้ายหม้อ ซึ่งเกิดจากแรงระเบิดของภูเขาไฟ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือเพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของทะเลสาบ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อว่าสวยทุกฤดูกาล น้ำใสจนสะท้อนสีสันของใบไม้ต้นไม้โดยรอบ
มีความยาว 14 กิโลเมตร จากทะเลสาบโทวาดะไปจรดที่ภูเขาไฟ ในหนึ่งปีความสวยงามของทิวทัศน์แม่น้ำโออิราเสะนี้จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล สองฝั่งแม่น้ำมีทางเดินสำหรับนักท่องเที่ยวและสามารถชมน้ำตกได้อีกด้วย นับว่าเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับการเข้าชมทะเลสาบโทวาดะ ระยะเวลาโดยเฉลี่ยในการเดินจนสุดเส้นทางคือประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,600 เมตร เป็นพื้นที่ที่มีลักษณะทางกายภาพเฉพาะตัวอย่างยิ่ง มีทั้งหนองน้ำ ทะเลสาบ ป่าสน ตลอดจนเนินสำหรับเล่นสกี (ในช่วงฤดูหนาวยาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม) รวมถึงเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่เรียกว่า ถนน Asupite-Line และบ่อน้ำพุร้อนฮาชิมันไตออนเซ็น
เป็นทะเลสาบขนาดเล็กอันสุดงดงามที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบสูงฮะชิมันไต ใกล้ๆ กับ Aspite Line ซึ่งมีความสูง 1,614 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ประมาณ 6 กิโลเมตรจากทางเข้าทิศตะวันตกของพื้นที่อุทยาน รอบทะเลสาบจะมีเส้นทางเดินวนรอบที่มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ในฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่ถือเป็นเส้นทางเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคโทโฮคุ ภาพใบไม้เปลี่ยนสีสะท้อนลงในสระน้ำ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว ส่วนในหน้าหนาวบรรยากาศที่นี่จะล้อมรอบด้วยหิมะสัขาวนวลท่ามกลางป่าธรรมชาติ ที่ให้บรรยากาศดีไปอีกแบบ
เป็นทะเลสาบที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและยังคงความเป็นธรรมชาติที่เรียบง่าย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยมีความลึกประมาณ 423 เมตร ปลายสุดทางทิศเหนือเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโกซะโนอิชิ เดิมเป็นที่สำหรับขุนนางท้องถิ่นแวะมาชมธรรมชาติ และทางด้านทิศตะวันตกของทะเลสาบมีรูปปั้นผู้หญิงสีทองที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ทาสุโกะ เชื่อกันตามตำนานว่านางเป็นสาวสวยที่อธิษฐานขอให้ความงามของนางคงอยู่ตลอดไป แต่กลับโดนคำสาปและกลายเป็นมังกรจมสู่ทะเลสาบเบื้องล่างแห่งนี้
ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังในบานะที่เป็นถิ่นฐานของชาวซามูไรและเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทคาคุโนะดาเตะ สิ่งของเก่าแก่มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของซามูไรในสมัยก่อน ในปัจจุบันยังมีบ้านพักอาศัยอยู่ประมาณ 80 หลังคาเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมซามูไรแบบดั้งเดิมที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีบ้านเพียง 6 หลังที่เปิดให้ผู้คนได้เข้าไปชมความสวยงามภายในบ้าน
ตามตัวหุบเขาทั้งสองด้านและริมหน้าผามีน้ำตก จุดเด่นและพิเศษที่สุดของหุบเขาแห่งนี้คือสีของลำธารที่ผ่ากลางหุบเขานั้นเป็นสีฟ้าใสที่งดงามเป็นอย่างมาก ในช่วงตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิถึงหน้าร้อนนั้นสามารถชมความงามของพันธุ์ไม้เขียวขจีนานาชนิด ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีตามสองข้างทางของลำธารนั้นเต็มไปด้วยความงามของใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี ภาพใบไม้สีแดงสะท้อนลงบนผิวน้ำสีฟ้าใส สวยงามเกินคำบรรยาย
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจังหวัดอิวาเตะในภูมิภาคโทโฮคุ หากย้อนกลับไปในอดีตเมื่อครั้งตระกูลฟูจิวาระเรืองอำนาจ ฮิราอิซูมิ (ฮิไรซูมิ) นั้นมีความเจริญไม่น้อยไปกว่าเกียวโตเลย หลังจากเมืองถูกทำลายลงจึงไม่สามารถกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง แต่ฮิราอิซูมิก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของเมืองเอาไว้จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี 2011 จากองค์การยูเนสโก
เดิมทีเป็นเพียงวัดธรรมดาสร้างโดยพระจิคาคุ ไดชิ บ้างรู้จักกันในชื่อพระเอ็นนิน (Ennin) ชูซอนจิเข้าสู่ยุครุ่งเรืองเมื่อตระกูลฟูจิวาระย้ายฐานอำนาจมายังเมืองฮิราอิซูมิ “ฟูจิวาระ คิโยฮิระ” (Fujiwara Kiyohira) มีบัญชาให้ปรับปรุงวัดครั้งใหญ่จนทำให้วัดชูซอนจิมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ มีอาคารทั่วทั้งวัดกว่า 300 หลังเลยทีเดียว
ที่นี่มีลักษณะเป็นห้องโถงเล็กๆ ภายในวัดวัดชูซอนจิ ซึ่งถูกสร้างเพื่ออุทิศให้กับอมิตาเนียวไร (พระพุทธรูปแห่งแสงไม่มีที่สิ้นสุด) นอกจากหลังคาแล้วบริเวณอื่นจะถูกเคลือบด้วยทองทั้งภายนอกและภายใน แลดูเหลืองอร่ามสวยงามมาก
ล่องเรือชมหุบเขาเกบิเคย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางแห่งธรรมชาติที่มีชื่อโด่งดังแห่งจังหวัดอิวะเตะ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินผาที่มีรูปร่างแตกต่างกันไป และหินรูป"เกบิ" ที่แปลว่าจมูราชสีห์ นี่เองที่เป็นที่มาของชื่อ"เกบิเคย์" เกบิเคย์ขึ้นชื่อในการมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี มีความงดงามที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติผสานรวมกับเรื่องราวและความเชื่อของชาวญี่ปุ่นทำให้เกบิเคย์ยังคงเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเยียนอยู่ไม่ขาดสาย ส่วนในฤดูหนาวพื้นที่ผาริมน้ำจะเป็นสีขาวปุยของหิมะ ให้บรรยากาศที่โรแมนติกไม่แพ้ไปกว่าหน้าใบไม้เปลี่ยนสีเลย
เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2011 แต่เมืองมัตสึชิม่าก็ยังคงความสวยงามเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ถึงจะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้รับความเสียหายแต่กูถูกบูรณะฟื้นฟูให้กลับมาสวยงามและค่อยต้อนรับนนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง นี่จึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ควรลองไปสักครั้งเพื่อพิสูจน์ถึงความสวยงามหลังการทำลายล้างของธรรมชาติ
เป็นวัดประจำศาสนาพุทธนิกายเซ็นแห่งหนึ่ง สร้างโดยหลานแท้ๆของเจ้าเมืองเซ็นไดรุ่นแรก ดาเตะ มาซามุเนะ นามว่ามิทสึมุเนะ เพื่อใช้เป็นสุสานประจำตัว อาคารหลักของวัดนี้ชื่อว่า คาวาราบุ ตัวอาคารผสมผสานกับสวนญี่ปุ่นบริเวณรอบ ให้บรรยากาศของความสงบร่มรื่นแบบเซ็นได้เป็นอย่างดี ภายในสวนมีบ่อน้ำสำหรับดอกบัวญี่ปุ่น ต้นเมเปิล ต้นชวนชม และพันธุ์ไม้ต่างๆจากบริเวณทิวเขา ผลัดกันเบ่งบานอวดโฉมในฤดูกาลต่างๆ หลังจากผู้มาเยือนเข้าสักการะศาลเจ้า เป็นเวลาที่เหมาะมากสำหรับเดินชมบรรยากาศโดยรอบสวน
เป็นย่านช้อปปิ้งหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซนได ตรงบริเวณสถานีรถไฟเซนไดและสถานีรถไฟใต้ดินโอบะ โดริ อิจิบังโจ ย่านนี้ถือเป็นย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางยาวไปหลายช่วงตึก เริ่มตั้งแต่อาคาร AER และ Parco ยาวไปจนถึงโคคุบุนโช มีทั้งสินค้าต่างๆ มากมาย ร้านแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ร้านอาหารหลากชนิด คาเฟ่ ไปจนถึงร้าน 100 เยน
หรือรถไฟหัวกระสุน เป็นเครือข่ายของรถไฟความเร็วสูงในญี่ปุ่น ความยาวเส้นทางรวม 2,459 กิโลเมตร โดยสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะเกิดแผ่นดินไหวหรือพายุไต้ฝุ่น ก็สามารถวิ่งได้ตามปกติ ในรางปกตินั้นรถไฟสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 443 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นความเร็วสถิติโลกเมื่อวิ่งด้วยรางรถไฟแม่เหล็ก (แม็คเลฟ)
กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
ที่นี่เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว ในอดีตเคยเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของญี่ปุ่น ก่อนที่จะย้ายไปที่ท่าอากาศยานนาริตะ ท่าอากาศยานฮาเนดะเปิดให้บริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกว่า 25 แห่งใน 17 ประเทศ
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย