เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เรียกสั้นๆว่า ท่าอากาศยานจูบุ ตั้งอยู่ในตัวเมืองนาโกย่า เปิดใช้งานครั้งแรกเมือปี 2005 มี 1 เทอมินอล สำหรับให้บริการทั้งสายการบินภายในและระหว่างประเทศ
เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและชื่อนั้นได้มาจากเมืองฉางอานของจีน
วัดคิโยมิสึ หรือ “วัดน้ำใส” วัดเก่าแก่บนเนินเขาที่มีอายุเก่าแก่กว่าตัวเมืองเกียวโต เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุด นิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด แต่ที่น่าสนใจ คือ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยเสาไม้จำนวนร้อยกว่าต้น สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว โดยใช้วิธีเข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ
หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาว เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าชื่อดังที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดี เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แด่เทพอินาริ เทพเจ้าแห่งกสิกรรม เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวได้ ผลผลิตดีมีคุณภาพ สิ่งที่น่าสนใจนอกจากจะมาสักการะเทพเจ้าแล้ว ก็คือการเดินเล่นลอดอุโมงค์เสาโทริอิกว่าหมื่นต้นที่เรียงต่อทอดยาวจากด้านล่างขึ้นไปบนยอดเขาสูงถึง 233 เมตร ระยะทางราว 4 กิโลเมตร
มีสินค้าหลากหลายครบครันตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม สินค้าซักกะ (zakka) เครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ ยาชนิดต่างๆ ตลอดจนสินค้าประเภทอาหาร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อของของที่ระลึก
เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกียวโต ตั้งเคียงคู่กับทำเลสาบบิวะซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ตามริมทะเลของเมืองจะเต็มไปด้วยโรงแรม และรีสอร์ทตากอากาศ
เป็นพื้นที่สวนอันสวยงามที่มีไฮไลท์คือทุ่งต้นโคเคียประมาณ 10,000 ต้น ซึ่งจะเปลี่ยนสีทุกฤดู อย่างเช่นเป็นสีเขียวในฤดูร้อนและเปลี่ยนเป็นสีแดงในฤดูใบไม้ร่วงที่เรียกได้ว่าเป็นจุดถ่ายรูปสุดชิคจุดหนึ่งของกิฟู บริเวณรอบๆ มีพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ รอให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้งซิปไลน์ ปีนต้นไม้ และอื่นๆ
เป็นเมืองแห่งปราสาทที่บ้านเมืองยังคงมีภาพของสะท้อนของประวัติศาสตร์เก่าแก่ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนที่มีโครงหน้าต่างขัดกันเป็นตาราง และวัดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่
ใช้เป็นทั้งที่ทำงาน และที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะมาเป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนโตกุกาว่า ในสมัยเอะโดะ หรือกว่า 300 ปีที่แล้ว เป็นที่ทำการรัฐในยุคเอะโดะเพียงแห่งเดียวที่ข้ามพ้นยุคสมัยมาได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งภายในนี้ประกอบด้วยบริเวณไต่สวนพิจารณาคดี ห้องขังนักโทษ โรงครัว และห้องพักของเจ้าหน้าที่
หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม หมู่บ้านแห่งนี้ใช้โครงสร้างที่เรียกว่า กัสโช ซึ่งแปลว่าสร้างแบบพนมมือ ด้านหน้าทำเป็นหน้าจั่วแบบบ้านทรงไทย มีการเจาะช่องหน้าต่างเพื่อรับแสงสว่างจากภายนอก เมื่อมองจากภายนอกจึงดูมีสัดส่วนสวยงาม
เป็นเมืองหลวงของจังหวัดอิชิคาว่า โดยตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัด ล้อมรอบด้วยทะเลญี่ปุ่นทางทิศตะวันตกและจังหวัดโทยาม่า คานาซาว่านั้นถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจอันรุ่งเรืองและอารยธรรมอันลํ้าค่ามาตั้งแต่สมัยเอโดะ
เป็นสถานีรถไฟหลักที่เสมือนเป็นประตูสู่เมืองคานาซาว่า สถานีนี้ดำเนินการโดย West Japan Railway Company (JR West) มีลักษณะเป็นโดมแก้วที่จำลองมาจากร่มกันฝนและ “Tsuzumi Gate (ประตูทสึซึมิ)” ที่จำลองมาจากกลองที่ใช้ในการแสดงดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่นี่ถือว่าเป็นสถานีรถไฟที่สวยที่สุดในโลก
เป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่ ปราสาทแห่งนี้มีระบบป้อมปราการซึ่งมีช่องสำหรับยิงปืนบนกำแพงที่อยู่รอบนอกเพื่อป้องกันตัวปราสาทจากศัตรู แผ่นกระเบื้องสีขาวสวยช่วยให้หลังคาดูงดงามทำจากตะกั่ว ในส่วนของกำแพงสร้างจากปูนสีขาวและติดทับด้วยกระเบื้องบางๆ
สวนเคนโระคุเอ็น คือสวนญี่ปุ่นที่สวยงาม มีพื้นที่ 11.4 เฮกตาร์ ตั้งอยู่บนจุดที่สูงทางตอนกลางของ Kanazawa ใกล้กับปราสาท Kanazawa สวนนี้เคยเป็นพื้นที่ของตระกูล Maeda ซึ่งปกครองเขต Kaga ในยุคศักดินา (บริเวณ Ishikawa และ Toyama ในปัจจุบัน) ซึ่งพวกเขาดูแลรักษาสวนแห่งนี้จากรุ่นสู่รุ่น จากสัดส่วนและความงดงามทำให้สวนแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสวนของขุนนางศักดินาที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
เป็นตลาดปลาชื่อดังในใจกลางเมืองคานาซาว่า เปิดให้บริการเมื่อ 400 ปีก่อนในฐานะตลาดเช้า ในยุคศักดินา ตลาดแห่งนี้เคยเป็นแหล่งอาหารสำคัญของแคว้นคะกะ และเริ่มเปิดให้บริการแก่คนทั่วไปในปี 1904 หลังจากนั้น ตลาดแห่งนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆจนได้รับสมญานามว่า “ครัวแห่งคานาซาว่า” คราคร่ำไปด้วยชาวบ้านในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ ภายในตลาดมีร้านค้าประมาณ 170 ร้าน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้พบกับเมนูข้าวหน้าปลาดิบ และซูชิสดใหม่อยู่หลายร้าน
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตชูบูของญี่ปุ่น ชื่อเมืองนั้นคาดเดาว่าจะผันมาจากคำว่า นาโกยากะซึ่งแปลว่าสงบสุข
ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย
สวนโอบาระ (สวนซากุระ 4 ฤดู) เป็นสถานที่ที่ท่านสามารถชมใบไม้แดงไปพร้อมกับดอกซากุระในช่วงปลายปีได้ โดยจุดเด่นของที่นี่ก็คือสีสันของใบเมเปิ้ลที่ตัดกับสีชมพูของดอกซากุระทำให้เป็นสวนที่มีความสวยงามอย่างมาก ซึ่งซากุระของที่นี่เป็นซากุระพันธุ์ที่มีชื่อว่า SHIKI ZAKURA (FOUR SEASON CHERRY BLOSSOM) ที่จะบานสองครั้งใน 1 ปี คือ ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง
เรียกสั้นๆว่า ท่าอากาศยานจูบุ ตั้งอยู่ในตัวเมืองนาโกย่า เปิดใช้งานครั้งแรกเมือปี 2005 มี 1 เทอมินอล สำหรับให้บริการทั้งสายการบินภายในและระหว่างประเทศ
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย