เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เรียกสั้นๆว่า ท่าอากาศยานจูบุ ตั้งอยู่ในตัวเมืองนาโกย่า เปิดใช้งานครั้งแรกเมือปี 2005 มี 1 เทอมินอล สำหรับให้บริการทั้งสายการบินภายในและระหว่างประเทศ
เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปี ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนอายุหลายร้อยปี ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และลึกลับที่สุดแห่งหนึ่ง ตำแหน่งของศาลเจ้าจะขยับทุก 20 ปี เนื่องจากบูรณะ และสลับกันระหว่างที่ 2 แปลง ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาสักการะให้ได้
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าศาลเจ้าชั้นในนั่นแหละ ถนนสายนี้ได้ชื่อว่าเป็นถนนสายโบราณ สองข้างทางของถนนมีร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขนมพื้นเมือง เรียงรายในบรรยากาศของอาคารที่ดูย้อนยุคตั้งแต่สมัยเอโดะจนถึงเริ่มยุคเมจิ ถนนสายนี้มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ของที่ระลึกที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นของเล่นที่ทำจากไม้ สินค้าพื้นเมือง ขนม เป็นต้น พ่อค้าแม่ค้าเองก็จะแต่งกายย้อนยุคให้เข้ากับบรรยากาศของถนนเส้นนี้
ที่นี่เป็นเกาะไข่มุกเลี้ยงแห่งแรก ที่โด่งดังด้านการผลิตไข่มุกคุณภาพดี ถึงขั้นได้ใช้ในการออกแบบมงกุฏมิสยูนิเวิร์สกันเลยทีเดียว
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เมืองนารา เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโอซาก้า มีกวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา เนื่องจากชาวนารามีความเชื่อว่ากวางเป็นสัตว์รับใช้เทพเจ้า ปัจจุบันเมืองนารามีกวางเดินอยู่อย่างอิสระทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า วัด หรือตามท้องถนนก็ตาม
เป็นวัดหลวงพ่อโตไดบุทสึแห่งเมืองนาราที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งยังมีความสำคัญทางศาสนาของญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศ มีจุดเด่นคือตัวอาคารหลักของวัดเป็นอาคารไม้ที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก
วัดเบียวโดอิน เป็นอดีตที่อยู่อาศัยของขุนนางตระกูลฟูจิวาระ สร้างเป็นวัดในปี 1052 วิหารพระอมิตดา สร้างปี 1053 เป็นอาคารโบราณที่ยังคงสภาพอยู่จนปัจจุบัน เป็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นภาพที่พิมพ์อยู่บนเหรียญ 10 เยน ซึ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีท่านสามารถชื่นชมความงามของวัดพร้อมความสวยของธรรมชาติได้พร้อมกันอีกด้วย
หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาว เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าชื่อดังที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดี เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แด่เทพอินาริ เทพเจ้าแห่งกสิกรรม เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวได้ ผลผลิตดีมีคุณภาพ สิ่งที่น่าสนใจนอกจากจะมาสักการะเทพเจ้าแล้ว ก็คือการเดินเล่นลอดอุโมงค์เสาโทริอิกว่าหมื่นต้นที่เรียงต่อทอดยาวจากด้านล่างขึ้นไปบนยอดเขาสูงถึง 233 เมตร ระยะทางราว 4 กิโลเมตร
เป็นย่านถนนที่มีอาคารบ้านเรือนจะเป็นอาคารไม้แบบดั้งเดิม แต่ละหลังจะขนาดไม่ใหญ่ความกว้างประมาณ 5-6 เมตรเท่านั้น ร้านอาหารและร้านชาโดยมากที่อยู่ในเส้นนี้ ราคาค่อนข้างสูงเนื่องจากในระหว่างที่รับประทานอาหารนั้น จะมีการแสดงโชว์ศิลปะของญี่ปุ่น อย่างเช่น การร่ายรำและการชงชาจากเกอิโกะและไมโกะ นอกจากนี้ยังมีดนตรีและเพลงญี่ปุ่นดังเดิมบรรเลงให้ฟังอีกด้วย
มีการออกแบบสมัยใหม่โดยใช้เหล็กเป็นโครงสร้าง ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น โดยมีหลังคาเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น และยังเป็นศูนย์รวมของเส้นทางเดินรถไฟทั้งบนดินอย่างเจอาร์ บริเวณสถานีรถไฟยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมือง ที่เป็นศูนย์รวมร้านค้า แหล่งบันเทิง ร้านอาหารมากมายทั้งในและนอกสถานี
วัดเรียวอันจิ เป็นวัดสวนหินที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากของเกียวโต ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนให้เดินทางเข้ามาชมสวนหินแห่งนี้ในแต่ละวัน แต่เดิมวัดนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยเฮอัน (Heian Period) เพื่อใช้เป็นบ้านพักของขุนนาง ต่อมาในปี 1450 ได้ถูกเปลี่ยนเป็นวัดนิกายเซนและเป็นโรงเรียนสอนศาสนาเมียวชินจิ
เป็นวัดเซ็นขนาดใหญ่ มีชื่อเสียงในการชมใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง ชื่อของวัดมีความสัมพันธ์กับวัด 2 แห่งในนารา คือ วัดโทไดจิ และวัดโคฟุกุจิ
อาราชิยาม่า เป็นพื้นที่ชานเมืองทางตะวันตกของนครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น พื้นที่บริเวณนี้เป็นทิวเขาขนานไปกับแม่น้ำโออิ ซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงามและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก นอกจากนี้ อาราชิยาม่ายังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ของชาติญี่ปุ่น
เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเกียวโต ที่นักท่องเที่ยวจะได้ยืนอยู่ท่ามกลางต้นไผ่ที่พุ่งสูงขึ้นเหล่านี้ราวกับอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพที่สุดในเมือง นอกจากนี้ยังจะมีร้านขายของที่ระลึกที่เน้นสินค้าที่ทำจากต้นไผ่และของท้องถิ่นเป็นหลักไม่ว่าจะเป็น ตะกร้าไม้ไผ่, ถ้วย, กล่องใส่ของ หรือเสื้อเสื้อสานจากไผ่ ไว้ให้ได้ช็อปปิ้งกันเบาๆ เป็นของฝากอีกด้วย
เป็นสะพานไม้ทอดยาวที่โด่งดังและถือเป็นสัญลักษณ์ของอาราชิยาม่า มีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นวิวอยู่เบื้องหลัง สะพานเก่าแก่นี้ถูกสร้างขึ้นในยุคก่อตั้งกรุงเกียวโต ในแต่ละฤดูที่นี่จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป
สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับเมืองหลวงเก่าหรือก็คือเกียวโตที่ครบรอบ 1100 ปี ประตูศาลเจ้าสีแดงดึงดูดผู้คนจากไกลและหลังจากผ่านประตูมาแล้วก็จะพบกับพื้นที่ว่างที่ล้อมรอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างภายในศาลเจ้าที่ล้วนแต่เป็นสีแดงสด ทำให้คุณรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เห็น
พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง
เป็นย่านดาวน์ทาวน์ขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของวัยรุ่น และเหล่านักกิน สัญลักษณ์อันโดดเด่น ก็คือ ร้านค้าที่มีปูยักษ์บนหลังคา และป้ายไฟโฆษณาริมคลองของกูลิโกะ
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
เป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของโอซาก้า ตั้งอยู่ที่เมืองริงกุ ตรงข้ามกับท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โดยออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกับเมืองท่าของสหรัฐอเมริกา และมีบรรยากาศแบบรีสอร์ท ภายในแม้จะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งรวมสินค้านำเข้าและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นมากมาย
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี