เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่เขตเซปัง รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย ห่างจากตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2541 เพื่อใช้เป็นท่าอากาศยานหลักแทนท่าอากาศยานสุลต่าน อับดุล อาซิส ซาห์(สูบัง) ซึ่งตั้งห่างอยู่ทางทิศเหนือ (ปัจจุบันเปิดทำการในสายภายในประเทศ และเครื่องบินขนาดเล็ก)
เมืองมะละกา เมืองประวัติศาสตร์มะละกา เป็น สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นเมืองท่าสำคัญที่ มีการติดต่อค้าขายหรือเป็นเมือง เศรษฐกิจจนได้รับฉายาว่า Golden Age หรือ ขวาน ทอง เป็นต้นเหตุต่อการเปลี่ยนแปลง ประวัติศาสตร์ของมาเลเซียอยู่หลายครั้งหลายหน มีมรดกตกทอดทาง สถาปัตยกรรมของ ชาติยุโรปอยู่หลายแห่ง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของมาเลเซีย
เป็นมัสยิดที่ตั้งอยู่ริมน้ำบนเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นในเมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย มีค่าก่อสร้างมัสยิดโดยประมาณที่ 10 ล้านริงกิต เปิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ปี 2006 โดยผู้ปกครองสูงสุดของมาเลเซียตอนนั้น คือ Tuanku Syed Sirajuddin Syed Putra Jamalullail Syed ตัวมัสยิดมีลักษณะของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกกลางและมลายู
ย่าน Dutch Square หรือ อาณาจักรสีแดงและยังมีรถสามล้อลาก ที่ตกแต่งคล้ายกับขบวนรถบุปผาชาติที่สวยงามที่วิ่งกันขวักไขว่สวยงาม เต็มไปด้วย โบราณสถานที่เป็นร่องรอยของอารยธรรมตะวันตกกับตะวันออก ที่โคจรมาพบกัน และอยู่ร่วมกันในดินแดนแห่งนี้ด้วย สายโซ่ทางศาสนาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทั้งพุทธ คริส อิสลาม เพราะรัฐบาลได้มียุทธวิธีในการปกครองเพื่อการอยู่ร่วมแบบสันติ โดยให้ประชาชนได้มีเสรีในการใช้ชีวิตในทิศทางที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยกได้ อย่างน่าเลื่อมใสด้วยการให้เกียรติกันและกัน บนสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมดั้งเดิมของแต่ละชนชาติ ซึ่งกลายเป็นรากฐานทางการเมืองการปกครองของมาเลเซีย มาจนถึงปัจจุบันนี้
ป้อมปราการเอฟาโมซา ในอดีตมะละกาเป็นศูนย์กลางการรบของประเทศมหาอำนาจและถูกโจมตีอยู่เสมอ ป้อมปราการอาฟาโมซาจึงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของโปรตุเกสในการรักษาฐานอำนาจของตนเองในฐานะประเทศเจ้าอาณานิคมในตะวันออกไกล ภายในป้อม ประกอบด้วยส่วนที่พักอาศัย ห้องเสบียง ปราสาท ห้องประชุมสำหรับสภาโปรตุเกส และโบสถ์อีกห้าหลัง ชาวดัตช์โจมตีป้อมปราการแห่งนี้ยาวนานถึง 7 เดือน จนเกือบจะทำลายป้อมปราการแห่งนี้ไปหมดสิ้น ปัจจุบัน สิ่งที่หลงเหลืออยู่มีเพียงประตูทางเข้าด้านหน้าและโบสถ์บนเนินเขาเท่านั้น
โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยกัปตันเรือชาวโปรตุเกส และใช้ชื่อโบสถ์ว่า Duarte Coelho ในปี 1521 ด้วยความตั้งใจให้เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เมื่อครั้งที่พวกดัตช์ เข้ายึดครองได้เปลี่ยนชื่อโบสถ์แห่งนี้เป็น ST. Paul’s Church เมื่อโบสถ์นี้สร้างเสร็จในปี 1753 ได้มีการยกเลิกการใช้งานโบสถ์ และชาวดัตช์เปลี่ยนที่นี่ให้เป็นสุสานฝั่งศพของบุคคลสำคัญ โดยที่นี่เคยเป็นสถานที่ฝั่งศพของ St. Francis Xavier เมื่อปี 1553 หลังจากนั้นได้มีการเคลื่อนย้ายส่วนที่เหลืออยู่ไปยังเมืองโกอา ที่บริเวณโบสถ์บนยอดของเนิน เป็นสถานที่ชมวิวอันน่าตื่นตา และหลุมฝั่งศพแบบดัตช์ที่สวยงาม สามารถพบเห็นได้ภายในโบสถ์
เป็นหนึ่งในโครงสร้างทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในมะละกา ตั้งอยู่ที่บริเวณจัตุรัสดัชท์สแควร์ ถูกสร้างขึ้นโดยชาวดัตช์ในปี 1650 เป็นสำนักงานของผู้ว่าราชการดัตช์และรองผู้ว่าราชการดัตช์ในยุคนั้น ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และชาติพันธุ์วิทยา การจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มีเครื่องแต่งกายและสิ่งประดิษฐ์ดั้งเดิมตลอดประวัติศาสตร์ของมะละกาซึ่งทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ชั้นนำของมะละกา
ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Jalan Hang Jebat ถนนสายนี้เป็นแหล่งสินค้าเก่าและของโบราณที่มีชื่อเสียงรู้จักไปทั่วโลก แม้ว่าคุณไม่ใช่ผู้ชื่นชอบสินค้าเก่าโบราณ แต่ห้ามพลาดที่จะแวะมาสัมผัสบรรยากาศ ณ ถนนคนเดินแห่งนี้ ร้านรวงต่างๆ จะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเย็นและร้านค้าส่วนใหญ่เปิดให้บริการจนถึงเที่ยงคืน
เป็นเมืองหลวงของประเทศมาเลเซียและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศด้วย ภายในมาเลเซียเอง กัวลาลัมเปอร์มักจะเรียกย่อ ๆ ว่า KL กัวลาลัมเปอร์เป็นหนึ่งในสามดินแดนสหพันธ์ของมาเลเซีย (Malaysian Federal Territories) ล้อมรอบด้วยรัฐสลังงอร์บนชายฝั่งตะวันตกตอนกลางของคาบสมุทรมาเลเซีย (Peninsular Malaysia) ฝ่ายบริหารของรัฐบาลมาเลเซียได้ย้ายไปที่เมืองใหม่คือ ปูตราจายา อย่างไรก็ดี พระราชฐานของกษัตริย์ของมาเลเซีย รัฐสภามาเลเซีย และฝ่ายนิติบัญญัติยังคงอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์
เป็นอาคารคอมเพล็กซ์ที่รัฐสภามาเลเซียรวมตัวกัน ตั้งอยู่ที่ Lake Gardens ในกัวลาลัมเปอร์ใกล้กับอนุสาวรีย์แห่งชาติมาเลเซีย ประกอบด้วยสองส่วนอาคารหลัก 3 ชั้นและอาคารสูง 20 ชั้น ที่ความสูง 77 เมตร
จุดชมวิวสาธารณะที่สูงที่สุดในประเทศ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเนินเขาบูกิตนานาส ที่ความสูง 421 เมตร และ สูงกว่าระดับน้ำทะเล 94 เมตร หอคอยมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมอิสลามมรดกของประเทศ ตกแต่งด้วยตัวอักษรอารบิก กระเบื้องอิสลาม ลายดอกไม้และภาพนามธรรมตามแบบศาสนาอิสลาม ทาสีต่างๆ ที่ให้ความรู้สึกสงบ นอกเหนือจากทัศนียภาพของเมืองที่เห็นได้โดยรอบแล้ว หอคอยกัวลาลัมเปอร์ยังเปรียบเสมือนแหล่งพักผ่อนหย่อนใจชาวกรุงที่รักธรรมชาติอีกด้วย
เป็นพระราชวังแห่งชาติ ที่เป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีหรือยังดีเปอร์ตวนอากง พระราชวังแห่งนี้จะเป็นกลุ่มอาคารรูปทรงโดมเชื่อมกับทางหลวงไปยังตัวเมือง และมีถนนทางเข้าพิเศษหลายเส้นทางพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ซึ่งมีการครอบครองมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 และกลายเป็นเขตพระราชฐานนับตั้งแต่นั้น
เป็นจัตุรัสที่เกิดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความเปนเอกราชหลังจากที่ถูกอังกฤษปกรองมาอย่างยาวนาน ตัวจัตุรัสเป็นลานหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่ และเป็นที่ตั้งของเสาธงที่สูงที่สุดในโลก Union Jack ที่สูงถึง 100 เมตร โดยบริเวณรอบๆนี้ ยังเป็นสถาปัตยกรรมอังกฤษอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นตึก อาคาร หอนาฬิกา ที่ทุกๆ วันชาติของมาเลเซีย ชาวมาเลเชียจะมาชุมชนเพื่อเฉลิมฉลองและมีงานรื่นเริงกัน
เป็นอาคารสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ออกแบบโดยเซซาร์ เปลลี ตั้งอยู่บริเวณใจกลางย่านธุรกิจของเมือง ที่แวดล้อมด้วยสวนสาธารณะและส่วนอาคารคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ตึกปิโตรนัสมี 2 ตึกตั้งคู่กัน เชื่อมโดยสะพานลอยฟ้า (Skybridge) ที่นี่นับว่าเป็นอาคารแฝดที่สูงที่สุดของโลก
กระเช้าลอยฟ้าจากสถานที SKY WAY สู่ยอดเขา เก็นติ้ง ไฮแลนด์ นครที่ไม่เคยหลับใหล มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ใช้เวลาประมาณ 10 นาที นั่งกระเช้าข้ามภูเขาที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าอยู่อย่างมาก
เก็นติ้ง ไฮแลนด์ เป็นคอมเพล็กซ์ของสิ่งปลูกสร้าที่ตั้งอยู่บนยอดเขาเก็นติ้ง ที่นี่เป็นเสมือนนครที่ไม่เคยหลับใหล มีอากาศหนาวเย็นตลอดปีจากการตั้งอยู่บนยอดเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,700 เมตร บนเก็นติ้งไฮแลนด์พรั่งพร้อมไปด้วยร้านค้า ภัตตาคาร ร้านกาแฟ และยังมี "เฟิสท์ เวิลด์พลาซ่า" ที่สามารถเพลิดเพลินกับดิสโก้, คาราโอเกะ, โบว์ลิ่ง 30 เลน, บริการนวดแผนโบราณ, สวนสนุกทั้งในร่มและกลางแจ้ง หรือแม้แต่คาสิโนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปลองเล่นเสี่ยงโชคได้
เป็นเมืองหลวงของประเทศมาเลเซียและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศด้วย ภายในมาเลเซียเอง กัวลาลัมเปอร์มักจะเรียกย่อ ๆ ว่า KL กัวลาลัมเปอร์เป็นหนึ่งในสามดินแดนสหพันธ์ของมาเลเซีย (Malaysian Federal Territories) ล้อมรอบด้วยรัฐสลังงอร์บนชายฝั่งตะวันตกตอนกลางของคาบสมุทรมาเลเซีย (Peninsular Malaysia) ฝ่ายบริหารของรัฐบาลมาเลเซียได้ย้ายไปที่เมืองใหม่คือ ปูตราจายา อย่างไรก็ดี พระราชฐานของกษัตริย์ของมาเลเซีย รัฐสภามาเลเซีย และฝ่ายนิติบัญญัติยังคงอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์
ที่นี่เป็นถนนสายอาหารยามกลางคืนที่คึกคักที่สุดในกัวลาลัมเปอร์ อยู่ในย่านบูกิตบินตัง ที่นี่มีอาหารท้องถิ่นหลากหลายชนิด และมีทั้งอาหารจีน ไปจนถึงอาหารไทย
วัดถ้ำบาตู เป็นวัดฮินดูขนาดใหญ่ที่อยู่ภายในถ้ำ มีองค์พระขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงปากทางขึ้นบันไดสู่ปากถ้ำ
เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของมาเลเซียที่เป็นศูนย์กลางการบริหารของรัฐบาล ปุตราจายาได้ชื่อว่าเป็นเมืองในสวนที่สวยงาม มีรูปแบบการวางผังเมืองอย่างดี เสน่ห์ของที่นี่คือสวนพฤษชาติ ทะเลสาบปุตราจายา และอาคารรูปทรงแปลกตา
ที่นี่เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์ต่างๆ ของมาเลเซีย ท่านจะได้พบกับสินค้าลดราคามากมาย รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำกว่า 50 แบรนด์
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ที่เขตเซปัง รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย ห่างจากตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2541 เพื่อใช้เป็นท่าอากาศยานหลักแทนท่าอากาศยานสุลต่าน อับดุล อาซิส ซาห์(สูบัง) ซึ่งตั้งห่างอยู่ทางทิศเหนือ (ปัจจุบันเปิดทำการในสายภายในประเทศ และเครื่องบินขนาดเล็ก)
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย