เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เมืองนารา เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโอซาก้า มีกวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา เนื่องจากชาวนารามีความเชื่อว่ากวางเป็นสัตว์รับใช้เทพเจ้า ปัจจุบันเมืองนารามีกวางเดินอยู่อย่างอิสระทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า วัด หรือตามท้องถนนก็ตาม
เป็นวัดหลวงพ่อโตไดบุทสึแห่งเมืองนาราที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งยังมีความสำคัญทางศาสนาของญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศ มีจุดเด่นคือตัวอาคารหลักของวัดเป็นอาคารไม้ที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นองค์หลวงพ่อโตที่ประดิษฐานอยู่ในวัดโทไดจิ อดีตศิลปกรรมอันรุ่งโรจน์ของตระกูลฟูจิวาระ ผู้ปกครองญี่ปุ่นในยุคแรก หลวงพ่อโตไดบุทสึองค์นี้ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมากว่า 1,200 ปี ซึ่งทำจากทองสัมฤทธิ์ขนาดมหึมาภายในโบสถ์ไม้โบราณ
เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมทะเล ที่นี่ถือว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรก ทั้งยังเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ
เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง
เป็นหอชมวิวที่สร้างจากท่อ และมีรูปทรงคล้ายกลองญี่ปุ่นแบบยาว โครงสร้างไฮเพอร์โบลา ซึ่งเป็นรูปร่างเฉพาะพิเศษที่สุดในโลก ทาวเวอร์นี้ได้รับชื่อว่า “ความสวยงามของหอคอยโลหะ” เพราะรูปร่างของมัน ทาวเวอร์นี้เป็นสัญลักษณ์ของท่าเรือโกเบ ในเวลากลางคืนมีการส่องไฟด้วย LED ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของทิวทัศน์กลางคืนที่สวยงามของเมืองโกเบ
ย่านชินเซไก(Shinsekai) ที่แปลว่า “โลกใหม่” ของโอซาก้า มีหอคอยซึเทนคาคุ(Tsutenkaku)ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของย่านชินเซไกนี้ตั้งอยู่ตรงกลาง บริเวณนี้ได้มีการจัดนิทรรศการขึ้นโดย National Industrial Exposition ในปี 1903 และสามารถดึงดูดคนให้มายังย่านนี้ได้มากกว่า 5 ล้านคน ภายในระยะเวลา 5 เดือน ภายหลังจากหมดงานเทศกาลลงย่านนี้ก็ได้ถูกพัฒนาต่อไปอีกด้วยการสร้างหอคอย สวนสาธารณะ โรงหนัง และสวนสนุก
เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและชื่อนั้นได้มาจากเมืองฉางอานของจีน
อาราชิยาม่า เป็นพื้นที่ชานเมืองทางตะวันตกของนครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น พื้นที่บริเวณนี้เป็นทิวเขาขนานไปกับแม่น้ำโออิ ซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงามและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก นอกจากนี้ อาราชิยาม่ายังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ของชาติญี่ปุ่น
เป็นสะพานไม้ทอดยาวที่โด่งดังและถือเป็นสัญลักษณ์ของอาราชิยาม่า มีภูเขาอาราชิยาม่าเป็นวิวอยู่เบื้องหลัง สะพานเก่าแก่นี้ถูกสร้างขึ้นในยุคก่อตั้งกรุงเกียวโต ในแต่ละฤดูที่นี่จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันไป
เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเกียวโต ที่นักท่องเที่ยวจะได้ยืนอยู่ท่ามกลางต้นไผ่ที่พุ่งสูงขึ้นเหล่านี้ราวกับอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพที่สุดในเมือง นอกจากนี้ยังจะมีร้านขายของที่ระลึกที่เน้นสินค้าที่ทำจากต้นไผ่และของท้องถิ่นเป็นหลักไม่ว่าจะเป็น ตะกร้าไม้ไผ่, ถ้วย, กล่องใส่ของ หรือเสื้อเสื้อสานจากไผ่ ไว้ให้ได้ช็อปปิ้งกันเบาๆ เป็นของฝากอีกด้วย
เป็นรถไฟที่ขึ้นเพื่อชมวิวอันสวยงาม วิ่งคู่กับแม่น้ำโฮซึกาว่า โดยเฉพาะช่วงชมดอกซากุระ สถานที่นี้จะเป็นที่นิยมมาก ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเองก็สวยงามไม่แพ้กัน เป็นรถไฟชมวิววิ่งเชิ่อมบริเวณอาราชิยาม่า (Arashiyama) และคาเมโอกะ (Kameoka) ที่ได้ชื่อว่ารถไฟสายโรแมนติกนั้น ก็เพราะรถไฟจะเคลื่อนตัวช้าๆให้เราได้สามารถกินลมชมวิวทิวทัศน์สวยๆของเขาอาราชิยาม่า และแม่น้ำโฮซุกาว่า (Hozugawa River) ตลอดระยะทาง 7 กม. ในเวลา 25 นาทีได้นั่นเอง ตัวรถไฟถูกออกแบบแนวย้อนยุคด้วยเก้าอี้นั่งไม้ ทำให้ไม่ขัดตากับธรรมชาติ สวยงามตลอดการเดินทางเลย
หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาว เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าชื่อดังที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดี เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แด่เทพอินาริ เทพเจ้าแห่งกสิกรรม เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวได้ ผลผลิตดีมีคุณภาพ สิ่งที่น่าสนใจนอกจากจะมาสักการะเทพเจ้าแล้ว ก็คือการเดินเล่นลอดอุโมงค์เสาโทริอิกว่าหมื่นต้นที่เรียงต่อทอดยาวจากด้านล่างขึ้นไปบนยอดเขาสูงถึง 233 เมตร ระยะทางราว 4 กิโลเมตร
เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมทะเล ที่นี่ถือว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรก ทั้งยังเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ
แหล่งช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีต่างๆ
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
เป็นย่านดาวน์ทาวน์ขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของวัยรุ่น และเหล่านักกิน สัญลักษณ์อันโดดเด่น ก็คือ ร้านค้าที่มีปูยักษ์บนหลังคา และป้ายไฟโฆษณาริมคลองของกูลิโกะ
อิสระช้อปปิ้งเมืองโอซาก้า หรือซื้อทัวร์เสริมยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สวนสนุกที่สร้างความบันเทิงให้กับคนแถบภูมิภาคคันไซมาหลายปีโดยการทุ่มทุนสร้างของ บริษัทสร้างภาพยนตร์ HOLLYWOOD ชื่อดัง นั่นคือ UNIVERSAL STUDIO ซึ่งภายในได้จำลองสตูดิโอจากภาพยนตร์เรื่องดังๆ ที่ผ่านมาของทางบริษัทไว้มากมาย โดยเริ่มจาก ภาพยนตร์เรื่องแรก ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ สตีเว่น สปรีลเบิร์ก คือ E.T. ซึ่งเป็นการนั่งจักรยานไปพร้อมกับ อีที และเดินทางข้ามจักรวาลเพื่อกลับไปยังบ้านเกิด ต่อจากนั้น ไปยังสตูดิโอของ TERMINATOR ภาพยนตร์คนเหล็ก ที่สร้างชื่อให้กับดาราดัง อาร์โนล์ ชวาสเซเน็กเกอร์ ท่านจะได้ดูภาพยนตร์ที่ไม่ได้ฉายตามโรงหนังแต่เป็นภาคพิเศษแบบดิจิตอล 2 มิติ และ 3 มิติ
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี