เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโตริมิยางิ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเซนได ถูกสร้างขึ้นในปี 1940 เพื่อใช้เป็นหนึ่งในโรงเรียนการบินและฐานทัพอากาศอีกแห่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น หลังแพ้สงครามโลกที่นี่ค่อยๆ ถูกปรับให้มาเป็นสนามบินพลเรือนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก อิวาเตะเป็นที่ๆ มีความหนาแน่นของประชากรต่ำเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ
เดิมทีเป็นเพียงวัดธรรมดาสร้างโดยพระจิคาคุ ไดชิ บ้างรู้จักกันในชื่อพระเอ็นนิน (Ennin) ชูซอนจิเข้าสู่ยุครุ่งเรืองเมื่อตระกูลฟูจิวาระย้ายฐานอำนาจมายังเมืองฮิราอิซูมิ “ฟูจิวาระ คิโยฮิระ” (Fujiwara Kiyohira) มีบัญชาให้ปรับปรุงวัดครั้งใหญ่จนทำให้วัดชูซอนจิมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ มีอาคารทั่วทั้งวัดกว่า 300 หลังเลยทีเดียว
ล่องเรือชมหุบเขาเกบิเคย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางแห่งธรรมชาติที่มีชื่อโด่งดังแห่งจังหวัดอิวะเตะ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินผาที่มีรูปร่างแตกต่างกันไป และหินรูป"เกบิ" ที่แปลว่าจมูราชสีห์ นี่เองที่เป็นที่มาของชื่อ"เกบิเคย์" เกบิเคย์ขึ้นชื่อในการมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี มีความงดงามที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติผสานรวมกับเรื่องราวและความเชื่อของชาวญี่ปุ่นทำให้เกบิเคย์ยังคงเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเยียนอยู่ไม่ขาดสาย ส่วนในฤดูหนาวพื้นที่ผาริมน้ำจะเป็นสีขาวปุยของหิมะ ให้บรรยากาศที่โรแมนติกไม่แพ้ไปกว่าหน้าใบไม้เปลี่ยนสีเลย
เป็นพื้นที่หมู่บ้านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ในพื้นที่ขนาด 20 เฮกตาร์ ในลักษณะบรรยากาศแบบชุมชนยุคเฮอันที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งมีจุดถ่ายรูปต่างๆ ที่สวยงามหลายๆ มุม ที่นี่ยังเปนสถานที่โปรดของการถ่ายทำภาพยนตร์และโทรทัศน์หลายๆ เรื่องของญี่ปุ่น นอกจากนี้นักท่องเที่ยยังวสามารถใช้การบริเช่าชุดกิโมโน แต่งกายย้อนยุคเดินเล่นกันในหมู่บ้านได้
ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังในบานะที่เป็นถิ่นฐานของชาวซามูไรและเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทคาคุโนะดาเตะ สิ่งของเก่าแก่มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของซามูไรในสมัยก่อน ในปัจจุบันยังมีบ้านพักอาศัยอยู่ประมาณ 80 หลังคาเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมซามูไรแบบดั้งเดิมที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีบ้านเพียง 6 หลังที่เปิดให้ผู้คนได้เข้าไปชมความสวยงามภายในบ้าน
หมู่บ้านออนเซ็นกินซัง (Ginzan Onsen) เมืองน้ำพุร้อนที่เงียบสงบในภูเขาของจังหวัดยามากาตะ มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่นว่าเป็นเมืองออนเซ็นที่สวยงาม เรียกังของที่นี่เป็นสไตล์ดั้งเดิม ที่เป็นคาคารไม้ 3-4 ชั้น ผสมผสานกับผนังปูนสีขาวสะอาดทำให้รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีต และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์ดังของญี่ปุ่น โอชิน แล้วก็เป็นหมู่บ้านแรงบันดาลใจของคุณ Hayao Miyazaki ในการเอามาทำเรื่องแอนิเมชั่นดังเรื่อง Spirited Away
เป็นเอาท์เลตช้อปปิ้งอันขึ้นชื่อของเมืองเซนได ซึ่งภายในมีร้านสินค้าแบรนด์เนมมากกว่า 160 ร้าน ทั้งยังมีร้านอาหารหลากหลายชนิดให้บริการ รวมถึงมีอาหารพื้นบ้านของดีจากทางตอนเหนือของญี่ปุ่นด้วย
เป็นปราสาทที่เป็นศูนย์รวมการปกครองทางทหารในแถบเมือง Aizu-wakamatsu ปัจจุบัน ภายในปราสาทถูกจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ มีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของปราสาทแห่งนี้ รวมถึงวิถีชีวิตของเหล่าซามูไรอีกด้วย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมได้ถึงชั้นบนสุดของปราสาท ส่วนบริเวณสวนรอบปราสาทนั้นรายรอบไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนปราสาทแห่งนี้ในช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี
ที่นี่เป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่มีอาคารสถานีทำจากหลังคาแบบญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งติดกันยังมีจุดออนเซนเท้าให้ใช้บริการได้ฟรีระหว่างที่รอรถไฟด้วย ผู้โดยสารที่มารอรถไฟหรือมาเดินเล่นจะชอบมานั่งแช่เท้ากันที่นี่
เป็นหมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่มีบ้านแบบมุงหลัง ปัจจุบันยังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี และมีการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และบ้านพักแบบโฮมสเตย์ต่างๆ อาหารยอดนิยมคือบะหมี่โซบะ และปลาเทร้าต์ย่าง นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าและวัดประจำเมืองโออูจิจูคุ นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองได้จากบริเวณด้านบนของวัดได้ตามอัธยาศัย
เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิคมากกว่า 150 กิโลเมตร ลึกเข้าไปในภูเขาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู พื้นที่ 10% เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ส่วนที่เหลืออีก 90%(พื้นที่กว้างในภาคตะวันตกของฟูกุชิมะ รวมถึงภูเขา และเมืองประวัติศาสตร์อาอิซุ-วาคามัตสึ(Aizu-Wakamatsu) ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยหน้าผาริมแม่น้ำโอคาวะนี้ถูกกัดเซาะโดยน้ำที่ไหลผ่านกว่าจะสึกกร่อนเป็นเวลานานเป็นล้านปี จนกลายมาเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ชื่อโทโนะเฮทสึริ เป็นภาษาถิ่นของไอสึ แปลว่าหน้าผา และด้วยรูปร่างหน้าตาของหน้าผาชันๆ ที่ดูคล้ายกับเจดีย์ จึงเป็นที่มาของชื่อโทโนะเฮทสึริ หรือ หน้าผารูปเจดีย์
ภูเขาซาโอะ (Mount Zao) เป็นภูเขาไฟที่ตั้งอยู่เป็นแนวกันพรมแดนระหว่าง Yamagata กับ Miyagi ของภูมิภาคโทโฮคุ ทางฝั่งจังหวัดยามากาตะ มีแหล่งน้ำพุร้อนซาโอะ (Zao Onsen) ซึ่งมีความเป็นกรดสูง ในช่วงฤดูร้อนคนรักธรรมชาตินิยมมาเที่ยวปล่องภูเขาไฟโอคาม่า(Okama Crater) ส่วนในช่วงฤดูหนาวซาโอะออนเซนจะกลายเป็นสกีรีสอร์ทชั้นนำ และเป็นหนึ่งในไม่กี่ที่ที่จะพบกับต้นไม้แช่แข็ง (snow monsters)
เป็นกระเช้าที่นำพานักท่องเที่ยวขึ้นชมวิวอันงดงามของภูเขาซาโอะ กระเช้าลอยฟ้าซาโอะไม่เพียงแต่ใช้ในการเดินทางเท่านั้นแต่ยังเป็นวิธีการชมวิวที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ด้วยภูมิทัศน์อันงดงามทำให้ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และในแต่ละซีซั่นก็จะมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงด้วย
เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามใบของต้นเฟอร์จนเกิดเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาด คล้ายกับมนุษย์หิมะ จึงได้ชื่อว่า Ice Monster หรือ Snow Monster นั่นเอง อีกทั้งยังมีกิจกรรม อาทิ การเล่นสกีและสนุกกับสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว นั่งสโนว์โมบิลขบวน “Wild Monster” ไปเที่ยวชมบริเวณที่มีปีศาจน้ำแข็งอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นต้น
เป็นหนึ่งในสกีรีสอร์ทที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในยามากาตะ บนความสูง 880 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลบนเนินเขาของภูเขาไฟซาโอะ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ท่ามกลางภูเขาที่สวยงาม ในหมู่บ้านน้ำพุร้อนดั้งเดิมแห่งนี้ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ ช่วงฤดูหนาวจะมีลานสกีขนาดใหญ่อันหลากหลายซึ่งเหมาะกับทุกคนทุกทักษะ อีกทั้งหิมะที่นี่ยังได้ชื่อว่ามีความละเอียดเนียมนุ่มราวผงแป้ง หรือที่เรียกว่าพาวเดอร์สโนว์ (powder snow) อีกด้วย
ล่องเรือชมความงามรอบอ่าวมัตสึชิม่าอันสวยงาม สัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมง การเลี้ยงหอยนางรม หรือให้อาหารนกนางนวลที่บินไปมาตามเรือได้
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าถึง 5 องค์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโมโมยามะ สร้างด้วยไม้ มีระเบียงทั้งสี่ด้าน ที่นี่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอยู่เสมอไม่ขาดสายด้วยไปถึงได้ง่ายและไม่เสียค่าเข้าชม การข้ามไปศาลเจ้าจะมีสะพานช่วงสั้นๆ 3 ช่วง สองช่วงก่อนถึงศาลเจ้าเรียกว่า ซึคาชิบาชิ สร้างจากไม้ เว้นช่องระหว่างไม้กระดาน เมื่อเดินข้ามจะมองเห็นพื้นน้ำด้านล่าง มักมีคู่รักมาจูงเมื่อข้ามสะพานเพราะเชื่อว่า จะทำให้สานสัมพันธ์แห่งรักแนบแน่นยิ่งขึ้น
เป็นวัดนิกายเซนที่ประกอบด้วยหลังคาใหญ่คลุมอารามสงฆ์พื้นเป็นไม้ตัดกับกำแพงขาว พร้อมวิหารที่งดงามด้วยภาพวาดนกยูง อีกทั้งประตูโอนะริมน (Onarimon) และประตูนะคะมน(Nakamon) ถูกสร้างในปีค.ศ.1604 โดยคำสั่งของเจ้าเมือง Date Masamune และตกแต่งอย่างวิจิตรแบบสถาปัตยกรรมแห่งยุค Azuchi Momoyama ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติ Zuiganji (วัดซุยกันจิ) ยังเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งในเขตโตโฮคุ และยังเป็นวัดประจำตระกูลดาเตะที่ปกครองมัตสุชิม่า ในช่วงคริสศตวรรษที่ 17
เป็นวัดประจำศาสนาพุทธนิกายเซ็นแห่งหนึ่ง สร้างโดยหลานแท้ๆของเจ้าเมืองเซ็นไดรุ่นแรก ดาเตะ มาซามุเนะ นามว่ามิทสึมุเนะ เพื่อใช้เป็นสุสานประจำตัว อาคารหลักของวัดนี้ชื่อว่า คาวาราบุ ตัวอาคารผสมผสานกับสวนญี่ปุ่นบริเวณรอบ ให้บรรยากาศของความสงบร่มรื่นแบบเซ็นได้เป็นอย่างดี ภายในสวนมีบ่อน้ำสำหรับดอกบัวญี่ปุ่น ต้นเมเปิล ต้นชวนชม และพันธุ์ไม้ต่างๆจากบริเวณทิวเขา ผลัดกันเบ่งบานอวดโฉมในฤดูกาลต่างๆ หลังจากผู้มาเยือนเข้าสักการะศาลเจ้า เป็นเวลาที่เหมาะมากสำหรับเดินชมบรรยากาศโดยรอบสวน
เป็นซากปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1600 โดยเจ้าเมืองเซนไดชื่อ Date Masamune ในช่วง 400 ปี หลังยุคศักดินาถูกต่อต้านในช่วงสมัยเมจิเกิดไฟใหม้ในปี 1882 และโดนระเบิดในปี 1945 จึงทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซากกำแพงหินด้านนอกและหอรักษาความปลอดภัย จากทำเลที่ตั้งของปราสาทเดิมทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเซนไดด้านล่างที่งดงามได้
อิสระให้ท่านได้พักผ่อน หรือท่องเที่ยวในเมืองเซนไดกันตามอัธยาศัยได้แบบเต็มวัน สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเซนได คือนั่งรถบัส loople ซึ่งเป็นรสบัสสำหรับเที่ยวชมบรรยากาศรอบเมืองเซนได เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเซนไดครั้งแรก
เป็นท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโตริมิยางิ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเซนได ถูกสร้างขึ้นในปี 1940 เพื่อใช้เป็นหนึ่งในโรงเรียนการบินและฐานทัพอากาศอีกแห่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น หลังแพ้สงครามโลกที่นี่ค่อยๆ ถูกปรับให้มาเป็นสนามบินพลเรือนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย