เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์แบบชนบทที่งดงาม ซึ่งในเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ และในช่วงฤดูหนาวเมืองแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นที่นิยมสำหรับเล่นสกีเนื่องจากเป็นอีกเมืองที่มีหิมะลงพอสมควร
ที่ตกทับถมจนหนานุ่ม ทำให้สนุกกับกิจกรรมได้หลายชนิด สัมผัสเนื้อหิมะที่ละมุนนุ่มมือเปรียบเหมือนผงแป้ง (Powder Snow) พร้อมชมความงดงามของขุนเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน
เป็นเมืองเล็กๆ ล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของภูเขาและทุ่งนาอันกว้างใหญ่ เสน่ห์ของเมืองนี้ คือ การขี่จักรยานหรือขับรถผ่านเนินเขา และเยี่ยมชมทุ่งดอกไม้ระหว่างทาง ในหน้าหนาวเมืองนี้จะล้อมรอบด้วยหิมะขาวโพลน สวยไปอีกแบบ
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เพิ่งเริ่มมีชื่อเสียงได้ไม่นานของฮอกไกโด ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบิเอะ มีน้ำสีฟ้าที่สดใสเกินกว่าบ่อน้ำตามธรรมชาติทั่วไป และตอไม้สูงจำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นความใสแปลกตาที่แสนพิเศษของน้ำในบ่อ
หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่านี้มีร้านราเมง 8 ร้านมาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว เสมือนหมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว โดยราเมนที่อาซาฮิคาว่านั้น เป็นราเมนที่มีประวัติมายาวนาน สามารถนับย้อนหลังไปตั้งแต่สมัยต้นโชวะ โดยมีการผสมผสานบะหมี่หลายชนิดของจีนจนกลายมาเป็นราเมงขึ้นชื่อที่ได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ
เป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเลโอคอทสก์ (Okhotsk Sea) ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องกิจการเกี่ยวกับการประมงในพื้นที่น้ำเย็น ว่ากันว่าปูที่ได้มากจากเมืองมอนเบ็ทสึเป็นหนึ่งในปูที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น
ล่องเรือชมธารน้ำแข็งที่ท่าเรือ Monbetsu เมื่อต้องเจอกับธารน้ำแข็งจำนวนมาก เรือ Garinko-go II จะใช้สว่านขนาดยักษ์ตัดธารน้ำแข็งเหล่านั้นให้พ้นทาง ความสนุกตื่นเต้นอยู่ตรงที่ยามที่เรือชนเข้ากับน้ำแข็งแล้วผลักน้ำแข็งเหล่านั้นออกไป และถ้าคุณอยากเห็นภาพที่ใกล้ขึ้นก็สามารถไปดูได้ที่ห้องโดยสารด้านหน้าบนชั้นหนึ่งของเรือ
เมืองอาซาฮิคาว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากซัปโปโร ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาของฮอกไกโดและเป็นเมืองที่หนาวที่สุดแห่งหนึ่งของญีปุ่น สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองส่วนใหญ่จึงมักเกี่ยวข้องกับเรื่องราวความหนาวเย็นและฤดูหนาวของญี่ปุ่น
เป็นห้างอิออนหน้าสถานีอาซาฮิคาว่า มีความสะดวกสบาย หาของกินง่าย มีร้านค้า, Supermarket, Food court และโรงภาพยนต์อยู่ภายใน ที่นี่มีสินค้ามากมายให้เลือกช้อปปิ้ง และ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ขนาดใหญ่
เป็นสวนสัตว์เมืองหนาวที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด บรรดาสัตว์ที่อยู่ภายในสวนสัตว์จะได้อยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติเพื่อให้สัตว์ได้แสดงพฤติกรรมของเขาออกมาได้โดยไม่ทำให้สัตว์เกิดอาการเครียด สัตว์บางชนิดจะถูกปล่อยให้เดินออกมาอย่างเป็นอิสระนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน จึงสามารถสัมผัสกับสัตว์ได้อย่างใกล้ชิดและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
คนที่ไปสวนสัตว์แห่งนี้ ต้องไม่พลาดที่จะชมขบวนนกเพนกวินตัวเล็กตัวน้อย เดินพาเหรดกลางหิมะอย่างสนุกสนาน ไม่ใช่เดินแค่สิบยี่สิบก้าว แต่เดินเล่นกันเป็นกิโลๆ ประมาณสองกิโล รอบสวนสัตว์ น่ารักมาก
สถานที่ท่องเที่ยวนี้ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโรทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นผลงานการสร้างชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะ อันโดะ(Tadao Ando) สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซ์เกอร์ที่ถือว่าที่สุดรางวัลของสถาปนิก โดยมีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงมากถึง 13.5 เมตรและมีน้ำหนัก 1500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะมีค่อยๆลาดลง อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่จะสามารถเห็นต้นลาเวนเดอร์จำนวนกว่า 150,000 ต้นล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูป ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นกับความงดงามจากธรรมชาติ มองดูแล้วประหนึ่งเป็นผลงานศิลปะชั้นเอกที่หาดูได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น
เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของฮอกไกโด ที่นี่เป็นแหล่งวัตถุดิบทางทะเลที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนฮอกไกโด
คลองโอตารุขนาบข้างด้วยโกดังเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านค้า น้ำในคลองใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์อาคารและในยามอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าก็จะสะท้อนภาพออกมาเป็นเงาที่ดูแล้วรู้สึกถึงความโรแมนติก
เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรุปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะเป็นอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่มีอายุร้อยกว่าปีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
โรงงานเครื่องแก้วนี้สร้างเมื่อปี 1891 โดยใช้หินเป็นส่วนประกอบของอาคาร มีอีกชื่อคือ Sangokan แปลว่า บ้านหลังที่สาม .. ภายในมีผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เป็นเครื่องแก้ว ทั้งภาชนะเครื่องครัวต่างๆ และมีห้องน้ำชาที่ประดับโคมไฟถึง 167 ตัวเพื่อสร้างบรรยากาศที่สุดแสนจะประทับใจอีกด้วย
เป็นร้านกาแฟอันมีชื่อที่อยู่ไม่ไกลจากคลองโอตารุ มีจุดเด่นคือตัวร้านมีบรรยากาศน่ารักๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง "คิตตี้"
ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย
ย่านซูซูกิโนะ เป็นย่านบันเทิงและย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เต็มไปด้วยร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ และตู้ปาจิงโกะ รวมกว่า 4,000 ร้าน ป้ายร้านค้าสว่างไสวยามค่ำคืนจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ย่านซูซูกิโนะจะจัดเทศกาลหิมะ เป็นเจ้าภาพการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็ง ประจำทุกปี
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
ที่นี่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้นเพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณเสมือนนรกที่มีกระทะทองแดงที่มีควันร้อนๆอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด
เป็นภูเขาไฟที่เกิดขึ้นใหม่ข้างภูเขาไฟอุสุ มีอายุน้อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เกิดขึ้นโดยการเกิดแผ่นดินไหวและก่อตัวขึ้นบนพื้นที่ราบทุ่งข้าวสาลี สูง 290 เมตร ในปัจจุบันยังคงมีควันกำมะถันลอยอยู่เหนือปล่องภูเขาไฟ ภูเขาไฟนี้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากจุดชมวิวภูเขาไฟอุสุโดยขึ้นกระเช้าอูสุซาน
เป็นฟาร์มอนุรักษ์หมีสีน้ำตาล ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาอุสุซานตรงสถานีกระเช้า ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากในเกาะฮอกไกโด ภายในฟาร์มมีหมีมากกว่า 100 ตัว อายุตั้งแต่อายุหนึ่งขวบจนถึงสามสิบปี นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารหมีได้อย่างใกล้ชิด และสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงแสนน่ารักของเจ้าหมีสีน้ำตาลแสนรู้ที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี
เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว ในหน้าร้อนอากาศก็เย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือชมทิวทัศน์อันงดงาม กลางทะเลสาบมีเกาะเล็กๆอยู่ตรงกลาง คือ เกาะนากาจิมะสามารถลงไปเดินเล่นได้(ยกเว้นฤดูหนาว) และในช่วงไฮท์ซีซั่น ประมาณเดือนเมษายน-ปลายเดือนตุลาคม จะมีการจุดพลุในเวลา 20:45 ของทุกๆคืน
เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำฮอกไกโด
แหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก เหมาะสำหรับจับจ่ายซื้อหาของฝากจากฮอกไกโด เป็นชุมชนร้านค้าประมาณ 200 ร้านทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตรตลอดทิศตะวันออกและตะวันตกของใจกลางเมืองซัปโปโร เชื่อมต่อกันด้วยหลังคาโครงสร้างที่รองรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่เขตนิชิ 1 โจเมะจนถึงนิชิ 7 โจเมะ จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงฝนหรือหิมะ แสงแดด
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี