เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโตริมิยางิ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเซนได ถูกสร้างขึ้นในปี 1940 เพื่อใช้เป็นหนึ่งในโรงเรียนการบินและฐานทัพอากาศอีกแห่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น หลังแพ้สงครามโลกที่นี่ค่อยๆ ถูกปรับให้มาเป็นสนามบินพลเรือนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งในภูมิภาคโทโฮคุที่มีประชากรกว่าล้านคนอยู่อาศัย ถึงแม้ว่าเซนไดจะเป็นเมืองใหญ่และทันสมัย แต่ความก้าวหน้าในด้านต่างๆ ของเมืองได้ผสมกลมกลืนกับธรรมชาติอย่างได้สมดุล หลายๆแห่งในเมืองมีทัศนียภาพงดงามชวนให้ต้องหยุดมอง เช่น ทิวทัศน์น้ำใสไหลรินของแม่น้ำฮิโระเซะ หรือต้นเคยะขิที่เขียวชอุ่มเป็นแนวตลอดสายถนน ความเขียวขจีของแมกไม้ในเมืองนี้เองที่ทำให้เซนไดได้สมญาว่าเป็น “เมืองแห่งต้นไม้"
ล่องเรือชมความงามรอบอ่าวมัตสึชิม่าอันสวยงาม สัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมง การเลี้ยงหอยนางรม หรือให้อาหารนกนางนวลที่บินไปมาตามเรือได้
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าถึง 5 องค์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโมโมยามะ สร้างด้วยไม้ มีระเบียงทั้งสี่ด้าน ที่นี่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอยู่เสมอไม่ขาดสายด้วยไปถึงได้ง่ายและไม่เสียค่าเข้าชม การข้ามไปศาลเจ้าจะมีสะพานช่วงสั้นๆ 3 ช่วง สองช่วงก่อนถึงศาลเจ้าเรียกว่า ซึคาชิบาชิ สร้างจากไม้ เว้นช่องระหว่างไม้กระดาน เมื่อเดินข้ามจะมองเห็นพื้นน้ำด้านล่าง มักมีคู่รักมาจูงเมื่อข้ามสะพานเพราะเชื่อว่า จะทำให้สานสัมพันธ์แห่งรักแนบแน่นยิ่งขึ้น
เป็นวัดนิกายเซนที่ประกอบด้วยหลังคาใหญ่คลุมอารามสงฆ์พื้นเป็นไม้ตัดกับกำแพงขาว พร้อมวิหารที่งดงามด้วยภาพวาดนกยูง อีกทั้งประตูโอนะริมน (Onarimon) และประตูนะคะมน(Nakamon) ถูกสร้างในปีค.ศ.1604 โดยคำสั่งของเจ้าเมือง Date Masamune และตกแต่งอย่างวิจิตรแบบสถาปัตยกรรมแห่งยุค Azuchi Momoyama ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติ Zuiganji (วัดซุยกันจิ) ยังเป็นวัดที่สำคัญแห่งหนึ่งในเขตโตโฮคุ และยังเป็นวัดประจำตระกูลดาเตะที่ปกครองมัตสุชิม่า ในช่วงคริสศตวรรษที่ 17
เป็นวัดประจำศาสนาพุทธนิกายเซ็นแห่งหนึ่ง สร้างโดยหลานแท้ๆของเจ้าเมืองเซ็นไดรุ่นแรก ดาเตะ มาซามุเนะ นามว่ามิทสึมุเนะ เพื่อใช้เป็นสุสานประจำตัว อาคารหลักของวัดนี้ชื่อว่า คาวาราบุ ตัวอาคารผสมผสานกับสวนญี่ปุ่นบริเวณรอบ ให้บรรยากาศของความสงบร่มรื่นแบบเซ็นได้เป็นอย่างดี ภายในสวนมีบ่อน้ำสำหรับดอกบัวญี่ปุ่น ต้นเมเปิล ต้นชวนชม และพันธุ์ไม้ต่างๆจากบริเวณทิวเขา ผลัดกันเบ่งบานอวดโฉมในฤดูกาลต่างๆ หลังจากผู้มาเยือนเข้าสักการะศาลเจ้า เป็นเวลาที่เหมาะมากสำหรับเดินชมบรรยากาศโดยรอบสวน
เป็นพื้นที่หมู่บ้านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ในพื้นที่ขนาด 20 เฮกตาร์ ในลักษณะบรรยากาศแบบชุมชนยุคเฮอันที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งมีจุดถ่ายรูปต่างๆ ที่สวยงามหลายๆ มุม ที่นี่ยังเปนสถานที่โปรดของการถ่ายทำภาพยนตร์และโทรทัศน์หลายๆ เรื่องของญี่ปุ่น นอกจากนี้นักท่องเที่ยยังวสามารถใช้การบริเช่าชุดกิโมโน แต่งกายย้อนยุคเดินเล่นกันในหมู่บ้านได้
ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังในบานะที่เป็นถิ่นฐานของชาวซามูไรและเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทคาคุโนะดาเตะ สิ่งของเก่าแก่มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของซามูไรในสมัยก่อน ในปัจจุบันยังมีบ้านพักอาศัยอยู่ประมาณ 80 หลังคาเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมซามูไรแบบดั้งเดิมที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีบ้านเพียง 6 หลังที่เปิดให้ผู้คนได้เข้าไปชมความสวยงามภายในบ้าน
เป็นตลาดปลาสาธารณะในใจกลางเมืองอาโอโมริ ที่นี่เต็มไปด้วยผู้ค้าขายที่แน่นขนัดที่ขายอาหารทะเลผักและผักดองทุกชนิดในท้องถิ่น
เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบทอันเงียบสงบบริเวณชานเมืองของอาโอโมริ สร้างขึ้นเมื่อปี 1984 เป็นพระพุทธรูปนั่งที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เป็นรูปปั้นพระพุทธรูปสำริด มีความสูง 22 เมตร และกว้าง 15 เมตร ในวัดมีอาคารที่สวยงาม เช่น เจดีย์ห้าชั้น
เป็นพระพุทธรูปนั่งที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น อยู่ในวัดเซอิเรียวจิ เป็นรูปปั้นพระพุทธรูปสำริด มีความสูง 22 เมตร และกว้าง 15 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าที่นาราและคามาคุระ
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อาคารภายนอกถูกปกคลุมด้วยแผ่นโลหะสีแดงมีความโดดเด่น ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟอาโอโมริ ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเทศกาลเนบูตะมัตสุริที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ผู้เข้าชมจะได้ซึมซับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของประวัติศาสตร์และประเพณีสำคัญ
หรือรถไฟหัวกระสุน เป็นเครือข่ายของรถไฟความเร็วสูงในญี่ปุ่น ความยาวเส้นทางรวม 2,459 กิโลเมตร โดยสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้จะเกิดแผ่นดินไหวหรือพายุไต้ฝุ่น ก็สามารถวิ่งได้ตามปกติ ในรางปกตินั้นรถไฟสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 443 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สามารถเร่งความเร็วได้ถึง 581 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นความเร็วสถิติโลกเมื่อวิ่งด้วยรางรถไฟแม่เหล็ก (แม็คเลฟ)
เป็นเมืองทางใต้สุดของเกาะฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเพราะป้อมปราการ/สวนรูปทรงดาว และเป็นเมืองที่เปิดท่าเรือเพื่อแลกเปลี่ยนกับชาวต่างชาติเป็นเมืองแรกในยุคเปิดประเทศของญี่ปุ่น
หอคอยโกเรียวคาคุ เป็นหอคอยเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1964 ในโอกาสฉลองปราสาทโกะเรียวคะคุครบรอบ 100 ปี เดิมมีความสูง 60 เมตร ต่อมาได้มีการพัฒนากลายเป็นหอคอยที่ทันสมัยและเปิดบริการครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน ปี 2006 ปัจจุบันหอคอยมีความสูง 107 เมตร จากด้านบนนักท่องเที่ยวจะได้เห็นป้อมรูปดาวเบื้องล่าง และวิวของเมืองฮาโกดาเตะได้รอบทิศทาง
เป็นโรงเก็บของเก่าที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี 1907 ที่นี่มีความโดดเด่นให้ความรู้สึกโรแมนติคด้วยเรือแบบอย่างยุโรปที่เรียงรายรอบอ่าว และโรงเก็บของแห่งนี้ได้ถูกดัดแปลงให้กลายมาเป็นร้านค้า ร้านช็อคโกแล็ต ร้านขายของที่ระลึกน่ารักมากมาย
เป็นย่านที่อยู่บริเวณเชิงเขาฮาโกดาเตะ ตั้งแต่สถานีรถราง Jujigai ถึง Suehiro-Cho บริเวณนี้เป็นเนินลาดเอียงขึ้นไปตามเชิงเขา เมื่อมองลงมาจากถนนที่ตัดขึ้นสู่ด้านบน จะทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ของท่าเรือ ในอดีตแถบนี้เป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าต่างชาติที่เข้ามาทำการค้าขายกับญี่ปุ่น จึงเกิดชมชุนต่างชาติขึ้นมา สิ่งก่อสร้างบริเวณนี้จึงมีทั้งโบสถ์ วัด สถานกงสุลเก่ารวมทั้งอาคารร้านค้าบ้านเรือนที่ก่อสร้างในแบบสถาปัตยกรรมแบบยุโรป
นั่งกระเช้าขึ้นไปยังเขาฮาโกดาเตะ หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น โดยจุดชมวิวบนยอดเขาฮาโกดาเตะนี้ ในฤดูหนาวจะ ขึ้นไปได้แต่รถกระเช้าเท่านั้นส่วนในฤดูอื่นอาจเรียกแท็กซี่หรือนั่งรถบัสขึ้นไปได้ด้วย แต่รถกระเช้าก็ยังคงเป็นทางเลือกที่เร็วและสะดวกที่สุดอยู่ดี
เป็นภูเขาประจำเมืองฮาโกดาเตะ มีความสูง 334 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในป่าทางตอนใต้ของปลายคาบสมุทร ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ที่นี่นับเป็นจุดชมวิวติดอันดัน 1 ใน 3 สถานที่ที่ดีที่สุด ร่วมกับภูเขาอินาซะที่นางาซากิ และภูเขารอคโคที่โกเบ บนยอดเขามีจุดชมวิว ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และร้านอาหารสไตล์โรงอาหารเปิดให้บริการ
เป็นภูเขาไฟที่เกิดขึ้นใหม่ข้างภูเขาไฟอุสุ มีอายุน้อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เกิดขึ้นโดยการเกิดแผ่นดินไหวและก่อตัวขึ้นบนพื้นที่ราบทุ่งข้าวสาลี สูง 290 เมตร ในปัจจุบันยังคงมีควันกำมะถันลอยอยู่เหนือปล่องภูเขาไฟ ภูเขาไฟนี้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากจุดชมวิวภูเขาไฟอุสุโดยขึ้นกระเช้าอูสุซาน
เป็นฟาร์มอนุรักษ์หมีสีน้ำตาล ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาอุสุซานตรงสถานีกระเช้า ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากในเกาะฮอกไกโด ภายในฟาร์มมีหมีมากกว่า 100 ตัว อายุตั้งแต่อายุหนึ่งขวบจนถึงสามสิบปี นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารหมีได้อย่างใกล้ชิด และสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงแสนน่ารักของเจ้าหมีสีน้ำตาลแสนรู้ที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี
เมืองเอกบนฮอกไกโดซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น แม้ในเมืองซัปโปโรจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายนักแต่ในฤดูหนาวที่นี่จะมีการจัดเทศกาลน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยทุกๆปีจะมีนักแกะสลักน้ำแข็งฝีมือดีจากทั่วโลกเดินทางมาแสดงฝีไม้ลายมือให้ได้เห็นกัน
ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย
เป็นอาคารสีแดงอิฐ สร้างในปี 1888 นับเป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่น เรียงรายด้วยต้นซากุระ และต้นแปะก๊วย อาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นสมัยบุกเบิกเกาะฮอกไกโด ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องทำงานต่างๆ และหอสมุดเก็บบันทึกทางราชการ
หอนาฬิกาซัปโปโร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากไม้ ตั้งอยู่ในเขตจูโอ เมืองซัปโปโร ออกแบบด้วยศิลปะแบบอเมริกัน เป็นอาคารทรงตะวันตกแห่งหนึ่ง ในจำนวนน้อยที่หลงเหลืออยู่ในเมืองนี้ ทำให้รู้จักในฐานะสัญลักษณ์ของเมือง
แหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก เหมาะสำหรับจับจ่ายซื้อหาของฝากจากฮอกไกโด เป็นชุมชนร้านค้าประมาณ 200 ร้านทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตรตลอดทิศตะวันออกและตะวันตกของใจกลางเมืองซัปโปโร เชื่อมต่อกันด้วยหลังคาโครงสร้างที่รองรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่เขตนิชิ 1 โจเมะจนถึงนิชิ 7 โจเมะ จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงฝนหรือหิมะ แสงแดด
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย