เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ อยู่ทางภาคตะวันตกของเกาะฮอกไกโด และมีน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงบนเกาะฮอกไกโด ทั้งออนเซนธรรมชาติ และหุบเขา จิโกกุดานิ ที่เราสามารถเห็นน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินตามธรรมชาติได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่รวมรีสอร์ทสำหรับการพักผ่อนแช่ออนเซนที่ติดระดับต้นๆอีกด้วย
ที่นี่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้นเพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณเสมือนนรกที่มีกระทะทองแดงที่มีควันร้อนๆอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด
เป็นเมืองทางใต้สุดของเกาะฮอกไกโด ซึ่งขึ้นชื่อเพราะป้อมปราการ/สวนรูปทรงดาว และเป็นเมืองที่เปิดท่าเรือเพื่อแลกเปลี่ยนกับชาวต่างชาติเป็นเมืองแรกในยุคเปิดประเทศของญี่ปุ่น
นั่งกระเช้าขึ้นไปยังเขาฮาโกดาเตะ หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น โดยจุดชมวิวบนยอดเขาฮาโกดาเตะนี้ ในฤดูหนาวจะ ขึ้นไปได้แต่รถกระเช้าเท่านั้นส่วนในฤดูอื่นอาจเรียกแท็กซี่หรือนั่งรถบัสขึ้นไปได้ด้วย แต่รถกระเช้าก็ยังคงเป็นทางเลือกที่เร็วและสะดวกที่สุดอยู่ดี
เป็นภูเขาประจำเมืองฮาโกดาเตะ มีความสูง 334 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในป่าทางตอนใต้ของปลายคาบสมุทร ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ที่นี่นับเป็นจุดชมวิวติดอันดัน 1 ใน 3 สถานที่ที่ดีที่สุด ร่วมกับภูเขาอินาซะที่นางาซากิ และภูเขารอคโคที่โกเบ บนยอดเขามีจุดชมวิว ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และร้านอาหารสไตล์โรงอาหารเปิดให้บริการ
ถนนที่สว่างไสวไปด้วยดวงไฟประดับกว่า 50,000 ดวง คุณจะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพยามค่ำคืนที่งดงามราวกับความฝันซึ่งหาไม่ได้ที่ไหนนอกจากฤดูหนาวที่ฮาโกดาเตะ ต้นไม้ที่ปลูกในบนเนินถนน เช่น ฮาจิมังซากะ และนิจุกเค็นซากะ จะถูกประดับด้วยดวงไฟ ซึ่งจะเปล่งประกายระยิบระยับยิ่งกว่า ไฟปิดตั้งแต่เวลา 17.00 น. ไปจนถึง 22.00 น. คุณควรสวมเสื้อผ้าหนาๆ ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นตามท้องถนน เมื่อเดินทางไปชมโบสถ์ประดับไฟ ศาลาประชาคม และบริเวณอ่าว
เป็นตลาดเช้าหลังสถานีรถไฟที่มีผัก ผลไม้ และอาหารสดๆ ส่งตรงมาจากฟาร์มของ มาให้เราเลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลิน ในราคาซื้อง่ายขายคล่องแบบชาวบ้าน รอต้อนรับพวกเราอย่างอารมณ์ดี ตามสไตล์ของชาวฮาโกดาเตะ ที่เป็นคนเรียบง่าย น่ารัก และอัธยาศัยดี นอกจากนี้ตรงบริเวณ Food court ที่มีอาหารทำสดๆ ให้ได้เลือกทานกันอีกด้วย
หอคอยโกเรียวคาคุ เป็นหอคอยเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1964 ในโอกาสฉลองปราสาทโกะเรียวคะคุครบรอบ 100 ปี เดิมมีความสูง 60 เมตร ต่อมาได้มีการพัฒนากลายเป็นหอคอยที่ทันสมัยและเปิดบริการครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน ปี 2006 ปัจจุบันหอคอยมีความสูง 107 เมตร จากด้านบนนักท่องเที่ยวจะได้เห็นป้อมรูปดาวเบื้องล่าง และวิวของเมืองฮาโกดาเตะได้รอบทิศทาง
เป็นย่านที่อยู่บริเวณเชิงเขาฮาโกดาเตะ ตั้งแต่สถานีรถราง Jujigai ถึง Suehiro-Cho บริเวณนี้เป็นเนินลาดเอียงขึ้นไปตามเชิงเขา เมื่อมองลงมาจากถนนที่ตัดขึ้นสู่ด้านบน จะทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ของท่าเรือ ในอดีตแถบนี้เป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าต่างชาติที่เข้ามาทำการค้าขายกับญี่ปุ่น จึงเกิดชมชุนต่างชาติขึ้นมา สิ่งก่อสร้างบริเวณนี้จึงมีทั้งโบสถ์ วัด สถานกงสุลเก่ารวมทั้งอาคารร้านค้าบ้านเรือนที่ก่อสร้างในแบบสถาปัตยกรรมแบบยุโรป
เป็นโรงเก็บของเก่าที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี 1907 ที่นี่มีความโดดเด่นให้ความรู้สึกโรแมนติคด้วยเรือแบบอย่างยุโรปที่เรียงรายรอบอ่าว และโรงเก็บของแห่งนี้ได้ถูกดัดแปลงให้กลายมาเป็นร้านค้า ร้านช็อคโกแล็ต ร้านขายของที่ระลึกน่ารักมากมาย
สวนพืชเขตร้อนขนาดใหญ่ ด้านในมีเรือนกระจกที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์พืชเขตร้อนกว่า 3000 สายพันธุ์ นอกจากสวนแล้วก็ยังมีโซนอื่นๆที่น่าสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะลิงภูเขาที่ในช่วงหน้าหนาวลงไปแช่ออนเซ็น คล้ายกับที่นากาโน่
เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว ในหน้าร้อนอากาศก็เย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือชมทิวทัศน์อันงดงาม กลางทะเลสาบมีเกาะเล็กๆอยู่ตรงกลาง คือ เกาะนากาจิมะสามารถลงไปเดินเล่นได้(ยกเว้นฤดูหนาว) และในช่วงไฮท์ซีซั่น ประมาณเดือนเมษายน-ปลายเดือนตุลาคม จะมีการจุดพลุในเวลา 20:45 ของทุกๆคืน
จัดขึ้นบริเวณทะเลสาบโทยะ แบ่งเป็น 2 โซน คือโซนจัดแสดงไฟ light up บริเวณถนน และโซนอุโมงค์หลอดไฟ ซึ่งจะประดับไฟสีฟ้าขาวตามทาง โดยทั้งงานใช้หลอดไฟประดับรวมกันมากกว่า 300,000 ดวง
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
ถือเป็นสกีรีสอร์ทที่ดีแห่งหนึ่งของฮอกไกโด พื้นที่เล่นสกีมีขนาดใหญ่ครอบคลุมภูเขา 3 ลูก เส้นทางสกีมีความหลากหลาย ภูมิทัศน์สวยงาม ใกล้กับทะเลสาบโทยะ(Lake Toya) อีกด้านหนึ่งเป็นภูเขาโยเท(Mount Yotei) ที่นิเซโกะ(Niseko) โรงแรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางรีสอร์ทเปิดให้บริการ ประกอบด้วยตึกรุซุสึทาวเวอร์(Rusutsu Tower) ตึกทางเหนือและทางใต้ ไฮแลนด์ลอดจ์ และกระท่อมหลายแห่ง
เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของฮอกไกโด ที่นี่เป็นแหล่งวัตถุดิบทางทะเลที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนฮอกไกโด
คลองโอตารุขนาบข้างด้วยโกดังเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านค้า น้ำในคลองใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์อาคารและในยามอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าก็จะสะท้อนภาพออกมาเป็นเงาที่ดูแล้วรู้สึกถึงความโรแมนติก
เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรุปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะเป็นอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่มีอายุร้อยกว่าปีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
เป็นร้านคาเฟ่ขนมหวานขึ้นชื่อร้านหนึ่งของฮอกไกโด เมนูที่แนะนำนั้นก็คือ ซูว์ครีม ซึ่งจะคล้ายเอแคล์ของประเทศบ้านเรา หากได้มาเยือนฮอกไกโดแล้วสิ่งนี้ถือเป็นอีกสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรจะพลาด
โรงงานเครื่องแก้วนี้สร้างเมื่อปี 1891 โดยใช้หินเป็นส่วนประกอบของอาคาร มีอีกชื่อคือ Sangokan แปลว่า บ้านหลังที่สาม .. ภายในมีผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เป็นเครื่องแก้ว ทั้งภาชนะเครื่องครัวต่างๆ และมีห้องน้ำชาที่ประดับโคมไฟถึง 167 ตัวเพื่อสร้างบรรยากาศที่สุดแสนจะประทับใจอีกด้วย
เป็นร้านขนมชื่อดังของเมืองโอตารุ ซึ่งมีเมนูขนมหวานและเค้กขายในแต่ละวันมากกว่า 50 ชนิด โดยสั่งเมนูที่ชั้นล่าง แล้วชั้นบนจะเป็นที่นั่งรับประทาน ซึ่งจุได้มากกว่า 100 คน ส่วน ชั้นบนสุดจะเป็นหอคอย ที่ลูกค้าสามารถ ขึ้นไปชมทิวทัศน์โดยรอบได้ฟรี!
เป็นโรงงานสุดน่ารักที่มีธีมพาร์คสไตล์ยุโรปอยู่ข้างหน้า ที่นี่ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และก็โรงงานช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของฮอกไกโด โดยอาคารร้านขายของจะถูกตกแต่งให้มีลักษณะคล้ายๆ กับสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปชมอุปกรณ์การผลิตยุคแรกเริ่ม แบบจำลองของโรงงาน สายการผลิตเป็นลำดับ และขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งชิมและเลือกซื้อช็อกโกแลตหรือไอศครีมแบบต่างๆ ซึ่งผลิตจากนมสดของเกาะฮอกไกโด
แหล่งช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีต่างๆ
เป็นงานเทศกาลหิมะยามค่ำคืนในฮอกไกโด ที่ถือว่าเป็นงานประดับไฟที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเลื่องชื่อเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยงานเทศกาลหิมะในซัปโปโรมีอยู่ 3 จุดหลักๆ คือ เทศกาลหิมะสึโดเมะ เทศกาลน้ำแข็งซูซูกิโนะ และจุดไฮไลท์สำคัญก็คืองานเทศกาลที่จัดขึ้นที่สวน“โอโดริ” สวนสาธารณะสำคัญใจกลางเมือง
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
อิสระเต็มวันให้ท่านได้เดินทางท่องเที่ยว สัมผัสบรรยากาศ ซัปโปโร และช๊อปปิ้งได้อย่างเต็มอิ่มหรือจะชมวิวทิวทัศน์ จากมุมสูง ที่อาคาร JR TOWERเจอาร์ทาวเวอร์ เป็นตึกที่สูงที่สุดในซัปโปโร ตั้งอยู่ติดกับสถานีเจอาร์ ซัปโปโร เป็นทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงภาพยนตร์ และศูนย์อาหาร โดยมีจุดชมวิวตั้งอยู่ที่ชั้น 38 เรียกว่า T38 (Tower Three Eight) ที่ระดับความสูง 160 เมตร จึงมองเห็นทิวทัศน์เหนือเมืองซัปโปโรได้กว้างไกลสวยงามทั้งกลางวัน กลางคืน โดยเฉพาะยามค่ำคืนจะมองเห็นทีวีทาวเวอร์ตั้งอยู่กลางสวนโอโดริ โดยมีแสงไฟจากกลุ่มตึกย่านซูซูกิโนะ ส่องสว่างที่จุดกลางเมืองติดๆ กันมีตึก ESTA ซึ่งที่ชั้น 10 เป็นศูนย์รวมร้านราเมน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 ร้าน ให้เลือกชิมอร่อยไม่แพ้ตรอกราเมนในย่านซูซูกิโน่ (ไม่รวมตั๋วขึ้นจุดชมวิวราคาประมาณ 700-1000 เยน)
งานเทศกาลหิมะซัปโปโร มีต้นกำเนิดมาจากการที่เด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายในซัปโปโรแกะสลักรูปปั้นน้ำแข็ง 6 ตัวไว้ที่สวนโอโดริ เมื่อปีค.ศ.1950 (ปีโชวะที่ 25) ปัจจุบันกลายเป็นงานเทศกาลฤดูหนาวขนาดใหญ่งานหนึ่งของซัปโปโรที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมกว่า 2 ล้านคนทั้งในและต่างประเทศ จะมีประติมากรรมหิมะใหญ่เล็กเรียงรายอยู่ ตอนกลางคืนมีการส่องไฟด้วย มีการประกวดประติมากรรมหิมะนานาชาตินั้น จะมีทีมจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมประกวด สามารถชมขั้นตอนการแกะสลักได้ระหว่างที่มีการจัดงาน
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย