เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เมืองอาซาฮิคาว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากซัปโปโร ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาของฮอกไกโดและเป็นเมืองที่หนาวที่สุดแห่งหนึ่งของญีปุ่น สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองส่วนใหญ่จึงมักเกี่ยวข้องกับเรื่องราวความหนาวเย็นและฤดูหนาวของญี่ปุ่น
หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่า ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่านี้มีร้านราเมง 8 ร้านมาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว เสมือนหมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว โดยราเมนที่อาซาฮิคาว่านั้น เป็นราเมนที่มีประวัติมายาวนาน สามารถนับย้อนหลังไปตั้งแต่สมัยต้นโชวะ โดยมีการผสมผสานบะหมี่หลายชนิดของจีนจนกลายมาเป็นราเมงขึ้นชื่อที่ได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ
เป็นสวนสัตว์เมืองหนาวที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด บรรดาสัตว์ที่อยู่ภายในสวนสัตว์จะได้อยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติเพื่อให้สัตว์ได้แสดงพฤติกรรมของเขาออกมาได้โดยไม่ทำให้สัตว์เกิดอาการเครียด สัตว์บางชนิดจะถูกปล่อยให้เดินออกมาอย่างเป็นอิสระนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน จึงสามารถสัมผัสกับสัตว์ได้อย่างใกล้ชิดและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
เมืองโซอุนเคียว เป็นแหล่งน้ำแร่ออนเซ็นที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในฮอกไกโด ด้วยสภาพภูมิประเทศที่สวยงาม ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมมาแช่ออนเซ็นที่นี่มากถึงปีละ 3 ล้านคนต่อปีเลยทีเดียว
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
น้ำตกริวเซ และน้ำตกกิงกะ เป็นน้ำตกสองสายที่ไหลจากบนภูเขาลงมาที่ผาเป็นริ้วสวยงาม น้ำตกทั้งสองสายตั้งอยู่ห่างกันเพียง 300 เมตร สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย น้ำตกริวเซ ซึ่งถูกเรียกว่าเป็น “น้ำตกแห่งดาวตก” เพราะสายน้ำเส้นใหญ่ไหลลงมาจากซอกผา เวลาถูกแสงอาทิตย์จะแลดูคล้ายดาวตก เคียงคู่กับน้ำตกกิงกะ หรือ “น้ำตกแห่งแม่น้ำสีเงิน” ที่ในฤดูร้อนจะเห็นสายน้ำเป็นริ้วเล็กๆ ไขว้กันไปมา แลดูชดช้อย
เป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเลโอคอทสก์ (Okhotsk Sea) ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องกิจการเกี่ยวกับการประมงในพื้นที่น้ำเย็น ว่ากันว่าปูที่ได้มากจากเมืองมอนเบ็ทสึเป็นหนึ่งในปูที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น
ล่องเรือชมธารน้ำแข็งที่ท่าเรือ Monbetsu เมื่อต้องเจอกับธารน้ำแข็งจำนวนมาก เรือ Garinko-go II จะใช้สว่านขนาดยักษ์ตัดธารน้ำแข็งเหล่านั้นให้พ้นทาง ความสนุกตื่นเต้นอยู่ตรงที่ยามที่เรือชนเข้ากับน้ำแข็งแล้วผลักน้ำแข็งเหล่านั้นออกไป และถ้าคุณอยากเห็นภาพที่ใกล้ขึ้นก็สามารถไปดูได้ที่ห้องโดยสารด้านหน้าบนชั้นหนึ่งของเรือ
เป็นห้างอิออนหน้าสถานีอาซาฮิคาว่า มีความสะดวกสบาย หาของกินง่าย มีร้านค้า, Supermarket, Food court และโรงภาพยนต์อยู่ภายใน ที่นี่มีสินค้ามากมายให้เลือกช้อปปิ้ง และ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ขนาดใหญ่
เป็นชิคิไซโนะโอกะในช่วงฤดูหนาว ที่ไม่มีดอกไม้ให้ท่านได้ถ่ายรูป แต่มี “ลานหิมะ” ซึ่งจะมีกิจกรรมฤดูหนาวต่างๆ รอให้บริการนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น SNOW MOBILE , SNOW RAFTING หรือ SNOW BANANA BOAT
เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของฮอกไกโด ที่นี่เป็นแหล่งวัตถุดิบทางทะเลที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนฮอกไกโด
คลองโอตารุขนาบข้างด้วยโกดังเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านค้า น้ำในคลองใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์อาคารและในยามอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าก็จะสะท้อนภาพออกมาเป็นเงาที่ดูแล้วรู้สึกถึงความโรแมนติก
เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรุปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะเป็นอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่มีอายุร้อยกว่าปีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
ปัจจุบันเมืองโอตารุก็ยังขึ้นชื่อในอุตสาหกรรมเครื่องแก้วที่ดึงดูดดนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาซื้อสินค้าจำพวกนี้ นอกจากขายแล้ว ยังมีหลายร้านที่ให้ลูกค้าเข้าร่วมเวิร์คช้อปทำถ้วยแก้วด้วยตัวเอง โดยมีค่าใช้จ่ายในการทำแก้ว ชาม หรือแจกันในราคา 2,000-3,000 เยน
เป็นร้านคาเฟ่ขนมหวานขึ้นชื่อร้านหนึ่งของฮอกไกโด เมนูที่แนะนำนั้นก็คือ ซูว์ครีม ซึ่งจะคล้ายเอแคล์ของประเทศบ้านเรา หากได้มาเยือนฮอกไกโดแล้วสิ่งนี้ถือเป็นอีกสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรจะพลาด
เป็นร้านขนมชื่อดังของเมืองโอตารุ ซึ่งมีเมนูขนมหวานและเค้กขายในแต่ละวันมากกว่า 50 ชนิด โดยสั่งเมนูที่ชั้นล่าง แล้วชั้นบนจะเป็นที่นั่งรับประทาน ซึ่งจุได้มากกว่า 100 คน ส่วน ชั้นบนสุดจะเป็นหอคอย ที่ลูกค้าสามารถ ขึ้นไปชมทิวทัศน์โดยรอบได้ฟรี!
แหล่งช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีต่างๆ
เป็นอาคารสีแดงอิฐ สร้างในปี 1888 นับเป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่น เรียงรายด้วยต้นซากุระ และต้นแปะก๊วย อาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นสมัยบุกเบิกเกาะฮอกไกโด ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องทำงานต่างๆ และหอสมุดเก็บบันทึกทางราชการ
หอนาฬิกาซัปโปโร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากไม้ ตั้งอยู่ในเขตจูโอ เมืองซัปโปโร ออกแบบด้วยศิลปะแบบอเมริกัน เป็นอาคารทรงตะวันตกแห่งหนึ่ง ในจำนวนน้อยที่หลงเหลืออยู่ในเมืองนี้ ทำให้รู้จักในฐานะสัญลักษณ์ของเมือง
เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ใจกลางถนนด้วยความยาว 1.5 กิโลเมตร สวนโอโดริเป็นสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญีปุ่น แต่ลักษณะทั่วไปจะดูคล้ายกับเป็นเกาะกลางถนนขนาดใหญ่อันเป็นตัวแบ่งเขตเมืองออกเป็นฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์สวนแห่งนี้ถูกใช้เป็นหนึ่งในสถานที่จัดแสดงผลงานแกะสลักน้ำแข็งจากฝีมือช่างแกะสลักจากทั่วโลก
เป็นตลาดกลางขายส่งของเมือซัปโปโร และเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมซึ่งสามารถลองลิ้มชิมรสข้าวหน้าอาหารทะเล หรือซูชิที่ใช้อาหารทะเลสดๆ ที่เพิ่งซื้อมาในตอนเช้าจากสถานที่ต่างๆ ในฮอกไกโดอย่างเต็มที่ ปูที่เรียงรายอยู่หน้าร้านได้รับความนิยมที่สุดเพื่อเป็นของฝากจากทะเล ขอเชิญดื่มด่ำไปกับความอร่อยที่มีเฉพาะในตลาดเท่านั้น
แหล่งช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีต่างๆ
แหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก เหมาะสำหรับจับจ่ายซื้อหาของฝากจากฮอกไกโด เป็นชุมชนร้านค้าประมาณ 200 ร้านทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตรตลอดทิศตะวันออกและตะวันตกของใจกลางเมืองซัปโปโร เชื่อมต่อกันด้วยหลังคาโครงสร้างที่รองรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่เขตนิชิ 1 โจเมะจนถึงนิชิ 7 โจเมะ จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงฝนหรือหิมะ แสงแดด
ย่านซูซูกิโนะ เป็นย่านบันเทิงและย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เต็มไปด้วยร้านค้า บาร์ ร้านอาหาร ร้านคาราโอเกะ และตู้ปาจิงโกะ รวมกว่า 4,000 ร้าน ป้ายร้านค้าสว่างไสวยามค่ำคืนจนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ย่านซูซูกิโนะจะจัดเทศกาลหิมะ เป็นเจ้าภาพการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็ง ประจำทุกปี
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย