เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
ตั้งอยู่ทางใต้ของภูมิภาคคันไซบนเกาะฮอนชู จังหวัดนึ้อุดมด้วยน้ำและอาหาร ทางเหนือจรดใต้ เป็นแนวชายฝั่งทะเลยาวลงมาสุดที่คาบสมุทรคิอิ หันหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิค จึงมีอุณหภูมิอบอุ่น ส่งผลให้ทางตะวันตกสามารถปลูกผลไม้ได้ผลดีตลอดปี เป็นอาณาจักรผลไม้แห่งภูมิภาคคันไซ จึงมีที่พักแรมในบ้านชาวสวนคอยให้บริการ รวมทั้งอาหารเช้าและเย็นแบบพื้นบ้าน และมีกิจกรรมให้ทำเกษตรด้วยตนเอง
“ตลาดคุโรชิโอะ” (Wakayama Kuroshio Market) ซึ่งตั้งอยู่ในมาริน่า ซิตี้ มีการแสดงแล่ปลาทูน่าโชว์สามครั้งต่อวัน ตื่นตาตื่นใจได้กับการแล่ปลาทูน่ายักษ์อย่างชำนาญต่อหน้าต่อตาคุณ ตลาดคุโรชิโอะ-อิจิบะ ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารทะเลสดๆ หลายร้านและร้านของที่ระลึกซึ่งมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้เลือกมากมาย
สถานีรถไฟที่มีแมวทามะเป็นนายสถานีที่โด่งดัง แมวสามสีเพศเมีย ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายสถานี (หญิง) ประจำสถานีรถไฟคิชิ (Kishi) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟท้องถิ่น ของรถไฟสายคิชิกาวา รถไฟสายนี้เป็นรถระยะสั้นๆ ระยะทางประมาณ 14 กม. วิ่งเชื่อมระหว่างสถานีวาคายามา (JR Wakayama) กับสถานีคิชิ เมืองคิโนกาวา
ภายในขบวนรถไฟตกแต่งให้เป็นรูปแมวเหมียว (ใช้เจ้าทามะ ซึ่งเป็นนายสถานีแมวตัวแรกเป็นต้นแบบ) ทั้งที่นั่ง โคมไฟ หรือประตู ต่างก็เป็นรูปแมวทั้งหมด เดินทางถึง สถานีรถไฟคิชิ (Kishi Station) สถานีรถไฟที่เป็นสำนักงานประจำการ ของนายสถานีแมวเหมียว ปัจจุบัน นายสถานี คือ นิทามะ (NITAMA) แมวเหมียวสามสี เพศเมีย นอกจากท่านจะได้ชมการทำงานของนายสถานีแมวเหมียวแล้วนั้น ภายในยังมีร้านจำหน่าสินค้า ที่ระลึกของแมวเหมียว ที่คนรักแมวไม่ควรพลาด
เป็นอีกสถานีในเส้นทางของรถไฟขบวนทามะ
เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงทรัพย์สมบัติและซากเดิมของปราสาทเก่า ที่รอดพ้นจากการถูกเผาทำลาย
เป็นทางเดินเทรลในพื้นที่อุทยานโอซุนเคียว ซึ่งมีลักษณะเป็นทางเดินเลียบแม่น้ำเส้นยาวในหุบเขา ที่รายล้อมไปด้วยต้นต้นแปะก๊วยและต้นเมเปิ้ล โดยในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ใบของต้นแปะก๊วยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และต้นเมเปิ้ลทั้งหลายจะเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มสลับกันอย่างสวยสดงดงามเป็นอย่างยิ่ง
เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมทะเล ที่นี่ถือว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรก ทั้งยังเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย
สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับเมืองหลวงเก่าหรือก็คือเกียวโตที่ครบรอบ 1100 ปี ประตูศาลเจ้าสีแดงดึงดูดผู้คนจากไกลและหลังจากผ่านประตูมาแล้วก็จะพบกับพื้นที่ว่างที่ล้อมรอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างภายในศาลเจ้าที่ล้วนแต่เป็นสีแดงสด ทำให้คุณรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เห็น
พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาว เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าชื่อดังที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดี เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แด่เทพอินาริ เทพเจ้าแห่งกสิกรรม เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวได้ ผลผลิตดีมีคุณภาพ สิ่งที่น่าสนใจนอกจากจะมาสักการะเทพเจ้าแล้ว ก็คือการเดินเล่นลอดอุโมงค์เสาโทริอิกว่าหมื่นต้นที่เรียงต่อทอดยาวจากด้านล่างขึ้นไปบนยอดเขาสูงถึง 233 เมตร ระยะทางราว 4 กิโลเมตร
วัดคิโยมิสึ หรือ “วัดน้ำใส” วัดเก่าแก่บนเนินเขาที่มีอายุเก่าแก่กว่าตัวเมืองเกียวโต เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุด นิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด แต่ที่น่าสนใจ คือ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยเสาไม้จำนวนร้อยกว่าต้น สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว โดยใช้วิธีเข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ
เป็นห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในตกแต่งในรูปแบบที่ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหารสดใหม่ และอุปกรณ์ภายในบ้าน
เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง
เป็นศูนย์บันเทิงครบวงจรโดยรวมสวนสนุก,พิพิธภัณฑ์,ห้างสรรพสินค้า,ศูนย์เรียนรู้,ร้านอาหารนานาชาติ รวมกันไว้ที่เดียว ที่นี่จึงเป็นแหล่งเที่ยว,กิน,ช็อปปิ้งและเรียนรู้ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เอ็กซ์โปซิตี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo เมื่อปี 1970 หลังจากนั้นพื้นที่จัดงานได้ถูกเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนหนึ่งกว่า 170,000 ตารางเมตรได้ถูกเปลี่ยนเป็นศูนย์บันเทิงครบวงจรแห่งใหม่ในชื่อว่า EXPOCITY ที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในพื้นที่แบบ "วันเดียวเดินไม่ทั่ว ครั้งเดียวเที่ยวไม่เต็มอิ่ม"
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี