เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและชื่อนั้นได้มาจากเมืองฉางอานของจีน
สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับเมืองหลวงเก่าหรือก็คือเกียวโตที่ครบรอบ 1100 ปี ประตูศาลเจ้าสีแดงดึงดูดผู้คนจากไกลและหลังจากผ่านประตูมาแล้วก็จะพบกับพื้นที่ว่างที่ล้อมรอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างภายในศาลเจ้าที่ล้วนแต่เป็นสีแดงสด ทำให้คุณรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เห็น
พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
หรือที่เรียกว่าวัดทอง เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเกียวโต วัดนี้เคยเป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ผู้ที่ชอบทายปุจฉา – วิสัชนา กับอิกคิวซังในการ์ตูน บรรยากาศภายในวัดจะเป็นการจัดสวนแบบเซน มีการจัดให้ ปราสาททองคำอยู่ตรงกลางสระน้ำ ภาพสะท้อนปราสาททองคำที่อยู่ในสระน้ำ ทำให้ปราสาทดูสวยงามและมีความขลังมากขึ้น
พื้นที่ชนบทบนภูเขาที่ตั้งอยู่ห่างจากเกียวโตกลางไปประมาณ 30 กิโลเมตร วัฒนธรรมแบบดั้งเดิมที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการมุงหลังคาแบบ kayabuki มีกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กว่า 200 หลังคาเรือน ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีผู้คนที่อาศัยใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน และทำงาน เป็นบรรยากาศที่แท้จริงของชนบทในประเทศญี่ปุ่น พื้นที่มิยาม่าประกอบด้วยหมู่บ้านเล็กๆ และชุมชนหลายๆชุมชนกระจัดกระจายไปตามทางแคบหุบเขาที่คดเคี้ยว แหล่งท่องเที่ยวหลักของที่นี่คือหมูบ้านทางทิศเหนือ เรียกว่า คายาบูกิ โน ซาโตะ Kayabuki no Sato ซึ่งมีกระท่อมหลังคาสูงอยู่ในพื้นที่เกือบ 40 หลัง
หมู่บ้าน คายาบูกิโน ซาโตะ เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงของการมุงหลังคาแบบ คายาบูกิ ซึ่งมีกระท่อมหลังคาสูงอยู่ในพื้นที่เกือบ 40 หลัง คือ ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีผู้คนที่อาศัยใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน และทำงาน เป็นบรรยากาศที่แท้จริงของชนบทในประเทศญี่ปุ่น
เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมทะเล ที่นี่ถือว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรก ทั้งยังเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ
เป็นเมืองๆ หนึ่งที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชุโกคุของญี่ปุ่นทางฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันจากเนินทรายซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของเมือง นอกจากนี้ยังมีความสำคัญในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการวิจัยด้านเกษตรกรรมพื้นที่แห้งแล้งของญี่ปุ่น
เป็นเนินทรายที่มีขนาดใหญ่ และมีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมือง ประมาณ 16 กิโลเมตร เลียบชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น(Sea of Japan) อยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติซานินไคกัน(Sanin Kaigan National Park) เนินทรายสูง 50 เมตร และมีความกว้างถึง 2 กิโลเมตร มีกิจกรรมมากมายเพื่อความเพลิดเพลิน เช่น ขี่อูฐ หรือนั่งเกวียนที่ลากด้วยม้าเพื่อชมรอบๆเนินทราย
พิพิธภัณฑ์โคนันยอดนักสืบ (The Gosho Aoyama Museum) หรือ โคนัน ทาวน์ ภายในพิพิธภัณฑ์มี 2 ชั้น จัดแสดงผลงานของอาจารย์อาโอยาม่า ตั้งแต่สมัยประถม ไปจนถึงผลงานที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย ทั้งต้นฉบับการตูน แผ่นอนิเมะ หุ่นจำลองตัวละครเรื่องโคนันยอดนักสืบ และห้องทำงานจำลอง ส่วนชั้นที่ 2 มีมุมให้ทดลองแก้ไขคดีปริศนาที่น่าสนใจ รวมไปถึงตู้เกมสเก็ตบอร์ดที่ให้เราสวมบทบาทโคนันคุง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อแฟนคลับคุโด้ ชินอิจิยอดนักสืบ หรือ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ของอาจารย์โกไซ อาโอยาม่า ผู้เขียนซีรี่ย์สการ์ตูนมังงะชื่อดังชุดนี้โดยเฉพาะ
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ลูกแพรที่มีแห่งเดียวในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมและนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับลูกแพร์หลากหลายชนิดจากทั้งจากเอเชียและจากทั่วโลก ภายในพิพิธภัณฑ์มีต้นแพร์ชื่อ Nijisseiki ต้นใหญ่ที่มีกิ่งก้านสาขายาวออกไปประมาณ 20 เมตร นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้บริการไอศครีมลูกแพร์แบบเอเชียที่พบได้ที่นี่เท่านั้น
ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียงรายไปด้วยโกดังที่มีกำแพงสีขาวสูง 400 เมตร ที่ถูกก่อสร้างไว้เมื่อ 100 ปีก่อน ซึ่งในสมัยก่อนโกดังเหล่านี้ เป็นแหล่งค้าขายเหล้าและร้านโชยุ แต่ในปัจุบันได้กลายมาเป็นร้านขายสินค้าต่างๆมากมาย
เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่ประมาณ 500,000 ตารางเมตร(310 ไร่) ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของไม้ดอก ไม้ประดับที่บานตามฤดูกาลต่างๆ ซึ่งสามารถชมดอกไม้ได้ตลอดทั้งปี และภายในโดมขนาดใหญ่ จัดแสดงดอกกล้วยไม้ ดอกไม้น้ำ และดอกไม้จากยุโรปอีกทั้งยังเป็นจุดที่สามารถเพลิดเพลินกับการชมทิวทัศน์ของภูเขาไฟไดเซนได้อีกด้วย
เป็นซากปราสาทที่เป็นสถานที่เที่ยวสำคัญของเืองโยนาโกะ ตั้งอยู่บนภูเขาที่สามารถมองเห็นวิวเมืองและแม่น้ำสายหลักของโยนาโกะที่ออกสู่ทะเลได้ ที่นี่ถูกสร้างขึ้นในปี 1467 โดย Yamana Muneyuki ซึ่งมีลักษณะเป็นปราสาทห้าชั้นและเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในเขต San'in ปัจจุบันตัวปราสาทเหลือเพียงแค่ฐานรากและประตูเท่านั้น
เป็นเมืองๆ หนึ่งที่อยู่ในจังหวัดทตโตริ ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 1 เมษายน ปี 1956 จากการควบรวมเมืองโยนาโกะและเทศบาลอื่นที่อยู่รอบๆ ในช่วงเวลานั้น เมืองนี้ยังเป็นเมืองอุตสาหกรรมการประมงที่สำคัญของญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอาหารทะเลต่างๆ
ตลอดสองข้างทางของถนนสายนี้จะมีรูปปั้นจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง “เกะเกะเกะ โนะ คิทาโร่” ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนภูตผีปีศาจ ออกมาทักทายนักท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ ตัวที่โดดเด่นที่สุด คือ เจ้าผีน้อยคิทาโร่ ที่มีพ่อเป็นปีศาจลูกตาเดียว ชอบนอนแช่น้ำในชามกับผองเพื่อนเหล่า “โยไก” หรือผีปีศาจนั้นเอง อาศัยอยู่ในป่า “เกะเกะเกะ” คิทาโร่จะทำหน้าที่ปราบปรามเหล่าโยไกที่นิสัยไม่ดี ชอบหลอกหลอนสร้างความรำคาญให้กับมนุษย์
ตลาดปลาที่เป็นที่นิยมของเมือง เนื่องจากทำเลที่ตั้งของเมืองเมืองซากาอิมินาโตะมีพื้นที่ติดทะเล และท่าเรือขนส่งขนาดใหญ่ ณ ตลาดแห่งนี้จึงมีอาหารทะเลสดๆ
ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดโทตโตะริ เพื่อใช้เป็นแหล่งจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากท้องทะเลทั้งปลาสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ ให้ท่านเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดๆ ราคาย่อมเยาว์ตามอัธยาศัย
ที่นี่เป็นแหล่งรวมของร้านขนมที่เป็นฝากขึ้นชื่อของจังหวัดทตโตริ ท่านยังสามาถชมวิธีการทำขนมผ่านกระจกได้อีกด้วย
หุบเขามิโนะ (Minoh park) หรือ หรือ มิโนะโอะ (Mino-o) เป็นวนอุทยานหและภูเขาชื่อดังประจำเมืองโอซาก้า สถานที่แห่งนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที ะหว่างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้า และวัดต่างๆ ข้างในยังมีน้ำตกที่ตั้งตระหง่านด้วยความกว้าง 5 เมตร และสูง 33 เมตรลงไปเป็นหุบเขาซึ่งทอดทางน้ำไหลลัดเลาะไปตามแนวป่า
น้ำตกมิโนะ Minoo Waterfall เป็นน้ำตกที่ตั้งตระหง่านด้วยความกว้าง 5 เมตร และสูง 33 เมตรลงไปเป็นหุบเขาซึ่งทอดลัดเลาะไปตามแนวป่า มีพรรณไม้ราว 980 ชนิด แมลงกว่า 3,000 ชนิดอาศัย
เป็นศูนย์บันเทิงครบวงจรโดยรวมสวนสนุก,พิพิธภัณฑ์,ห้างสรรพสินค้า,ศูนย์เรียนรู้,ร้านอาหารนานาชาติ รวมกันไว้ที่เดียว ที่นี่จึงเป็นแหล่งเที่ยว,กิน,ช็อปปิ้งและเรียนรู้ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เอ็กซ์โปซิตี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo เมื่อปี 1970 หลังจากนั้นพื้นที่จัดงานได้ถูกเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนหนึ่งกว่า 170,000 ตารางเมตรได้ถูกเปลี่ยนเป็นศูนย์บันเทิงครบวงจรแห่งใหม่ในชื่อว่า EXPOCITY ที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในพื้นที่แบบ "วันเดียวเดินไม่ทั่ว ครั้งเดียวเที่ยวไม่เต็มอิ่ม"
เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี