เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ อยู่ทางภาคตะวันตกของเกาะฮอกไกโด และมีน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงบนเกาะฮอกไกโด ทั้งออนเซนธรรมชาติ และหุบเขา จิโกกุดานิ ที่เราสามารถเห็นน้ำพุร้อนพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินตามธรรมชาติได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่รวมรีสอร์ทสำหรับการพักผ่อนแช่ออนเซนที่ติดระดับต้นๆอีกด้วย
เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในเมืองโนโบริเบทสึ ตั้งอยู่ห่างจากสถานี Noboribetsu Station ประมาณ 300 เมตร ที่นี่มีลักษณะภายนอกเป็นธีมพาร์คในปราสาทโบราณสไตล์ยุโรป ภายในมีสัตว์ทะเลหายากหลายชนิด โดยเฉพาะปลาฉลามนักล่าแห่งท้องทะเล นอกจากนี้ยังมีฝูงปลาซาร์ดีนกว่า 10,000 ตัว และแมงกระพรุนจำนวนมากแหวกว่ายอยู่ในแท้งก์น้ำขนาดใหญ่ชื่อว่า คริสตัลทาวเวอร์ ที่มีความสูงถึง 8 เมตร นอกจากนี้ยังมีโชว์ปลาโลมา แมวน้ำ และพาเหรดเพนกวินที่เรียกเสียงปรบมือและรอยยิ้มของผู้เข้าชมได้มากเป็นพิเศษ
นั่งกระเช้าขึ้นไปยังเขาฮาโกดาเตะ หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น โดยจุดชมวิวบนยอดเขาฮาโกดาเตะนี้ ในฤดูหนาวจะ ขึ้นไปได้แต่รถกระเช้าเท่านั้นส่วนในฤดูอื่นอาจเรียกแท็กซี่หรือนั่งรถบัสขึ้นไปได้ด้วย แต่รถกระเช้าก็ยังคงเป็นทางเลือกที่เร็วและสะดวกที่สุดอยู่ดี
เป็นภูเขาประจำเมืองฮาโกดาเตะ มีความสูง 334 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในป่าทางตอนใต้ของปลายคาบสมุทร ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ที่นี่นับเป็นจุดชมวิวติดอันดัน 1 ใน 3 สถานที่ที่ดีที่สุด ร่วมกับภูเขาอินาซะที่นางาซากิ และภูเขารอคโคที่โกเบ บนยอดเขามีจุดชมวิว ร้านกาแฟ ร้านจำหน่ายของที่ระลึก และร้านอาหารสไตล์โรงอาหารเปิดให้บริการ
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นตลาดเช้าหลังสถานีรถไฟที่มีผัก ผลไม้ และอาหารสดๆ ส่งตรงมาจากฟาร์มของ มาให้เราเลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลิน ในราคาซื้อง่ายขายคล่องแบบชาวบ้าน รอต้อนรับพวกเราอย่างอารมณ์ดี ตามสไตล์ของชาวฮาโกดาเตะ ที่เป็นคนเรียบง่าย น่ารัก และอัธยาศัยดี นอกจากนี้ตรงบริเวณ Food court ที่มีอาหารทำสดๆ ให้ได้เลือกทานกันอีกด้วย
เป็นย่านที่อยู่บริเวณเชิงเขาฮาโกดาเตะ ตั้งแต่สถานีรถราง Jujigai ถึง Suehiro-Cho บริเวณนี้เป็นเนินลาดเอียงขึ้นไปตามเชิงเขา เมื่อมองลงมาจากถนนที่ตัดขึ้นสู่ด้านบน จะทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ของท่าเรือ ในอดีตแถบนี้เป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าต่างชาติที่เข้ามาทำการค้าขายกับญี่ปุ่น จึงเกิดชมชุนต่างชาติขึ้นมา สิ่งก่อสร้างบริเวณนี้จึงมีทั้งโบสถ์ วัด สถานกงสุลเก่ารวมทั้งอาคารร้านค้าบ้านเรือนที่ก่อสร้างในแบบสถาปัตยกรรมแบบยุโรป
เป็นโรงเก็บของเก่าที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี 1907 ที่นี่มีความโดดเด่นให้ความรู้สึกโรแมนติคด้วยเรือแบบอย่างยุโรปที่เรียงรายรอบอ่าว และโรงเก็บของแห่งนี้ได้ถูกดัดแปลงให้กลายมาเป็นร้านค้า ร้านช็อคโกแล็ต ร้านขายของที่ระลึกน่ารักมากมาย
หอคอยโกเรียวคาคุ เป็นหอคอยเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1964 ในโอกาสฉลองปราสาทโกะเรียวคะคุครบรอบ 100 ปี เดิมมีความสูง 60 เมตร ต่อมาได้มีการพัฒนากลายเป็นหอคอยที่ทันสมัยและเปิดบริการครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน ปี 2006 ปัจจุบันหอคอยมีความสูง 107 เมตร จากด้านบนนักท่องเที่ยวจะได้เห็นป้อมรูปดาวเบื้องล่าง และวิวของเมืองฮาโกดาเตะได้รอบทิศทาง
เป็นสวนสาธารณะรูปดาว 5 แฉกตามศิลปะสไตล์รัสเซียตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฮาโกดาเตะ ป้อมโกเรียวคาคุสร้างเมื่อปี 1857 โดยโชกุนในตระกูลโทกุงาวะเพื่อใช้เป็นปราการป้องกันการรุกรานจากต่างชาติ ต่อมาในปี 1869 ป้อมโกเรียวคาคุถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการสุดท้ายของตระกูลโทกุงาวะก่อนที่จะปราชัยต่อกองทัพจักรพรรดิเมจิอันเป็นการสิ้นสุดการปกครองอันยาวนานในระบอบโชกุน ส่วนรูปทรงของป้อม หากมองจากภาพถ่ายมุมบนจะเห็นคล้ายกับเป็นดาวกระจายของนินจา
เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของฮอกไกโด ที่นี่เป็นแหล่งวัตถุดิบทางทะเลที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนฮอกไกโด
คลองโอตารุขนาบข้างด้วยโกดังเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านค้า น้ำในคลองใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์อาคารและในยามอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าก็จะสะท้อนภาพออกมาเป็นเงาที่ดูแล้วรู้สึกถึงความโรแมนติก
เป็นนาฬิกาไอน้ำโบราณสไตล์อังกฤษที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น โดยนาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำ และมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที
เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรุปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะเป็นอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่มีอายุร้อยกว่าปีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
เป็นถนนค้าขายที่ได้รับการอนุรักษ์ ตั้งอยู่กลางเมืองโอตารุ ไม่ไกลจากคลองโอตารุ ปัจจุบันได้รับการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ มากมาย
คิโรโระ สกีรีสอร์ท ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านอะไกกาว่า ไม่ไกลมากเมืองโอตารุ และสามารถเดินทางจากเมืองซัปโปโรไปได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟ ในฤดูหนาวพื้นที่รอบๆรีสอร์ทจะเป็นสถานที่เล่นสกีที่มีหิมะคุณภาพดี เป็นสีขาวละเอียดเหมือนแป้งฝุ่น ล้อมรอบด้วยทัศนียภาพอันงดงามของภูเขา
บุฟเฟ่ต์ SEA FOOD สำหรับท่านที่ชื่นชอบชอบอาหารทะเลเป็นพิเศษ ให้ท่านได้เลือกสรรอาหารทะเลที่สดใหม่ และ อาหารนานาชนิด ให้ท่านได้เลือกรับประทานอย่างจุใจ
เป็นโรงงานสุดน่ารักที่มีธีมพาร์คสไตล์ยุโรปอยู่ข้างหน้า ที่นี่ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และก็โรงงานช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของฮอกไกโด โดยอาคารร้านขายของจะถูกตกแต่งให้มีลักษณะคล้ายๆ กับสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปชมอุปกรณ์การผลิตยุคแรกเริ่ม แบบจำลองของโรงงาน สายการผลิตเป็นลำดับ และขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งชิมและเลือกซื้อช็อกโกแลตหรือไอศครีมแบบต่างๆ ซึ่งผลิตจากนมสดของเกาะฮอกไกโด
ศาลเจ้าฮอกไกโด เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าโยฮะชิระผู้พิทักษ์ฮอกไกโดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนนี้จึงมีผู้ศรัทธาไปมนัสการมากตลอดปี จากศาลเจ้ามีพื้นที่เชื่อมต่อกับสวนมารุยามะ ในฤดูใบไม้ผลิเหมาะแก่การชมดอกซากุระบาน
เป็นอาคารสีแดงอิฐ สร้างในปี 1888 นับเป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่น เรียงรายด้วยต้นซากุระ และต้นแปะก๊วย อาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นสมัยบุกเบิกเกาะฮอกไกโด ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องทำงานต่างๆ และหอสมุดเก็บบันทึกทางราชการ
หอนาฬิกาซัปโปโร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากไม้ ตั้งอยู่ในเขตจูโอ เมืองซัปโปโร ออกแบบด้วยศิลปะแบบอเมริกัน เป็นอาคารทรงตะวันตกแห่งหนึ่ง ในจำนวนน้อยที่หลงเหลืออยู่ในเมืองนี้ ทำให้รู้จักในฐานะสัญลักษณ์ของเมือง
แหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก เหมาะสำหรับจับจ่ายซื้อหาของฝากจากฮอกไกโด เป็นชุมชนร้านค้าประมาณ 200 ร้านทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตรตลอดทิศตะวันออกและตะวันตกของใจกลางเมืองซัปโปโร เชื่อมต่อกันด้วยหลังคาโครงสร้างที่รองรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่เขตนิชิ 1 โจเมะจนถึงนิชิ 7 โจเมะ จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงฝนหรือหิมะ แสงแดด
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย