เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโตริมิยางิ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเซนได ถูกสร้างขึ้นในปี 1940 เพื่อใช้เป็นหนึ่งในโรงเรียนการบินและฐานทัพอากาศอีกแห่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น หลังแพ้สงครามโลกที่นี่ค่อยๆ ถูกปรับให้มาเป็นสนามบินพลเรือนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2011 แต่เมืองมัตสึชิม่าก็ยังคงความสวยงามเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ถึงจะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้รับความเสียหายแต่กูถูกบูรณะฟื้นฟูให้กลับมาสวยงามและค่อยต้อนรับนนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง นี่จึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ควรลองไปสักครั้งเพื่อพิสูจน์ถึงความสวยงามหลังการทำลายล้างของธรรมชาติ
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าถึง 5 องค์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโมโมยามะ สร้างด้วยไม้ มีระเบียงทั้งสี่ด้าน ที่นี่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอยู่เสมอไม่ขาดสายด้วยไปถึงได้ง่ายและไม่เสียค่าเข้าชม การข้ามไปศาลเจ้าจะมีสะพานช่วงสั้นๆ 3 ช่วง สองช่วงก่อนถึงศาลเจ้าเรียกว่า ซึคาชิบาชิ สร้างจากไม้ เว้นช่องระหว่างไม้กระดาน เมื่อเดินข้ามจะมองเห็นพื้นน้ำด้านล่าง มักมีคู่รักมาจูงเมื่อข้ามสะพานเพราะเชื่อว่า จะทำให้สานสัมพันธ์แห่งรักแนบแน่นยิ่งขึ้น
เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจังหวัดอิวาเตะในภูมิภาคโทโฮคุ หากย้อนกลับไปในอดีตเมื่อครั้งตระกูลฟูจิวาระเรืองอำนาจ ฮิราอิซูมิ (ฮิไรซูมิ) นั้นมีความเจริญไม่น้อยไปกว่าเกียวโตเลย หลังจากเมืองถูกทำลายลงจึงไม่สามารถกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง แต่ฮิราอิซูมิก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของเมืองเอาไว้จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี 2011 จากองค์การยูเนสโก
ล่องเรือชมหุบเขาเกบิเคย์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางแห่งธรรมชาติที่มีชื่อโด่งดังแห่งจังหวัดอิวะเตะ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินผาที่มีรูปร่างแตกต่างกันไป และหินรูป"เกบิ" ที่แปลว่าจมูราชสีห์ นี่เองที่เป็นที่มาของชื่อ"เกบิเคย์" เกบิเคย์ขึ้นชื่อในการมาชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี มีความงดงามที่ถูกรังสรรค์โดยธรรมชาติผสานรวมกับเรื่องราวและความเชื่อของชาวญี่ปุ่นทำให้เกบิเคย์ยังคงเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเยียนอยู่ไม่ขาดสาย ส่วนในฤดูหนาวพื้นที่ผาริมน้ำจะเป็นสีขาวปุยของหิมะ ให้บรรยากาศที่โรแมนติกไม่แพ้ไปกว่าหน้าใบไม้เปลี่ยนสีเลย
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นเมืองชนบทในจังหวัดอิวาเตะ มีภูมิศาสตร์เป็นภูเขาตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัดอาคิตะ เมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและเส้นทางเดินป่าภูเขาไฟที่งดงาม
เป็นทะเลสาบที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น มีความลึกเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น และอยู่ในเวิ้งของภูเขาไฟที่ดับแล้ว สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร เมื่อมองจากมุมสูงรูปร่างของทะเลสาบจะคล้ายหม้อ ใช้เรียกพื้นที่ตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูก ที่มีลักษณะยุบลงเป็นทรงคล้ายหม้อ ซึ่งเกิดจากแรงระเบิดของภูเขาไฟ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือเพื่อชมทัศนียภาพโดยรอบของทะเลสาบ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อว่าสวยทุกฤดูกาล น้ำใสจนสะท้อนสีสันของใบไม้ต้นไม้โดยรอบ
เป็นกระเช้าไฟฟ้าที่นำพาขึ้นสู่ยอดเขาฮักโกดะ ซึ่งเป็นกลุ่มยอดภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ระหว่างอาโอโมริ และทะเลสาบโทวาดะ ถือเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี วิวของใบไม้แดงที่ปกคลุมไปทั่วภูเขาที่มองจากเบื้องบนกระเช้า ส่วนในหน้าหนาวนั้นพื้นที่ทั้งหมดที่นี่จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวสุดลูกหูลูกตา เป็นภาพความทรงจำในการท่องเที่ยวที่ถือว่าสุดยอดมากๆ
เป็นกลุ่มยอดภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองอาโอโมริ และทะเลสาบโทวาดะ ถือเป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีชื่อเสียงของความงดงามตามฤดูกาลต่างๆ รวมถึงเส้นทางเดินป่าทางธรรมชาติ และน้ำพุร้อนที่โด่งดัง นอกจากนี้แล้ว ภูเขาที่สูง 1,585 เมตร ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ซึ่งจะเปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณปลายเดือนกันยายน-กลางตุลาคม และในช่วงฤดูหนาวหิมะจะตกในบริเวณภูเขาเป็นปริมาณมาก ทำให้เกิดต้นไม้แช่แข็ง
เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากเกล็ดน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามใบของต้นเฟอร์จนเกิดเป็นรูปร่างที่แปลกประหลาด คล้ายกับมนุษย์หิมะ จึงได้ชื่อว่า Ice Monster หรือ Snow Monster นั่นเอง อีกทั้งยังมีกิจกรรม อาทิ การเล่นสกีและสนุกกับสโนว์บอร์ดในฤดูหนาว นั่งสโนว์โมบิลขบวน “Wild Monster” ไปเที่ยวชมบริเวณที่มีปีศาจน้ำแข็งอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นต้น
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นทะเลสาบที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงามและยังคงความเป็นธรรมชาติที่เรียบง่าย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งยังเป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยมีความลึกประมาณ 423 เมตร ปลายสุดทางทิศเหนือเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโกซะโนอิชิ เดิมเป็นที่สำหรับขุนนางท้องถิ่นแวะมาชมธรรมชาติ และทางด้านทิศตะวันตกของทะเลสาบมีรูปปั้นผู้หญิงสีทองที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ทาสุโกะ เชื่อกันตามตำนานว่านางเป็นสาวสวยที่อธิษฐานขอให้ความงามของนางคงอยู่ตลอดไป แต่กลับโดนคำสาปและกลายเป็นมังกรจมสู่ทะเลสาบเบื้องล่างแห่งนี้
ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังในบานะที่เป็นถิ่นฐานของชาวซามูไรและเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทคาคุโนะดาเตะ สิ่งของเก่าแก่มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองเป็นสิ่งแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของซามูไรในสมัยก่อน ในปัจจุบันยังมีบ้านพักอาศัยอยู่ประมาณ 80 หลังคาเรือนที่ยังคงสถาปัตยกรรมซามูไรแบบดั้งเดิมที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีบ้านเพียง 6 หลังที่เปิดให้ผู้คนได้เข้าไปชมความสวยงามภายในบ้าน
หมู่บ้านออนเซ็นกินซัง (Ginzan Onsen) เมืองน้ำพุร้อนที่เงียบสงบในภูเขาของจังหวัดยามากาตะ มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่นว่าเป็นเมืองออนเซ็นที่สวยงาม เรียกังของที่นี่เป็นสไตล์ดั้งเดิม ที่เป็นคาคารไม้ 3-4 ชั้น ผสมผสานกับผนังปูนสีขาวสะอาดทำให้รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในอดีต และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์ดังของญี่ปุ่น โอชิน แล้วก็เป็นหมู่บ้านแรงบันดาลใจของคุณ Hayao Miyazaki ในการเอามาทำเรื่องแอนิเมชั่นดังเรื่อง Spirited Away
หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิในภูเขาของจังหวัดมิยากิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1990 ภายในหมู่บ้านมีสัตว์นานาชนิดกว่า 100 ตัว รวมถึงสุนัขจิ้งจอก 6 สายพันธุ์ที่วิ่งไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่กว้าง ในประเทศญี่ปุ่น สุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์ที่สำคัญชนิดหนึ่ง ตั้งแต่ระดับชาวบ้านมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกมีวิญญาณของเทพอินาริโอคามิ หรือเทพเจ้าของศาสนาพุทธชินโตอยู่ ซึ่งเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ของการเกษตร(ข้าว, ใบช้า) และความเจริญรุ่งเรือง ให้ท่านได้สัมผัสความน่ารักของสุนัขจิ้งจอก และป้อนอาหารสุนัขจิ้งจอก พร้อมเก็บภาพความประทับใจ
เป็นปราสาทที่เป็นศูนย์รวมการปกครองทางทหารในแถบเมือง Aizu-wakamatsu ปัจจุบัน ภายในปราสาทถูกจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ มีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของปราสาทแห่งนี้ รวมถึงวิถีชีวิตของเหล่าซามูไรอีกด้วย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมได้ถึงชั้นบนสุดของปราสาท ส่วนบริเวณสวนรอบปราสาทนั้นรายรอบไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนปราสาทแห่งนี้ในช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี
เมืองคิตะกาตะ (Kitakata) ตั้งอยู่จังหวัดฟุกุชิมะ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มากมายทั้งด้านประวัติศาสตร์และธรรมเนียมประเพณี มีความโดดเด่นในเมืองนี้คือ ราเม็ง เป็นเมืองที่มีราเมนติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น หรือ Big Tree Ramen เมืองราเมนดังแห่งญี่ปุ่น
เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยหน้าผาริมแม่น้ำโอคาวะนี้ถูกกัดเซาะโดยน้ำที่ไหลผ่านกว่าจะสึกกร่อนเป็นเวลานานเป็นล้านปี จนกลายมาเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ชื่อโทโนะเฮทสึริ เป็นภาษาถิ่นของไอสึ แปลว่าหน้าผา และด้วยรูปร่างหน้าตาของหน้าผาชันๆ ที่ดูคล้ายกับเจดีย์ จึงเป็นที่มาของชื่อโทโนะเฮทสึริ หรือ หน้าผารูปเจดีย์
เป็นหมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่มีบ้านแบบมุงหลัง ปัจจุบันยังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี และมีการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และบ้านพักแบบโฮมสเตย์ต่างๆ อาหารยอดนิยมคือบะหมี่โซบะ และปลาเทร้าต์ย่าง นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าและวัดประจำเมืองโออูจิจูคุ นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองได้จากบริเวณด้านบนของวัดได้ตามอัธยาศัย
เป็นเอาท์เลตช้อปปิ้งอันขึ้นชื่อของเมืองเซนได ซึ่งภายในมีร้านสินค้าแบรนด์เนมมากกว่า 160 ร้าน ทั้งยังมีร้านอาหารหลากหลายชนิดให้บริการ รวมถึงมีอาหารพื้นบ้านของดีจากทางตอนเหนือของญี่ปุ่นด้วย
เป็นห้างอิออนมอลล์ปนะจำเซนได ที่รวมเอาซูเปอร์มาร์เก็ตและช้อปปิ้งมอลล์ไว้ด้วยกัน ทั้งยังมีร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน
เป็นย่านช้อปปิ้งหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซนได ตรงบริเวณสถานีรถไฟเซนไดและสถานีรถไฟใต้ดินโอบะ โดริ อิจิบังโจ ย่านนี้ถือเป็นย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางยาวไปหลายช่วงตึก เริ่มตั้งแต่อาคาร AER และ Parco ยาวไปจนถึงโคคุบุนโช มีทั้งสินค้าต่างๆ มากมาย ร้านแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ร้านอาหารหลากชนิด คาเฟ่ ไปจนถึงร้าน 100 เยน
เป็นท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโตริมิยางิ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเซนได ถูกสร้างขึ้นในปี 1940 เพื่อใช้เป็นหนึ่งในโรงเรียนการบินและฐานทัพอากาศอีกแห่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น หลังแพ้สงครามโลกที่นี่ค่อยๆ ถูกปรับให้มาเป็นสนามบินพลเรือนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย