เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโตริมิยางิ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเซนได ถูกสร้างขึ้นในปี 1940 เพื่อใช้เป็นหนึ่งในโรงเรียนการบินและฐานทัพอากาศอีกแห่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น หลังแพ้สงครามโลกที่นี่ค่อยๆ ถูกปรับให้มาเป็นสนามบินพลเรือนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เป็นหมู่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่มีบ้านแบบมุงหลัง ปัจจุบันยังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี และมีการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และบ้านพักแบบโฮมสเตย์ต่างๆ อาหารยอดนิยมคือบะหมี่โซบะ และปลาเทร้าต์ย่าง นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าและวัดประจำเมืองโออูจิจูคุ นักท่องเที่ยวสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองได้จากบริเวณด้านบนของวัดได้ตามอัธยาศัย
เป็นปราสาทที่เป็นศูนย์รวมการปกครองทางทหารในแถบเมือง Aizu-wakamatsu ปัจจุบัน ภายในปราสาทถูกจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ มีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติของปราสาทแห่งนี้ รวมถึงวิถีชีวิตของเหล่าซามูไรอีกด้วย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมได้ถึงชั้นบนสุดของปราสาท ส่วนบริเวณสวนรอบปราสาทนั้นรายรอบไปด้วยต้นซากุระ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนปราสาทแห่งนี้ในช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
สวนฮานามิยาม่าเป็นสวนบนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยพื้นที่ทำการเกษตรในชนบทที่ตั้งอยู่นอกใจกลางเมืองฟูกุชิมะ ซึ่งเริ่มแรกเกษตรกรในท้องถิ่นเป็นผู้เริ่มปลูกไม้ดอกและไม้ประดับบนเนินเขารอบที่ดินของตนเอง แล้วขยายไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 1959 ได้เปิดเป็นพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนได้เข้าชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิของทุกๆปี มีดอกซากุระพันธุ์โยเมโยชิโนะ ชื่อดังมากที่สุด ให้ท่านได้ถ่ายรูปเก็บความ
สวนสตอเบอร์รี่ ถือเป็นผลไม้ขึ้นชื่ออย่างหนึ่งที่เป็นที่รู้จัก ที่มีรสชาติอร่อย ให้ท่านได้ชมและภ่ายภาพประทับใจรวมถึงให้ท่านเก็บผลไม้สดๆจากต้นด้วยตัวท่านเอง
เป็นพื้นที่ชมซากุระที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเซนไดไปทางทิศใต้เส้นทางริมแม่น้ำชิโรอิชิ มีความยาวประมาณ 8 กิโลเมตร ตลอดทางมีต้นซากุระเกือบ 1,200 ต้น จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่นคือ Hitome Senbonzakura ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างสถานีรถไฟ Funagaoka และ Ogawara ในวันที่ท้องฟ้าโปร่ง จะสามารถมองเห็นต้นซากุระ 1,000 ต้นและภูเขาซาโอะ (Mount Zao)ในระยะไกลๆ
ชื่อนี้แปลว่า ซากุระ 1,000 ต้น ที่เห็นได้ครั้งเดียวบริเวณริมแม่น้ำชิโรอิชิในเมืองเซนได จังหวัดมิยากิ โดยที่นี่มีต้นซากุระกว่า 1,200 ต้น ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวราว 8 กิโลเมตร ในวันที่ท้องฟ้าโปร่ง จะสามารถมองเห็นเทือกเขาซะโอเป็นฉากหลัง ซึ่งทิวทัศน์อันงดงามนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของภูมิภาคโทโฮคุ
ปราสาทฟุกุโอกะตั้งอยู่ใจกลางเมืองภายในสวนมาอิซูรู สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 โดยท่าน คุโรดะ นากะมาสุ ปราสาทฟุคุโอกะเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในคิวชูและยังเป็นจุดชมซากุระที่ดีที่สุดจุดหนึ่งของเมืองฟุคุโอกะอีกด้วย
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นชื่อกำแพงหิมะของถนนทางหลวงหมายเลข 12 ที่วิ่งตัดทางภูเขาไฟซาโอะ โดยถนนเส้นนี้ยาว 26 กิโลเมตร และเชื่อมแหล่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงตรงตีนเขาทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกัน คือซาโอะออนเซ็นในฝั่งยามากาตะ และโทกัตตะออนเซ็นในฝั่งมิยากิ
เป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ล้อมรอบด้วยสันเขาสามลูกในเทือกเขาซาโอะ ตั้งอยู่บนความสูง 1,841 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จุดเด่นของปากปล่องภูเขาไฟนี้คือมีรูปร่างที่เหมือนกับหม้อกามะ และเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่เป็นทะเลสาบกลม โดยมีเส้นรอบวง 1,080 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 325 เมตร ในช่วงที่แสงดีๆ เราจะได้เห็นทะเลสาบเป็นสีเขียวมรกตอันงดงาม
เป็นซากปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1600 โดยเจ้าเมืองเซนไดชื่อ Date Masamune ในช่วง 400 ปี หลังยุคศักดินาถูกต่อต้านในช่วงสมัยเมจิเกิดไฟใหม้ในปี 1882 และโดนระเบิดในปี 1945 จึงทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซากกำแพงหินด้านนอกและหอรักษาความปลอดภัย จากทำเลที่ตั้งของปราสาทเดิมทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเซนไดด้านล่างที่งดงามได้
เป็นย่านช้อปปิ้งหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซนได ตรงบริเวณสถานีรถไฟเซนไดและสถานีรถไฟใต้ดินโอบะ โดริ อิจิบังโจ ย่านนี้ถือเป็นย่านช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางยาวไปหลายช่วงตึก เริ่มตั้งแต่อาคาร AER และ Parco ยาวไปจนถึงโคคุบุนโช มีทั้งสินค้าต่างๆ มากมาย ร้านแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง ร้านอาหารหลากชนิด คาเฟ่ ไปจนถึงร้าน 100 เยน
เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจังหวัดอิวาเตะในภูมิภาคโทโฮคุ หากย้อนกลับไปในอดีตเมื่อครั้งตระกูลฟูจิวาระเรืองอำนาจ ฮิราอิซูมิ (ฮิไรซูมิ) นั้นมีความเจริญไม่น้อยไปกว่าเกียวโตเลย หลังจากเมืองถูกทำลายลงจึงไม่สามารถกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง แต่ฮิราอิซูมิก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของเมืองเอาไว้จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี 2011 จากองค์การยูเนสโก
เดิมทีเป็นเพียงวัดธรรมดาสร้างโดยพระจิคาคุ ไดชิ บ้างรู้จักกันในชื่อพระเอ็นนิน (Ennin) ชูซอนจิเข้าสู่ยุครุ่งเรืองเมื่อตระกูลฟูจิวาระย้ายฐานอำนาจมายังเมืองฮิราอิซูมิ “ฟูจิวาระ คิโยฮิระ” (Fujiwara Kiyohira) มีบัญชาให้ปรับปรุงวัดครั้งใหญ่จนทำให้วัดชูซอนจิมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ มีอาคารทั่วทั้งวัดกว่า 300 หลังเลยทีเดียว
ที่นี่มีลักษณะเป็นห้องโถงเล็กๆ ภายในวัดวัดชูซอนจิ ซึ่งถูกสร้างเพื่ออุทิศให้กับอมิตาเนียวไร (พระพุทธรูปแห่งแสงไม่มีที่สิ้นสุด) นอกจากหลังคาแล้วบริเวณอื่นจะถูกเคลือบด้วยทองทั้งภายนอกและภายใน แลดูเหลืองอร่ามสวยงามมาก
เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2011 แต่เมืองมัตสึชิม่าก็ยังคงความสวยงามเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ถึงจะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้รับความเสียหายแต่กูถูกบูรณะฟื้นฟูให้กลับมาสวยงามและค่อยต้อนรับนนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง นี่จึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ควรลองไปสักครั้งเพื่อพิสูจน์ถึงความสวยงามหลังการทำลายล้างของธรรมชาติ
ล่องเรือชมความงามรอบอ่าวมัตสึชิม่าอันสวยงาม สัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมง การเลี้ยงหอยนางรม หรือให้อาหารนกนางนวลที่บินไปมาตามเรือได้
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าถึง 5 องค์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโมโมยามะ สร้างด้วยไม้ มีระเบียงทั้งสี่ด้าน ที่นี่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอยู่เสมอไม่ขาดสายด้วยไปถึงได้ง่ายและไม่เสียค่าเข้าชม การข้ามไปศาลเจ้าจะมีสะพานช่วงสั้นๆ 3 ช่วง สองช่วงก่อนถึงศาลเจ้าเรียกว่า ซึคาชิบาชิ สร้างจากไม้ เว้นช่องระหว่างไม้กระดาน เมื่อเดินข้ามจะมองเห็นพื้นน้ำด้านล่าง มักมีคู่รักมาจูงเมื่อข้ามสะพานเพราะเชื่อว่า จะทำให้สานสัมพันธ์แห่งรักแนบแน่นยิ่งขึ้น
เป็นเอาท์เลตพาร์คที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเซนได และในภูมิภาคโทโฮคุ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง มีร้านค้ากว่า 100 ร้าน, ศูนย์อาหารใหญ่ และชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่สามารถเห็นได้จากที่ไกลๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่น ที่รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมหลายยี่ห้อ ทั้งสินค้านำเข้าและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นโกอินเตอร์ นอกจากนี้ยังเป็นเอาท์เล็ทที่มีร้านขายยาแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมทั่วประเทศมาเปิดร้านอยู่อีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโตริมิยางิ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเซนได ถูกสร้างขึ้นในปี 1940 เพื่อใช้เป็นหนึ่งในโรงเรียนการบินและฐานทัพอากาศอีกแห่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น หลังแพ้สงครามโลกที่นี่ค่อยๆ ถูกปรับให้มาเป็นสนามบินพลเรือนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย