เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
ศาลเจ้านัมบะยาซะกะแห่งนี้ มีรูปร่างอาคารเป็นรูปหัวสิงโต ความสูง 12 เมตร ลึกเข้าไปภายใน 7 เมตร ความรู้สึกที่เปี่ยมด้วยพลังของสิงโตล้วนสร้างความตะลึงแก่ผู้ที่ได้พบเห็น ปากสิงโตที่ยิ่งใหญ่เรียกร้องหาชัยชนะ โดยกลืนกินความชั่วร้ายต่าง นำมาซึ่งความเจริญทางการค้าขาย ทำให้มีผู้คนจากทั่วประเทศแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ดวงตาของสิงโตมีไฟ และจมูกมีลำโพงติดตั้ง ในเวลากลางคืนช่วงที่มีงานเทศกาลจะสามารถมองเห็นการแสดงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปได้
เป็นสวนที่จัดแสดงสวนยามค่ำคืนในฤดูหนาวด้วยไฟดวงเล็กมากกว่า 5.8 ล้านดวง ซึ่งทำให้เป็นสถานที่ยอดนิยมของคู่รักทั้งปี ซึ่งไฮไลท์หลักของที่นี่เลยก็คืออุโมงค์ประดับไฟที่มีความยาวประมาณ 600 เมตร ที่มองดูเหมือนอุโมงค์แห่งสวรรค์ที่ใครๆ ก็ไม่ควรพลาดที่จะมีถ่ายรูปในอุโมงค์แห่งนี้
เชิญท่านสนุกสนานกับการเล่นสกี หรือกิจกรรมหน้าหนาวต่างๆ ในเกาหลีกันได้ตามอัธยาศัย
หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม หมู่บ้านแห่งนี้ใช้โครงสร้างที่เรียกว่า กัสโช ซึ่งแปลว่าสร้างแบบพนมมือ ด้านหน้าทำเป็นหน้าจั่วแบบบ้านทรงไทย มีการเจาะช่องหน้าต่างเพื่อรับแสงสว่างจากภายนอก เมื่อมองจากภายนอกจึงดูมีสัดส่วนสวยงาม
เป็นเมืองแห่งปราสาทที่บ้านเมืองยังคงมีภาพของสะท้อนของประวัติศาสตร์เก่าแก่ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนที่มีโครงหน้าต่างขัดกันเป็นตาราง และวัดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่
เป็นเมืองเก่าสมัยเอโดะ ที่มีอายุกว่า 300 ปี แต่ยังคงอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ ทั้งวัดวาอาราม ศาลเจ้า บ้านแบบดั้งเดิมของชาวนาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับเมืองหลวงเก่าหรือก็คือเกียวโตที่ครบรอบ 1100 ปี ประตูศาลเจ้าสีแดงดึงดูดผู้คนจากไกลและหลังจากผ่านประตูมาแล้วก็จะพบกับพื้นที่ว่างที่ล้อมรอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างภายในศาลเจ้าที่ล้วนแต่เป็นสีแดงสด ทำให้คุณรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เห็น
วัดเบียวโดอิน เป็นอดีตที่อยู่อาศัยของขุนนางตระกูลฟูจิวาระ สร้างเป็นวัดในปี 1052 วิหารพระอมิตดา สร้างปี 1053 เป็นอาคารโบราณที่ยังคงสภาพอยู่จนปัจจุบัน เป็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นภาพที่พิมพ์อยู่บนเหรียญ 10 เยน ซึ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีท่านสามารถชื่นชมความงามของวัดพร้อมความสวยของธรรมชาติได้พร้อมกันอีกด้วย
เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง
“ตลาดคุโรชิโอะ” (Wakayama Kuroshio Market) ซึ่งตั้งอยู่ในมาริน่า ซิตี้ มีการแสดงแล่ปลาทูน่าโชว์สามครั้งต่อวัน ตื่นตาตื่นใจได้กับการแล่ปลาทูน่ายักษ์อย่างชำนาญต่อหน้าต่อตาคุณ ตลาดคุโรชิโอะ-อิจิบะ ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารทะเลสดๆ หลายร้านและร้านของที่ระลึกซึ่งมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้เลือกมากมาย
สถานีรถไฟที่มีแมวทามะเป็นนายสถานีที่โด่งดัง แมวสามสีเพศเมีย ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายสถานี (หญิง) ประจำสถานีรถไฟคิชิ (Kishi) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟท้องถิ่น ของรถไฟสายคิชิกาวา รถไฟสายนี้เป็นรถระยะสั้นๆ ระยะทางประมาณ 14 กม. วิ่งเชื่อมระหว่างสถานีวาคายามา (JR Wakayama) กับสถานีคิชิ เมืองคิโนกาวา
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี