เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เรียกสั้นๆว่า ท่าอากาศยานจูบุ ตั้งอยู่ในตัวเมืองนาโกย่า เปิดใช้งานครั้งแรกเมือปี 2005 มี 1 เทอมินอล สำหรับให้บริการทั้งสายการบินภายในและระหว่างประเทศ
หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม หมู่บ้านแห่งนี้ใช้โครงสร้างที่เรียกว่า กัสโช ซึ่งแปลว่าสร้างแบบพนมมือ ด้านหน้าทำเป็นหน้าจั่วแบบบ้านทรงไทย มีการเจาะช่องหน้าต่างเพื่อรับแสงสว่างจากภายนอก เมื่อมองจากภายนอกจึงดูมีสัดส่วนสวยงาม
เป็นเมืองแห่งปราสาทที่บ้านเมืองยังคงมีภาพของสะท้อนของประวัติศาสตร์เก่าแก่ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนที่มีโครงหน้าต่างขัดกันเป็นตาราง และวัดที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่
เป็นเขตเมืองเก่าที่มีถนนสำคัญอยู่ที่ห้อมล้อมด้วยภูเขาจากทุกด้าน และยังอนุรักษณ์วัฒนธรรม ตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ มีอีกชื่อว่า เมืองเกียวโตเล็กๆในฮิดะ แถบถนนซันโนะมาจิ SANNOMACHI ชมบ้านเรือนญี่ปุ่นเก่าแก่มีอายุกว่า 400 ปี ซึ่งสร้างตั้งแต่สมัยเอโดะ และยังคงรักษาสภาพดั้งเดิมไว้ได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ตลอดสองข้างทางของถนนสายเล็ก ๆ จะมีร้านค้าเล็ก ๆ ในแบบดั้งเดิม เช่น ร้านขายขนม, ร้านอาหาร, ร้านขายของพื้นเมือง, ร้านขายเหล้า, ร้านขายเต้าเจี้ยว ฯลฯ
สะพานนาคาบาชิ ที่มีสีแดงเด่น พาดผ่านแม่น้ำมิยากาว่า รวมทั้งยังมี “ซากุระสีชมพู” ขนานกับแนวแม่น้ำแห่งนี้อีกด้วย (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ซึ่งเป็นจุดยอดนิยมของการเก็บภาพประทับใจ สะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองทาคายาม่า และเป็นเส้นทางในการจัดเทศกาลทาคายาม่ามัตสุริ(Takayama Matsuri)อีกด้วย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิรอบๆสะพานจะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่ง
ใช้เป็นทั้งที่ทำงาน และที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะมาเป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนโตกุกาว่า ในสมัยเอะโดะ หรือกว่า 300 ปีที่แล้ว เป็นที่ทำการรัฐในยุคเอะโดะเพียงแห่งเดียวที่ข้ามพ้นยุคสมัยมาได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งภายในนี้ประกอบด้วยบริเวณไต่สวนพิจารณาคดี ห้องขังนักโทษ โรงครัว และห้องพักของเจ้าหน้าที่
เป็นเมืองสำคัญที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโน่ของประเทศญี่ปุ่น โดยอยู่บริเวณลุ่มน้ำมัตสึโมโต้ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาซึ่งมีทิวทัศน์ที่งดงาม ในอดีตที่นี่เป็นเมืองหลวงของอดีตจังหวัดชินาโนะในยุคเฮอัน ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้รับการพัฒนาความเจริญภายใต้การปกครองของโทคุงาวะในสมัยเอโดะ มัตสึโมโต้ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองพิเศษที่มีการปกครองในระดับท้องถิ่นเพิ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543
ปราสาทมัตสึโมโต้เป็นปราสาทไม้ที่คงความดั้งเดิมและเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นและได้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติล้ำค่าประจำชาติ การตัดกันของสีดำและสีขาวของผนังปูนด้านนอกปราสาท ทำให้ปราสาทแห่งนี้ดูโดดเด่นงดงามตัดกับฉากหลังของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ปราสาทมัตสึโมโต้ มีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า ปราสาทอีกา
นักท่องเที่ยวสามารถชมสวนผลไม้ และเลือกซื้อ ชิมความอร่อย หรือเก็บผลไม้สดๆได้จากต้น
เป็นสกีรีสอร์ทขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณ ภูเขาไฟฟูจิมีทั้งลานสกีสำหรับผู้ใหญ่และเด็กนอกจากนั้นท่านจะได้สัมผัสได้เป็นลานสกีที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนบวกกับฉากหลังที่เป็นภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามที่ลานสกีแห่งนี้มีทั้งลานสกีสำหรับผู้เริ่มเล่นสกี และสำหรับผู้ที่มีความชำนาญ ท่านสามารถเลือกเล่นได้ ทั้งสกี สโนว์บอร์ด กระดานเลื่อนหิมะ นอกจากนี้ยังมีลานสกีสำหรับเด็กให้เล่นกระดานเลื่อนหิมะหรือแค่นั่งเล่นหิมะ
พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 ที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ และเป็นสถานที่สวยติดอันดับในการถ่ายภาพวิวภูเขาไฟฟูจิ ถือได้ว่าเป็นเส้นที่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิมากที่สุด จนเรียกได้ว่าเป็นประตูสู่ฟูจิ เป็นจุดชมความงามของภูเขาไฟฟูจิในหลากหลายวิว
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในละแวกทะเลสาบทั้ง 5 ของภูเขาไฟฟูจิ อยู่ระหว่าง ทะเลสาป Kawaguchiko และ Yamanakako โอชิโนะ ฮัคไคมีบ่อน้ำทั้งหมด 8 บ่อ เกิดจากการหลอมละลายของหิมะและไหลลงมาจากภูเขาไฟฟูจิ ซึมผ่านชั้นของลาวาที่เป็นรูพรุน ใช้เวลานานถึง 80 ปี ทำให้น้ำในบ่อที่หมู่บ้านนี้ใสมาก บ่อน้ำพุธรรมชาติทั้ง 8 บ่อ มีความเชื่อกันว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นคนมักจะมาขอพรกัน แต่ละบ่อก็จะมีความศักดิ์สิทธิที่แตกต่างกันไป เช่น เรื่องสุขภาพ คู่ครอง ฯลฯ
กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก
ที่นี่เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดเซนโซ หรือเซนโซจิ แต่นิยมเรียกว่าวัดอาซากุสะเนื่องจากตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะนั่นเอง เป็นวัดในศาสนาพุทธ สัญลักษณ์ของวัดนี้ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ โคมไฟสีแดงขนาดใหญ่
เป็นถนนคนเดินที่อยู่ติดกับวัดอาซากุสะ วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ถนนเส้นนี้มีร้านค้ามากมายตลอดความยาวทั้ง 250 เมตร ไม่นับร้านค้าที่อยู่ในซอยแยกย่อยไปอีก ทำให้ตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาหาซื้อของฝากอย่างไม่ขาดสาย
เป็นหอที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่และยังเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของโตเกียว ตั้งอยู่ใจกลางของ Sumida City Ward ไม่ไกลจาก วัดอาซากุสะ มีความสูงถึง 634 เมตร บริเวณรอบๆเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ รวมทั้งมีอควอเรียมอยู่ในนั้น
ที่นี่เป็นตลาดปลาแห่งใหม่ที่ย้ายมาจากตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Fish Market) ตั้งอยู่บนเกาะโอไดบะ (Odaiba) ขายผักผลไม้ และของสดอื่นๆ
เป็นเกาะถมที่สร้างขึ้นมาจากการถมทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งใจจุดสนใจทางด้านการค้าโดยเฉพาะของสินค้า Electronic และ Modern Culture
เป็นห้างดังอีกห้างหนึ่ง ที่อยู่บนเกาะ โอไดบะ จุดเด่นของห้างนี้ก็คือ หุ่นยนต์กันดั้ม ขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ในบริเวณห้าง ก็จะมีร้านค้าสำหรับคอกันดั้ม อย่างกันดั้มคาเฟ่ (Gundam Cafe) และถ้าอยากเข้าไปดูนิทรรศกาลกันดั้ม ก็ต้องไปที่ กันดั้มฟรอนท์ (Gundam Front) ซึ่งอยู่ในบริเวณห้าง
เป็นห้างสรรพสินค้าอีกห้างหนึ่งที่คนมานิยมเที่ยวกัน แต่จุดเด่นของที่นี่ก็คือชั้นห้าเป็นราเม็ง ฟู๊ด ทีมพาร์ค (Ramen Food Theme Park) รวบรวมราเม็งชนิดต่างๆ จากทั่วประเทศญี่ปุ่นมาไว้ให้รับประทานกันไปเลยที่เดียว และที่นี่ยังเป็นจุดยอดนิยมสำหรับชมวิว สะพานสายรุ้ง
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว ในอดีตเคยเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของญี่ปุ่น ก่อนที่จะย้ายไปที่ท่าอากาศยานนาริตะ ท่าอากาศยานฮาเนดะเปิดให้บริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งมุ่งสู่จุดหมายปลายทางกว่า 25 แห่งใน 17 ประเทศ
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย