
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย

ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น

สวนสาธารณะของรัฐซึ่งใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์จากซัปโปโรประมาณ 1 ชั่วโมง มีความลึกเป็นที่สองของประเทศรองจากทะเลสาบทาซาวะของจังหวัดอาคิตะ ได้รับการยกย่องในเรื่องความใสสะอาด และเป็นที่รู้จักอย่างดีในฐานะทะเลสาบที่ตั้งอยู่สูงสุดในญี่ปุ่นที่ไม่จับตัวเป็นน้ำแข็ง ถูกแวดล้อมไปด้วยภูเขาอันสวยงาม อาทิเช่น เขาเอนิวาทาเกะ เขาฟุพพุชิดาเกะ เขาทารุมาเอะ และอื่นๆ นอกจากที่ตั้งแคมป์รอบๆ ทะเลสาบแล้วยังมีสถานที่ทำกิจกรรมต่างๆ ที่กระจายอยู่โดยรอบได้

เทศกาลน้ำแข็งทะเลสาบชิโคสึ (Shikotsu Ice Festival) เทศกาลน้ำแข็งที่ทะเลสาบชิโคทสึ ทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟ ที่ได้ชื่อว่ามีน้ำที่ใสบริสุทธิ์เป็นอันดับต้นๆ โดยจะใช้น้ำจากทะเลสาบ นำมาพ่นผ่านสปริงเกอร์ค่อยๆ ก่อรูปทรงเป็นก้อน น้ำแข็งทรงกรวย ขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไปถึง 30 แบบ ในช่วงเวลากลางวัน คุณจะได้รับชมความสวยงามของ น้ำแข็งสีฟ้า เรียกว่า “ชิโคทสึบลู” ส่วนในเวลากลางคืนนั้น จะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับ การจัดแสดงไฟ เล่นไฟน้ำแข็ง สีสันสวยงาม มีการจุดพลุ การแสดงต่างๆ คอยคุณอยู่ นอกจากนั้นอาหาร และเครื่องดื่มอุ่นๆ ก็มีบริการด้วย

เป็นหมู่บ้านจำลองวิถีชีวิตของชาวเอโดะในสมัยโบราณ ภายในหมู่บ้านมีทั้งหอสังเกตการณ์ โรงละคร วัด ร้านค้า หมู่บ้านนินจา หมู่บ้านซามูไร และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสามารถสัมผัสบรรยากาศได้เหมือนอยู่ในหนังญี่ปุ่นโบราณเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีคนแต่งตัวเป็นพ่อค้า ซามูไร นินจา เดินไปมา และสามารถชมการแสดงวัฒนธรรมแบบชาวเอโดะอีกด้วย

เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว ในหน้าร้อนอากาศก็เย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือชมทิวทัศน์อันงดงาม กลางทะเลสาบมีเกาะเล็กๆอยู่ตรงกลาง คือ เกาะนากาจิมะสามารถลงไปเดินเล่นได้(ยกเว้นฤดูหนาว) และในช่วงไฮท์ซีซั่น ประมาณเดือนเมษายน-ปลายเดือนตุลาคม จะมีการจุดพลุในเวลา 20:45 ของทุกๆคืน


กิจกรรมลานหิมะ ให้ท่านเพลิดเพลินกับกิจกรรมหิมะให้เล่น เช่น สโนว์โมบิลและสโนสเลด หรือจะเลือกเล่นผาดโผนในสไตล์ท่านเอง (กิจกรรมหิมะขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศและปริมาณความหนาของหิมะ ณ เวลานั้น)

เป็นภูเขาไฟที่เกิดขึ้นใหม่ข้างภูเขาไฟอุสุ มีอายุน้อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เกิดขึ้นโดยการเกิดแผ่นดินไหวและก่อตัวขึ้นบนพื้นที่ราบทุ่งข้าวสาลี สูง 290 เมตร ในปัจจุบันยังคงมีควันกำมะถันลอยอยู่เหนือปล่องภูเขาไฟ ภูเขาไฟนี้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากจุดชมวิวภูเขาไฟอุสุโดยขึ้นกระเช้าอูสุซาน

เป็นกระเช้าที่พาขึ้นภูเขาไฟโชวะชินซัง ระหว่างทางจะได้เห็นวิวบรรยากาศของธรรมชาติที่งดงาม และสามารถมองเห็นทัศนียภาพมุมกว้างของทะเลสาบโทยะ ซึ่งเป็นหนึ่งในทะเลสาบชื่อดังของญี่ปุ่น

เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของฮอกไกโด ที่นี่เป็นแหล่งวัตถุดิบทางทะเลที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนฮอกไกโด

คลองโอตารุขนาบข้างด้วยโกดังเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านค้า น้ำในคลองใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์อาคารและในยามอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าก็จะสะท้อนภาพออกมาเป็นเงาที่ดูแล้วรู้สึกถึงความโรแมนติก

เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรุปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะเป็นอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่มีอายุร้อยกว่าปีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้

เป็นร้านกาแฟอันมีชื่อที่อยู่ไม่ไกลจากคลองโอตารุ มีจุดเด่นคือตัวร้านมีบรรยากาศน่ารักๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง "คิตตี้"

ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย

เป็นตลาดกลางขายส่งของเมือซัปโปโร และเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมซึ่งสามารถลองลิ้มชิมรสข้าวหน้าอาหารทะเล หรือซูชิที่ใช้อาหารทะเลสดๆ ที่เพิ่งซื้อมาในตอนเช้าจากสถานที่ต่างๆ ในฮอกไกโดอย่างเต็มที่ ปูที่เรียงรายอยู่หน้าร้านได้รับความนิยมที่สุดเพื่อเป็นของฝากจากทะเล ขอเชิญดื่มด่ำไปกับความอร่อยที่มีเฉพาะในตลาดเท่านั้น

เป็นโรงงานสุดน่ารักที่มีธีมพาร์คสไตล์ยุโรปอยู่ข้างหน้า ที่นี่ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และก็โรงงานช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของฮอกไกโด โดยอาคารร้านขายของจะถูกตกแต่งให้มีลักษณะคล้ายๆ กับสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปชมอุปกรณ์การผลิตยุคแรกเริ่ม แบบจำลองของโรงงาน สายการผลิตเป็นลำดับ และขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งชิมและเลือกซื้อช็อกโกแลตหรือไอศครีมแบบต่างๆ ซึ่งผลิตจากนมสดของเกาะฮอกไกโด

อิสระเต็มวันให้ท่านได้เดินทางท่องเที่ยว สัมผัสบรรยากาศ ซัปโปโร และช๊อปปิ้งได้อย่างเต็มอิ่มหรือจะชมวิวทิวทัศน์ จากมุมสูง ที่อาคาร JR TOWERเจอาร์ทาวเวอร์ เป็นตึกที่สูงที่สุดในซัปโปโร ตั้งอยู่ติดกับสถานีเจอาร์ ซัปโปโร เป็นทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงภาพยนตร์ และศูนย์อาหาร โดยมีจุดชมวิวตั้งอยู่ที่ชั้น 38 เรียกว่า T38 (Tower Three Eight) ที่ระดับความสูง 160 เมตร จึงมองเห็นทิวทัศน์เหนือเมืองซัปโปโรได้กว้างไกลสวยงามทั้งกลางวัน กลางคืน โดยเฉพาะยามค่ำคืนจะมองเห็นทีวีทาวเวอร์ตั้งอยู่กลางสวนโอโดริ โดยมีแสงไฟจากกลุ่มตึกย่านซูซูกิโนะ ส่องสว่างที่จุดกลางเมืองติดๆ กันมีตึก ESTA ซึ่งที่ชั้น 10 เป็นศูนย์รวมร้านราเมน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 ร้าน ให้เลือกชิมอร่อยไม่แพ้ตรอกราเมนในย่านซูซูกิโน่ (ไม่รวมตั๋วขึ้นจุดชมวิวราคาประมาณ 700-1000 เยน)

งานเทศกาลหิมะซัปโปโร มีต้นกำเนิดมาจากการที่เด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายในซัปโปโรแกะสลักรูปปั้นน้ำแข็ง 6 ตัวไว้ที่สวนโอโดริ เมื่อปีค.ศ.1950 (ปีโชวะที่ 25) ปัจจุบันกลายเป็นงานเทศกาลฤดูหนาวขนาดใหญ่งานหนึ่งของซัปโปโรที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมกว่า 2 ล้านคนทั้งในและต่างประเทศ จะมีประติมากรรมหิมะใหญ่เล็กเรียงรายอยู่ ตอนกลางคืนมีการส่องไฟด้วย มีการประกวดประติมากรรมหิมะนานาชาตินั้น จะมีทีมจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมประกวด สามารถชมขั้นตอนการแกะสลักได้ระหว่างที่มีการจัดงาน

ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น

เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย