
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย

เป็นท่าอากาศยานหลักของเมืองหลวงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ที่เขตปาลาม โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองนิวเดลีทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นระยะทาง 16 กิโลเมตร

เป็นอนุสรณ์สถานของเหล่าทหารหาญที่เสียชีวิตจากการร่วมรบกับอังกฤษในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 1 และสงครามอัฟกานิสถาน ประตูชัยแห่งนี้จึงถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งของกรุงนิวเดลลี โดยซุ้มประตูแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมคล้ายประตูชัยของกรุงปารีสและนครเวียงจันทน์ ซึ่งมีความสูง 42 เมตร สร้างขึ้นจากหินทรายเมื่อปีคริสต์ศักราชที่ 1931 บนพื้นผิวของประตูชัยแห่งนี้จะปรากฏรายนามของทหารที่เสียชีวิตถูกแกะสลักไว้ และบริเวณใต้โค้งประตูจะปรากฏคบเพลิงที่ไฟไม่เคยมอดดับเพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามอินเดีย-ปากีสถาน เมื่อปีคริสต์ศักราชที่ 1971

เป็นวงแหวนสถานที่ราชการต่างๆ มีตึกรัฐสภาอันยิ่งใหญ่และเป็นที่ทำการของรัฐบาลใหญ่

เป็นวัดฮินดูที่ตั้งอยู่ทาตะวันออกของเมืองนิวเดลลี วัดนี้แสดงวัฒนธรรมฮินดูและอินเดียที่นำเสนอเรื่องราวทางจิตวิญญาณและสถาปัตยกรรมของชาวอินเดียมาหลายพันปี ตัววัดเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ปี 2005 โดย Pramukh Swami Maharaj ศาลเจ้าหลักคือจุดโฟกัสและอยู่ที่ตำแหน่งศูนย์กลางของอาคารทั้งหมด มีห้องโถงนิทรรศการหลายแห่งที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตและผลงานของ Swaminarayan นักออกแบบชื่อดังคนหนึ่งของอินเดีย

ทัชมาฮาล สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุลผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ เจ้าชายขุร์รัม ชึ่งต่อมาคือสมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน พระราชสมภพในปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) พระบิดา คือ สมเด็จพระจักรพรรดิชะฮันคีร์ จักรพรรดิองค์ที่สี่แห่งราชวงศ์โมกุล ตามตำนานกล่าวว่า พระองค์ได้พบกับอรชุมันท์ พานุ เพคุม ธิดาของรัฐมนตรี เมื่อพระองค์มีพระชนมายุ 14 พรรษา พระองค์ทรงหลงใหลและหลงรักนาง เจ้าชายขุร์รัมจึงซื้อเพชรด้วยเงิน 10,000 รูปีและบอกแก่พระบิดาของพระองค์ว่าพระองค์มีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับบุตรีของรัฐมนตรี พิธีเสกสมรสถูกจัดขึ้นหลังจากนั้น 5 ปี เมื่อพ.ศ. 2155 (ค.ศ. 1612) จากนั้นมาทั้งสองก็มิเคยอยู่ห่างกันอีกเลย

เป็นป้อมอนุสรณ์สถานสำคัญ และมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ตั้งอยู่ที่เมืองอัครา รัฐอุตตร ประเทศ ประเทศอินเดีย โดยอยู่ห่างจากอีกหนึ่งอนุสรณ์สถานสำคัญที่อยู่ใกล้เคียง คือทัชมาฮาล เป็นระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ป้อมอัครานั้นเสมือนเป็นเมืองขนาดเล็กๆ ที่ห้อมล้อมด้วยป้อมปราการอันใหญ่โต

ตั้งอยู่ในเขตอำเภออัคระ ประเทศอินเดีย เป็นเมืองร้างอันแสนงดงาม จะสวยงามมากในเวลาอาทิตย์อัสดง ถือเป็นสถาปัตยกรรมโมกุลที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดในประเทศอินเดีย

ป้อมแห่งนี้อยู่ที่เมืองอาเมร์ ตรงบริเวณชานเมืองชัยปุระ ห่างจากเมืองชัยปุระ 11 กิโลเมตร ตั้งโดดเด่นอยู่บนผาหินเหนือทะเลสาบ สร้างโดยมหาราชา มาน สิงห์ที่ 1 ป้อมปราการแห่งนี้มีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมซึ่งผสมผสานกันระหว่างศิลปะฮินดูและศิลปะราชปุตอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถมองเห็นได้จากระยะทางไกล เนื่องจากมีขนาดกำแพงปราการที่ใหญ่และแน่นหนา พร้อมประตูทางเข้าหลายแห่ง ถนนที่ปูด้วยหินหลายสาย ซึ่งเมื่ออยู่บนป้อมแล้วสามารถมองเห็นทะเลสาบเมาตาได้อย่างชัดเจน

พระราชวังกลางน้ำซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา โดยพระราชวังนี้นั้นมีความสวยงามเนื่องจากสถานที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบและโดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่เบื้องหลัง ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทรายสีแดง ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด โดยเหลือเพียงชั้นบนสุดซึ่งจะเผยขึ้นมาเหนือน้ำ ฉัตรีซึ่งเป็นยอดหลังคาทรงสี่เหลี่ยมนั้นสร้างในแบบสถาปัตยกรรมเบงกอล

ฮาวามาฮาล แปลว่าพระราชวังแห่งสายลม เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่ในเมืองชัยปุระ รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย สร้างในปี 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ ออกแบบโดยลาล ชันด์ อุสถัด โดยถอดแบบมาจากรูปทรงของมงกุฏพระนารายณ์ โดยมีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นคือ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้นและมีลักษณะคล้ายรังผึ้งสร้างจากหินทรายสีแดงสดฉลุหินให้เป็นช่องหน้าต่างลวดลายเล็กๆ ละเอียดยิบที่มีช่องหน้าต่างถึง 953 บาน

เดิมเป็นพระราชวังของมหาราชใจสิงห์ (Jai Singh) พระราชวังถูกสร้างขยายออกในสมัยหลัง ปัจจุบัน ได้รวบเป็นพิพิธภัณฑ์ Sawai Man Singh Museum ประกอบด้วย 4 ส่วนที่น่าสนใจคือ ส่วนแรกคือส่วนของพระราชวังส่วนที่สองเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดงฉลองพระองค์ของกษัตริย์ และมเหสี ซึ่งมีการตัดเย็บอย่างวิจิตร ส่วนที่สามเป็นส่วนของอาวุธ และชุดศึกสงคราม ที่จัดแสดงไว้อย่างน่าทึ่งมากมายหลายหลาก

เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากป้อมเมห์รานการห์ ที่นี่ถูกสร้างขึ้นโดยมหาราชานามว่า Sardar Singh ในปี 1899 เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีพระบรมศพของราชวงศ์ Marwar หนึ่งในราชวงศ์สำคัญของอินเดียแถบนี้ ส่วนในของอนุสรณ์สถานนี้หลุมศพนั้นสร้างขึ้นจากแผ่นหินอ่อนที่แกะสลักอย่างประณีต มีศาลาที่แกะสลักเป็นชั้น และมีทะเลสาบขนาดเล็ก

เป็นที่รู้จักในนาม Blue Souk เป็นแหล่งช็อปปิ้งในร่มหลักและเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่น่าประทับใจที่สุดของชาร์จาห์ ตัวอาคารตลาด ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ Michael Lyle & Partners มีร้านค้ามากกว่า 600 ร้าน ที่ขายทั้งทองคำ เครื่องประดับ อัญมณี น้ำหอม ของที่ระลึก และของขวัญ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของใช้ในครัวเรือน และสินค้าอื่น ๆ

ที่นี่เป็น 1 ใน 4 พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ป้อมปราการที่ยาวเหยียดข้ามเขาถึง 125 ลูก ภายในมีพระราชวังที่สวยงามและใหญ่ที่สุด และเป็นจุดชมวิวเมืองสีฟ้าที่ดี ป้อมเมห์รานการห์ถูกสร้างบนเนินเขาสูง 122 เมตร ในปี 1459 เมื่อฤาษีท่านหนึ่งบอกแก่มหาราชาจ๊อดธะ (Jodha แปลว่า นักรบ) พระองค์ควรสร้างเมืองขึ้นที่นี่ จ๊อดปูร์ เป็นศูนย์กลางอาณาจักรใหญ่แต่ครั้งโบราณ ป้อมจึงถูกเสริมเติมแต่งจนมีขนาดใหญ่มหึมา ป้อมเมห์รันกาห์นี้ ภายในตกแต่งประดับประดาด้วยแก้วหลากสี แบ่งเป็นห้องหรือท้องพระโรงขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง

เป็นท่าอากาศยานหลักของเมืองหลวงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ตั้งอยู่ที่เขตปาลาม โดยอยู่ห่างจากตัวเมืองนิวเดลีทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นระยะทาง 16 กิโลเมตร

เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย