
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย

เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์

เมืองนารา เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโอซาก้า มีกวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา เนื่องจากชาวนารามีความเชื่อว่ากวางเป็นสัตว์รับใช้เทพเจ้า ปัจจุบันเมืองนารามีกวางเดินอยู่อย่างอิสระทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า วัด หรือตามท้องถนนก็ตาม

เป็นวัดหลวงพ่อโตไดบุทสึแห่งเมืองนาราที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งยังมีความสำคัญทางศาสนาของญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศ มีจุดเด่นคือตัวอาคารหลักของวัดเป็นอาคารไม้ที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก

ประกอบด้วยบ้านพักอาศัยในอดีต ห้องแสดงนิทรรศการ 2 ห้อง สำหรับจัดแสดงของสะสมที่เกี่ยวกับการเป็นนินจา รวมถึงงานเขียนโบราณ พร้อมกันอาวุธนินจาประเภทต่างๆไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย อีกทั้งยังมีการแสดงโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึงหากใครอยากลองเป็นนอนจาดูสักครั้งก็มีชุดนินจาให้เช่าและขายอีกด้วย

เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปี ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนอายุหลายร้อยปี ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และลึกลับที่สุดแห่งหนึ่ง ตำแหน่งของศาลเจ้าจะขยับทุก 20 ปี เนื่องจากบูรณะ และสลับกันระหว่างที่ 2 แปลง ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาสักการะให้ได้

เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่จะนำนักท่องเที่ยวย้อนกลับไปศตวรรษที่ 19 กับบ้านดั้งเดิมแปลกตาและร้านค้าแผงลอย เรียกว่า นี่แหละญี่ปุ่นของจริง และยังมีร้านขนมโบราณชื่อดังขายมามากกว่า 300 ปี อะคะฟุกุ ที่ใครไปเที่ยวก็มักจะซื้อขนมไส้ถั่วห่อแป้ง กลับไปคนละกล่อง สองกล่อง จังหวัดมิเอะ

เป็นกระเช้าไฟฟ้าชมวิวธรรมชาติอันสวยงามของจังหวัดมิเอะ มีระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางกว่า 15 นาที ที่นี่ได้ถูกยกให้เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่มีความยาวมากที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งระหว่างทางนั่งกระเช้านักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติตามแนวเทือกเขาที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละฤดูกาล กระเช้าแห่งนี้นับว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนจังหวัดมิเอะแห่งนี้

เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและชื่อนั้นได้มาจากเมืองฉางอานของจีน

พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น

สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับเมืองหลวงเก่าหรือก็คือเกียวโตที่ครบรอบ 1100 ปี ประตูศาลเจ้าสีแดงดึงดูดผู้คนจากไกลและหลังจากผ่านประตูมาแล้วก็จะพบกับพื้นที่ว่างที่ล้อมรอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างภายในศาลเจ้าที่ล้วนแต่เป็นสีแดงสด ทำให้คุณรู้สึกประทับใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เห็น

มีการออกแบบสมัยใหม่โดยใช้เหล็กเป็นโครงสร้าง ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น โดยมีหลังคาเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น และยังเป็นศูนย์รวมของเส้นทางเดินรถไฟทั้งบนดินอย่างเจอาร์ บริเวณสถานีรถไฟยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมือง ที่เป็นศูนย์รวมร้านค้า แหล่งบันเทิง ร้านอาหารมากมายทั้งในและนอกสถานี

วัดคิโยมิสึ หรือ “วัดน้ำใส” วัดเก่าแก่บนเนินเขาที่มีอายุเก่าแก่กว่าตัวเมืองเกียวโต เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุด นิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด แต่ที่น่าสนใจ คือ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยเสาไม้จำนวนร้อยกว่าต้น สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว โดยใช้วิธีเข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ

เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมทะเล ที่นี่ถือว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรก ทั้งยังเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ

ศาลเจ้านัมบะยาซะกะแห่งนี้ มีรูปร่างอาคารเป็นรูปหัวสิงโต ความสูง 12 เมตร ลึกเข้าไปภายใน 7 เมตร ความรู้สึกที่เปี่ยมด้วยพลังของสิงโตล้วนสร้างความตะลึงแก่ผู้ที่ได้พบเห็น ปากสิงโตที่ยิ่งใหญ่เรียกร้องหาชัยชนะ โดยกลืนกินความชั่วร้ายต่าง นำมาซึ่งความเจริญทางการค้าขาย ทำให้มีผู้คนจากทั่วประเทศแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ดวงตาของสิงโตมีไฟ และจมูกมีลำโพงติดตั้ง ในเวลากลางคืนช่วงที่มีงานเทศกาลจะสามารถมองเห็นการแสดงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปได้

เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ

ตั้งอยู่ทางใต้ของภูมิภาคคันไซบนเกาะฮอนชู จังหวัดนึ้อุดมด้วยน้ำและอาหาร ทางเหนือจรดใต้ เป็นแนวชายฝั่งทะเลยาวลงมาสุดที่คาบสมุทรคิอิ หันหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิค จึงมีอุณหภูมิอบอุ่น ส่งผลให้ทางตะวันตกสามารถปลูกผลไม้ได้ผลดีตลอดปี เป็นอาณาจักรผลไม้แห่งภูมิภาคคันไซ จึงมีที่พักแรมในบ้านชาวสวนคอยให้บริการ รวมทั้งอาหารเช้าและเย็นแบบพื้นบ้าน และมีกิจกรรมให้ทำเกษตรด้วยตนเอง

“ตลาดคุโรชิโอะ” (Wakayama Kuroshio Market) ซึ่งตั้งอยู่ในมาริน่า ซิตี้ มีการแสดงแล่ปลาทูน่าโชว์สามครั้งต่อวัน ตื่นตาตื่นใจได้กับการแล่ปลาทูน่ายักษ์อย่างชำนาญต่อหน้าต่อตาคุณ ตลาดคุโรชิโอะ-อิจิบะ ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารทะเลสดๆ หลายร้านและร้านของที่ระลึกซึ่งมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้เลือกมากมาย

เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์

เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย