เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
สถานที่ท่องเที่ยวนี้ตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโรทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นผลงานการสร้างชิ้นเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะ อันโดะ(Tadao Ando) สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซ์เกอร์ที่ถือว่าที่สุดรางวัลของสถาปนิก โดยมีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงมากถึง 13.5 เมตรและมีน้ำหนัก 1500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะมีค่อยๆลาดลง อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่จะสามารถเห็นต้นลาเวนเดอร์จำนวนกว่า 150,000 ต้นล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูป ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสถาปัตยกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นกับความงดงามจากธรรมชาติ มองดูแล้วประหนึ่งเป็นผลงานศิลปะชั้นเอกที่หาดูได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น
ออกแบบโดย Tadao anda สถาปนิกชื่อดังของโลก ก่อสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1982 ไอเดียคล้ายวัฒนธรรมจากโมอายและอียิปต์ ออกแบบรูปร่างตั้งให้อยู่ในภูเขาของดอกลาเวนเดอร์ พระพุทธรูปเป็นแนวคิดโครงสร้างจากการเรียงลำดับของจิตวิญญาณ องค์พระมีชื่อว่า Atama Daibutsu ที่นี่เปิดให้เข้าชมอย่างเป็น ทางการ เมื่อวันที่17 ก.ค.2559 ที่ผ่านมา
เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมทะเลสาบโทยะได้สวยที่สุด ซึ่งเป็นเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร ที่นี่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจและนิดยมมาชมความสวยงามของทะเลสาบนี้กันมากมาย โดยจุดเก็บภาพได้มุมที่สวยงามที่สุด คงหนีไม่พ้นจุดชมวิวไซโลแน่นอน เพราะเป็นจุดชมวิวที่มีทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่ของทะเลสาบโทยะแบบพาโนรามา สามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่มากมาย
การอาบน้ำแร่สามารถรักษาและบรรเทาอาการต่างๆได้ เช่นบรรเทาอาการปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อช่วยให้โลหิตในร่างกายหมุนเวียนได้ดีขึ้นช่วยขับสิ่งอุดตันใต้ผิวหนังและรูขุมขนทำให้ผิวหนังสะอาดบำรุงผิวพรรณให้สดใสคลายความตรึงเครียด
เป็นกระเช้าที่พาขึ้นภูเขาไฟโชวะชินซัง ระหว่างทางจะได้เห็นวิวบรรยากาศของธรรมชาติที่งดงาม และสามารถมองเห็นทัศนียภาพมุมกว้างของทะเลสาบโทยะ ซึ่งเป็นหนึ่งในทะเลสาบชื่อดังของญี่ปุ่น
ที่นี่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้นเพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณเสมือนนรกที่มีกระทะทองแดงที่มีควันร้อนๆอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด
เมืองเอกบนฮอกไกโดซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น แม้ในเมืองซัปโปโรจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายนักแต่ในฤดูหนาวที่นี่จะมีการจัดเทศกาลน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยทุกๆปีจะมีนักแกะสลักน้ำแข็งฝีมือดีจากทั่วโลกเดินทางมาแสดงฝีไม้ลายมือให้ได้เห็นกัน
ศาลเจ้าฮอกไกโด เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าโยฮะชิระผู้พิทักษ์ฮอกไกโดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนนี้จึงมีผู้ศรัทธาไปมนัสการมากตลอดปี จากศาลเจ้ามีพื้นที่เชื่อมต่อกับสวนมารุยามะ ในฤดูใบไม้ผลิเหมาะแก่การชมดอกซากุระบาน
ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย
เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์แบบชนบทที่งดงาม ซึ่งในเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ และในช่วงฤดูหนาวเมืองแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นที่นิยมสำหรับเล่นสกีเนื่องจากเป็นอีกเมืองที่มีหิมะลงพอสมควร
เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมกลางป่าใหญ่ และเป็นแหล่งช้อปปิ้งน่ารักๆ ที่ขายเฉพาะสินค้าหัตถกรรม กระท่อมแต่ละหลังจะขาย ของทำมือที่แตกต่างกันไป เช่นบ้านภาพเขียน บ้านเครื่องแก้ว บ้านแกะสลักไม้ เหมาะกับการถ่ายรูป เดินพักผ่อน
เป็นเมืองเล็กๆ ล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของภูเขาและทุ่งนาอันกว้างใหญ่ เสน่ห์ของเมืองนี้ คือ การขี่จักรยานหรือขับรถผ่านเนินเขา และเยี่ยมชมทุ่งดอกไม้ระหว่างทาง ในหน้าหนาวเมืองนี้จะล้อมรอบด้วยหิมะขาวโพลน สวยไปอีกแบบ
การอาบน้ำแร่สามารถรักษาและบรรเทาอาการต่างๆได้ เช่นบรรเทาอาการปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อช่วยให้โลหิตในร่างกายหมุนเวียนได้ดีขึ้นช่วยขับสิ่งอุดตันใต้ผิวหนังและรูขุมขนทำให้ผิวหนังสะอาดบำรุงผิวพรรณให้สดใสคลายความตรึงเครียด
น้ำตกชิโรฮิเงะ น้ำตกที่สวยที่สุดบนเกาะฮอกไกโด มีความสูงประมาณ 30 เมตร น้ำตกแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำที่ไหลลงมานั้นเป็นน้ำบาดาลที่ออกมาจากรอยแตกของหน้าผาไหลลงสู่แม่น้ำบิเอะและยังมีความโดดเด่นของสีของแม่น้ำที่เป็นสีฟ้าอมเขียวเกิดขึ้นจากแร่โคบอลต์
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เพิ่งเริ่มมีชื่อเสียงได้ไม่นานของฮอกไกโด ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบิเอะ มีน้ำสีฟ้าที่สดใสเกินกว่าบ่อน้ำตามธรรมชาติทั่วไป และตอไม้สูงจำนวนมากที่สะท้อนให้เห็นความใสแปลกตาที่แสนพิเศษของน้ำในบ่อ
ที่นี่เป็นสกีรีสอร์ทระดับหรูสุดพรีเมี่ยม ที่มีกิจกรรมสำหรับฤดูหนาวมากมายให้ท่านได้เข้าร่วมและสัมผัสกับหิมะและลานน้ำแข็งสีขาวบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ รวมไปถึงกิจกรรมในร่มอีกมากมาย มีหมู่บ้านน้ำแข็งอันสุดตระการตา คาเฟ่สุดชิคบรรยากาศดี ร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่น อาหารรสเลิศ และการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพนักงานรีสอร์ทที่น่ารัก
การอาบน้ำแร่สามารถรักษาและบรรเทาอาการต่างๆได้ เช่นบรรเทาอาการปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อช่วยให้โลหิตในร่างกายหมุนเวียนได้ดีขึ้นช่วยขับสิ่งอุดตันใต้ผิวหนังและรูขุมขนทำให้ผิวหนังสะอาดบำรุงผิวพรรณให้สดใสคลายความตรึงเครียด
เป็นอาคารสีแดงอิฐ สร้างในปี 1888 นับเป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่น เรียงรายด้วยต้นซากุระ และต้นแปะก๊วย อาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นสมัยบุกเบิกเกาะฮอกไกโด ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องทำงานต่างๆ และหอสมุดเก็บบันทึกทางราชการ
คิโรโระ สกีรีสอร์ท ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านอะไกกาว่า ไม่ไกลมากเมืองโอตารุ และสามารถเดินทางจากเมืองซัปโปโรไปได้อย่างสะดวกด้วยรถไฟ ในฤดูหนาวพื้นที่รอบๆรีสอร์ทจะเป็นสถานที่เล่นสกีที่มีหิมะคุณภาพดี เป็นสีขาวละเอียดเหมือนแป้งฝุ่น ล้อมรอบด้วยทัศนียภาพอันงดงามของภูเขา
เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของฮอกไกโด ที่นี่เป็นแหล่งวัตถุดิบทางทะเลที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนฮอกไกโด
คลองโอตารุขนาบข้างด้วยโกดังเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านค้า น้ำในคลองใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์อาคารและในยามอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าก็จะสะท้อนภาพออกมาเป็นเงาที่ดูแล้วรู้สึกถึงความโรแมนติก
เป็นถนนค้าขายที่ได้รับการอนุรักษ์ ตั้งอยู่กลางเมืองโอตารุ ไม่ไกลจากคลองโอตารุ ปัจจุบันได้รับการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ มากมาย
เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรุปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะเป็นอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่มีอายุร้อยกว่าปีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
เป็นร้านขนมชื่อดังของเมืองโอตารุ ซึ่งมีเมนูขนมหวานและเค้กขายในแต่ละวันมากกว่า 50 ชนิด โดยสั่งเมนูที่ชั้นล่าง แล้วชั้นบนจะเป็นที่นั่งรับประทาน ซึ่งจุได้มากกว่า 100 คน ส่วน ชั้นบนสุดจะเป็นหอคอย ที่ลูกค้าสามารถ ขึ้นไปชมทิวทัศน์โดยรอบได้ฟรี!
เมืองเอกบนฮอกไกโดซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น แม้ในเมืองซัปโปโรจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายนักแต่ในฤดูหนาวที่นี่จะมีการจัดเทศกาลน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยทุกๆปีจะมีนักแกะสลักน้ำแข็งฝีมือดีจากทั่วโลกเดินทางมาแสดงฝีไม้ลายมือให้ได้เห็นกัน
เป็นโรงงานสุดน่ารักที่มีธีมพาร์คสไตล์ยุโรปอยู่ข้างหน้า ที่นี่ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และก็โรงงานช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของฮอกไกโด โดยอาคารร้านขายของจะถูกตกแต่งให้มีลักษณะคล้ายๆ กับสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปชมอุปกรณ์การผลิตยุคแรกเริ่ม แบบจำลองของโรงงาน สายการผลิตเป็นลำดับ และขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งชิมและเลือกซื้อช็อกโกแลตหรือไอศครีมแบบต่างๆ ซึ่งผลิตจากนมสดของเกาะฮอกไกโด
แหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก เหมาะสำหรับจับจ่ายซื้อหาของฝากจากฮอกไกโด เป็นชุมชนร้านค้าประมาณ 200 ร้านทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตรตลอดทิศตะวันออกและตะวันตกของใจกลางเมืองซัปโปโร เชื่อมต่อกันด้วยหลังคาโครงสร้างที่รองรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่เขตนิชิ 1 โจเมะจนถึงนิชิ 7 โจเมะ จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงฝนหรือหิมะ แสงแดด
การอาบน้ำแร่สามารถรักษาและบรรเทาอาการต่างๆได้ เช่นบรรเทาอาการปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อช่วยให้โลหิตในร่างกายหมุนเวียนได้ดีขึ้นช่วยขับสิ่งอุดตันใต้ผิวหนังและรูขุมขนทำให้ผิวหนังสะอาดบำรุงผิวพรรณให้สดใสคลายความตรึงเครียด
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย