เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เรียกสั้นๆว่า ท่าอากาศยานจูบุ ตั้งอยู่ในตัวเมืองนาโกย่า เปิดใช้งานครั้งแรกเมือปี 2005 มี 1 เทอมินอล สำหรับให้บริการทั้งสายการบินภายในและระหว่างประเทศ
เป็นเขตๆ หนึ่งที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของนาโกย่า
เป็นกระเช้าไฟฟ้าชมวิวธรรมชาติอันสวยงามของจังหวัดมิเอะ มีระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางกว่า 15 นาที ที่นี่ได้ถูกยกให้เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่มีความยาวมากที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งระหว่างทางนั่งกระเช้านักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติตามแนวเทือกเขาที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละฤดูกาล กระเช้าแห่งนี้นับว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนจังหวัดมิเอะแห่งนี้
ที่นี่เป็นศูนย์รวมแฟชั่นทันสมัยราคาถูกจนคุณแปลกใจ แหล่งรวมของแบรนเนมชื่อดังจากทั่วโลก ทั้งแฟชั่นนำสมัยของคนทุกวัย หรือแฟชั่นกีฬาจากทั่วทุกค่ายที่พร้อมใจกันมาลดราคากัน เช่น COACH, TIMBERLAND, NIKE, PUMA, HUSH PUPPIES, ADIDAS และยังมีสินค้าอีกมากมาย
เป็นสวนที่จัดแสดงสวนยามค่ำคืนในฤดูหนาวด้วยไฟดวงเล็กมากกว่า 5.8 ล้านดวง ซึ่งทำให้เป็นสถานที่ยอดนิยมของคู่รักทั้งปี ซึ่งไฮไลท์หลักของที่นี่เลยก็คืออุโมงค์ประดับไฟที่มีความยาวประมาณ 600 เมตร ที่มองดูเหมือนอุโมงค์แห่งสวรรค์ที่ใครๆ ก็ไม่ควรพลาดที่จะมีถ่ายรูปในอุโมงค์แห่งนี้
เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปี ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนอายุหลายร้อยปี ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และลึกลับที่สุดแห่งหนึ่ง ตำแหน่งของศาลเจ้าจะขยับทุก 20 ปี เนื่องจากบูรณะ และสลับกันระหว่างที่ 2 แปลง ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาสักการะให้ได้
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่จะนำนักท่องเที่ยวย้อนกลับไปศตวรรษที่ 19 กับบ้านดั้งเดิมแปลกตาและร้านค้าแผงลอย เรียกว่า นี่แหละญี่ปุ่นของจริง และยังมีร้านขนมโบราณชื่อดังขายมามากกว่า 300 ปี อะคะฟุกุ ที่ใครไปเที่ยวก็มักจะซื้อขนมไส้ถั่วห่อแป้ง กลับไปคนละกล่อง สองกล่อง จังหวัดมิเอะ
ที่นี่เป็นเกาะไข่มุกเลี้ยงแห่งแรก ที่โด่งดังด้านการผลิตไข่มุกคุณภาพดี ถึงขั้นได้ใช้ในการออกแบบมงกุฏมิสยูนิเวิร์สกันเลยทีเดียว
เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและชื่อนั้นได้มาจากเมืองฉางอานของจีน
มีการออกแบบสมัยใหม่โดยใช้เหล็กเป็นโครงสร้าง ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น โดยมีหลังคาเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น และยังเป็นศูนย์รวมของเส้นทางเดินรถไฟทั้งบนดินอย่างเจอาร์ บริเวณสถานีรถไฟยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมือง ที่เป็นศูนย์รวมร้านค้า แหล่งบันเทิง ร้านอาหารมากมายทั้งในและนอกสถานี
วัดเบียวโดอิน เป็นอดีตที่อยู่อาศัยของขุนนางตระกูลฟูจิวาระ สร้างเป็นวัดในปี 1052 วิหารพระอมิตดา สร้างปี 1053 เป็นอาคารโบราณที่ยังคงสภาพอยู่จนปัจจุบัน เป็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นภาพที่พิมพ์อยู่บนเหรียญ 10 เยน ซึ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีท่านสามารถชื่นชมความงามของวัดพร้อมความสวยของธรรมชาติได้พร้อมกันอีกด้วย
พิธีชงชาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นว่าด้วยการใช้เวลาอย่างสุนทรีย์ ด้วยการดื่มและการชงชาผงสีเขียวหรือมัทชา นับตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 14 ต้นฉบับของพิธีชงชา และให้ท่านได้สัมผัสกับบรรยากาศของการจำลองเรื่องราวเกี่ยวการพบปะกันในวงสังคมเกี่ยวกับการดิ่มและชงชาที่ได้แพร่หลายในบรรดาชนชั้นสูงที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น
เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมทะเล ที่นี่ถือว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรก ทั้งยังเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
ตลาดปลาคุโรม่อน เป็นตลาดอาหารสดและอาหารพื้นเมืองยอดนิยมที่พ่อค้า พ่อครัวจากร้านต่างๆ ต้องแวะเวียนกันเข้ามาซื้อวัตถุดิบสดจากทะเลเพื่อนำไปประกอบอาหารเป็นประจำทุกวัน ในละแวกนั้นเองก็มีร้านอาหารทะเลสดๆหลายร้านให้ท่านสามารถลิ้มลองอย่างหลากหลาย อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย อาทิเหล้าบ๊วย ผักผลไม้ รวมถึงอาหารทะเลที่สดใหม่ ซึ่งระหว่างสองข้างทางท่านจะสังเกตุเห็นว่าตลาดปลาแห่งนี้แทบจะไม่สกปรกเลยสักนิดเดียว
เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง
เป็นห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในตกแต่งในรูปแบบที่ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหารสดใหม่ และอุปกรณ์ภายในบ้าน
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย