
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี

เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์

โคเบะหรือ โกเบ เป็นเมืองเอกของจังหวัดเฮียวโงะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับที่ 5 และเป็นเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่น โคเบะเป็นเมืองท่าที่สำคัญของญี่ปุ่นที่มีการค้าขายกับทางประเทศตะวันตกนับตั้งแต่การยกเลิกนโยบายปิดประเทศ ในปี ค.ศ. 1995 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำให้เมืองโคเบะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ก็สามารถซ่อมแซมบูรณะจนกลายมาเป็นเมืองท่าที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งได้ บริษัทหลายๆแห่งได้ตั้งสำนักงานใหญ่ที่โคเบะ และเมืองนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของเนื้อโคเบะอีกด้วย

เป็นพื้นที่ช้อปปิ้งและแหล่งบันเทิงริมน้ำของบริเวณท่าเรือโกเบ มีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านค้า และสวนสนุก ซึ่งเป็นจุดนัดพบที่นิยมของชาวเมือง

เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมทะเล ที่นี่ถือว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรก ทั้งยังเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ

เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง

ย่านชินเซไก(Shinsekai) ที่แปลว่า “โลกใหม่” ของโอซาก้า มีหอคอยซึเทนคาคุ(Tsutenkaku)ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของย่านชินเซไกนี้ตั้งอยู่ตรงกลาง บริเวณนี้ได้มีการจัดนิทรรศการขึ้นโดย National Industrial Exposition ในปี 1903 และสามารถดึงดูดคนให้มายังย่านนี้ได้มากกว่า 5 ล้านคน ภายในระยะเวลา 5 เดือน ภายหลังจากหมดงานเทศกาลลงย่านนี้ก็ได้ถูกพัฒนาต่อไปอีกด้วยการสร้างหอคอย สวนสาธารณะ โรงหนัง และสวนสนุก

เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและชื่อนั้นได้มาจากเมืองฉางอานของจีน

วัดคิโยมิสึ หรือ “วัดน้ำใส” วัดเก่าแก่บนเนินเขาที่มีอายุเก่าแก่กว่าตัวเมืองเกียวโต เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุด นิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด แต่ที่น่าสนใจ คือ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยเสาไม้จำนวนร้อยกว่าต้น สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว โดยใช้วิธีเข้าลิ่มด้วยภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่นโบราณ

ถนนนี้ได้ชื่อว่าเป็นชองเซลีเซแห่งโตเกียว หนึ่งในถนนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ซึ่งถูกเติมแต่งด้วยร้านค้าต่างๆ มากมาย ถนนเส้นนี้ยังเชื่อมต่อไปยังศาลเจ้าเมจิ,ย่านฮาราจูกุและรวมไปถึงตรอกทาเคชิตะได้อีกด้วย เป็นชื่อของถนน สถานีรถไฟ และย่านการค้าแฟชั่นในเขตมินะโตะและชิบุยะ กรุงโตเกียว ใกล้กับสถานีรถไฟฮะระจุกุ ถนนทะเคะชิตะ ในอดีตถนนสายนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเส้นทางเดินทางไปศาลเจ้าเมจิซึ่งสร้างถวายแด่จักรพรรดิไทโช ปัจจุบันโอะโมะเตะซันโดเป็นถนนสายสำคัญที่สองข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าแฟชั่นชื่อดังจากทุกมุมโลก เช่น หลุยส์ วิตตอง ปราด้า ทอด'ส ดิออร์ กุชชี่ แก็ป บอดี้ชอป และซาร่า ซึ่งเปรียบเสมือนถนนช็องเซลีเซแห่งโตเกียว

วัดเบียวโดอิน เป็นอดีตที่อยู่อาศัยของขุนนางตระกูลฟูจิวาระ สร้างเป็นวัดในปี 1052 วิหารพระอมิตดา สร้างปี 1053 เป็นอาคารโบราณที่ยังคงสภาพอยู่จนปัจจุบัน เป็นสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นภาพที่พิมพ์อยู่บนเหรียญ 10 เยน ซึ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีท่านสามารถชื่นชมความงามของวัดพร้อมความสวยของธรรมชาติได้พร้อมกันอีกด้วย

ที่นี่เป็นอีกหนึ่งเอ้าท์เล็ทมอลล์ขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น มีสินค้าแบรนด์เนมมากมาย รวมถึงร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านกาแฟ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอาหารมากมายที่ศูนย์อาหารรวมถึงอาหารจากร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น

เป็นเมืองหลวงของจังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัด ในอดีตมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในสมัยเซงโงะกุ กล่าวคือบรรดานักรบและไดเมียวสำคัญ เช่น โอดะ โนะบุนะงะ ใช้เมืองกิฟุที่มีทำเลที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของประเทศ ใช้เป็นฐานในการรวบรวมและปกครองแผ่นดินญี่ปุ่น

หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม หมู่บ้านแห่งนี้ใช้โครงสร้างที่เรียกว่า กัสโช ซึ่งแปลว่าสร้างแบบพนมมือ ด้านหน้าทำเป็นหน้าจั่วแบบบ้านทรงไทย มีการเจาะช่องหน้าต่างเพื่อรับแสงสว่างจากภายนอก เมื่อมองจากภายนอกจึงดูมีสัดส่วนสวยงาม

ใช้เป็นทั้งที่ทำงาน และที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะมาเป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนโตกุกาว่า ในสมัยเอะโดะ หรือกว่า 300 ปีที่แล้ว เป็นที่ทำการรัฐในยุคเอะโดะเพียงแห่งเดียวที่ข้ามพ้นยุคสมัยมาได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งภายในนี้ประกอบด้วยบริเวณไต่สวนพิจารณาคดี ห้องขังนักโทษ โรงครัว และห้องพักของเจ้าหน้าที่

เป็นเมืองเก่าสมัยเอโดะ ที่มีอายุกว่า 300 ปี แต่ยังคงอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ ทั้งวัดวาอาราม ศาลเจ้า บ้านแบบดั้งเดิมของชาวนาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี

สะพานนาคาบาชิ ที่มีสีแดงเด่น พาดผ่านแม่น้ำมิยากาว่า รวมทั้งยังมี “ซากุระสีชมพู” ขนานกับแนวแม่น้ำแห่งนี้อีกด้วย (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ซึ่งเป็นจุดยอดนิยมของการเก็บภาพประทับใจ สะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองทาคายาม่า และเป็นเส้นทางในการจัดเทศกาลทาคายาม่ามัตสุริ(Takayama Matsuri)อีกด้วย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิรอบๆสะพานจะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่ง

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่เกือบใจกลางของประเทศญี่ปุ่น ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงถึง 3,000 เมตร จำนวนมากมาย เป็นแหล่งสโนว์รีสอร์ทชั้นนำของญี่ปุน มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญคือในปี 1998 เมืองแห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวอีกด้วย

เป็นซึ่งจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุของญี่ปุ่น จังหวัดนี้ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีหุบเขากลางที่อุดมสมบูรณ์ มีลุ่มน้ำโคฟุ ล้อมรอบด้วยภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นรวมทั้งภูเขาฟูจิ

สวนสตอเบอร์รี่ ถือเป็นผลไม้ขึ้นชื่ออย่างหนึ่งที่เป็นที่รู้จัก ที่มีรสชาติอร่อย ให้ท่านได้ชมและภ่ายภาพประทับใจรวมถึงให้ท่านเก็บผลไม้สดๆจากต้นด้วยตัวท่านเอง

สวนโออิชิพาร์ค ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบคาวากูจิโกะฝั่งเหนือ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองข้ามทะเลสาบไปและเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างโดดเด่นเต็มตา ที่นี่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นซึ่งมาพักผ่อนตากอากาศ ชมวิวแบบชิวๆ ดื่มด่ำกับความงามของทิวทัศน์

ซื้อสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมมากมาย เช่น นาฬิกา แว่นตา เครื่องสำอาง กระเป๋า กล้องถ่ายรูป และสินค้าแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย

กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก

ที่นี่เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชิบะ เป็นสถานที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ

เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปมาโตเกียว โยโกฮาม่า และจังหวัดใกล้เคียงได้กว่า 35 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว) โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 65 สายการบิน

เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี