เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานนี้ตั้งอยู่ในเขตชางงี เป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์, สิงคโปร์แอร์ไลน์คาร์โก, ซิลค์แอร์, ไทเกอร์แอร์เวย์, เจ็ตสตาร์เอเชียแอร์เวย์ และแวลูแอร์ ในปี พ.ศ. 2549 ท่าอากาศยานแห่งนี้รองรับผู้โดยสารจำนวนถึง 35 ล้านคน เพิ่มมากขึ้น 8% จากปีงบประมาณ 2548 พ.ศ. 2552 ท่าอากาศยานนานาชาตินี้เคยได้รับการลงคะแนนให้เป็นท่าอากาศยานที่ดีที่สุดในโลก
เป็นพื้นที่ตึก 5 หลัง ที่ออกแบบตามหลัก "ฮวงจุ้ย" ประหนึ่งอุ้งมือมีห้านิ้วเรียงราย และมี "น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง" หรือ Fountain of Wealth น้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ตรงกลางอุ้งมือพอดี แทนที่จะพุ่งขึ้นเหมือนกับน้ำที่อื่นๆ แต่กลับไหลลงในความเชื่อที่ว่าเหมือนเงินทองไหลมาเทมาอยู่ในอุ้งมือนั่นเองเชื่อกันว่าจะทำให้ชีวิตคนที่สัมผัสนั้นโชคดี และร่ำรวยตลอดปี
น้ำพุนี้อยู่ใจกลางระหว่างหมู่อาคาร Suntec City หรืออยู่ใจกลางฝ่ามือซึ่งหงายขึ้นนั่นเอง เพราะมีความเชื่อว่าน้ำไหลของน้ำพุเปรียบเสมือนกับเงินทองที่ไหลเข้าฝ่ามือไม่หยุดหย่อน เป็นน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใครที่มีโอกาสที่ได้เดินรอบฐานกลางของน้ำพุสามครั้งและสัมผัสน้ำทุกครั้งก็จะรับความโชคดีและมีความมั่งคั่งในทรัพย์สินตามมา
เป็นสิงโตทะเลที่ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญขอสิงคโปร์ มีลักษณะของหัวเป็นสิงโต ลำตัวเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น แรกเริ่มเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ ออกแบบขึ้นในปี 2507 โดย นายฟราเซอร์ บรูนเนอร์สมาชิกคณะกรรมการฝ่ายของที่ระลึกและผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแวนคลีฟ
เป็นสวนที่เป็นจุดท่องเที่ยวแลนมาร์คของสิงคโปร์ ประกอบด้วยไฮไลท์สำคัญอย่างฟลาวเวอร์โดม (Flower Dome) ส่วนจัดแสดงพรรณไม้จากเขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียน และคลาวด์ฟอร์เรสต์ (Cloud Forest) ส่วนจัดแสดงพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้นซูเปอร์ทรีส์ (Supertrees) โครงสร้างแบบต้นไม้ขนาดใหญ่เทียบเท่ากับตึกที่มีความสูง 9 – 16 ชั้น จำนวนทั้งสิ้น 18 ต้น ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้เป็นสวนแนวตั้งขนาดใหญ่ ปกคลุมด้วยไม้เลื้อยเขตร้อน พืชอิงอาศัย และเฟิร์นเมืองร้อน โดดเด่นด้วยแสงสียามค่ำคืน
เป็นรีสอร์ทหรูใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ มีไฮไลท์ คือ The Sands Sky Park ตั้งอยู่ชั้นที่ 57 ของโรงแรม เป็นสถาปัตยกรรมรูปร่างคล้ายเรือตั้งอยู่บนอาคารทั้ง 3 แซนส์ สกาย พาร์คนี้ถือว่าเป็นสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จัดเป็นสวนลอยฟ้าที่มีความสูง 200 ม. ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม มีต้นไม้ใหญ่ 250 ต้น และไม้ประดับอีก 650 ต้น มีร้านอาหารที่หรูหรา และยังมี “มารีน่า เบย์ แซนส์ คาสิโน” ที่ตั้งอยู่ในตัวอาคารอันโอ่อ่าหรูหราฝั่งตรงข้ามกับตัวโรงแรมจัดว่าเป็นคาสิโนที่เต็มไปด้วยเกมการพนันทุกรูปแบบ
เกาะที่ถูกขนานนามว่า เป็นเกาะแห่งอภิมหาความบันเทิง เกาะหรรษา ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนที่สุด เป็นเกาะที่มีทั้งชายหาดธรรมชาติ ศูนย์วัฒนธรรม สวนสนุกระดับโลก ฯลฯ มาเที่ยวที่เกาะแห่งนี้ มีกิจกรรมให้ทำได้ตลอดทั้งวัน ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังไปทั่วโลก
S.E.A. Aquarium เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เปิดใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดเป็นอควาเลียมที่ใหญ่ที่สุดเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ถูกออกแบให้เป็นอุโมงใต้น้ำ สามารถบรรจุน้ำเค็มได้ กว่า 45 ล้านลิตร รวมสัตว์ทะเลกว่า 800 สายพันธุ์ ภายในตกแต่งด้วยซากปรักหักพังของเรือ จำลองความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลทั่วโลก
เป็นสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสาขาประเทศสิงคโปร์ ภายในมีเครื่องเล่นทั้งหมด 24 ชนิด โดยเป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบใหม่จำนวน 18 ชนิด พื้นที่สวนสนุกประกอบด้วยธีมปาร์คที่รวมตัวละครและสถานที่ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นชื่อดังของบริษัทดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น คือมาดากัสการ์ (Madagascar)และเชร็ค (Shrek)
วัดศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธย่าน Bugis วัดนี้ดังมากในสิงคโปร์ที่ใครๆ ต่างมาไหว้ขอพรให้สมปรารถนาดังใจ สักการะเจ้าแม่กวนอิมที่ วัดเก่าแก่ และศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนสิงคโปร์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ทุกท่าน
เป็นวัดและพิพิธภัณฑ์ที่ว่าด้วยเรื่องราวศาสตร์ ธรรมะ จิตวิญญาณที่ผสมผสานระหว่างพุทธศาสนานิกายหินยานและมหายาน จัดเป็นพิพิธภันฑ์ขนาดย่อมๆ ที่น่าประทับใจ
เป็นถนนที่ถือเป็นสวรรค์ของนักช็อป เนื่องด้วยตลอดเส้นทางเป็นระยะยาวกว่า 2.2 กิโลเมตรของถนนออร์ชาร์ดเป็นที่ตั้งของบรรดาตึกสูงระฟ้า ที่มีร้านค้าแบรนด์ดังๆ จากทั่วโลกมาตั้งกันอยู่แทบจะทุกยี่ห้อที่เรารู้จัก และที่สำคัญสินค้าแบรนด์เนมรุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งถูกผลิตออกมาขายมักจะต้องถูกนำมาตั้งขายกันที่นี่ก่อนเป็นที่แรกๆ ในเอเชีย นอกจากนั้นสองฝั่งของถนนออร์ชาร์ดยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมชื่อดังราคาตั้งแต่กลางๆ ไปจนถึงแพงอยู่หลายแห่ง
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย