เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นเมืองหลวงของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองดูไบ ดูไบใหญ่เป็นอันดับ 1 ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองอาบูดาบีเป็นเมืองที่ได้รับสมญานามว่า Garden of Gulf หรือ อ่าวแห่งความเขียวขจี และมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสวนสวยงาม ท่ามกลางทะเลทราย
Sheikh Zayed Mosque ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3ของโลกและเป็นสุเหร่าประจำเมือง ของท่านเชคที่ก่อตั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ ที่ท่าน สร้างไว้ก่อนท่านจะสวรรคต การก่อสร้างรวมทั้งหมดเป็นเวลา 10 ปี สุเหร่านี้มีพรมผืนที่ใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 5,627 ตารางเมตร และโคมไฟ Chandelier ใหญ่ที่สุดในโลก นำเข้าจากประเทศเยอรมันทำด้วยทองคำและทองแดง (อย่าลืมนำผ้าคลุมผมติดตัวไปด้วยค่ะ) สามารถรองรับผู้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้สูงถึง 40,000 คน นอกจากนี้มัสยิดแห่งนี้เป็นสุสานหลวงที่ฝังพระบรมศพของ Sheikh Zayed bin Sultan Al Nahyan อดีตประธานาธิบดีคนแรกแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี้ จากนั้นให้ท่านแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ณ จุดชมวิวชิคาโกบีช กับชายทะเลสีเทอร์ควอยซ์ที่ท่าน Sheikh Al Nayan สร้างขึ้นมาเป็นของ ขวัญแก่ชาวเมือง
สวนสนุกเฟอร์รารี่ เวิลด์ มีหลังคาสีแดงสุดโดดเด่น สวนสนุกเฟอร์รารี่ เวิลด์มีรถไฟเหาะที่เร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และยังมีเครื่องเล่นหลากหลายที่เข้ากับความต้องการของคนรักการผจญภัยและชอบความตื่นเต้น สวนสนุกเฟอร์รารี่ เวิลด์ยังเป็นสถานที่สำหรับทุกคนในครอบครัวเด็กๆ และคนที่ชอบอะไรแบบไม่หวือหวาหรือตื่นเต้นมากเกินไปสวนสนุกเฟอร์รารี่ เวิลด์เป็นสวนสนุกในร่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ภายในมีความเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศจึงเหมาะกับการใช้เป็นสถานที่หลบร้อนในอาบูดาบี
ห้างเอมิเรตส์มอลล์ (Mall of the Emirates) เป็นห้างขนาดใหญ่ มีโรงภาพยนตร์ ลานโบว์ลิ่ง และร้านค้าอีกมากมาย รวมถึงร้านต่างๆ มีเวลาให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าแฟ่ชั้นมากมาย หรือท่านจะเข้าเล่นที่ Ski Dubai หนึ่งในสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สามารถเลือกเล่นระหว่างสกี สโนว์บอร์ด เลื่อนหิมะ หรือโยนบอลหิมะในสวนหิมะ
น้ำพุแห่ง ดูไบ หรือ น้ำพุเต้นระบำ ตั้งอยู่ในทะเลสาบเบิร์จคาลิฟา ทะเลสาบที่เป็นศูนย์กลางของเมืองดูไบ ถูกรายล้อมไปด้วยตึกที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ดูไบมอลล์ เบิร์จคาลิฟา หรือ หอคอยคาลิฟา เดิมชื่อ เบิร์จดูไบ เป็นตึกระฟ้าสูงยวดยิ่ง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่ง ของโครงการพัฒนาขนาดยักษ์ของ ดูไบ
หนึ่งในสัญลักษณ์อันสำคัญของนครดูไบ และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกทั้งยังเป็นฉากเสี่ยงตายสำคัญของพระเอกทอม ครูซ จากภาพยนตร์เรื่อง Mission Impossible 4 ตัวตึกมีความสูงถึง 828 เมตร ปัจจุบันมีทั้งหมด 160 ชั้น เป็นตึกที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลก ปัจจุบันการตกแต่งภายในจะตกแต่งโดย จอร์โจ อาร์มานี Giorgio Armani โดยเป็นโรงแรมอาร์มานี สำหรับ 37 ชั้นล่าง โดยชั้น 45 ถึง 108 จะเป็นอพาร์ตเมนต์ โดยที่เหลือจะเป็นสำนักงาน และ ชั้นที่ 123 และ 124 จะเป็นจุดชมวิวของตึกที่สำคัญ ส่วนบนของตึกจะเป็นเสาอากาศสื่อสาร นอกจากนี้ชั้น 78 จะมีสระว่ายน้ำ กลางแจ้งขนาดใหญ่ โดยตึกนี้จะติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก ที่ความเร็ว 65 ก.ม./ชม.
เป็นพระราชวังที่งดงามสุดอลังการ ทั้งยังมีความยิ่งใหญ่ มีความร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด และมีบรรดาฝูงนกยูงหลายสิบตัวบริเวณโดยรอบ
เป็นสุเหร่าคู่บ้านคู่เมืองของดูไบ ที่ได้ชื่อว่าเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมอิสลามที่ทันสมัยสวยงามมากที่สุดในตะวันออกกลางสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง มีความงดงามในรูปแบบฟาติมิดยุคกลาง มีหออาซานคู่ตั้งตระหง่านสวยงาม แต่ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมเข้าไปในมัสยิดได้ ยกเว้นหากเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับกลุ่มทัวร์เท่านั้น
เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์อันสำคัญของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตึกบุรจญ์ อัล อาหรับ ปัจจุบันเป็นโรงแรมรูปทรงเรือใบที่สวยและหรูหราที่สุดระดับโลกที่มีชื่อเสียงของตะวันออกกลาง มีความสูง 321 เมตร หรือ 1,050 ฟุต ตั้งอยู่บนเกาะเทียมที่ถูกถมขึ้นห่างจากแถบชายหาดจูเมร่าห์ 280 เมตร รูปทรงของตึกถูกสร้างให้เหมือนกับใบเรือของเรือใบแบบชาวอาหรับ ซึ่งตัวตึกมีเสา 2 เสาแยกออกมาเป็นรูปตัว V ในขณะที่ช่องว่างระหว่างตัว ส่วนหนึ่งก็ปิดให้เป็นห้องใหญ่ๆ และแบ่งออกเป็นชั้นๆ สถาปนิกได้กล่าวว่า "สิ่งก่อสร้างนี้จะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองดูไบ"
เวนิสแห่งดูไบ เป็นตลาดติดแอร์ ตั้งอยู่ในส่วนซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับ โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว คือ Mina Al Salam ของตระกูล Al Maktoum ซึ่งออกแบบและตกแต่งเป็นศิลปะคลาสสิคในแบบอาหรับ ดูคลาสสิคแบบพื้นเมือง ภายในมีสินค้า ระดับPremiumมากมาย อาทิ ของที่ระลึก พวงกุญแจ, ขวดทราย, พรม อีหร่าน, หัวน้ำหอม อาหรับ, โคมไฟ และของประดับตกแต่งบ้าน, ขนมหวาน อาหรับ, ถั่วรสช็อกโกแลต รสชาติต่างๆ ส่วนด้านหลังจะมี คลองแบบเวนิส ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ โรงแรม Mina Al Salam นั่นเอง
โรงแรมแห่งนี้เป็นรีสอร์ทบนเกาะธีมทะเลที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ผสมผสานระหว่างความหรูหรากับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โรงแรมแอตแลนติส เป็นจุดศูนย์กลางที่หรูหราโอ่อ่าของ Palm Jumeirah เกาะอันน่าตระการตาที่มนุษย์สร้างขึ้น ห้องพักขนาดกว้างใหญ่จำนวน 1,373 ห้องรวมถึงห้องสวีทจำนวน 166 ห้องของโรงแรม Atlantis ทุกห้องออกแบบตกแต่งตามอิทธิพลอาหรับและมหาสมุทรอันลึกลับ มีทิวทัศน์อันสวยงามของแนวชายฝั่งทะเลดูไบหรือตัวเกาะ Palm Jumeirah เอง
ตะลุยทัวร์ทะเลทราย ท่านจะสนุกกับการนั่งรถตะลุยไปเนินทราย ตื่นเต้นระทึกใจ พร้อมชมพระอาทิตย์ตก มีกิจกรรมมากมายให้ท่านได้สัมผัส อาทิ ให้ท่านแต่งกายพื้นเมืองแบบชาวอาหรับ แค้มปิ้งกลางทะเลทราย ถ่ายรูปเก็บไว้ป็นที่ระลึก การขี่อูฐ ฯลฯ และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย
สัมผัสประสบการณ์อันตื่นเต้นกับการนั่งรถตะลุยทะเลทราย พร้อมชมวิวอันงดงามของท้องทะเลทรายและเนินทรายอันสวยงาม
ระบำหน้าท้อง Belly Dance เป็นศิลปะการร่ายรำที่เน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท้องและสะโพก จากสาวสวยสุดเซ็กซี่ชาวอาหรับกับจังหวพดนตรีที่เร้าใจ
พิพิธภัณฑ์ ดูไบ (DUBAI MUSEUM) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดในตะวันออกกลาง สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 19 บูรณะครั้งล่าสุดปี ค.ศ.1970 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น การค้นพบ งานศิลป์ ในหลุมฝังศพที่ AL QUSAIS ที่มีอายุถึง 4,000 ปีและเรื่องราวการค้าขายมุก ในประวัติศาสตร์ก่อนการค้นพบน้ำมัน และท่านจะประทับใจกับการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาถ่ายทอดเพื่อบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอาหรับโบราณ
Dubai Creek เป็นทะเลที่สร้างขึ้นโดยการขุดเข้ามาในชายฝั่ง เพื่อแบ่งนครดูไบออกเป็น 2 ส่วน คือ Deira Dubai และ Bur Dubai มีความยาวประมาณ 14 กิโลเมตร
ย่าน Bastakiya เป็นย่านที่เรียกได้ว่าเป็นย่านเมืองเก่าถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรม และ แกลอรี่ศิลปะ ของที่นี่เลยทีเดียว บริเวณดังกล่าวนี้เป็นเพียงทางแคบๆ โดยมีหอกังหันลมตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ทำให้นึกย้อนไปในอดีตที่บริเวณ Bastakiya นี้มักจะเต็มไปด้วยหอกังหันลม ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณที่เรียกว่า The Creek ซึ่งหอกังหันลมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยประดับประดาตกแต่งย่าน Bastakiya ให้สวยงามน่าชมแล้ว ยังช่วยให้บรรเทาความร้อนให้กับบ้านเรือนที่ตั้งอยู่แถวนั้น ก่อนที่จะมีไฟฟ้าใช้อีกด้วย
ตลาดทอง (GOLD SOUK) เป็นที่ 1 ของตลาดทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยขายทุกอย่างที่เป็น JEWELRY เช่น มุก อัญมณี ต่างๆร้านเล็กๆมากมายกว่าร้อยร้านค้า และท่านยังสามารถเลือกซื้อของที่ตลาดเครื่องเทศ (SPICE SOUK) ซึงเป็นตลาดเครื่องเทศทั้งตลาดตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศหลากหลายชนิดจากทั่วทุกมุมโลก โดยสินค้าเด่นๆ ก็มีจำพวกไม้หอม อบเชย ถั่ว กระวาน กานหลู และถั่วร้อยแปดชนิดจากทุกที่ในตะวันออก
ห้างเอมิเรตส์มอลล์ (Mall of the Emirates) เป็นห้างขนาดใหญ่ มีโรงภาพยนตร์ ลานโบว์ลิ่ง และร้านค้าอีกมากมาย รวมถึงร้านต่างๆ มีเวลาให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าแฟ่ชั้นมากมาย หรือท่านจะเข้าเล่นที่ Ski Dubai หนึ่งในสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สามารถเลือกเล่นระหว่างสกี สโนว์บอร์ด เลื่อนหิมะ หรือโยนบอลหิมะในสวนหิมะ
Ski Dubai หนึ่งในสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สามารถเลือกเล่นระหว่างสกี สโนว์บอร์ด เลื่อนหิมะ หรือโยนบอลหิมะในสวนหิมะ ฯลฯ ให้ท่านได้สัมผัสความสนุกสนาน ภายในห้าง Mall of the Emirates
เป็นท่าอากาศยานขนาดใหญ่มากที่ตั้งอยู่ในเขตอัลการ์ฮูดของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในโลกจากการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อของการบินพาณิชย์และการขนส่งข้ามภูมิภาคต่างๆ ของโลก
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย