เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปมาโตเกียว โยโกฮาม่า และจังหวัดใกล้เคียงได้กว่า 35 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว) โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 65 สายการบิน
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชิบะ เป็นสถานที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ
อยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ทำให้มีทัศนียภาพ วิว ทิวทัศน์งดงาม ราวกับภาพวาด ซึ่งจะมองเห็นได้จากสองข้างทาง ขนาบด้วยทะเลสาบอาชิ มองเห็นความใสของน้ำในทะเลสาบ ที่สำคัญมีภูเขาไฟฟูจิ ตระหง่านง้ำอยู่เบื้องหลัง สามารถล่องเรือโจรสลัดเพื่อชมวิวธรรมชาติบนท้องทะเลสาบได้
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชิบะ เป็นสถานที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ
เป็นทะเลสาบที่มีภูมิทัศน์สวยงาม มีลักษณะเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ เป็นทะเลสาบที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงาม อีกทั้งโดยรอบทะเลสาบยังเรียงรายไปด้วยรีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อน เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาตินิยมไปเยือน มีบริการเรือข้ามฝาก เรือชมวิว จุดเด่นที่สำคัญของเรือในทะเลสาบอะชิคือเลียนแบบลักษณะเรือมาจากเรือโจรสลัดของทางตะวันตก
เป็นภูเขาไฟในญี่ปุ่นที่ยังคุกรุ่นอยู่ เกิดขึ้นเมื่อราว 3000 ปีก่อน อันเป็นผลมาจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่ มีช่องลมกำมะถันและน้ำพุร้อนในฮาโกเน่ และมีบ่อน้ำแร่กำมะถันที่สามารถต้มไข่ให้สุกได้ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ไข่ที่ต้มที่นี่จะกลายเป็นสีดำ เชื่อว่ากินไข่ 1 ฟองจะอายุยืน 7 ปี
เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของญี่ปุ่น และแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกมาไว้ด้วยกันที่นี่ บนเชิงภูเขาไฟฟูจิ ริม Tomei Expressway ที่เชื่อมระหว่าง ภูเขาฟูจิ-อุทยานแห่งชาติฮาโกเน่ กับมหานครโตเกียว นับว่าเป็นเอ้าท์เลทที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่ให้คุณช้อปปิ้งได้อย่างไม่รู้จบ และเต็มอิ่มไปกับสุดยอดวิวทิวทัศน์ของภูเขาฟูจิ แค่สถานที่ตั้งก็ดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น รอบๆ ภูเขาเต็มไปด้วยธรรชาติอันงดงาม ภูเขาไฟฟูจิมีอิทธิพลต่อศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ เรียกได้ว่าภูเขาไฟฟูจินี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของความเป็นญี่ปุ่น การเดินทางขึ้นภูเขาไฟฟูจินั้นหากใช้พาหนะจะสามารถขึ้นมาได้ถึงบริเวณชั้น 5 ซึ่งมีความสูงประมาณ 2,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตรงชั้น 5 นี้จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบทั้ง 5 ที่ล้อมภูเขาไฟได้
เป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ให้ศึกษาวิธีรับมือกับแผ่นดินไหว มีสาธิตวิธีเอาตัวรอดและวิธีรับมือ รวมถึงมีร้านของฝากที่ขายของที่ระลึกจากพิพิธภัณฑ์
เป็นเมืองเล็กๆ ติดทะเลที่อยู่ลงไปทางใต้ของกรุงโตเกียว มีสถานที่ท่องเทียวมากมาย ทั้งวัดพุทธไม่ต่ำกว่า 65 แห่ง ศาลเจ้าชินโตอีก 19 แห่ง เพราะคามาคุระเคยเป็นเมืองหลวงเก่านานถึง 141 ปี คามาคุระถูกรุกรานจากโมโกเลียในช่วงราชวงศ์หยวนถึง 2 ครั้งแต่ก็ต้องแพ้กลับไปทั้งสองครั้งจากภัยธรรมชาติใต้ฝุ่น และนั้นก็เป็นที่มาของความศักดิ์สิทธิ์ของพระใหญ่ที่ช่วยปกปักรักษาเมืองแห่งนี้จากการรุกรานของมองโกล
ไดบุทสึ ถ้าแปลตรงๆตัวก็คือ “พระพุทธองค์ใหญ่” เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยคามาคุระ จึงมีชื่อเรียกอื่นๆว่า “คามาคุระ ไดบุทสึ” ประดิษฐานอยู่ภายในวัดโคโตกุ เมืองคามาคุระ จังหวัดคานางาวะ องค์ปัจจุบันนั้นทำจากสำริด ความสูงรวมฐานประมาณ 13.35 เมตร ที่เห็นองค์พระเป็นสีเขียวนั้นเกิดจากโลหะสำริดทำปฏิกิริยากับอากาศที่มีทั้งฝนและหิมะ
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออาหารญี่ปุ่นประเภทราเม็น ซึ่งภายในมีร้านราเม็นมากมาย และยังมีหมู่บ้านญี่ปุ่นที่จำลองมาจากช่วงปี 1958 ซึ่งเป็นปีที่ปีที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นถูกค้นพบขึ้นมา
กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก
เป็นเมืองเล็กๆ ในจัหวัดโทชิกิที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นพื้นที่ของครอบครัวในตระกูลโทกุกาว่า โดยเฉพาะโขกุนอิเอยะสุ โทกุกาว่า ผู้สร้างเมืองเอโดะให้เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ (โตเกียว) มาจนถึงปัจจุบันนี้ อัฐฐิของโชกุนท่านนี้ก็ยังบรรจุที่สุสาน ภายในบริเวณศาลเจ้าโทโชกุที่ยิ่งใหญ่ สวยงามด้วยผลงานศิลปะที่แปลกตา สลับซับซ้อน
เป็นศาลเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพแห่งแสงสว่างของภาคตะวันออก ในตอนแรกนั้นบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับฝั่งศพ ต่อมาจึงก็มีการสร้างอาคารและขนายศาลเจ้าเพิ่มเติมจนมีขนาดใหญ่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน อาคารต่างๆ ของศาลเจ้านั้นมีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม และสร้างอยู่ภายในป่าเขาจึงทำให้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
เป็นสวนสนุกในเมืองนิกโก้ซึ่งสร้างมาเพื่อ นำท่านกลับไปยังยุคสมัยเอโดะ
กรุงโตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น โตเกียวเคยถูกเรียกว่าเอโดะ ซึ่งแปลว่าปากแม่น้ำ เมื่อกลายเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในปี 1868 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่าเมืองหลวงทางตะวันออก
ที่นี่เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดเซนโซ หรือเซนโซจิ แต่นิยมเรียกว่าวัดอาซากุสะเนื่องจากตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะนั่นเอง เป็นวัดในศาสนาพุทธ สัญลักษณ์ของวัดนี้ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ โคมไฟสีแดงขนาดใหญ่
เป็นเกาะถมที่สร้างขึ้นมาจากการถมทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งใจจุดสนใจทางด้านการค้าโดยเฉพาะของสินค้า Electronic และ Modern Culture
ห้างสรรพสินค้าที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาตินาริตะ ภายในตกแต่งในรูปแบบที่ทันสมัยสไตล์ญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่น อาหารสดใหม่ และอุปกรณ์ภายในบ้าน ซึ่งบางร้านไม่ต้องเสียภาษีสินค้าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปมาโตเกียว โยโกฮาม่า และจังหวัดใกล้เคียงได้กว่า 35 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว) โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 65 สายการบิน
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี