เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตชูบูของญี่ปุ่น ชื่อเมืองนั้นคาดเดาว่าจะผันมาจากคำว่า นาโกยากะซึ่งแปลว่าสงบสุข
ร้านซันชู หรือ Hamonoyasan สถานที่ที่ผลิตมีดได้คมสุด ๆ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการตีดาบญี่ปุ่นอย่างดาบเซกิ สำหรับที่ร้านซันชูนี้มีเครื่องใช้ของมีคมต่าง ๆ มากมายกว่า 3,000 ชิ้น
อิไอ คือ หนึ่งในศิลปะดาบญี่ปุ่นชนิดหนึ่งซึ่งยังคงมีให้ได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ลักษณะของอิไอ หรือ บางที่เรียกว่า “อิไอโด” ไม่ใช่การชักดาบปะทะกันอย่างดุเดือดกับคู่ต่อสู่เหมือนอย่างการฟันดาบไม้ “เคนโด้” อิไอ คือ ศิลปะการชักดาบและการเก็บดาบเข้าฝักในท่านั่งอย่างมีแบบแผนซึ่งเป็นศิลปะที่ไม่รุนแรงจึงทำให้สามารถเรียนรู้ได้ไม่จำกัดเพศและวัย
หมู่บ้านชิราคาวาโกะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม หมู่บ้านแห่งนี้ใช้โครงสร้างที่เรียกว่า กัสโช ซึ่งแปลว่าสร้างแบบพนมมือ ด้านหน้าทำเป็นหน้าจั่วแบบบ้านทรงไทย มีการเจาะช่องหน้าต่างเพื่อรับแสงสว่างจากภายนอก เมื่อมองจากภายนอกจึงดูมีสัดส่วนสวยงาม
ใช้เป็นทั้งที่ทำงาน และที่อยู่อาศัยของผู้ว่าราชการจังหวัดฮิดะมาเป็นเวลากว่า 176 ปี ภายใต้การปกครองของโชกุนโตกุกาว่า ในสมัยเอะโดะ หรือกว่า 300 ปีที่แล้ว เป็นที่ทำการรัฐในยุคเอะโดะเพียงแห่งเดียวที่ข้ามพ้นยุคสมัยมาได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งภายในนี้ประกอบด้วยบริเวณไต่สวนพิจารณาคดี ห้องขังนักโทษ โรงครัว และห้องพักของเจ้าหน้าที่
เป็นเมืองเก่าสมัยเอโดะ ที่มีอายุกว่า 300 ปี แต่ยังคงอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ ทั้งวัดวาอาราม ศาลเจ้า บ้านแบบดั้งเดิมของชาวนาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
สะพานนาคาบาชิ ที่มีสีแดงเด่น พาดผ่านแม่น้ำมิยากาว่า รวมทั้งยังมี “ซากุระสีชมพู” ขนานกับแนวแม่น้ำแห่งนี้อีกด้วย (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ซึ่งเป็นจุดยอดนิยมของการเก็บภาพประทับใจ สะพานแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองทาคายาม่า และเป็นเส้นทางในการจัดเทศกาลทาคายาม่ามัตสุริ(Takayama Matsuri)อีกด้วย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิรอบๆสะพานจะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่ง
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางจังหวัดกิฟุ ตอนบนของกระแสน้ำนะกะระ หนึ่งใน 3 ธารน้ำบริสุทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีการทำอาหารจำลอง คือ สิ่งที่ทำเลียนแบบหน้าตาอาหารขึ้นมาให้เหมือนจริง โดยเรามักจะพบบ่อยๆบริเวณหน้าร้านอาหารญี่ปุ่น ในตอนนี้ที่เมืองกุโจฮะจิมังนั้นการทำอาหารจำลองกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เป็นเมืองที่มีชือเสียงเรื่องความงามพิสุทธิ์ของสายน้ำใส เมื่อเดินชมเมืองที่ให้บรรยากาศย้อนยุคสู่สมัยเอโดะ
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและชื่อนั้นได้มาจากเมืองฉางอานของจีน
หรือที่เรียกว่าวัดทอง เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเกียวโต วัดนี้เคยเป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ผู้ที่ชอบทายปุจฉา – วิสัชนา กับอิกคิวซังในการ์ตูน บรรยากาศภายในวัดจะเป็นการจัดสวนแบบเซน มีการจัดให้ ปราสาททองคำอยู่ตรงกลางสระน้ำ ภาพสะท้อนปราสาททองคำที่อยู่ในสระน้ำ ทำให้ปราสาทดูสวยงามและมีความขลังมากขึ้น
หรือศาลเจ้าจิ้งจอกขาว เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าชื่อดังที่นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันดี เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต สร้างขึ้นเพื่อถวายให้แด่เทพอินาริ เทพเจ้าแห่งกสิกรรม เพื่อให้พื้นที่บริเวณนี้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ ปลูกข้าวได้ ผลผลิตดีมีคุณภาพ สิ่งที่น่าสนใจนอกจากจะมาสักการะเทพเจ้าแล้ว ก็คือการเดินเล่นลอดอุโมงค์เสาโทริอิกว่าหมื่นต้นที่เรียงต่อทอดยาวจากด้านล่างขึ้นไปบนยอดเขาสูงถึง 233 เมตร ระยะทางราว 4 กิโลเมตร
เป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของโอซาก้า ตั้งอยู่ที่เมืองริงกุ ตรงข้ามกับท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โดยออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกับเมืองท่าของสหรัฐอเมริกา และมีบรรยากาศแบบรีสอร์ท ภายในแม้จะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ซึ่งรวมสินค้านำเข้าและสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นมากมาย
เมืองนารา เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโอซาก้า มีกวางเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนารา เนื่องจากชาวนารามีความเชื่อว่ากวางเป็นสัตว์รับใช้เทพเจ้า ปัจจุบันเมืองนารามีกวางเดินอยู่อย่างอิสระทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้า วัด หรือตามท้องถนนก็ตาม
เป็นวัดหลวงพ่อโตไดบุทสึแห่งเมืองนาราที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งยังมีความสำคัญทางศาสนาของญี่ปุ่น นอกจากนี้ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศ มีจุดเด่นคือตัวอาคารหลักของวัดเป็นอาคารไม้ที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นสวนที่ตั้งอยู่ในเมืองนาราตรงบริเวณตีนเขาวาคาคูสะ โดยอยู่ใกล้ๆ กับวัดโทไดจิ สวนนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1880 โดยเป็นสวนที่มีกวางเดินเล่นอย่างอิสระ ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดสนใจของสถานที่นี้
เป็นเมืองใหญ่อันดับสามของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมทะเล ที่นี่ถือว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรก ทั้งยังเป็นเมืองท่า และศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ
เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง
ให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งสินค้าราคาถูก หลากหลายรายการ อาทิ เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ เครื่องสำอาง เครื่องไฟฟ้า และใกล้ๆกันท่านสามารถเดินทางไปย่านชินไชบาชิได้ ให้ท่านได้อิสระช้อปปิ้งสินค้าที่แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมที่สุดของโอซาก้าที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายทั้งแบรนด์เนม ของมือสอง ร้านอาหารชื่อดังมากมายหลากหลายชนิดและไม่ควรพลาดช้อปปิ้ง
เป็นย่านดาวน์ทาวน์ขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของวัยรุ่น และเหล่านักกิน สัญลักษณ์อันโดดเด่น ก็คือ ร้านค้าที่มีปูยักษ์บนหลังคา และป้ายไฟโฆษณาริมคลองของกูลิโกะ
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
ร้านดองกี้โฮเต้ หรือที่หลายๆคนเรียกกันว่า “ร้านดองกี้” มีสาขาอยู่ทั่วไปตามย่านสำคัญ และเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น เฉพาะในโตเกียวมีอยู่ทั้งหมด 35 สาขาเลยทีเดียว ทั้งในย่าน Shinjuku Ueno Asakusa Ginza Roppongi Shibuya Ikebukuro และอื่นๆ ส่วนในโอซาก้าที่เห็นได้ง่ายที่สุด คือ ย่าน Namba ตรงชิงช้าวงรีสีเหลืองริมคลองโดทม (Dotombori)
ย่านชินเซไก(Shinsekai) ที่แปลว่า “โลกใหม่” ของโอซาก้า มีหอคอยซึเทนคาคุ(Tsutenkaku)ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของย่านชินเซไกนี้ตั้งอยู่ตรงกลาง บริเวณนี้ได้มีการจัดนิทรรศการขึ้นโดย National Industrial Exposition ในปี 1903 และสามารถดึงดูดคนให้มายังย่านนี้ได้มากกว่า 5 ล้านคน ภายในระยะเวลา 5 เดือน ภายหลังจากหมดงานเทศกาลลงย่านนี้ก็ได้ถูกพัฒนาต่อไปอีกด้วยการสร้างหอคอย สวนสาธารณะ โรงหนัง และสวนสนุก
เป็นจุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยงามที่สุด เคยได้ลงสื่อของ อิงค์ลิชไทม์ ในปี 2008 ว่าเป็น “หนึ่งใน 20 อาคารชั้นนำของโลก” ได้รับการแนะนำว่าเทียบเท่ากับวิหารพาร์เธนอนแห่งเอเธนส์ และ โอเปราเฮ้าส์แห่ซิดนีย์ ตึกแฝด สูง 40 ชั้น สูง 173 เมตร บนดาดฟ้าเป็นจุดชมวิว เรียกว่า “Floating Garden Observatory” เป็นทางเดินเปิดโล่งวนรอบ สามารถมองเห็น โอซาก้าได้ 360 องศา
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นศูนย์บันเทิงครบวงจรโดยรวมสวนสนุก,พิพิธภัณฑ์,ห้างสรรพสินค้า,ศูนย์เรียนรู้,ร้านอาหารนานาชาติ รวมกันไว้ที่เดียว ที่นี่จึงเป็นแหล่งเที่ยว,กิน,ช็อปปิ้งและเรียนรู้ขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เอ็กซ์โปซิตี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo เมื่อปี 1970 หลังจากนั้นพื้นที่จัดงานได้ถูกเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่ส่วนหนึ่งกว่า 170,000 ตารางเมตรได้ถูกเปลี่ยนเป็นศูนย์บันเทิงครบวงจรแห่งใหม่ในชื่อว่า EXPOCITY ที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในพื้นที่แบบ "วันเดียวเดินไม่ทั่ว ครั้งเดียวเที่ยวไม่เต็มอิ่ม"
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี