เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจุดเชื่อมต่อของการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ สามารถรองรับผู้โดยสารที่เดินทางไปมาโตเกียว โยโกฮาม่า และจังหวัดใกล้เคียงได้กว่า 35 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่รองรับเที่ยวบินสำหรับผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น (รองจากสนามบินฮาเนดะ โตเกียว) โดยสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศได้กว่า 65 สายการบิน
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่ออาหารญี่ปุ่นประเภทราเม็น ซึ่งภายในมีร้านราเม็นมากมาย และยังมีหมู่บ้านญี่ปุ่นที่จำลองมาจากช่วงปี 1958 ซึ่งเป็นปีที่ปีที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นถูกค้นพบขึ้นมา
เป็นเมืองเล็กๆ ติดทะเลที่อยู่ลงไปทางใต้ของกรุงโตเกียว มีสถานที่ท่องเทียวมากมาย ทั้งวัดพุทธไม่ต่ำกว่า 65 แห่ง ศาลเจ้าชินโตอีก 19 แห่ง เพราะคามาคุระเคยเป็นเมืองหลวงเก่านานถึง 141 ปี คามาคุระถูกรุกรานจากโมโกเลียในช่วงราชวงศ์หยวนถึง 2 ครั้งแต่ก็ต้องแพ้กลับไปทั้งสองครั้งจากภัยธรรมชาติใต้ฝุ่น และนั้นก็เป็นที่มาของความศักดิ์สิทธิ์ของพระใหญ่ที่ช่วยปกปักรักษาเมืองแห่งนี้จากการรุกรานของมองโกล
มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดเซนโซ หรือเซนโซจิ แต่นิยมเรียกว่าวัดอาซากุสะเนื่องจากตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะนั่นเอง เป็นวัดในศาสนาพุทธ สัญลักษณ์ของวัดนี้ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันก็คือ โคมไฟสีแดงขนาดใหญ่
ไดบุทสึ ถ้าแปลตรงๆตัวก็คือ “พระพุทธองค์ใหญ่” เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในสมัยคามาคุระ จึงมีชื่อเรียกอื่นๆว่า “คามาคุระ ไดบุทสึ” ประดิษฐานอยู่ภายในวัดโคโตกุ เมืองคามาคุระ จังหวัดคานางาวะ องค์ปัจจุบันนั้นทำจากสำริด ความสูงรวมฐานประมาณ 13.35 เมตร ที่เห็นองค์พระเป็นสีเขียวนั้นเกิดจากโลหะสำริดทำปฏิกิริยากับอากาศที่มีทั้งฝนและหิมะ
เป็นถนนคนเดินที่อยู่ติดกับวัดอาซากุสะ วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ถนนเส้นนี้มีร้านค้ามากมายตลอดความยาวทั้ง 250 เมตร ไม่นับร้านค้าที่อยู่ในซอยแยกย่อยไปอีก ทำให้ตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาหาซื้อของฝากอย่างไม่ขาดสาย
ที่นี่เป็นแหล่งบันเทิงและแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ เป็นศูนย์รวมแฟชั่นเก๋ๆ เท่ห์ๆ ของเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้า มีสถานีรถไฟชินจูกุที่เป็นเหมือนศูนย์กลางของย่านนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น เป็นย่านที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า, ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่าง Big Camera และย่านบันเทิงยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น รอบๆ ภูเขาเต็มไปด้วยธรรชาติอันงดงาม ภูเขาไฟฟูจิมีอิทธิพลต่อศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ เรียกได้ว่าภูเขาไฟฟูจินี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของความเป็นญี่ปุ่น การเดินทางขึ้นภูเขาไฟฟูจินั้นหากใช้พาหนะจะสามารถขึ้นมาได้ถึงบริเวณชั้น 5 ซึ่งมีความสูงประมาณ 2,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตรงชั้น 5 นี้จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลสาบทั้ง 5 ที่ล้อมภูเขาไฟได้
เป็นพิพิธภัณฑ์และสถานที่ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ให้ศึกษาวิธีรับมือกับแผ่นดินไหว มีสาธิตวิธีเอาตัวรอดและวิธีรับมือ รวมถึงมีร้านของฝากที่ขายของที่ระลึกจากพิพิธภัณฑ์
เป็นภูเขาไฟในญี่ปุ่นที่ยังคุกรุ่นอยู่ เกิดขึ้นเมื่อราว 3000 ปีก่อน อันเป็นผลมาจากการระเบิดของภูเขาไฟฮาโกเน่ มีช่องลมกำมะถันและน้ำพุร้อนในฮาโกเน่ และมีบ่อน้ำแร่กำมะถันที่สามารถต้มไข่ให้สุกได้ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ไข่ที่ต้มที่นี่จะกลายเป็นสีดำ เชื่อว่ากินไข่ 1 ฟองจะอายุยืน 7 ปี
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
งานเทศกาลชิบะซากุระแห่งภูเขาฟูจิ จัดขึ้นในช่วงเดือนเมษายนถึงต้นเดือนมิถุนายนของทุกปี ชิบะซากุระในงานจะมีอยู่หลายสายพันธ์ุ ซึ่งแต่ละสายพันธ์ุจะมีรูปร่างและสีสันที่แตกต่างกัน เมื่อนำมาจัดแต่งเป็นสวนชิบะซากุระขนาดใหญ่ จะเห็นเป็นทุ่งดอกไม้สีแดง สีชมพู สีม่วง และสีขาวละลานตาสลับกันไปอย่างงดงาม และถ้าในวันที่อากาศแจ่มใสอาจจะได้เห็นฟูจิซังเผยโฉมอวดความงามแข่งกับเจ้าชิบะซากุระอีกด้วย
เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาไหลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นอู่น้ำที่สำคัญในการผลิตปลาไหลสู่ตลาดประเทศ เนื่องจากชาวญี่ปุ่นชอบทานปลาไหลมาก
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตชูบูของญี่ปุ่น ชื่อเมืองนั้นคาดเดาว่าจะผันมาจากคำว่า นาโกยากะซึ่งแปลว่าสงบสุข
เป็นแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ของเมืองนาโกย่า ที่มีของให้เลือกซื้อแบบครบครัน
เป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นและชื่อนั้นได้มาจากเมืองฉางอานของจีน
หรือที่เรียกว่าวัดทอง เป็นวัดเก่าแก่ของเมืองเกียวโต วัดนี้เคยเป็นที่พำนักของโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ผู้ที่ชอบทายปุจฉา – วิสัชนา กับอิกคิวซังในการ์ตูน บรรยากาศภายในวัดจะเป็นการจัดสวนแบบเซน มีการจัดให้ ปราสาททองคำอยู่ตรงกลางสระน้ำ ภาพสะท้อนปราสาททองคำที่อยู่ในสระน้ำ ทำให้ปราสาทดูสวยงามและมีความขลังมากขึ้น
เรียกอีกอย่างว่า โอซากาโจ้ เป็นปราสาทที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นแทนที่วัดอิชิยาม่า ฮอนกันจิ ชั้นบนสุด สามารถชมวิวเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง
เป็นย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ย่านดังที่เป็นสวรรค์ของนักช้อป นักกิน ถนนสายทอดยาวกว่า 600 เมตร สองข้างทางเรียงรายด้วยสินค้าหลากหลาย ของใช้ ของกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ
เป็นท่าอากาศยานหลักของโอซาก้า ท่าอากาศยานแห่งนี้ตั้งห่างจากตัวเมืองโอซาก้าประมาณ 50 กิโลเมตร เปิดใช้บริการเมื่อปี 1994 มี 2 เทอมินอล โดย เทอมินอล 1 จะเป็นสายการบินธรรมดา ส่วนเทอมินอล 2 จะเป็นสายการบินโลว์คอสต์
เป็นจุดศูนย์กลางทางการบินในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สามารถเชื่อมโยงการคมนาคมทางอากาศไปยังจุดต่างๆ ของโลกได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการบินภายในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือระหว่างทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ทวีปออสเตรเลีย ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดแวะลงและเชื่อมต่อในการเดินทางของผู้โดยสารตลอดจนพัสดุไปรษณียภัณฑ์ไปยังจุดอื่นๆ ได้อย่างดี