เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักขอเมืองฟุกุโอกะและภูมิภาคคิวชู ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารมากเป็นอันดับสี่ในญี่ปุ่น ท่าอากาศยานนี้มีทางเชื่อมต่อกับเมืองโดยรถไฟใต้ดินเมืองฟูกูโอกะและรถไฟใต้ดินจากท่าอากาศยานไปยังย่านธุรกิจ
ที่นี่ตั้งอยู่ติดกับช่องแคบคันม่อน มีทั้งหมด 4 ชั้น มีการรวบรวมปลาปักเป้ากว่า 100 ชนิดจากทั่วโลก ซึ่งแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่อื่นๆ เนื่องจากเมืองชิโมโนเซกินั้นเป็นแหล่งเพาะ พันธุ์ปลาปักเป้า นอกจากนี้ยังมีโซนสัตว์น้ำอื่นๆที่หลากหลาย จุดที่น่าสนใจมากอีกจุดหนึ่งคือ ตู้กระแสน้ำจากช่องแคบคันม่อน ซึ่งเป็นตู้แรกในโลกที่มีกระแสน้ำไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา ในส่วนของอุโมงค์ใต้น้ำ ก็จะได้เห็นเพนกวินที่น่ารักว่ายน้ำอยู่ได้อย่างชัดเจน ชั้นสองจะพบกับโลมาแสนรู้ ที่โชว์พ่นฟองอากาศเป็นวงๆ และมีการจัดแสดงโชว์ความน่ารักของโลมา และแมวน้ำอีกด้วย
เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตลาดฟุกุ ( = ปลาปักเป้า เนื่องจากเมืองนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองของปลาปักเป้า ) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น "ครัวของชิโมะโนะเซกิ" เป็นตลาดขายส่งท้องถิ่นที่ดำเนินรูปแบบการขายที่ไม่ค่อยพบเห็นในที่อื่นของประเทศ ในวันศุกร์-วันเสาร์ (10:00-15:00) วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (8:00-15:00 น.) จะมีการจัด "อิคิอิคิบะคังไก" ซึ่งจะมีการออกร้านแผงลอยมีอาหารทะเลสดใหม่ให้เลือกซื้อเลือกชิมไม่ว่าจะเป็น ซูชิ ซาซิมิ หรืออาหารแบบปรุงสุกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชิมได้เลย
ศาลแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องเสาโทริอิสีแดง และยังเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีกล่องรับเงินบริจาคสุดท้าทายให้คุณโยนเหรียญทำบุญอีกด้วยศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประทับของดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ที่แยกออกจากศาลเจ้า Taikodani Inari ในจังหวัดชิมาเนะ เมื่อประมาณ 60 ปีก่อน เล่ากันว่าเทพเจ้าแปลงกายเป็นสุนัขจิ้งจอกสีขาวไปปรากฏกายในฝันของชาวประมงคนหนึ่งเพื่อบอกให้ตั้งศาลเจ้าในพื้นที่นี้ จุดที่โดดเด่นน่าประทับใจที่สุดของศาลเจ้าแห่งนี้เห็นจะเป็นเสาโทริอิ 123 ต้นที่ตั้งเรียงรายเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร (328 ฟุต) นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมเดินใต้เสาโทริอิที่ทอดยาวคล้ายอุโมงค์พลางอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น ขอให้ประกอบธุรกิจสำเร็จ ขอให้เดินทางปลอดภัย เป็นต้น ว่ากันว่าเทพเจ้าสามารถช่วยให้คำขอต่างๆ เป็นจริงได้ซึ่งรวมไปถึงการขอให้พบเนื้อคู่ และการมีบุตร
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นถ้ำหินปูนที่ความยาวประมาณ 9 กิโลเมตร แต่จะเปิดให้เข้าชมเพียงแค่ 1 กิโลเมตรแรกเท่านั้น ภายในถ้ำนั้นจะมีหินปูน หินงอก หินย้อยในรูปทรงประหลาดแล้วแต่ธรรมชาติจะรังสรรค์ออกมาให้ได้ชมและยังมีสัตว์หลายชนิดอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งอุณหภูมิในถ้ำนี้จะอยู่ที่ 17 °c ตลอดปี อีกทั้งยังมีแสงสว่างที่เพียงพอที่จะทำให้เดินชมภายในถ้ำได้อย่างสะดวกสบาย
เป็นวัดของศาสนาพุทธในเมืองยามากูจิและเป็นสมบัติของชาติที่รู้จักกันดี คือ เจดีย์ห้าชั้น ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1442 นับเป็นเจดีย์ที่ติดอันดับ 1 ใน 3 เจดีย์ที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น (เจดีย์อีก 2 แห่งตั้งอยู่ที่ วัดโฮริวจิ ใกล้นารา และ วัดไดโกจิ ในเกียวโต บริเวณวัดรูริโคจิเป็นที่ตั้งของสวนโกซัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารอื่นๆเช่น ห้องโถงใหญ่ โกดัง หอระฆัง และพิพิธภัณฑ์ ขนาดเล็กที่จัดแสดงโมเดลของเจดีย์ห้าชั้นและ เจดีย์อื่นๆอีก 50 แห่งทั่วญี่ปุ่น และในสวนโกซันยังมีพื้นที่สุสานฝังศพของสมาชิกบางส่วนในครอบครัวโมริผู้ปกครองภูมิภาคในช่วงสมัยเอโดะ (1603-1867) ทางเดินไปยังสุสานปูด้วยหินสะท้อนเสียง มีลักษณพิเศษคือ เมื่อเท้าเหยียบลงบนหิน หรือปรบมือ ก็จะได้ยินเสียงสะท้อนกลับ โดยตั้งชื่อตามผู้สร้างคือ ทางเท้ายูกุอิซูบาริ
เป็นพื้นที่รวมบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ แต่ละจุดประกอบด้วยแร่ธาตุที่เข้มข้นแตกต่างกันไป เช่น กำมะถัน แร่เหล็ก โซเดียม คาร์บอเนต เรเดียม เป็นต้น และมีความร้อนเกินที่จะลงอาบได้ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเมื่อต้องมาเยือนเปบบุ
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
เป็นหมู่บ้านจำลองสไตล์ยุโรป มีกลิ่นอายยุโรปโบราณ บ้านอิฐที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ถือเป็นไฮไลท์หนึ่งประจำเมืองยูฟุอิน เหมาะแก่การเดินเล่นและถ่ายรูป ภายในบริเวณประกอบด้วยร้านอาหาร ร้ายขายของที่ระลึก งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ของเล่น ของสะสมทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ
เป็นศาลเจ้านิกายชินโต ประจำตระกูลนาเบะชิมะ ผู้ปกครองเมืองซากะ ในสมัยเอโดะ เป็นศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับ 3 ด้านบนของตัวศาลเจ้า ก็เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ ยามที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง และช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง ส่วนหน้าศาลเจ้าก็ยังมีสะพานสีแดงคู่กับแม่น้ำสายเล็กๆเป็นจุดถ่ายภาพที่สวยงามเลยทีเดียว ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประทับของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ที่ประชาชนต่างนิยมไปสักการะขอพรเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยว ความสำเร็จด้านธุรกิจ และความปลอดภัย
ซึ่งตั้งอยู่ที่ความสูง 333 เมตร มองเห็นเมืองนางาซากิทั้งเมือง โดยเฉพาะทิวทัศน์บริเวณท่าเรือและอ่าวนางาซากิบ้านเรือนตั้งเรียงรายลดหลั่นกันไปบนภูมิประเทศซึ่งเป็นภูเขา
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวมอดีตมากมายของเมืองนางาซากิไว้ ทั้งก่อนและหลังโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องราวการฟื้นฟูเมือง และอื่นๆอีกมากมาย
เป็นสวนสันติภาพที่สร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงโศกนาฏกรรมของเมืองในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในสวนสาธารณะนี้มีรูปปั้นมากมายที่สื่อความหมายอันโศกเศร้า
เป็นศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเกาะคิวชู เพราะเป็นที่ตั้งของหลุมศพของนักปราชญ์ชื่อดังของญี่ปุ่น ดังเรื่องการขอพรทางด้านวิชาการ ด้านการศึกษา ที่นี่มักจะมีนักเรียนนิยมมาขอพรเรื่องการสอบเข้าศึกษาต่อ
เป็นย่านที่เรียกว่าเป็นหัวใจของเมืองฟูกุโอกะหรือเกาะคิวชูเลยก็ได้ เรียกว่าเป็น downtown area ของเมืองฟูกุโอกะ โดยในบริเวณนี้จะมีร้านรวง ถนนคนเดิน และห้างใหญ่ๆ มารวมตัวกันอยู่มากมาย มีสินค้าให้เลือกซื้อหลากหลายชนิด ตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า แบรนเนมด์ หนังสือ เครื่องสำอางค์ต่างๆ รวมไปถึงร้านอาหารอีกมากมาย
เป็นท่าอากาศยานหลักขอเมืองฟุกุโอกะและภูมิภาคคิวชู ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่มีผู้โดยสารมากเป็นอันดับสี่ในญี่ปุ่น ท่าอากาศยานนี้มีทางเชื่อมต่อกับเมืองโดยรถไฟใต้ดินเมืองฟูกูโอกะและรถไฟใต้ดินจากท่าอากาศยานไปยังย่านธุรกิจ
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย