เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เมืองเอกบนฮอกไกโดซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของญี่ปุ่น แม้ในเมืองซัปโปโรจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายนักแต่ในฤดูหนาวที่นี่จะมีการจัดเทศกาลน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นโดยทุกๆปีจะมีนักแกะสลักน้ำแข็งฝีมือดีจากทั่วโลกเดินทางมาแสดงฝีไม้ลายมือให้ได้เห็นกัน
เป็นโซนๆ หนึ่งที่ตั้งอยู่ในสนามบินชิโตเซะ ด้านในมีร้านขนม ร้านของฝาก ร้านหนังสือ เป็นเมืองจำลองของโดราเอม่อนและเหล่าผองเพื่อน ราวกับไปอยู่ในโลกของโดราเอม่อนจริงๆ มี 2 โซน ทั้งโซนที่เข้าฟรี และเสียตังค์
เป็นกระเช้าที่พาขึ้นจากพื้นเบื้องล่าง สู่ยอดเขาเท็งกุซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองโอตารุ ด้วยเวลาประมาณ 5 นาที จากบนกระเช้าจะได้เห็นวิวของเมืองโอตารุและทะเลญี่ปปุ่นที่สวยงาม ที่นี่ยังถูกจัดว่าเป็น 3 ทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของฮอกไกโดอีกด้วย
เป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของฮอกไกโด ที่นี่เป็นแหล่งวัตถุดิบทางทะเลที่มีคุณภาพแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากได้มาเยือนฮอกไกโด
คลองโอตารุขนาบข้างด้วยโกดังเก่าที่ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์และร้านค้า น้ำในคลองใสสะอาดสะท้อนภาพทิวทัศน์อาคารและในยามอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าก็จะสะท้อนภาพออกมาเป็นเงาที่ดูแล้วรู้สึกถึงความโรแมนติก
เป็นนาฬิกาไอน้ำโบราณสไตล์อังกฤษที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น โดยนาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำ และมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที
เป็นแหล่งรวบรวมกล่องดนตรีสารพัดรุปแบบ หลากหลายสไตล์ ลักษณะเป็นอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น ภายนอกถูกสร้างขึ้นจากอิฐแดง และโครงสร้างภายในทำด้วยไม้ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวยุโรปที่เข้ามาตั้งรกรากที่นี่ในสมัยก่อน จนในปัจจุบันกลายมาเป็นแหล่งผลิตกล่องดนตรีที่มีอายุร้อยกว่าปีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้
เป็นถนนค้าขายที่ได้รับการอนุรักษ์ ตั้งอยู่กลางเมืองโอตารุ ไม่ไกลจากคลองโอตารุ ปัจจุบันได้รับการดัดแปลงเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า และพิพิธภัณฑ์ต่างๆ มากมาย
เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท สูง 733 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในรอบร้อยปีที่ผ่านมาเกิดการปะทุขึ้น 4 ครั้ง คือปี 1910,1944-45, 1977 และ 2000 ซึ่งทำให้เถ้าถ่านจำนวนมากพุ่งออกมาเป็นระยะทางไกลทำลายอาคารต่างๆในพื้นที่บางสวนของเมืองโทยะโกะออนเซน และเนื่องจากมีการเฝ้าระวังติดตามและใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ทำให้คาดการณ์การปะทุของภูเขาไฟได้ล่วงหน้า เพื่อให้ผู้คนอพยพออกจากเมืองได้ทัน ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดหากได้มาเยือนฮอกไกโด
เป็นฟาร์มอนุรักษ์หมีสีน้ำตาล ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาอุสุซานตรงสถานีกระเช้า ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากในเกาะฮอกไกโด ภายในฟาร์มมีหมีมากกว่า 100 ตัว อายุตั้งแต่อายุหนึ่งขวบจนถึงสามสิบปี นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารหมีได้อย่างใกล้ชิด และสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงแสนน่ารักของเจ้าหมีสีน้ำตาลแสนรู้ที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี
เป็นหมู่บ้านจำลองวิถีชีวิตของชาวเอโดะในสมัยโบราณ ภายในหมู่บ้านมีทั้งหอสังเกตการณ์ โรงละคร วัด ร้านค้า หมู่บ้านนินจา หมู่บ้านซามูไร และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสามารถสัมผัสบรรยากาศได้เหมือนอยู่ในหนังญี่ปุ่นโบราณเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีคนแต่งตัวเป็นพ่อค้า ซามูไร นินจา เดินไปมา และสามารถชมการแสดงวัฒนธรรมแบบชาวเอโดะอีกด้วย
เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องความอร่อย หวาน เนื้อแน่น ให้ท่านได้ลื้มลอง
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
ที่นี่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หุบเขานรก” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Shikotsu-Toya เมือง Noboribetsu ที่เรียกว่าหุบเขานรกนั้นเพราะที่นี่มีทั้งบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนที่เดือดตามธรรมชาติกระจายไปทั่วบริเวณเสมือนนรกที่มีกระทะทองแดงที่มีควันร้อนๆอยู่ตลอดเวลา และถือเป็นแหล่งกำเนิดน้ำแร่และออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดบนเกาะฮอกไกโด
เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในเมืองโนโบริเบทสึ ตั้งอยู่ห่างจากสถานี Noboribetsu Station ประมาณ 300 เมตร ที่นี่มีลักษณะภายนอกเป็นธีมพาร์คในปราสาทโบราณสไตล์ยุโรป ภายในมีสัตว์ทะเลหายากหลายชนิด โดยเฉพาะปลาฉลามนักล่าแห่งท้องทะเล นอกจากนี้ยังมีฝูงปลาซาร์ดีนกว่า 10,000 ตัว และแมงกระพรุนจำนวนมากแหวกว่ายอยู่ในแท้งก์น้ำขนาดใหญ่ชื่อว่า คริสตัลทาวเวอร์ ที่มีความสูงถึง 8 เมตร นอกจากนี้ยังมีโชว์ปลาโลมา แมวน้ำ และพาเหรดเพนกวินที่เรียกเสียงปรบมือและรอยยิ้มของผู้เข้าชมได้มากเป็นพิเศษ
เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์แบบชนบทที่งดงาม ซึ่งในเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ และในช่วงฤดูหนาวเมืองแห่งนี้จะเปลี่ยนเป็นที่นิยมสำหรับเล่นสกีเนื่องจากเป็นอีกเมืองที่มีหิมะลงพอสมควร
ชมกระบวนการผลิตตลอดจน ลองลิ้มชิมรสชาติของชีสคุณภาพชนิดต่างๆ รวมถึงชีสสีดำ(Black Cheese) ที่ผลิตจากหมึกของปลาหมึก และใกล้ๆ กับโรงงานผลิต ชีสเมืองฟูราโนยังมีส่วนผลิตไอศกรีม และพิซซ่า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถทดลองทำเนย ไอศกรีม ขนมปัง และชีส ได้ด้วยตัวเองอีกด้วย โรงงานผลิตชีส เมืองฟุราโน่ เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตชีสคุณภาพชั้นยอดของฮอกไกโด ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตลอดจนลองลิ้มชิมรสชาติของชีสคุณภาพชนิดต่างๆ กันถึงโรงงานผลิตรวมถึงชีสสีดำ (Black Cheese) ที่ผลิตจากหมึกของปลาหมึก
เป็นหมู่บ้านหัตถกรรมกลางป่าใหญ่ และเป็นแหล่งช้อปปิ้งน่ารักๆ ที่ขายเฉพาะสินค้าหัตถกรรม กระท่อมแต่ละหลังจะขาย ของทำมือที่แตกต่างกันไป เช่นบ้านภาพเขียน บ้านเครื่องแก้ว บ้านแกะสลักไม้ เหมาะกับการถ่ายรูป เดินพักผ่อน
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
การแช่น้ำแร่ ธรรมชาติของทางโรงแรม ซึ่งสามารถรักษาโรคเหน็บชา โรคกระดูก ฯลฯ ให้ท่านอิสระกับกิจกรรมการอาบน้ำแร่ภายในสระรวม ซึ่งจะแยกสระชายและหญิง การแช่น้ำแร่สระรวม ส่วนมากเขาไม่ใส่เสื้อผ้ากันนะคะ
อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ บนลานสกี ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับหิมะอันขาวโพลน ให้ท่านได้สนุกสนานกับกระดานเลื่อน ที่ไหลลงมาจากเนินเขาหิมะ หรือท่านใดสนใจจะลองเล่นสกี ก็สามารถเช่าชุดและอุปกรณ์ได้ อิสระตามอัธยาศัย
เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบ outlet mall ขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ภายในห้างมีร้านค้าแบรนด์ต่างๆกว่า 128 ร้าน รวมถึงร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์อาหารขนาดใหญ่จุ 650 ที่นั่ง และร้านจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและสินค้าจากฟาร์มท้องถิ่นประจำฮอกไกโด
เป็นอาคารสีแดงอิฐ สร้างในปี 1888 นับเป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่น เรียงรายด้วยต้นซากุระ และต้นแปะก๊วย อาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นสมัยบุกเบิกเกาะฮอกไกโด ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องทำงานต่างๆ และหอสมุดเก็บบันทึกทางราชการ
ศาลเจ้าฮอกไกโด เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าโยฮะชิระผู้พิทักษ์ฮอกไกโดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนนี้จึงมีผู้ศรัทธาไปมนัสการมากตลอดปี จากศาลเจ้ามีพื้นที่เชื่อมต่อกับสวนมารุยามะ ในฤดูใบไม้ผลิเหมาะแก่การชมดอกซากุระบาน
เป็นโรงงานสุดน่ารักที่มีธีมพาร์คสไตล์ยุโรปอยู่ข้างหน้า ที่นี่ประกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และก็โรงงานช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของฮอกไกโด โดยอาคารร้านขายของจะถูกตกแต่งให้มีลักษณะคล้ายๆ กับสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าไปชมอุปกรณ์การผลิตยุคแรกเริ่ม แบบจำลองของโรงงาน สายการผลิตเป็นลำดับ และขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งชิมและเลือกซื้อช็อกโกแลตหรือไอศครีมแบบต่างๆ ซึ่งผลิตจากนมสดของเกาะฮอกไกโด
เมนูพิเศษวาไรตี้บุฟเฟ่ต์ พร้อมปูยักษ์ ที่มีรสชาติอร่อยที่สุดให้ทุกท่านได้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น
แหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิก เหมาะสำหรับจับจ่ายซื้อหาของฝากจากฮอกไกโด เป็นชุมชนร้านค้าประมาณ 200 ร้านทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตรตลอดทิศตะวันออกและตะวันตกของใจกลางเมืองซัปโปโร เชื่อมต่อกันด้วยหลังคาโครงสร้างที่รองรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่เขตนิชิ 1 โจเมะจนถึงนิชิ 7 โจเมะ จึงสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลถึงฝนหรือหิมะ แสงแดด
ท่าอากาศยานชิโตเสะ เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของภูมิภาคฮอกไกโด ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโร ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด และเป็นท่าอากาศยานที่มีคนใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย