ศาลเจ้าชื่อดังแห่งโตเกียว ที่หนุ่มสาวนิยมมาขอพรเรื่องความรัก เพราะมีความเชื่อว่าศาลเจ้าแห่งนี้มีเทพเจ้าผูกรัก ‘Enmusubi’ สถิตอยู่ นอกจากเทพเจ้าของที่นี่จะเป็นเทพแห่งความรักแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงเรื่องเครื่องรางที่ช่วยส่งเสริมเรื่องความรัก ทั้งเรื่องการแต่งงานและคู่ครอง เซียมซีรูปเด็กผู้หญิงใส่กิโมโนของที่นี่ก็น่ารักมาก ๆ แถมยังทำนายเรื่องความรักได้แม่นด้วย ดูทัวร์ญี่ปุ่น
Imado Jinja หรือ ศาลเจ้าแมวคู่ ที่เรียกกันเช่นนั้นก็เพราะที่นี่มีสัญลักษณ์เป็นรูปปั้นแมวกวักสองตัวที่ยืนคู่อยู่เคียงข้างกันนั่นเอง เชื่อกันว่ารูปปั้นแมวกวักคู่จะให้โชคในเรื่องความรักและการแต่งงาน ส่วนใครที่อยากพกแมวกวักคู่นี้ไว้เพื่อนำโชคด้านความรัก ทางศาลเจ้าก็มีเครื่องรางแมวคู่สองตัวนี้จำหน่ายหลากหลายรูปแบบภายในศาลเจ้ายังมีหินแมวคู่ที่เชื่อกันว่าถ้าได้มาลูบหินแล้วขอพรอธิษฐานทุกวันความปรารถนานั้นจะเป็นจริง นอกจากแมวคู่ที่ให้โชคด้านความรักแล้วเทพเจ้าที่สถิตอยู่ในศาลเจ้าแห่งนี้ก็เป็นเทพแห่งการแต่งงานที่ช่วยให้สมหวังในเรื่องการแต่งงานซะด้วย คู่ไหนมีแพลนจะแต่งงานกันลองมาขอพรให้มีความสุขกับเทพเจ้าในศาลเจ้าแห่งนี้ได้เลย
ภายในวัดนี้ สิ่งที่ดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างแรกคงหนีไม่พ้นรูปปั้นหล่อของพระจุณทีโพธิสัตว์ นอกเหนือจากความศักดิ์สิทธิ์ที่ดึงดูดผู้คนให้มาขอพรกันเรื่องความรักแล้ว วัดนี้ยังเป็นวัดที่มีความสวยงามจากภาพวาดแกะสลักแบบจีนที่มีสีสันลวดลายอันงดงามตระการตา นอกเหนือจากนั้น ผู้ที่ศรัทธาสามารถเข้าร่วมพิธีสวดที่จัดขึ้นได้ในทุกคืนวันเสาร์ เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป หรือหากใครไม่สะดวกก็สามารถเขียนชื่อ เพศ วันเดือนปี ดูทัวร์สิงคโปร์
หวังต้าเซียนหลายๆคนน่าจะได้ยินผ่านหูมาแล้วบ้าง เพราะตอนนี้กำลังขึ้นชื่อมากเรื่องการขอพรเรื่องความรัก ที่อยู่ศาลกลางแจ้งของเทพเจ้าด้ายแดง หรือเทพเจ้าหยกโหลวเป็นรูปปั้นสีทองมีเสี้ยวพระจันทร์อยู่ด้านหลังประทับอยู่ ซึ่งชาวจีนต้องมาขอพรความรักกันที่นี่ โดยการขอพรกับเทพเจ้าองค์นี้ต้องใช้ด้ายแดงผู้นิ้วเอาไว้ไม่ให้หลุดระหว่างพิธี เพราะชาวจีนเชื่อว่าด้ายแดงนี่แหละคือเส้นโยงโชคชะตาด้านความรัก
วัดหลงชานไม่ได้เป็นเพียงวัดที่มีสถาปัตยกรรมวิจิตรงดงาม เป็นวัดที่นิยมในการไหว้พระขอพรของชาวไต้หวัน แต่นอกจากขึ้นชื่อเรื่องการขอพรแล้ว ยังขึ้นชื่อมากๆเรื่องการขอเนื้อคู่จากเทพเจ้าเฒ่าจันทราอีกด้วยซึ่ง เทพเจ้าเฒ่าจันทราเป็นเทพคิวปิดของชาวจีน โดยเชื่อกันว่าท่านใช้ด้ายแดงผูกหนุ่มสาวให้เป็นลิขิตของกันและกัน ใครอยากขอพรเรื่องเนื้อคู่ต้องมาขอกับเทพองค์นี้เลย
1.จุดธูปสักการะที่กระถางธูปทั้งเจ็ด ที่ตั้งอยู่หน้าศาจเจ้าเทพเฒ่าจันทรา
2.บอกชื่อ นามสกุล วันเกิด ที่อยู่ และความต้องการ (สเปคชาย-หญิงที่ต้องการ)
3.ขอด้ายแดงเพื่อให้เจอเนื้อคู่ โยนไม้เสี่ยงทาย 3 ครั้ง และจะต้องเป็นคว่ำ - หงายทั้ง 3 ครั้ง
4.หยิบด้ายแดงเส้นหนึ่ง และนำไปเดินวนรอบกระถางธูป 3 รอบ
เมื่อเดินครบแล้วให้ไปที่ศาลเจ้าบอกชื่อ นามสกุล วันเกิด ที่อยู่ และความต้องการ (สเปคชาย-หญิงที่ต้องการ) อีกครั้ง นำด้ายแดงติดกระเป๋าไว้จะได้พบเนื้อคู่ที่หมายปอง
จัตุรัสลานน้ำพุของลอนดอนบนวงเวียนระหว่างถนนพิคาเดลีและถนนชาฟเทสเบอรี โดยที่นี่มีประติมากรรมสำริดบนยอดน้ำพุที่มีชื่อเสียงอยู่รูปหนึ่งนั่นคือประติมากรรมรูปเทพเจ้าอีรอส (Eros) หรือกามเทพคิวปิดตอนโตแล้ว ซึ่งไม่ต้องอธิบายก็เป็นที่ทราบกันดีว่าคิวปิดมีชื่อเสียงด้านความรักขนาดไหน โดยเทพเจ้าอีรอสรูปนี้กำลังอยู่ในท่าแผงศรอย่างงดงาม ในเวลาเย็นๆ จะมีคู่หนุ่มสาวชาวอังกฤษมากมายมานั่งชมวิวเมืองจู๋จี๋และถ่ายรูปกับลานน้ำพุนี้กันอย่างรักใคร่ ใครที่มาขอพรก็ลองกุมมือต่อหน้ารูปปั้นนี้ดู คิวปิดอาจยิงศรไปปักในดวงใจของใครสักคนที่คุณปรารถนาอยู่ก็เป็นได้
สุสานจางฮีบิน หรือจางอ็กจอง หลายๆคนอาจจะคุ้นๆหูเพราะเป็นซีรี่ย์ชื่อดังที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริง และก็มีสุสานแห่งนี้ ที่เป็นหลุมฝังศพของตัวละครในเรื่อง และมีคำเล่าลือว่าเมื่อนำพระศพมาฝังที่นี่ มีต้นสนทะลุก้อนหินขึ้นมา แสดงให้เห็นพลังธาตุ ของพระนาง และความที่พระนางมีชื่อเสียงในเรื่องความงามพิฆาตใจชาย เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าซุกจง คนเลยมีความเชื่อว่า สาวโสดที่มาขอพรที่นี่ ก็จะสมหวังเรื่องความรัก
คุณชอบบทความนี้
อยากบอกต่อให้เพื่อนรู้ง่ายๆ แค่แชร์ให้เพื่อนเลย