All articles abouts ทัวร์ใบไม้เปลี่ยนสี

ห้ามพลาด! เปิดวาร์ปพิกัดชม ใบไม้เปลี่ยนสี 2019 จากทั่วโลก

ห้ามพลาด! เปิดวาร์ปพิกัดชม ใบไม้เปลี่ยนสี 2019 จากทั่วโลก

06 ก.ค. 61

        เผลอแป๊ปเดียว ก็ใกล้จะถึงช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย กับฤดูกาลแห่งภาพความสวยงามประจำปี ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาปลายปีเท่านั้นกับ ใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเวลาที่คนไทยนิยมเดินทางไปเที่ยวกันอย่างคึกคัก ประจวบเหมาะกับวันหยุดต่างๆ รวมถึงสภาพอากาศที่เย็นกำลังดี เพราะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) อากาศเย็นสบาย ไม่หนาวจนเกินไป ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้หลายท่านคงกำลังมองหาที่เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี ประจำปี 2019 กันอยู่ ทัวร์ครับจึงไม่พลาด รวบรวม พิกัด...เส้นทางยอดฮิตสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี ปี 2019 นี้ พร้อมแล้วก็ตามทัวร์ครับมาดูกันเลยดีกว่าครับ สำหรับเส้นทางในการชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยม 2019 ที่ทัวร์ครับขอแนะนำก็คือ... ยุโรปตะวันออก (East Europe)    Neuschwanstein Castle, Germany         เส้นทางทัวร์ยุโรปตะวันออกก็จะเป็นประเทศ เยอรมัน (Germany) เชค (Czech Republic) ออสเตรีย (Austria) และฮังการี (Hungary) ซึ่งเป็นเส้นทางชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิต สำหรับสายเที่ยวที่อยากจะไปสัมผัสความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางบรรยากาศและสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปนั่นเองครับ  Cesky Krumlov, Czech Republic         ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสีในแต่ละเมืองของยุโรปตะวันออก ก็เริ่มเปลี่ยนสีกันในช่วง เดือน กันยายน - เดือนพฤศจิกายน ภาพบรรยากาศของสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปก็จะเริ่มถูกแต่งแต้มสีสันด้วยสีส้ม แดง น้ำตาล บวกกับอากาศที่เย็นกำลังดี อยู่ที่ประมาณ 10 องศา - 18 องศา ไม่หนาวจนเกินไป กำลังดีสำหรับการดื่มด่ำท่ามกลางบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสุดโรแมนติค และสถาปัตยกรรมแสนคลาสสิตสไตล์ยุโรปสุดอลังการ แค่คิดก็รู้สึกฟินแล้วล่ะครับ         บอกเลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี ประจำปี 2018 นี้ เส้นทางทัวร์ยุโรปตะวันออก จะทำให้คุณได้ดื่มดำกับความสวยงาม โรแมนติคจนฟิน เต็มอิ่มจุใจกันอย่างแน่นอนคร๊าบบ... ญี่ปุ่น (Japan) Korankei, Japan          พูดถึงสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี 2018 ทั้งที หากไม่พูดถึง ญี่ปุ่น ก็คงจะถือว่าพลาดมากๆเลยครับ เพราะญี่ปุ่น นั้นถือเป็น จุดหมายปลายทางยอดฮิตของคนไทยในการไปชมใบไม้เปลี่ยนสี นอกจากความสวยงามระดับโลกที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้การยอมรับแล้ว แต่ละพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นก็ยังมีบรรยากาศและเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป บางคนถึงกับตั้งเป้าหมายในการเก็บสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นเลยก็มีครับ เพราะเมื่อเข้าช่วงเดือนตุลาคม - ปลายเดือนพฤศจิกายน ญี่ปุ่นก็จะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศเริ่มเย็นขึ้น แต่ไม่หนาวจนเกินไป ใบไม้ก็เริ่มแปรเปลี่ยนจากสีเขียว เป็นสีส้ม แดง น้ำตาล ทั่วทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น ฮอกไกโด (Hokkaido) โตเกียว (Tokyo) โอซาก้า (Osaka) และ นาโกย่า (Nagoya) โดยเฉพาะ หุบเขาโครังเค (Korankei) ซึ่งจะอยู่ในทัวร์ใบไม้เปลี่ยนสี เส้นทางนาโกย่า ซึ่งได้รับเสียงการันตีจากเหล่านักล่าใบไม้เปลี่ยนสีว่า เป็นที่สุดของใบไม้เปลี่ยนของญี่ปุ่น ครับ         เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว สำหรับใบไม้เปลี่ยนสี 2019 นี้ ทัวร์ครับบอกเลยว่าต้องรีบจองทัวร์ใบไม้เปลี่ยนสี ต้องรีบไปสัมผัสด้วยตัวเองแล้วล่ะค่ะ เพราะแพคเกจเต็มเร็วมาก จะได้รู้ว่าดีจริงหรือเปล่า ? ใครไปมาแล้วก็อย่าลืมมาเล่าให้ทัวร์ครับฟังกันได้นะครับ >>>แพคเกจทัวร์ใบไม้เปลี่ยนสี 2018 จากทัวร์ครับ จองเลย!<<< เกาหลี (South Korea)           มาต่อกับอีกหนึ่งประเทศที่ฮอตฮิตไม่แพ้ญี่ปุ่นเช่นกัน กับประเทศเกาหลี ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ทัวร์ครับขอแนะนำ สำหรับเส้นทางชมใบไม้เปลี่ยนสี 2019  อย่างใน โซล (Seoul) เมืองหลวงแสนทันสมัย ซึ่งภายในโซลนั้นมีหลายจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปชมใบไม้เปลี่ยนสีครับ ไม่ว่าจะเป็น โซลทาวน์เวอร์ (N Seoul Tower) ที่เราจะได้เห็นภูเขาทั้งลูกเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง รวมถึง พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung) สถานที่ท่องเที่ยวเกาหลียอดฮิต ที่ทุกคนต้องเคยไป! เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ภายในพระราชวังเคียงบกกุงก็จะกลายเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติคของเกาหลีเช่นกันค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปสัมผัสความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาหลีมาก่อน ทัวร์ครับขอแนะนำให้ลองไปสักครั้งค่ะ เพราะว่าดีงามไม่แพ้ญี่ปุ่นเลย เพราะงั้น ใบไม้เปลี่ยนสี 2019 นี้ลองหาโอกาสไปลองให้ได้สักครั้งนะครับ  ไต้หวัน (Taiwan)         มาถึงประเทศสุดท้าย ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า ไต้หวัน นั้นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เหมาะกับการไปชมใบไม้เปลี่ยนสี 2019 เช่นกันนะครับ เพราะไต้หวันนั้นเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เราจึงจะสามารถพบเห็บใบไม้เปลี่ยนสีได้ตามอุทยานแห่งชาติของไต้หวัน แน่นอนว่าโด่งดังที่สุดก็คงจะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก อุทยานอาลีซาน (Alishan National Scenic Area) ที่จะเต็มไปด้วยสีสันจากสี เข้ม อ่อน สลับกันจากต้นไม้นานาพันธุ์ ภายในอุทยาน ที่กำลังแข่งกันแต่งแต้มสีสันให้กับอุทยานแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคม ยาวไปจนถึงเดือนมกราคม หากใครกำลังมองหาสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี ประจำปี 2019 ที่ไม่เหมือนใคร ทัวร์ครับบอกเลยว่า ต้องไปสัมผัสที่ไต้หวันครับ รับรองติดใจแน่นอน         ว้าวว...สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี 2019 แต่ละที่เด็ดๆทั้งนั้น เรียกได้ว่ากินกันไม่ลงเลยทีเดียว แต่ละที่ต่างก็มีความสวยงามและสเน่ห์ที่เป็นของตัวเอง เอาเป็นว่าใครชื่นชอบสไตล์ไหน ก็ต้องรีบไปโดนกันแล้วละครับ ทัวร์ครับขอแนะนำให้รีบจองตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะ ทัวร์ใบไม้เปลี่ยนสีนั้นฮอตมาก จองช้า อดไปจะเสียใจแย่ จะหาว่าทัวร์ครับไม่เตือนนะครับผม!  

อ่านเพิ่มเติม
เตรียมตัวให้พร้อม ! พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2019
เตรียมตัวให้พร้อม ! พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น 2019

24 ส.ค. 61

        มาแว้วววว กับ พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ประจำปี 2018 ฉบับล่าสุดจาก Zekkei Japan ที่ทัวร์ครับรวบรวมมาให้เหล่านักล่าใบไม้เปลี่ยนสีทั้งหลายได้มีเวลาเตรียมพร้อม โดยในปี 2018 ตามพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี 2018 คาดการณ์ว่าจะเริ่มต้นประมาณกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ดังนั้นตอนนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเตรียมตัว ศึกษาข้อมูลพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีให้ดี  ว่าแล้วเรามาเริ่มต้นกันเลยที่... ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)         แน่นอนว่าภูมิภาคแรกที่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะมาเยือนก่อนเสมอคือ ฮอกไกโด นั่นเองค่ะ เนื่องจากภูมิภาคฮอกไกโดตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่นทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ส่งผลให้ใบไม้ที่จะเปลี่ยนสีเป็นที่แรกในญี่ปุ่นค่ะ ทั่วทั้งฮอกไกโดจะเต็มไปสีส้มแดง สดใสไปทั่วบริเวณเลยทีเดียวค่ะ ช่วงเวลาไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม - ปลายเดือนตุลาคม  สถานที่เด็ดชมใบไม้เปลี่ยนสี : โจซังเค (Jozankei)         เราสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ทั่วบริเวณของฮอกไกโด แต่สถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามขอบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี ทัวร์ครับขอยกให้ที่นี่เลย โจซังเค ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงซัปโปโร เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำพุร้อนและออนเซ็น และเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสี เราจึงสามารถชื่นชมบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมกับแช่ออนเซ็นแบบฟินๆ หรือจะเดินเลียบลำธารดื่มดำกับภาพความสวยงามของธรรมชาติหก็ได้เช่นกัน  ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)         เมื่อเข้าสู่ปลายเดือนตุลาคม สีสันของใบไม้เปลี่ยนสีก็เข้าสู่ภูมิภาคโทโฮคุค่ะ ภูมิภาคโทโฮคุตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะฮอนชู พูดง่ายๆก็คืออยู่ด้านบนโตเกียว เป็นภูมิภาคที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติอันแสนอดมสมบูรณ์ ภูมิภาคโทโฮคุจึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดฮิตของญี่ปุ่นค่ะ ช่วงเวลาไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนตุลาคม - ปลายเดือนตุลาคม  สถานที่เด็ดชมใบไม้เปลี่ยนสี : ภูเขาฮักโกดะ (Hakkodasan)           ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอะโอโมริ (Aomori) ซึ่งเป็นสถานที่ขึ้นชื่อในการชมใบไม้เปลี่ยนสีประจำภูมิภาคโทโฮคุ โดยเราสามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยน หรือจะดื่มด่ำกับบรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสีแบบใกล้ชิดกับเส้นทางเดินชมใบไม้เปลี่ยนสี ก็เป็นอีกกิจกรรมที่นักล่าใบไม้เปลี่ยนสีไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาดค่ะ  ภูมิภาคชูบุ (Chubu)         เขยิบลงมาอีกหน่อยที่ภูมิภาคชูบุ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับภูมิภาคคันโค และคันไซ เป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยเทือกเขาสูง และมีความกหลากหลายทางภูมิศาสตร์ จึงทำให้ภูมิภาคชูบุมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งภูเขา ทะเล ออนเซ็น แต่ที่สำคัญเลยคือสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น 1 ในสุดยอดใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นเลยค่ะ ช่วงเวลาไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน สถานที่เด็ดชมใบไม้เปลี่ยนสี : หุบเขาโครังเค (Korankei)         สำหรับสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูมิภาคโทโฮคุจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจาก หุบเขาโครังเค สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติสุดอลังการ เมื่อฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมาเยือน ทั่วทั้งหุบเขาโครังเค ก็จะแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีส้มแดงไปทั่วทุกพื้นที่ เป็นภาพความสวยงามอันน่าประทับใจ และที่สำคัญอย่าลืมถ่ายรูปคู่กับ สะพานไม้ไทเกะสึเคียว (Taigetsukyo Bridge) สะพานไม้สีแดงอันโดดเด่น ที่ไม่ว่าใครก็ต้องแวะถ่ายรูปค่ะ ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku)         ในที่สุดก็มาถึงภูมิภาคที่อยู่ กลางที่สุดของประเทศญี่ปุ่น  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคไฮไลท์ของประเทศญี่ปุ่น เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นทะเลทรายทตโตริ ดังนั้นหากใครอยากชมใบไม้เปลี่ยนสี พร้อมสัมผัสของทะเลทรายเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่น ทัวร์ครับขอแนะนำให้มาภูมิภาคชูโกกุเลยค่ะ ช่วงเวลาไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม - กลางเดือนพฤศจิกายน สถานที่เด็ดชมใบไม้เปลี่ยนสี : เกาะมิยาจิมา (Miyajima)         ภาพของเสาโทริอิสีแดงที่ตั้งอยู่กลางน้ำ อันเป็นสัญลักษณ์ของเกาะมิยาจิมา ในจังหวัดฮิโรชิมา (Hiroshima) โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO อีกด้วยค่ะ แต่เกาะมิยาจิมะนั้นไม่ได้โดดเด่นด้านวัฒนธรรมเท่านั้น เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูของใบไม้เปลี่ยนสี เราก็จะได้เกาะสีส้มแดงสดใสควบคู่กับเสาโทริอิ จึงทำให้ เกาะมิยาจิมะเป็นสถานที่โด่งดังในการมาชมใบไม้เปลี่ยนสีประจำภูมิภาคโทโฮกุ นั่นเองค่ะ ภูมิภาคคันโต (Kanto)         ภูมิภาคยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น เพราะเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงแสนทันสมัยอย่าง โตเกียว (Tokyo) แน่นอนว่าโตเกียวนั้นถือเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนิยมเดินทางมาชื่นชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ท่ามกลางอาคารบ้านเรือนแสนจะทันสมัย และแหล่งช้อปปิ้งระดับโลกนั่นเองค่ะ ช่วงเวลาไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม สถานที่เด็ดชมใบไม้เปลี่ยนสี : อุโมงค์ใบเมเปิ้ล โมมิจิ ไคโร (Momiji Kairo)           อุโมงค์ใบเมเปิ้ล โมมิจิ ไคโร แห่งนี้นั้นตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบคาวากูชิโกะ (Lake Kawaguchigo) ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีประจำโตเกียวค่ะ เมื่อเข้าสู่ปลายเดือนพฤศจิกายน เราก็จะได้เห็นสีแดงส้ม ตลอดสองฝั่งคลอง เป็นภาพความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่จัดว่าเด็ดๆสุดๆค่ะ อีกทั้งเมื่อยังมีการประดับตกแต่งไฟ Illumination รอบๆบริเวณอุโมงค์ใบเมเปิ้ลแห่งนี้ ช่วยเพิ่มรสชาติให้การชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นไปอีกค่ะ  ภูมิภาคคิวชู (Kyushu)         ถัดลงมาจากโตเกียว ก็เข้าสู่ฝั่งใต้ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของเกาะคิวชู ดินแดนออนเซ็นญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของวิถีชีวิตสไตล์ชนบทของญี่ปุ่น หากใครอยากสัมผัสความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ท่ามกลางบรรยากาศแบบสโสว์ไลฟ์ของญี่ปุ่น คิวชูคือคำตอบค่ะ ช่วงเวลาไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสี : เดือนพฤศจิกายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน สถานที่เด็ดชมใบไม้เปลี่ยนสี : ภูเขาฮิโกะ (Mt. Hiko)         สำหรับสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีประจำภูมิภาคคิวชู ได้แก่ ภูเขาฮิโกะ นักท่องเที่ยวนิยม เดินตามเส้นทางเดินเขาเพื่อชื่นชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี หรือใครอยากจะชมจากด้านบนก็สามารถนั่งกระเช้า ขึ้นไปได้ค่ะ ชื่นชอบแบบไหนก็สามารถเลือกกันได้เลย แต่ไม่ว่าจะสไตล์ไหนก็จะได้ชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีไม่แตกต่างกันค่ะ >>>แพคเกจทัวร์ญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี 2018 คุณภาพจากทัวร์ครับ<<<  ภูมิภาคคันไซ (Kansai)         ปิดท้ายด้วยภูมิภาคคันไซ ที่ตามพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีของปี 2018 ได้พยากรณ์ไว้ว่าจะเป็นภูมิภาคสุดท้ายที่คุณจะได้มีโอกาสชื่นชมใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากจะได้ชื่นชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ภูมิภาคคันไซ ยังเป็นที่ตั้งของเมืองขนาดใหญ่ อย่างโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งช้อปปิ้งละลานตา ถือมาทีเดียวได้เที่ยวแบบครบรสเลยค่ะ  ช่วงเวลาไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสี : กลางเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนธันวาคม  สถานที่เด็ดชมใบไม้เปลี่ยนสี : วนอุทยานเมจิโนะโมริมิโน (Meiji no Mori Mino Quasi Nation Park)         วนอุทยานเมจิโนะโมริมิโน แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่อุดสมบูรณ์ของโอซาก้า ภายในมีเส้นทางเดินป่าที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ความสวยจึงเกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขาสีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง ไล่สีสลับกันอย่างสวยงาม จนได้ชื่อว่าเป็น สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นประจำภูมิภาคคันไซ  เลยทีเดียวค่ะ         ยังไม่หมดค่ะ ทัวร์ครับยังสรุปผลการพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี 2018 มาให้ทุกท่านเข้าใจง่ายๆ ด้วย Infographic สุด Cute! ใครจะเซพเก็บไว้กันลืม แล้วรีบจองทัวร์ใบไม้เปลี่ยนสีจากทัวร์ครับ รับรองว่าไม่พลาดใบไม้เปลี่ยนสีปี 2018 แน่นอนค่ะ!   

อ่านเพิ่มเติม
ไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนดี ได้ถ่ายรูปสวย
ไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนดี ได้ถ่ายรูปสวย

09 ส.ค. 62

ปัญหาโลกแตกสุดๆ พอๆ กับคิดว่าวันนี้จะกินอะไรดี เคยไหมมีโจทย์ตั้งเป้าว่าอยากไปเที่ยว ดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี วันนี้ ทัวร์ครับ มีคำตอบมาให้แล้ว ขอเน้นไปที่แถบโซนเอเชียยอดฮิตอย่าง ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน และเกาหลีที่ไปง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เดินทางสะดวก เป็นสถานที่ๆ เราเคยไปมาแล้วรู้สึกว่าชอบ ติดใจอยากไปเที่ยวซ้ำ เลยอยากแนะนำให้ตามไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี ใครชอบเที่ยวแบบไหนก็เลือกแพ็คเก็จจองกับ ทัวร์ครับ  ได้เลย    10 ที่เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี 1. โอลิมปิกพาร์ค, โซล โอลิมปิกพาร์คตั้งอยู่ในกรุงโซลประเทศเกาหลี ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่จัดงานโอลิมปิกเมื่อปี 1988 ครั้งที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน ดังนั้นโอลิมปิกพาร์คจึงกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกวันนี้ยังเปิดให้เข้าชมอยู่ แต่นักท่องเที่ยวส่วนมากจะชอบมาโอลิมปิกพาร์คในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเพราะว่ามีความสวยงามและได้ภาพประทับใจกลับไปทุกคน โอลิมปิกพาร์คจะแบ่งเป็นหลายโซนแต่โซนที่มีบริเวณเกิดใบไม้เปลี่ยนสีมากที่สุดคงจะไม่พ้นโซน Mongchon Fortress Walking Paths, 88 Lake ช่วงที่จะเกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิการยน จองแพ็คเก็จทัวร์เกาหลี โซล กับ ทัวร์ครับ   2. เทือกเขาซาโอะ เทือกเขาซาโอะตั้งอยู่ในจังหวัดยามางาตะประเทศญึ่ปุ่น เทือกเขาซาโอะมีชื่อเสียงอย่างมากในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ทอดผ่านจังหวัดมิยางิและยามางาตะ เทือกเขาซาโอะไม่ได้มีดีแค่ฤดูหนาวแต่ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็ดีงามไม่แพ้กันนะจ๊ะ ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง แถมยังมีกระเช้าขึ้นไปชมมุมสูงอีกด้วยแน่นอนว่าได้เห็นใบไม้สีเหลืองสลับแดงสวยงามจนแทบหยุดหายใจเลยล่ะ ช่วงที่จะเกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนตุลาคม จองแพ็คเก็จทัวร์ญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ   3. อุทยานคานาส อุทยานคานาสตั้งอยู่ในเขตซินเจียงประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อพูดถึงเมืองนี้ต้องยอมรับว่าธรรมชาติของปเมืองนี้มีความอุดมสมบูรณ์จริงๆ แล้วยิ่งอุทยานคานาสก็เป็นหนึ่งในอุทายานที่ขึ้นชื่อของประเทศซึ่งอุทยานคานาสจะตั้งอยู่ไม่ไกลจากมองโกเลีย แสดงให้เห็นว่ามีความอุดมสมบูณ์อย่างแท้จริงเพราะมีฤดูหนาวยาวนานโดยธรรมชาติโดยรอบจะเป็นทุ่งหญ้า พื้นป่า ภูเขาหิมะและแม่น้ำ ซึ่งอุทยานคานาสจะเปิดให้เข้าชมอุทยานได้ช่วงตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น ตอนนั้นช่วงที่เราไปกับทัวร์ครับคือเดือนกันยายน ทำให้ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีสลับแดงเหลือประทับใจจนอดไม่ได้ที่จะกลับมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆ ไปตามกัน จองแพ็คเก็จทัวร์จีน กับ ทัวร์ครับ   4. พระราชวังคยองบกกุง พระราชวังคยองบกกุงตั้งอยู่ในกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ แน่นอนว่าเมื่อมาเกาหลีใต้จะไม่ไปพระราชวังคยองบกกุงก็เหมือนมาไม่ถึงเพราะเป็นพระราชวังหลวงใหญ่ที่สุดในเกาหลี บริเวณรอบวังจะมีสวนของพระราชวังสวยงามมากจนเดินเที่ยวชมเพลินๆ ได้เลยเต็มๆ วัน นับว่าเมื่อมากรุงโซลต้องมาแวะแน่นอนภายในพระราชวังคยองบกกุง จะมีต้นไม้ตลอดสองข้างทางภายด้านในจะมีศาลาหกเหลี่ยมขนาดสองชั้นตั้งอยู่กลางน้ำและสวนด้านหลังพระราชวังนั้นเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวต่างพากันไปดูช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเพราะจะได้เห็นความสวยงามของสวนที่มีสีเหลืองแดงผสมกันแน่นอนว่าคุ้มค่าเวลาแน่นอน ช่วงที่จะเกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน จองแพ็คเก็จเกาหลี กับ ทัวร์ครับ   5. อุทยานย่าติง อุทยานย่าติงตั้งอยู่เขตเต้าเฉิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากว่าที่นี่อยู่ใกล้กับทิเบตทำให้ธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ แล้วยิ่งฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะได้เห็นป่าเป็นสีเหลืองทั้งผืนป่าแต่ไม่ได้มีแค่นั้นนะเพราะที่นี่ยังมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะและมีทะเลสีฟ้าสวยใส แน่นอนว่าอุทยานย่าติงเปรียบเสมือนสวรรค์เลยก็ว่าได้ แต่อุทยานย่าติงอยู่บนเทือกเขาสูงจึงมีออกซิเจนไม่มากดังนั้นนักท่องเที่ยวจะเดินทางไปที่นี่ต้องเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะทันทีที่ได้เดินขึ้นไปเห็นวิวแล้วจะรู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะ แนะนำช่วงที่จะเกิดใบไม้เปลี่ยนสีอยู่ในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน จองแพ็คเก็จทัวร์จีน กับ ทัวร์ครับ   6. โอวันดา โอวันดาตั้งอยู่ที่อันเงียบสงบในหนานโถ ประเทศไต้หวัน โอวันดามีชื่อเสียงในเรื่องป่าเมเปิ้ลขนาดใหญ่ ซึ่งไฮไลท์ของโอวันดาคือสะพานยาวตัดข้ามผ่านป่าเมเปิ้ลแน่นอนว่ายิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วนั้นต้นเมเปิ้ลจำนวนมากกลายเป็นสีแดงพอจะนึกภาพกันออกแล้วใช่มั้ย ช่วงที่จะเกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมกราคม (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของปีนั้น) จองแพ็คเก็จทัวร์ไต้หวัน กับ ทัวร์ครับ     7. วัดเออิคันโดะ วัดเออิคันโดะตั้งอยู่ในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น วัดเออิคันโดะเป็นวัดเก่าแก่พุทธศาสนานิกายโจโดของญี่ปุ่นมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ซึ่งวัดจะตั้งอยู่บนเขาทำให้บรรยากาศจัดได้ว่าสวยงามมาก มีทั้งลำธารเล็กๆ บ่อน้ำ และเจดีย์ Tahoto ที่มีชื่อเสียงยิ่งทำให้วัดนี้เป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักท่องเที่ยว สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่บริเวณสวนโฮโจ เมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดเออิคันโดะจะมีเทศกาลประจำปีอีกด้วยทำให้ได้ความประทับใจกันไปหลายต่อเลยล่ะ ช่วงที่จะเกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน – ปลายเดือนพฤศจิกายน จองแพ็คเก็จทัวร์ไต้หวัน กับ ทัวร์ครับ   8. เกาะนามิ เกาะนามิเป็นเกาะเล็กๆ ตั้งอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ กลางทะเลชองเพียงตั้งอยู่ไม่ไกลจากโซลนับว่าเป็นเกาะที่มีสวนสวยงามอีกที่หนึ่งโดยเฉพาะทิวสนที่ตั้งเรียงรายสวยงามแน่นอนไม่ใช่แค่นิดเดียวแต่เป็นทั่วทั้งเกาะเลยความสวยงามคงไม่ต้องพูดถึงเพราะเชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยไปกันมาบ้างแล้วลองจินตนาการถึงทิวสนเปลี่ยนสีดูสิจะสวยงามแค่ แน่นอนว่าสวยจนอย่างกลับไปอีกอีกครั้งเลยล่ะ ช่วงที่จะเกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน การเดินทางอาจจะต้องใช้เรือข้ามฟากเพื่อไม่ให้วุ่นวายเราก็เลยเลือกใช้แพคเกจทัวร์ทำให้การเดินทางมาที่นี่ง่ายและสะดวกสบายมากๆ จองแพ็คเก็จเกาหลี กับ ทัวร์ครับ   9. จิ่วจ้ายโก้ว จิ่วจ้ายโก้ว ตั้งอยู่ในกรุงเสฉวนประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จ้ายโก้วเป็นเสมือนเทพนิยายที่หลุดออกมาจากหนังสือเลยล่ะ เป็นอุทยานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี 2535 ได้ชื่อว่าสวรรค์บนดิน หลายคนเดินทางมาจิ่วจ้ายโก้วเพื่อมาชมการเปลี่ยนสีของใบไม้ซึ่งเป็นช่วงที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้เพราะภาพใบไม้สีส้มสีเหลืองตัดสะท้อนน้ำในทะเลสาบสีฟ้าที่ใสราวกระจก แค่นี้ก็ทำให้ภาพแล้วสิ ช่วงที่จะเกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม จองแพ็คเก็จจีน กับ ทัวร์ครับ   10. ทะเลสาบโทวาดะ ทะเลสาบโทวาดะตั้งอยู่อาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าทะเลสาบโทวาดะรู้จักกันดีในเรื่องของความสวยงามทางธรรมชาติบริเวณโดยรอบมีภูเขาล้อมรอบ แล้วยิ่งในช่วงฤดูเปลี่ยนสีใบไม้แล้วนั้นจะทำภูเขากลายเป็นสีแดงสลับส้ม แค่นั้นก็ฟินแล้วกับธรรมชาติอันสวยงามและยังมีบริการล่องเรือชมวิวอีกด้วย ช่วงที่จะเกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงกลางเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน จองแพ็คเก็จญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ ใครที่กำลังจะวางแพลนไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี รีบจองทัวร์เที่ยวกับ ทัวร์ครับ ได้เลยตอนนี้ มีแพ็คเก็จสำหรับไปชมใบไม้เปลี่ยนสีให้คุณได้เลือกไปเที่ยวมากมาย คลิกตรงนี้ ไปเที่ยวกับทัวร์ครับ   ดาวน์โหลด แอปพลิเคชั่น ทัวร์ครับ iOS / Android

อ่านเพิ่มเติม
ปักหมุด 10 ที่เที่ยวใบไม้เปลี่ยนสีที่จีน ปี 2019 ต้องเก็บให้ครบ!
ปักหมุด 10 ที่เที่ยวใบไม้เปลี่ยนสีที่จีน ปี 2019 ต้องเก็บให้ครบ!

13 ส.ค. 62

ช่วงนี้จีนเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่มาแรงมาก เพราะเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่จีนก็มีสถานที่ให้ชมใบไม้เปลี่ยนสีหลายจุด ทัวร์ครับ (Tourkrub) เลยรวบรวมมาให้  10 ที่เที่ยวจีน ไปแล้วได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ แน่นอน เชื่อใจเราได้ว่า 10 ที่เที่ยวต่อไปนี้เด็ดๆ โดนๆ ทั้งนั้น เอาล่ะถึงเวลาสมควรไปชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีที่จีนกันแล้ว จองทัวร์จีน กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub) แล้วตามไปดูกันเลย!   10 ที่เที่ยวจีน ชมใบไม้เปลี่ยนสี   1. อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ‘ขุนเขาอวตาร’ หรือ อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยเป็นอุทยานที่ดีที่สุดในประเทศจีน แน่นอนว่าอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าวิวหลักล้าน สวยงามเหมือนในหนังดังของจีนมีทั้งขาหินทรายที่สูงตระหง่านเสียดฟ้าท่ามกลางทะลหมอก สัตว์ป่าธรรมชาติ และแม่น้ำที่เงียบสงบ ถ้าพูดว่าบรรยากาศเหมือนหลุดไปอยู่ในดินแดนเทพเจ้าเลยก็คงจะไม่เกินไป ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ยมีความสวยงามอย่างมากเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายต้องไม่พลาดเมื่อมาเยือนประเทศจีนเพื่อมาชมการเปลี่ยนสีของใบไม้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วงต้นเดือนตุลาคม – กลางพฤศจิกายน   2. เขาเทียนเหมินซาน ( Tianmen Mountain) เขาเทียนเหมินซานอยู่ในเมืองจางเจียเจี้ย  ใจกลางมณฑลหูหนาน (Hunan Province) ของจีนนับว่าจัดเป็นหนึ่งในภูเขาที่สวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ขึ้นชื่อว่าสวยระดับโลกก็ต้องมีอะไรที่แตกต่างจากที่อื่นแน่นอน เขาเทียนเหมินซานขึ้นชื่อว่ามีวิวระดับเทพกันเลยทีเดียว  การเดินทางมีทั้งกระเช้าและรถบัสให้เลือกใช้ และไม่ต้องห่วงเรื่องที่พักเพราะมีบริการที่พักเชิงเขา เขาเทียนเหมินซานเหมาะแก่การมาท่องเที่ยวทุกฤดูกาล ช่วงฤดูเปลี่ยนสีอยู่ในช่วงปลายเดือนตุลาคม – กลางพฤศจิกายน   3. อุทยานจิ่วไจ้โกว (Jiuzhaigou Natural Reserve) อุทยานจิ่วไจ้โกวอยู่ห่างจากเมืองเฉิงตูประมาณ 450 กิโลเมตร นับว่าเป็นอุทยานอันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้ แน่นอนขึ้นชื่อว่าระดับโลกต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะที่นี่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อย่างมากมีทั้งต้นไม้และสัตว์ป่าหลากหลายชนิดเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์เลยก็ว่าได้และยังมีทะเลสาบสีฟ้าใสราวกับดินแดนในเทพนิยาย ซึ่งล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ และบริเวณโดยรอบจะเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีนับว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ เมื่อสีสันต่างๆ ของใบไม้สะท้อนลงไปยังทะเลสาบ จึงเกิดเป็นภาพที่สวยงามอลังการจนแทบอยากจะหยุดหายใจเลยทีเดียว ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม   4. อุทยานหย่าติง (Yading Nature Reserve) อุทยานหย่าติงตั้งอยู่เต้าเฉิงใกล้กับทิเบต แน่นอนขึ้นชื่อว่าใกล้กับทิเบตธรรมชาติต้องมีความสวยงามอย่างมาก ที่นี่มีภูเขาเป็นฉากหลังแบบอลังกาลแล้วยิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีแล้วนั้นยิ่งทำให้อุทยานหย่าติงมีเสน่ห์มากขึ้นเพราะมีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะผสมกับใบไม้สีเหลืองส้มตัดกันเป็นวิวที่สวยงามมากจริงๆ อีกทั้งยังมีทะเลสีฟ้าใสที่ช่างภาพทุกคนต่างพากันพูดเป็นคำเดียวว่า สวรรค์ ไม่ว่าจะหันกล้องไปทางไหนก็มีแต่มุมสวยๆ ทั้งนั้นเชื่อว่าคนที่ได้ไปเห็นแล้วต้องอยากกลับมาที่นี่อีก ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงเดือนปลายเดือนกันยายน – กลางเดือนพฤศจิกายน   5.อุทยานคานาสือ (Kanas National Nature Reserve) อุทยานคานาสือตั้งอยู่ไม่ไกลจากมองโกเลีย แน่นอนว่ามองโกเลียมีฤดูหนาวที่ยาวนานทำให้อุทยานคานาสือเปิดให้บริการแค่ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเท่านั้น ธรรมชาติโดยรอบจะเป็นทุ่งหญ้า พื้นป่า ภูเขาหิมะ และแม่น้ำ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะทำให้ใบไม้กลายเป็นสีเหลืองสลับส้ม คานาสือจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าแค่เดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคมเท่านั้นส่วนช่วงที่เกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะเกิดในช่วงเดือนกันยายน   6. หุบเขาเซียงซาน (Xiangshan) เมื่อมาปักกิ่งเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีคงไม่พ้นหุบเขาเซียงซานเพราะหุบเขาเซียงซานมีชื่อเสียงอย่างมากในย่านปักกิ่ง ทุกปีจะมีเทศกาลประจำปี มีการชมใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้ทยอยเปลี่ยนสีสลับกันเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์เหมือนภาพวาดหลุดออกมากันเลยทีเดียว เป็นที่ชื่นชอบของทุกคนทำให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทุกๆ ปี ช่วงเวลาที่ควรไปเที่ยวใบไม้เปลี่ยนสีจะเป็นช่วงเดือนตุลาคม   7. ช่องแคบซานเสียแห่งลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง (The Yangtze Three Gorges) ช่องแคบซานเสียแห่งลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นับได้ว่ามาแล้วเกือบหยุดหายใจเพราะความสวยงาม ที่นี่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งในสิบของประเทศเลยก็ได้ มีความยาวถึง 310 กิโลเมตร สามารถแบ่งได้เป็น 3 ช่องแคบช่องแคบชวีถัง (Qutang Gorge) ช่องแคบอู (Wu Gorge) ช่องแคบซีหลิง (Xiling Gorge)  โดยเริ่มที่เมืองไป๋ตี้ (Baidi Cheng) ของมหานครฉงชิ่งทางตะวันตกของจีนไปจบที่หนานจินพาส (Nanjin Pass) ที่เมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ยทางตะวันออกของจีน แน่นอนว่ามีแม่น้ำก็ต้องมีบริการล่องเรือชมวิวธรรมชาติช่องแคบทั้ง 3 สามารถมองเห็นภูเขาสูงตลอดเส้นทางการล่องเรือ ไฮไลท์สำคัญคือสามารถมองเห็นใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีตลอดเส้นทาง สวยงามจับจิต ช่วงที่เกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะเกิดในช่วงเดือนตุลาคมดังนั้นจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ   8. สวนพฤกษศาสตร์หางโจว (Hangzhou Botanical Garden) สวนพฤกษศาสตร์หางโจวตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเฉียงเหนือของทะเลสาบตะวันตก (West Lake) ในเมืองหางโจว มีเนื้อที่ 230 เฮกตาร์ มีพืชพรรณเป็นจำนวนมากเพราะเป็นที่ที่ใช้ศึกษาต้นไม้ สวนพฤกษศาสตร์หางโจวถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1965 มีการศึกษาเรื่อยมาทำให้บริเวณนี้เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ อากาศดีมากที่แห่งนี้จะมีความงดงามในทุกช่วงฤดูกาล ช่วงฤดูที่สวยที่สุดจะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างมากแนะนำให้มาช่วงเดือนตุลาคม   9.  น้ำตกเต๋อเทียน (Detian Waterfall) น้ำตกเต๋อเทียนเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น้ำตกเต๋อเทียนตั้งอยู่ในเขตปกครองต้าซิน (Daxin County) เมืองฉงจั่ว (Chongzuo City) เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (Guangxi Zhuang) น้ำตกเต๋อเทียนมีความกว้างถึง 200 เมตร ลึกมากกว่า 60 เมตร และสูง 70 เมตร แน่นอนว่ากระแสไหลของน้ำไหลแรงยิ่งทำให้เกิดความสวยงามตามแบบธรรมชาติ วิวหลักล้านที่เปลี่ยนตามฤดูกาลแต่สวยที่สุดคงหนีไม่พ้นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเพราะจะเห็นวิวสีแดง ที่ล้อมบริเวณน้ำตกและต้นไม้สีแดงก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจริงๆ  หากมาช่วงฤดูร้อนก็จะเห็นเป็นภาพน้ำตกปริมาณมหาศาลไหลทะลักลงมา ส่วนถ้ามาในฤดูหนาวน้ำตกจะดูใสๆ ไหลแบบช้าๆ สงบ ผ่อนคลาย เบาสบาย ฟินไม่รู้จบจริงๆ อย่างนี้สิที่เขาเรียกว่าผลงานสร้างสรรค์จากธรรมชาติอย่างแท้จริง ช่วงที่เกิดใบไม้เปลี่ยนสีจะเกิดในช่วงเดือนต้นเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน   10. อุทยานแห่งชาติปาต๋าหลิง (Badaling National Forest Park) อุทยานแห่งชาติปาต๋าหลิงตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง แน่นอนว่ามีกำแพงเมืองจีนอยู่ในเขตนี้ด้วย ซึ่งจะอยู่ทางเหนือของภูเขานับมาเมืองจีนแล้วไม่ได้เห็นกำแพงเมืองจีนคงเสียดายหน้าดูในส่วนนี้จะมีความยาว 70 กิโลเมตร นอกจากนี้บริเวณโดยรอบหุบเขามีต้นไม้นานาพรรณแล้วยิ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีความสวยงามยิ่งเพิ่มทวีคูณ บวกกับวิวกำแพงเมืองจีนและภูเขาสวยจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว ช่วงที่เหมาะที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่อุทยานแห่งชาติปาต๋าหลิงคือระหว่างเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน   ใครอินกับซีรี่ย์จีน ผมแนะนำเลยครับ ไปเที่ยวจีน ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนี่แหละ ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปหนังจีนเลย เหมือนกำลังเดินชมใบไม้สลับสีสันไปมาท่ามกลางความโรแมนติก ใครที่ชอบความรู้สึกหวานๆ ฉากรักซีรย์จีนโผล่มา อย่าพลาดรีบไปเที่ยว “จีน” ให้ไวเลยครับ   จองทัวร์จีน กับ ทัวร์ครับ (Tourkrub)  

อ่านเพิ่มเติม
7 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ ‘ฮอกไกโด’ ไม่มาถือว่าพลาด!
7 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ ‘ฮอกไกโด’ ไม่มาถือว่าพลาด!

15 ส.ค. 62

ใกล้เข้ามาแล้วกับฤดูกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโด สุดโรแมนติก มีแพลนในใจกันรึยังว่าจะไปที่ไหนดี ถ้ายังไม่มีเราขอแนะนำเมืองยอดฮอตฮิตติดอันดับของญี่ปุ่นอย่างเมืองเล็กๆ ที่แสนจะอบอุ่นอย่างเมือง ‘ฮอกไกโด’ ทัวร์ครับ รวมมาให้แล้วกับ 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ ‘ฮอกไกโด’ จดลิสต์ไว้ให้พร้อม ไปเที่ยวฮออกไกโดครั้งนี้จะได้ไม่พลาดจุดถ่ายรูปสวยๆ นะครับ   จองทัวร์ฮอกไกโด เที่ยวญี่ปุ่น กับ ทัวร์ครับ   7 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ ‘ฮอกไกโด’    1.อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง        อุทยานแห่งชาติไดเซสึซังเป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโดและแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นหรือเพิ่งเคยมาชมใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด เป็นครั้งแรก ที่นี่มีเทือกเขาสูงถึง 2,000 เมตร หิมะปกคลุม ซึ่งบริเวณอุทยานจะเป็นภูเขาไฟทำให้มีบ่อน้ำพุร้อนเป็นจำนวนมากและบริเวณนั้นอยู่ในจุดที่สูงด้วยทำให้พืชพรรณไม้ แบบป่าสนอัลไพน์ขึ้นอยู่หลากกลายชนิดและทำให้เหล่านักท่องเที่ยวที่ต้องการถ่ายภาพกับธรรมชาติในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนิยมมาที่อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง        บริเวณที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติไดเซสึซังตั้งอยู่ในใจกลางเกาะฮอกไกโด จุดศูนย์กลางของอุทยานแห่งชาติไดเซสึซังมีกลุ่มภูเขาไฟไดเซ็ตสึและยอดเขามากมาย อย่างยอดเขาที่เป็นภูเขาหลักคือเขาอาซาฮิ ซึ่งมีความสูง 2291 เมตร เขาโทกาจิและเขาอิชิคาริ ทำให้เขาพวกนี้ถูกเรียกว่า หลังคาฮอกไกโด อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ถูกแต่งตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติประจำฮอกไกโด รวมไปถึงแม่น้ำอิชิคาริและแม่น้ำโทกาจิ ช่วงฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด อยู่ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน ของทุกปี ทำให้ทั่วทั้งอุทยานจะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้ที่พากันเปลี่ยนสีอวดความสวยงามของธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด พิกัด: Daisetsuzan National Park   2.โซอุนเคียว หุบเขาโซอุนเคียว เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าสวยงาม และสามารถชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีบริเวณนี้ได้แบบมุมสูง ผ่านการนั่งกระเช้าลอยฟ้า ซึ่งทำให้เห็นในอีกมุมมองในการชมใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด นับได้ว่าสวยงามและได้สัมผัสประสบการณ์การชมใบไม้เปลี่ยนสีที่แปลกใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าได้ที่หมู่บ้านโซอุนเคียวที่เชิงเขา        นอกจากนั้นหุบโซอุนเคียวยังมีน้ำตกที่สวยงามอย่างน้ำตกริวเซและน้ำตกกินกะ อีกทั้งมีสถานที่ธรรมชาติชมใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด อย่าง หินลาวา Obako ที่เกิดจากการประทุของภูเขาไฟ ทำเกิดเป็นภาพที่สวยงามถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดอีกหนึ่งอย่างของโซอุนเคียว ช่วงเวลาที่แนะนำคือเดือน สิงหาคม – พฤศจิกายน พิกัด: Sounkyo     3. ยอดเขาคุโรดาเกะ   สายธรรมชาติเราขอแนะนำชมใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโดที่นี่เลยยอดเขาคุโรดาเกะ เพราะหากมาเที่ยวที่นี่ทุกคนจะได้เห็นการเปลี่ยนสีใบไม้ทั่วทั้งภูเขาคุโรดาเกะ ซึ่งมีความสูงถึง 1,984 เมตร ทางเริ่มต้นจะอยู่ที่หมู่บ้านในหุบเขาโซอุนเคียว ภายในหมู่บ้านจะมีทั้งโรงแรม ออนเซ็น ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นอกจากนั้นถ้าเราเดินทางไปยังยอดเขาคุโรดาเกะ จะมีกระเช้าขึ้นไปยังสถานี Upper Station เป็นจุดที่เราจะได้เห็นวิวจากด้านบนซึ่งมีความสวยงามอย่างมาก ก่อนที่เราจะเดินทางไปยังยอดเขาคุโรดาเกะระหว่างทางสามารถแวะชมธรรมชาติของดอกไม้หลากหลายชนิดตลอดเส้นทาง แต่การเดินทางอาจจะมีความลำบากบ้างแต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะเราจะได้ชมวิวอันสวยงามของธรรมชาติในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ฮอกไกโด พิกัด: Kurodake Mountain   4. ยอดเขาอะซาฮิดาเกะ มาฮอกไกโดอีกหนึ่งที่ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือยอดเขาอะซาฮิดาเกะที่มีความสูงที่สุดในญี่ปุ่นมีความสูงถึง 2,290 เมตร ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทานแห่งชาติไดเซสึซังฝั่งเขาอะซาฮิดาเกะ เส้นทางจะเริ่มต้นที่หมู่บ้านอะซาฮิดาเกะออนเซ็น มีกระเช้า Asahidake Ropeway ในหมู่บ้านแห่งนี้กระเช้าจะพาทุกคนเดินทางไปยังสถานี Sugatami ซึ่งต่อจากนี้จะเป็นการผจญภัยซึ่งเลือกเดินได้ 2 เส้นทาง        เส้นทางที่ 1 ผ่านบึง Kagami และบึง Suribachi จุดเด่นคือ มีรูปร่างคล้างรูปหัวใจ บริเวณพื้นที่แห่งนี้ยังพืชพรรณสีเขียวตัดกับท้องฟ้าทำให้มันดูสวยงามมากขึ้นไปอีก เหมาะกับการถ่ายรูปเช็คอินสุดๆ ไปเลย        เส้นทางที่ 2 นี้จะเป็นวิวธรรมชาติต้นไม้กับลำธารทั้งนี้ระหว่างทางจะมีหินริมบึง Sugatami เป็นแลนด์มาร์กสำคัญประจำเส้นทางนี้ ซึ่งระหว่างจะได้ชมการเปลี่ยนสีของใบไม้ตลอดทั้ง 2 เส้นทาง หากนักท่องเที่ยวต้องการไปชมวิวยอดเขาก็สามารถเดินขึ้นไปยังยอดเขาได้อีกด้วย ที่นั่นเราจะได้พบกับวิวอันยอดเยี่ยมของธรรมชาติกับสีส้มสลับเหลืองรับรองว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง   พิกัด: Asahidake   5. เส้นทางชิเรโทโกะ ไปเที่ยวฮอกไกโด เส้นทางชิเรโทโกะ (Shiretoko Pass) เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางคมนาคมบนเกาะฮอกไกโด แน่นอนในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเพราะสองข้างทางจะเต็มไปด้วยวิวของต้นไม้สีเหลืองสลับส้มแล้วยิ่งเส้นทางชิเรโทโกะ นั้นวิวสองข้างทางนี่คือสวยจนไม่รู้จะบรรยายยังไงเลยล่ะครับ แน่นอน Shiretoko Pass ไม่ได้มีดีแค่วิวสองข้างทางที่นี่ยังมีภูเขาราอูซุ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งในภูเขาที่มีความสูงมากที่สุดในชิเรโทโกะเลยทีเดียว โดยมีความสูงมากถึง 1,661 เมตร ถ้าได้ไปยืนถ่ายรูปบนยอดเขากับวิวใบไม้เปลี่ยนสีกับท้องฟ้าและธรรมชาติอันสวยงามพูดได้คำเดียวคุ้มมากกกกกกกก พิกัด: Shiretoko Pass   6. น้ำตกโอชินโคชิน ชมใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโด ต้องไปที่น้ำตกที่มีชื่อในฮอกไกโด ต้องมีชื่อนี้แน่นอน Oshinkoshin Falls เพราะเป็นน้ำตกที่ติด 1 ใน 100 น้ำตกที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งน้ำตกนี้จะตั้งอยู่ติดถนนใช่แล้วฟังไม่ผิดตั้งอยู่ติดถนนสายหลักที่มาจากซาอะริไปยังเมืองอูโทโร่ ทำให้น้ำตก Oshinkoshin Falls มีความสะดวกสบายในการเดินทางมาเที่ยวชมธรรมชาติแล้วยิ่งในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี น้ำตก Oshinkoshin Falls จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล  โดยในช่วงฤดูร้อนนั้นที่นี่จะชุ่มฉ่ำเเละเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ น้ำตกสูงสวยงามเเละกระเเสน้ำไหลตกลงกระทบกับลานหินเบื้องล่าง แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะเป็นสีส้มสลับเหลืองแน่นอนว่าสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว   พิกัด: Oshinkoshin Falls   7. ทะเลสาบทั้งห้าของชิเรโทโกะ ร์ฮอกไกโด จะมีทะเลสาบขนาดเล็กจำนวน 5 แห่ง ที่ชื่อว่า Shiretoko Five Lakes โดยจะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน โดยเกิดจากภูเขาไฟอิโอะระเบิดทำให้เกิดน้ำพุขึ้นมากจากดินสถานที่แห่งนี้ชาวญี่ปุ่นยังเชื่ออีกว่าเปรียบเสมือนนิ้วทั้ง 5 ของพระผู้เป็นเจ้า วิวโดยรอบของทะเลสาบทั้งห้าชิเรโทโกะจะมีภูเขาโอบล้อมเอาไว้ และมีต้นไม้และผืนหญ้าที่มีความสวยงามอย่างมากโดยจุดที่น่าสนใจมากที่สุดก็เห็นจะเป็นในส่วนของสะพานไม้ยกระดับที่มีความยาวกว่า 800 เมตร ที่จะพาทุกคนชมวิวธรรมชาติอันสวยงาม ทั้งทะเลสาบ ภูเขาที่ล้อมรอบอยู่ เเละทะเลโอค็อตสค์นับเป็นว่าจุดที่น่าสนใจในการชมฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ฮอกไกโดอีกที่หนึ่งเลย  พิกัด: Shiretoko Five Lakes   ใครกำลังวางแพลนไปทัวร์ฮอกไกโด ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีอย่าลืมตามไปเช็คอินให้ครบทุกที่ด้วยนะ รับรองว่าไม่มีทางผิดหวังแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม