All articles abouts เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ

ให้มันเป็นสีชมพู! รวม 7 ขนมซากุระดีต่อใจ พร้อมกลิ่นอายของ‘ดอกซากุระ’

ให้มันเป็นสีชมพู! รวม 7 ขนมซากุระดีต่อใจ พร้อมกลิ่นอายของ‘ดอกซากุระ’

21 ม.ค. 62

โดยวันนี้ ทัวร์ครับ จะพาไปดู 7 ขนมดีต่อใจรสชาติเยี่ยม ที่มีกลิ่นอายของซากุระลอยมาเต็มๆ เอาไว้กินไปเพลินๆ ระหว่างนั่งชมซากุระก็ได้ หรือจะซื้อกลับมาเป็นของฝากให้คนสำคัญก็ดี บอกเลยว่าใครไปเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ต้องห้ามพลาด!! 1. Sakura Cup Cake นี่เป็นร้านเบเกอรี่ชื่อดังจากนิวยอร์กเลยนะครับ ชื่อว่า Magnolia Bakery ซึ่งเค้าเนี่ยได้มาทำการเปิดสาขาที่ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นจึงมีเมนูยอดฮิตตามฤดูกาล อย่างในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ก็จะจัดทำเมนูพิเศษขึ้นชื่อว่า Sakura Cup Cake โดยจะเป็นคัพเค้กสีหวานสดใสเป็นซากุระสีชมพูน่ากินอย่างมาก แถมรสชาติดี กินกี่คำก็ฟิน แค่หน้าตาก็น่ากินแล้วล่ะครับ โดยจะวางจำหน่ายไปจนถึงวันที่ 15 เมษายนเลย สามารถหาซื้อได้ที่สาขา Omotesando 2. เอแคลร์ ซากุระ ของดีนี้มาจากร้าน FAUCHON เป็นเอแคลร์สีชมพูอ่อนซึ่งเป็นธีมของซากุระนั่นเองครับ และมีการประดับด้วย White Chocolate ซึ่งจะทำให้ความเป็นซากุระนี้โดดเด่นเข้าไปใหญ่ ด้านในนั้นจะอัดแน่นไปด้วยครีมคัสตาร์ดแบบหวานฉ่ำ รสชาติเยี่ยม มีกลิ่นละมุนของซากุระให้ได้บรรยากาศทุกคำที่กิน เหมาะจะเป็นขนมทานเล่นในทุกๆ ช่วงเทศกาลจริงๆ ไม่จำเป็นต้องกินเฉพาะฤดูใบไม้ผลิเลย 3. Tirol-Choco ซากุระโมจิ Tirol-Choco เป็นขนมแบรนด์ญี่ปุ่นที่หลายๆ คนชอบซื้อมากินเล่นกันอยู่แล้วนะ แต่ที่ต้องยกเครดิตให้ความน่าสนใจก็เพราะ ช่วงเดือนเมษายนเนี่ยเค้าจะทำไลน์ผลิตใหม่ขึ้นเพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลินั่นเอง เป็นโมจิรสซากุระทั้งยังมีผงใบชาที่ให้กลิ่นและรสชาติเหมือนซากุระทุกประการ แถมเป็นช็อกโกแลตที่เคี้ยวได้หนึบหนับ เพลิน และราคาถูกอีกด้วยนะครับ กินทั้งวันก็ยังได้ 8 ชิ้น 100 เยนเท่านั้น 4. Pablo Cheese พุดดิ้งซากุระ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะว่าพุดดิ้งเด้งดึ๋งเนี่ยจะสามารถถูกปรุงแต่งขึ้นมาจนกลายมาเป็นรสชาติแบบซากุระได้ด้วย ซึ่งร้าน Pablo ร้านของหวานชื่อดังระดับโลกเค้าได้ทำการเนรมิตของหวานจากชีสด้วยพุดดิ้งเนื้อละมุน พร้อมด้วยน้ำเชื่อมกลิ่นซากุระ ผสมความหอมหวานทั้งคู่นี้อย่างลงตัว ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิแบบนี้เค้าขายดีจริงๆ นะครับ ใครไปช่วง 15 มีนาคม – 14 เมษายน เนี่ยห้ามพลาดเด็ดขาด 5. Starbuck ซากุระ ร้านกาแฟชื่อดังที่โดนใจคนบ้านเราอย่างมาก อย่าง Starbuck เอง ก็ได้ทำการออกจำหน่ายเครื่องดื่มสุดล้ำที่อิงกระแสตามความนิยมครั้งนี้ออกมาด้วยนะคะ เป็นเครื่องดื่มสีหวานแหววชมพูนำมาเลย แถมใช้ชื่อว่า sakura blossom cream Frappuccino เพื่อคงเอกลักษณ์ให้สำหรับคอกาแฟทั้งหลายไม่ผิดคอนเซ็ปต์ รวมถึง sakura blossom cream latte ร้อนๆ หอมๆ ดื่มกันให้ฟินช่วงซากุระเบ่งบานกันได้เลย มาเที่ยวญี่ปุ่นฤดูนี้ทั้งทีก็ต้องสั่งมากินกันด้วยนะถึงจะดีต่อใจที่สุด หรือใครไม่ถนัดทานกาแฟเค้าก็มีชิฟฟอนเค้กกลิ่นซากุระออกมาวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน 6. โดรายากิซากุระ หลายๆ คนอาจจะรู้จักโดรายากิมาจากเรื่องโดเรมอนใช่มั้ยครับ เพราะเป็นอาหารจานโปรดของโดเรม่อนเค้าเลย โดยที่ญี่ปุ่นเนี่ยก็เป็นเหมือนขนมพื้นบ้านที่มีคนนิยมชมชอบอย่างมาก แถมถ้าใกล้เทศกาลฤดูใบไม้ผลิแบบนี้เค้าก็จะจัดทำรสชาติยอดฮิตแบบซากุระออกมาวางขายเอาใจนักท่องเที่ยวกันอีกต่างหาก มีจุดเด่นที่ไส้ถั่วแดง แต่หอมไปด้วยกลิ่นซากุระ และมีแป้งโดรายากิสุดหนึบหนับ ทำให้ถูกใจทั้งวัยรุ่น ทั้งผู้ใหญ่ กินได้แบบอิ่มท้อง แถมอร่อย ไม่ควรพลาดเลยล่ะครับในฤดูใบไม้ผลินี้ 7. Lindt chocolate cafe ซากุระ อีกหนึ่งเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นที่ใครเห็นเป็นต้องหลงใหล กับ ช็อกโกแลต Lindt ที่หลายคนชื่นชอบ มีเมนูขนมซากุระและเครื่องดื่มเลอค่าต่างๆ มากมายยกมาเสิร์ฟให้กินกันในรสชาติที่แตกต่างจากปกติ เพราะเค้ามีให้แค่ช่วงเทศกาลนี้เท่านั้นนะครับ เป็นเหมือนเอกลักษณ์อันน่าสะดุดตาที่หากินไม่ได้ทั่วไป ต้องรอให้ถึงเวลาเท่านั้น พร้อมกินคู่กับมาการองซากุระ Délice Sakura ที่มีสีมุ้งมิ้งชวนให้ฟิน บอกเลยว่าสาวๆ ที่รักในความแบ๊วต้องชื่นชอบฤดูใบไม้ผลินี้อย่างแน่นอน นอกจาก 7 ขนมสุดอร่อยที่มาในสไตล์ซากุระเหล่านี้แล้ว ที่ญี่ปุ่นเอง หรือประเทศต่างๆ ในฤดูใบไม้ผลิก็มักจะวางจำหน่ายสินค้าที่ตรงกับช่วงเทศกาล ทำให้เราสามารถหาทานอาหารแปลกๆ หน้าตาไม่เหมือนปกติ และมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ได้อีกเพียบเลยล่ะ เพราะฉะนั้นใครที่ว่างอยู่ยังไม่รู้ว่าหยุดยาว ‘เมษายน’ จะไปเที่ยวไหนดี ก็มาจองทัวร์ญี่ปุ่นให้พ่อแม่ ครอบครัว หรือแฟนสุดที่รัก กุมมือกันไป จอง ทัวร์ญี่ปุ่น กับทาง ทัวร์ครับ เติมหัวใจให้พองโต ลิ้มรสชาติความอร่อยของขนมซากุระ และดื่มด่ำบรรยากาศแห่งความรักครั้งนี้กันได้เลย

อ่านเพิ่มเติม
จองที่ชมซากุระอย่างไรให้ไม่โดนว่า !! 7 เคล็ดลับปูเสื่อนั่งปิกนิก “ชมซากุระ” ที่ญี่ปุ่น
จองที่ชมซากุระอย่างไรให้ไม่โดนว่า !! 7 เคล็ดลับปูเสื่อนั่งปิกนิก “ชมซากุระ” ที่ญี่ปุ่น

21 ม.ค. 62

การชมซากุระบานนี่เป็นความฟินอย่างหนึ่งเลยนะ ไม่ใช่แค่กับคนไทย แต่คนญี่ปุ่นที่ได้เห็นซากุระทุกปีเค้ายังชื่นชอบและนิยมทำกันมาจนถึงทุกวันนี้เลย เพราะเป็นกิจกรรมที่ทำได้ง่ายมากๆ และฟื้นฟูสภาพจิตใจที่เหนื่อยล้าจากการทำงานมาตลอดทั้งปีได้เป็นอย่างดี แค่นั่งมองต้นซากุระ รับอากาศบริสุทธิ์ พร้อมนั่งเล่น นั่งคุยกันให้เวลาผ่านไปชิลๆ สายลมพัดเบาๆ ปัดความเหงา ความเหนื่อยให้หายไป เท่านี้ก็ฟินมากๆ แล้วล่ะครับ 1.อย่าจองพื้นที่เยอะมากเกินไป เพราะมีอีกหลายคนที่เค้าอยากดู เราไม่ใช่คนเดียวที่อยากดูซากุระเบ่งบาน แต่ยังมีเพื่อนๆ อีกมากที่เค้าก็ต้องการนั่งดูเพลินๆ ทำนู่นทำนี่ไปเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราอย่าจองพื้นที่มากเกินความจำเป็นเด็ดขาด มากี่คนก็จองเท่านั้นก็พอ อย่าถึงกับต้องปูกินพื้นที่เยอะๆ เลยครับ แบ่งให้คนอื่นเค้าด้วย เพราะส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ในการรับชมซากุระก็มีจำกัดด้วย ดังนั้นเผื่อแผ่ให้คนอื่นบ้างจะได้ไม่โดนหาว่าเสียมารยาทเนอะ 2.หาคนเฝ้าพื้นที่ไว้ด้วยล่ะ อย่าปูไว้แล้วก็เดินจากไป พอได้พื้นที่ดีๆ มีทำเลที่เหมาะสม ร่ม สบายแล้ว ก็ให้เพื่อนๆ ทำการปูเสื่อจองพื้นที่นั่งมองซากุระได้เลยครับ แต่ต้องไม่ลืมนะว่า หลังจากปูเสร็จแล้วเนี่ยเราต้องมีคนเฝ้าที่เอาไว้ด้วยนะ ก่อนจะลุกไปถ่ายรูปเล่น หรือซื้อขนมมากิน เพราะเจ้าหน้าที่ที่นี่เค้าจะค่อนข้างซีเรียสนิดนึงตามระเบียบบ้านเค้านั่นแหละ โดยถ้าเสื่อไหนที่ไม่มีคนอยู่เฝ้าเมื่อไหร่ เค้าจะทำการเก็บไปทันที เพื่อให้คนอื่นได้ใช้พื้นที่ต่อ 3.ศึกษากฎให้ดีๆ บางพื้นที่มีข้อห้ามด้วยนะ เวลาจะไปปูเสื่อปิกนิกชมซากุระต้องไม่ลืมศึกษากฎของแต่ละที่ไว้ด้วยนะครับ เพราะบางที่เนี่ยเค้าก็จะมีกฎเฉพาะของเค้าเอง เช่น ห้ามปูเสื่อใกล้ต้นไม้มากเกินไป (เพราะอาจทำให้เรานั่งทับรากต้นซากุระ และส่งผลเสียต่อต้นไม้ได้) หรืออาจจะมีการเซฟพื้นที่ไว้ เป็นโซนห้ามเข้า ซึ่งก็ต้องตรวจสอบกฎข้อห้ามของสถานที่เหล่านั้นให้ดีๆ นิดนึงเนอะ จะได้ไม่เสียมารยาท 4.ปักหมุดให้ดี อย่าให้เสื่อปลิวไปเป็นภาระคนอื่น ไหนๆ ก็ได้พื้นที่มาไว้ชมซากุระแล้ว เพื่อนๆ ก็ต้องดูแลพื้นที่ของตัวเองดีๆ ด้วยนะครับ อย่ากินขนม หรือทิ้งขยะหกเลอะเทอะ เพราะถึงมันจะอยู่บนเสื่อ แต่พอลุกขึ้นเก็บเสื่อแล้วมันก็อาจจะหกเปื้อนพื้นดินได้อยู่ดี ดังนั้นตรงส่วนของมุมทั้ง 4 ด้านของเสื่อให้เราหาหินแถวๆ นั้นมาวางทับเอาไว้ให้แน่นหนา หรือใครพร้อมหน่อยก็เตรียมหมุดมายึดเองก็ได้ (แต่ระวังอย่าให้โดนรากต้นไม้ล่ะ) การยึดมุมแบบนี้จะทำให้เสื่อไม่ปลิวกระเด็นไปรบกวนคนอื่น และช่วยให้เราปิกนิกได้ดีขึ้นนั่นเองครับ 5.ออกมาจองตั้งแต่เช้าเลย ไม่งั้นอาจพลาดที่ดีๆ ก่อนจะไปจองพื้นที่ชมซากุระแนะนำให้เช็กพยากรณ์อากาศและพยากรณ์ความเบ่งบานของต้นซากุระในละแวกนั้นดีๆ เลยค่ะ เพราะกิจกรรมนี้เป็นอะไรที่ชาวญี่ปุ่นเค้าตั้งหน้าตั้งตารอกันเลยนะ ดังนั้นหลายคนก็จะออกมาจับจองพื้นที่กันตั้งแต่คืนก่อนหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราคงไม่ไหวหรอกเนอะ เอาเป็นว่าตื่นเช้ามาค่อยรีบมาจองเนี่ยแหละค่ะเวิร์คสุด อย่าชะล่าใจรอบ่ายๆ เด็ดขาด เพราะจะไม่ทันการณ์และอดได้พื้นที่ของตัวเอง แบบนั้นน่าเสียดายแย่เลย 6.ระวังเจ้าอีกาตัวดี เพราะมันจะคอยขโมยทุกสิ่งอย่าง ช่วงเวลากลางวันเนี่ยให้ระมัดระวังอีกาเอาไว้ให้ดีเลยค่ะ เพราะมันเป็นสัตว์ขี้ขโมยมากๆ ยิ่งถ้าเราวางทั้งขนม นม เนยต่างๆ จองไว้เต็มพื้นที่ล่ะก็ เผลอแป๊บเดียวมันก็จะบินมาโฉบเอาไปแบบไม่ทันรู้ตัวเลย บางทีอาหารอยู่ในมือแท้ๆ มันยังกล้าบินมาจิกกินเลยนะคะ เพราะฉะนั้นเอาขนมเก็บไว้ในกระเป๋าให้มิดชิด แล้วค่อยหยิบออกมาตอนจะกินดีที่สุดค่ะ จะได้ไม่เจอแย่งให้เสียอารมณ์ด้วย 7.อย่าลืมนึกถึงการเข้าห้องน้ำด้วยนะ เพราะเวลามานั่งปิกนิกดูซากุระแบบนี้ เราคงไม่นั่งกันแค่ 5-10 นาทีแน่นอนค่ะ แต่นั่งกันหลายชั่วโมงชิลๆ ไปเลย ซึ่งระหว่างนั้นก็ต้องมีการลุกไปเข้าห้องน้ำอยู่แล้ว โดยตามจุดชมซากุระต่างๆ เค้าก็จะมีห้องน้ำไว้บริการ แต่แนะนำว่าควรตั้งแลนด์มาร์กของเราไว้ไม่ให้ชิดห้องน้ำเกินไป และไม่ไกลเกินไป เอาแบบพอดีๆ เพราะจะได้ไม่ต้องเดินไกล และไม่ต้องรำคาญคนเดินพลุกพล่านนั่นเอง สุดท้ายแล้วเพื่อนๆ ที่อยากจะชมซากุระแบบพลาดไม่ได้จริงๆ เนี่ย แนะนำให้เดินทางไปกับ ทัวร์ครับ ดีที่สุดนะคะ เพราะต้องขอเตือนไว้ก่อนนะว่าซากุระมันจะมีระยะเวลาในการเบ่งบานเต็มที่จริงๆ ก็แค่ 7 วันเท่านั้น ถ้าเราพลาดแล้วก็คือพลาดเลยนะ อดชมซากุระสวยๆ แน่นอน แต่ถ้าไปกับทาง ทัวร์ครับ เราจะมีการบุ๊กวันที่ดีต่อใจ และพาเพื่อนๆ ไปชมดอกซากุระที่เบ่งบานแบบสวยงามที่สุดอย่างแน่นอนค่ะ ทำให้วางใจได้เลยว่าการมาพักผ่อนครั้งนี้จะไม่ต้องเครียด หรืออดเห็นซากุระ ไม่ต้องห่วงเรื่องที่พัก และอาหารการกิน เพราะทางเราเตรียมบริการให้เพื่อนๆ เที่ยวได้แบบจุใจอย่างเดียว ไม่ต้องคำนึงถึงอะไรให้วุ่นวายเลย อ่านต่อ บทความ'ทัวร์ครับ'แนะนำ >>ให้มันเป็นสีชมพู! รวม 7 ขนมซากุระดีต่อใจ พร้อมกลิ่นอายของ‘ดอกซากุระ’<<  

อ่านเพิ่มเติม
ไปถึงที่อย่าให้เสียชื่อคนไทย 4 มารยาทการชมซากุระที่ถูกต้อง แบบฉบับคนญี่ปุ่น
ไปถึงที่อย่าให้เสียชื่อคนไทย 4 มารยาทการชมซากุระที่ถูกต้อง แบบฉบับคนญี่ปุ่น

21 ม.ค. 62

  ทำไมต้องไปนั่งชิลๆ ใต้ต้นซากุระด้วย? หนึ่งในกิจกรรมที่คนส่วนใหญ่มักชอบทำกันใน ช่วงเมษายน นี้ก็คือ การได้ไปนั่งใต้ต้นซากุระสีชมพูขาวที่ดอกเยอะจนเปลี่ยนโลกนี้สู่ความสงบสุขนั่นเอง เพราะมันจะทำให้เราได้ใช้เวลาไปอย่างสบายๆ เพลิดเพลินกับการนั่งคุย นั่งเล่น กินขนมกันไป ทำนู่นทำนี่ไป ปล่อยตัวสู่ความเป็นธรรมชาติ แค่นอนรับลมเฉยๆ ก็ฟินมากแล้วล่ะครับ เป็นบรรยากาศที่ปีหนึ่งจะหวนมาให้เราได้สัมผัสสักครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง และที่สำคัญเลยนะ ความสวยงามของซากุระนี้จะคงอยู่แค่ 7-10 วันเท่านั้น ก่อนจะร่วงโรยดับไปไม่สวยเหมือนเดิม ดังนั้นจึงควรซึมซับบรรยากาศตรงนี้เอาไว้ให้มากที่สุด เก็บเกี่ยวประสบการณ์ความสวยงามครั้งนี้เอาไว้ในใจ โดยการมานั่งปิกนิกกันใต้ต้นซากุระนี่แหละครับ ถูกต้องที่สุดแล้ว แต่อย่าลืมนะว่าเข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม และนี่คือ 4 มารยาทในการชมซากุระที่เราต้องยึดตามแบบอย่าง และห้ามทำพลาดเด็ดขาด 1. ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง อย่าลืมรักษาความสะอาดด้วย เพราะพื้นที่ในการรับชมซากุระนั้นมีจำกัดนะครับ ดังนั้นเราจึงต้องแบ่งสันปันส่วนให้กับใครหลายๆ คน ซึ่งเมื่อเราลุกออกไป พวกเศษขยะต่างๆ ที่เรากินเหลือทิ้งไว้ก็ต้องนำเก็บไปทิ้งด้วย และต้องรักษาความสะอาดเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ห้ามทำเลอะเทอะเด็ดขาดนะ จะกินอะไรก็ไม่มีใครว่าหรอกครับ สำคัญคือต้องไม่ทำให้สิ่งแวดล้อมแย่ลงเนอะ เป็นมารยาทพื้นฐานง่ายๆ ที่ต้องจำให้ขึ้นใจ เพราะถ้าเผลอทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางอาจโดนปรับเอาได้ง่ายๆ เลย แค่ทำตามขั้นตอนนี้ก็จะทำให้เที่ยวชมซากุระได้อย่างมีความสุขแล้วล่ะครับ 2. อย่าส่งเสียงดังโวยวายรบกวนชาวบ้าน เอาจริงๆ แค่นั่งคุยกันใต้ต้นซากุระนี่ก็มีความสุขและฟินมากแล้วนะครับ เพราะมันเหมือนถูกดูดเข้าไปในอีกโลกหนึ่งที่มีทั้งความสวยงาม สงบ และน่าหลงใหล แต่ถึงแม้มันจะเป็นที่เปิดโล่งยังไง เราก็ห้ามส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านเค้าเด็ดขาด เพราะตรงนี้ไม่ใช่พื้นที่ของเราคนเดียว ยังมีคนอื่นอีกมากมายที่หวังจะมาซึมซับบรรยากาศดีๆ แบบนี้ด้วยกัน เพราะฉะนั้นจะคุยกันก็เอาให้มันพอดี ไม่ส่งเสียงรบกวนคนอื่นๆ เค้านะครับ คุยกันสบายๆ จะทำให้สภาพแวดล้อมน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลย ใครที่ดื่มแอลกอฮอล์ก็ปรามๆ ตัวเองนิดนึง หรือบอกให้เพื่อนช่วยสะกิดด้วยก็ได้ เพราะบางทีเราเองก็โวยวายมากไปแบบไม่รู้ตัว 3. จับจองพื้นที่ให้พอดีคน อย่าเยอะเกินไปจนน่าเกลียด เรื่องของการจองพื้นที่นั่งชมซมซากุระ ถึงแม้จะไม่มีใครออกกฎหมายกำหนดมาว่าต้องนั่งจองแค่ไหน แต่ให้รู้กันเองเป็นมารยาทแล้วกันเนอะว่า จองได้ แต่ให้จองแบบพอดีคนก็พอ เพราะทุกคนก็คงอยากได้ทำเลดีๆ กันทั้งนั้นแหละครับ เอาไว้รับชมบรรยากาศดีๆ นั่งดื่ม นั่งกินกันแบบสบาย ยืดแข้งยืดขาได้ แต่ก็ต้องไม่เบียดเบียนคนอื่นด้วย เพราะช่วงเวลาในการรับชมซากุระนั้นปีหนึ่งมีแค่ไม่กี่วัน ถ้าพลาดบรรยากาศดีๆ แบบนี้ไปอาจจะต้องรอถึงปีหน้าเลย ดังนั้นจับจองพื้นที่กันอย่างพอดี และเผื่อแผ่ให้คนรอบข้างด้วยดีที่สุด ถือเป็นอีกหนึ่งมารยาทสำคัญที่ควรทำตามอย่างยิ่ง 4. ห้ามจับต้นซากุระเด็ดขาด เพื่อให้ธรรมชาติอยู่คู่กับเราไปนานๆ ข้อนี้หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนนะครับว่าเค้ามีกฎข้อห้ามนี้ด้วย แต่ขอให้นึกเอาไว้ว่าซากุระเองก็เป็นต้นไม้ที่มีชีวิตเหมือนกัน แถมค่อนข้างจะบอบบางมากเลยล่ะ เห็นต้นใหญ่แบบนี้แต่ต้องการการดูแลที่ดีมากนะ เพราะฉะนั้นเราห้ามเด็ดขาดเลย ห้ามเอามือไปแตะต้องต้นซากุระ หรือหักกิ่งเล่น รวมถึงห้ามนั่งทับหรือกางเสื่อปูนั่งกันบนรากของต้นซากุระ เพราะจะทำให้ต้นไม้ตายได้ อย่าคิดว่าเรื่องนี้มันโอเวอร์นะครับ ลองคิดดูว่าปีปีหนึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมต้นซากุระเหล่านี้กี่หมื่น กี่แสนคน แล้วถ้าทุกคนจับ ทุกคนโหนกิ่งมาถ่ายรูป ต้นซากุระจะบอบช้ำมากแค่ไหน ดังนั้นการรักษากฎระเบียบของสถานที่ก็เป็นอีกหนึ่งมารยาทที่ห้ามหลงลืม ทั้งหมดนี้ก็เป็นมารยาทพื้นฐานในการเยี่ยมชมซากุระที่เพื่อนๆ ต้องรู้เอาไว้ห้ามลืมเด็ดขาดเลยนะครับและสำหรับใครที่ไม่อยากพลาดการชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิที่ออกดอกสวยมากที่สุดในปีนี้ ก็อย่าลืมมาจองทัวร์ญี่ปุ่นเที่ยวชมซากุระไปกับ ทัวร์ครับ ของเราได้เลย ช่วยให้เพื่อนๆ สบายใจขึ้นอีกเยอะ ไม่ต้องกลัวโรงแรมเต็ม ไม่ต้องกลัวจะหาของกินอร่อยๆ ไม่ได้ เพราะ ทัวร์ครับ จัดหาทั้งที่เที่ยวดีๆ ของฝากที่น่าสนใจ รวมถึงโรงแรมที่พักสุดหรู พร้อมของกินสุดอร่อยไว้ให้ทุกคนเรียบร้อยแล้ววววว   อ่านต่อ บทความแนะนำ >>จองที่ชมซากุระอย่างไรให้ไม่โดนว่า !! 7 เคล็ดลับปูเสื่อนั่งปิกนิก “ชมซากุระ” ที่ญี่ปุ่น<<

อ่านเพิ่มเติม
4 เหตุผล ทำไมคนญี่ปุ่นถึงให้ความสำคัญกับการชม ‘ซากุระ’ ที่ญี่ปุ่น
4 เหตุผล ทำไมคนญี่ปุ่นถึงให้ความสำคัญกับการชม ‘ซากุระ’ ที่ญี่ปุ่น

21 ม.ค. 62

วันนี้ ทัวร์ครับ จะพาทุกคนไปเปิดประวัติความเป็นมาของซากุระในประเทศญี่ปุ่นกัน ว่ามันมีที่มาที่ไปเป็นยังไงกันบ้างก่อนจะกลายมาเป็นมาสคอตของญี่ปุ่นได้ 1.ซากุระมีชื่อเสียงเพราะถูกสอดแทรกไว้ในวัฒนธรรมต่างๆ กุญแจสำคัญที่ทำให้ต้นซากุระมีบทบาทและเป็นตัวแทนความรักและสงบสุขแบบทุกวันนี้ ก็เพราะความเก่งกาจและชาญฉลาดของคนญี่ปุ่นนี่แหละครับ เพราะชาวญี่ปุ่นมักจะหยิบยกสิ่งต่างๆ รอบตัวมาสร้างคุณค่าและปลูกฝังมูลค่าให้มันน่าสนใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนกับที่เราเห็นมาสคอตต่างๆ ในประเทศที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแท้ๆ แต่ก็กลับสร้างให้มีชื่อเสียงและกลายเป็นแลนด์มาร์กที่น่าสนใจได้ซะอย่างนั้น โดยซากุระเองก็ถูกหยิบจับมาสร้างเป็นผลงานทางวัฒนธรรมมากมายในอดีต อย่างเช่นบทกวีที่มีการแต่งออกมาประมาณว่า ‘ถ้าหากโลกนี้ไม่มีดอกซากุระ ก็คงดำเนินชีวิตได้อย่างสงบ ไม่ต้องมาตื่นเต้นหรือเสียดายช่วงเวลาฤดูใบไม้ผลิหรอก’ ซึ่งเป็นบทประพันธ์ของ ‘อะริวาระโนะ นาริฮิระ’ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าต้นซากุระนั้นเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นเค้าเฝ้ารอดูอย่างใจจดใจจ่อถึงการผลิบานของมันมานับตั้งแต่อดีตแล้ว แถมจิตรกรในสมัยนั้นก็มักจะวาดภาพต้นซากุระบวกกับพื้นหลังของภูเขาไฟฟูจิ ทำให้ทั้งสองสิ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นฝังหัวคนทั้งโลกไปโดยปริยาย ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามในญี่ปุ่นมักจะมีซากุระอยู่ด้วยเสมอ ทำให้ความย้ำคิดเหล่านี้เองถูกปลูกฝังลงในจิตสำนึกของทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง 2.ทุกอย่างที่เป็นศิลปะ ซากุระต้องปรากฏตัว เรื่องของความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการคนญี่ปุ่นเค้าล้ำเลิศไม่แพ้ใครอยู่แล้วล่ะครับ เพราะฉะนั้นพวกการฝีมือ ตกแต่งต่างๆ เค้าจึงมักจะทำออกมาได้อย่างโดดเด่นมากเลย ซึ่งซากุระนั้นไม่ใช่ปรากฏแต่เพียงในรูปภาพ หรือบทกวี แต่ถูกส่งต่อมาจนถึงวิถีชีวิตอย่างเช่นอาหารการกิน และกลายเป็นขนมของฝากหน้าตาน่ารักที่ทำเลียนแบบดอกซากุระได้สวยงามสะดุดตามาก นำเอาเอกลักษณ์ของความเป็นซากุระมาใช้งาน สร้างมูลค่า และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำได้เป็นอย่างดี ทั้งสี รูปร่าง และกลิ่น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนๆ ก็ไม่มีทางทำได้ และไม่มีทางสื่อถึงความเป็นซากุระออกมาได้อย่างเรียบเนียนแบบนี้แน่นอน 3.คนญี่ปุ่นเริ่มชมซากุระมาตั้งแต่สมัย 1000 ปีก่อน ต้องบอกเลยนะครับว่าการชมซากุระในบ้านเค้าไม่ใช่เพิ่งจะมีเร็วๆ นี้ หรือเพิ่งฮิตกัน แต่จริงๆ เค้ามีมาเป็นพันปีแล้วล่ะครับ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ซากุระครองใจคนญี่ปุ่นได้เนิ่นนานแบบนั้น ก็เพราะสมัยก่อน เกษตรกรจะจัดงานเลี้ยงฉลองขึ้น เพื่อคอยอธิษฐานให้การเก็บเกี่ยวพืชผลของเค้านั้นทำได้อย่างราบรื่นอุดมสมบูรณ์ และแน่นอนว่าแต่ก่อนก็ยังไม่มีการระบุเดือนระบุอะไรชัดเจนมากมาย คนสมัยนั้นเลยใช้การเบ่งบานของซากุระนี่แหละครับแทนปฏิทิน ทำให้ความสำคัญของซากุระมีมาตั้งแต่ตอนนั้นเลย ซึ่งความที่สีของดอกซากุระนั้นอ่อน ขาว ชมพู แสดงถึงความบอบบาง น่าทะนุถนอม อ่อนโยน ทำให้กลายเป็นดอกไม้ขวัญใจคนญี่ปุ่นอย่างมาก ซึ่งเอกลักษณ์ที่สวยงามดูผู้ดีแบบนี้แหละครับที่ถูกใจขุนนางในสมัยนั้นสุดๆ จนถูกสั่งให้นำไปปลูกในเมืองหลวงเพื่อประดับตกแต่งไปทั่ว แสดงถึงความเป็นญี่ปุ่นได้ดีมากๆ และสุดท้ายก็กลายมาเป็นวัฒนธรรมและเอกลักษณ์จนถึงปัจจุบันนี้นั่นเองครับ 4.ความงามที่มาเพียงไม่นาน แต่ประทับใจไม่รู้ลืม เอกลักษณ์สุดท้ายที่ทำให้ดอกซากุระกลายเป็นดอกไม้ที่มีชื่อเสียงและคนชื่นชอบทั่วทั้งโลก ก็เพราะความงามของมันที่มีเวลาเชยชมที่จำกัดนี่แหละครับ สิ่งใดที่สวยตลอดไป มองเมื่อไหร่ก็ได้ แบบนี้จ้องแป๊บเดียวก็คงเบื่อ แต่ซากุระนั้นแตกต่างกัน มันจะคอยเผยโฉมความสวยงามของมันในเฉพาะเวลาที่มันต้องการ ไม่ออกมาสวยพร่ำเพรื่อให้น่าเบื่อ แต่จะเบ่งบานแค่เพียงไม่กี่วัน และหลังจากนั้นความงดงามก็จะถูกเก็บไว้ รอวันเปิดเผยครั้งใหม่ต่อไป ทำให้ความลี้ลับในความสวยงามครั้งนี้เป็นสิ่งกระตุ้นให้ผู้คนต้องมาคอยเฝ้ารอและรับชมโอกาสที่นานๆ ครั้งจะโคจรมาสักที และกลายเป็นประสบการณ์การรับชมดอกไม้ที่สวยงามที่จะคอยสร้างความตราตรึงใจ และทำให้ทุกคนที่เห็นประทับใจแบบไม่มีวันลืม เรื่องราวอันยาวนานของซากุระนี้ก็จะยังคงมีสืบต่อไปในประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้นี่แหละครับ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ควรทำให้ได้สักครั้งก่อนตายจริงๆ เลย โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนเนี่ยเป็นช่วงเดือนที่ซากุระผลิบานได้สวยที่สุดแล้ว เพื่อนๆ เลิกลังเล และไม่ต้องคิดอะไรเยอะเลย เข้ามาจองทัวร์เที่ยวชมซากุระ กับทาง ทัวร์ครับ เพื่อประจักษ์ความงดงามและตำนานอันเป็นนิรันดฺร์นี้ไปพร้อมๆ กันได้เลย   อ่านต่อ บทความแนะนำ >>ไปถึงที่อย่าให้เสียชื่อคนไทย 4 มารยาทการชมซากุระที่ถูกต้อง แบบฉบับคนญี่ปุ่น<<  

อ่านเพิ่มเติม
รวม 6 ไอเทมที่ต้องมี !! ก่อนไป "ชมซากุระ" งานนี้ดีต่อใจนั่งเพลินได้ทั้งวัน
รวม 6 ไอเทมที่ต้องมี !! ก่อนไป "ชมซากุระ" งานนี้ดีต่อใจนั่งเพลินได้ทั้งวัน

21 ม.ค. 62

แถมระยะเวลาในการเบ่งบานแบบเต็มที่ของซากุระยังมีแค่ 10 วันเท่านั้นเอง ดังนั้นไปแล้วก็ต้องเอาให้คุ้ม นั่งปิ๊กนิกชิลๆ กันไปเลยทั้งวัน ซึ่งสิ่งของที่ต้องเตรียมไว้เพื่อจะได้อยู่กันได้ยาวๆ ก็คือ 6 ไอเทมเหล่านี้นี่เอง! 1. ขนมกินเล่น และข้าวกล่อง เพราะเราจะเสียเวลากับการดื่มด้ำบรรยากาศรับชมซากุระนานมาก เพราะฉะนั้นอาหารขนมเนี่ยต้องเตรียมตัวกันมาอย่างดีเลยนะ เรียกได้ว่านั่งชิลกันสัก 3-4 ชั่วโมง ก็ซื้อมาเยอะๆ ตุนเอาไว้ได้เลย เพราะจะได้เอาไว้หยิบกินเพลินๆ คุยกับเพื่อน เล่นกับเพื่อน อ่านหนังสือไป กินไป แต่อย่าลืมล่ะว่ากินเสร็จแล้วต้องเก็บขยะทุกชิ้นกลับไปด้วยนะ อย่าให้ใครว่าเราได้ล่ะว่าเป็นคนไทยไร้มารยาท ส่วนอาหารขนมเหล่านี้ก็หาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อเลย 2. จานกระดาษ ตะเกียบ แก้วพลาสติก สำหรับใครชอบดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ ก็สามารถหยิบจับมาจากซูเปอร์มาเก็ตพร้อมขนมตามข้อด้านบนได้ และไอเทมที่ขาดไม่ได้ชิ้นต่อไปในการนั่งชมซากุระคือ จานกระดาษ ตะเกียบ และแก้วเนี่ยแหละ แต่อย่าลืมเขียนชื่อไว้ที่แก้วด้วยนะครับ เพราะเวลากินเพลินๆ ขยับที่กันบ่อยๆ อาจหลงลืมได้ว่าใครกินอะไร บางคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์จะได้รู้ด้วยไม่หยิบผิด และที่สำคัญก็รักษาความสะอาดให้สถานที่เค้าด้วยแล้วกันนะ 3. เตรียมเสื่อมาให้พร้อม การนั่งชมซากุระเนี่ยถึงจะเป็นกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวชั้นดี แต่ไม่ใช่ว่าเค้าจะมีเสื่อไว้ให้บริการนะเราต้องเตรียมไปเองนะ คือ บางที่เค้าอาจจะมีการจัดเตรียมเก้าอี้ให้ได้นั่งแบบสบายๆ ก็จริง แต่ก็มีอีกหลายที่เลยที่ไม่มี ดังนั้นเตรียมเสื่อไว้ให้พร้อมสำหรับจับจองพื้นที่ ให้พอดีกับปริมาณคนก็ถือเป้นเรื่องดีที่สุด จะได้ไม่นั่งเบียดกันจนเกินไป และแนะนำให้ใช้เสื่อที่เป็นเหมือนผ้านิ่มๆ หนาๆ ด้วยนะครับเพราะพื้นที่ที่เราปูไปบางทีอาจจะขรุขระหรือมีเศษหินต่างๆ ทำให้นั่งไม่สะดวก เสื่อนิ่มๆ จะช่วยลดแรงกดทับและการบาดเจ็บได้เยอะเลย 4. ทิชชู่ของมันต้องมี หนึ่งในไอเทมที่หลายๆ คนชอบลืมกันไปแต่ต้องใช้กันบ่อยมาก ก็คือเจ้าทิชชู่นี่แหละ เพราะหลังจากกินนั่นนี่เสร็จ หยิบจับขนมต่างๆ มือเราก็อาจจะเลอะ หรือบ่อยครั้งที่ชอบเกิดเหตุการณ์ทำน้ำหกเลอะเสื่อเกิดขึ้น ทำให้หมดสนุกต้องมาระวังไม่ให้นั่งทับน้ำอีก การเตรียมทิชชู่ไปจะช่วยเราได้อย่างมากเลย แถมเวลาไปเข้าห้องน้ำก็สามารถพกทิชชู่เหล่านี้ที่เราเตรียมมาไปใช้ได้อีกด้วย เพราะห้องน้ำสาธารณะส่วนใหญ่ของบ้านเค้าจะไม่ค่อยมีทิชชู่ หรือไม่ก็มีจริงแต่นักท่องเที่ยวช่วงนี้เยอะมากจนทิชชู่หมดเอาได้ 5. ถุงขยะไว้ใส่ของทุกอย่างไปทิ้ง หลังจากสังสรรค์นั่งเม้ามอยกันใต้ต้นซากุระเสร็จเรียบร้อย อาหารต่างๆ รวมถึงขยะที่เราเอามาก็คงเกลื่อนเต็มเสื่อไปหมดแน่ ซึ่งคนญี่ปุ่นเค้าถือเรื่องความสะอาดมากนะครับ ดังนั้นอย่ามักง่ายทิ้งตรงนั้นเด็ดขาด เก็บของทุกอย่างกลับไปด้วย รวมถึงขยะทุกชิ้น โดยเราควรเตรียมถุงขยะมาเองและต้องมีหลายๆ ใบด้วย เพื่อใช้ในการแยกขยะ ทั้งขยะกระป๋อง ขวด ขยะเผาได้ ขยะเผาไม่ได้ เพื่อเป็นการลดภาระให้ทางพนักงานขยะบ้านเค้านั่นเอง ปลูกฝังจิตสำนึกดีๆ แบบนี้เอาไว้ดีที่สุดครับ 6. ของจิปาถะอื่นๆ ตามสถานการณ์ สุดท้ายแล้วไอเทมที่ต้องเตรียมไปก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแล้วล่ะครับ บางคนมีหมอนเน่าที่ต้องติดไปด้วยทุกที่ บางคนอยากได้พร็อปสวยๆ ไว้ถ่ายรูปเล่น ทั้งตุ๊กตา ทั้งเสื้อกันฝน ทั้งเสื้อกันหนาว หยิบมาให้หมดครับ เพราะเราต้องใช้เวลาอยู่กับโซนนี้นานพอสมควร และจะได้รูปแถวนี้เยอะมาก (เนื่องจากช่วงซากุระบานมันสวยมากจริงๆ) เพราะฉะนั้นใครมีไอเทมชิ้นไหนที่อยากจะติดตัวเอาไว้ด้วยก็หยิบมาได้เลย จะได้ไม่เสียดายทีหลังว่า “รู้งี้เอา...มาด้วยก็ดีหรอก” ทั้งหมดนี้ก็เป็นเช็กลิสต์ดีๆ ทั้ง 6 ไอเทมที่คนอยากไปนั่งชมซากุระชิลๆ ต้องมีให้ได้เลย โดยเพื่อนๆ ที่ไม่อยากให้เกิดปัญหาต่างๆ วุ่นวาย หรือไม่อยากจัดแจงอะไรให้ปวดหัว ก็มาจองทัวร์ญี่ปุ่นเที่ยวชมซากุระไปกับ ทัวร์ครับ ได้เลย รับรองว่าได้เที่ยวชมซากุระยามเบ่งบานที่สุดที่หาได้ยากยิ่ง มาครั้งนี้ได้ภาพประทับใจกลับไป พร้อมซึมซับบรรยากาศดีที่ไม่มีที่ไหนมอบให้ เราจัดตารางทัวร์ที่เจ๋งๆ เตรียมไว้ให้เพื่อนๆ เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องกลัวที่พักเต็ม ไม่ต้องกลัวอาหารไม่อร่อย ทัวร์ครับ จัดหนักพาทัวร์ญี่ปุ่นแบบไม่ต้องมีภาระใดๆ จองคิว จองทัวร์ แล้วรอเที่ยวอย่างเดียวได้เลย!!!   บทความแนะนำจากทัวร์ครับ >>4 เหตุผล ทำไมคนญี่ปุ่นถึงให้ความสำคัญกับการชม ‘ซากุระ’ ที่ญี่ปุ่น<<  

อ่านเพิ่มเติม
วางแผนเที่ยวชมซากุระอย่างไร ไม่ให้พลาดช่วง Full Bloom ?
วางแผนเที่ยวชมซากุระอย่างไร ไม่ให้พลาดช่วง Full Bloom ?

21 ม.ค. 62

แต่ครั้นจะอยู่ๆ ก็ไป มันก็คงไม่คุ้มเท่าไหร่ เพราะซากุระอาจจะยังบานไม่เต็มที่ ดังนั้นวันนี้ ทัวร์ครับ จะพาทุกคนไปชมปรากฏการณ์ Full Bloom ช่วงที่ดอกซากุระจะเบ่งบานเปล่งประกายสีชมพูออกมาแบบสวยงามและน่าชมมากที่สุด ว่าเราควรจะไปช่วงไหน และเตรียมตัวยังไงบ้าง 1.เลือกวันให้ดี ถ้าอยากให้โลกนี้เป็นสีชมพู สิ่งที่ลำบากที่สุดสำหรับการเดินทางไปดูซากุระสีชมพูอลังการสุดสวยเนี่ย ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของวันเดินทางนี่แหละครับ เพราะคนส่วนใหญ่ก็ใช่ว่าจะลาเมื่อไหร่ก็ได้ ทุกคนก็ต้องทำงาน หรือมีตารางชีวิตที่แน่นเอียด จะว่างทีก็ต้องช่วงหยุดยาวซึ่งหลายคนอาจกลัวว่าตารางชีวิตตัวเองจะไม่ตรงกับช่วงซากุระบานแบบ Full Bloom ตรงนี้ไม่ต้องเครียดไปนะครับ เพราะจะบอกว่าดอกซากุระเนี่ยเหมือนรู้ใจเลย เลือกช่วงที่เบ่งบานเปล่งประกายได้สวยงามที่สุดเป็นเดือนเมษายน ซึ่งมันตรงกับเทศกาลปีใหม่ไทย หรือสงกรานต์บ้านเรา ทำให้มีวันหยุดยาวได้ถึง 4-5 วันเลย ทีนี้ก็สามารถใช้ช่วงเวลานี้จองทัวร์ญี่ปุ่นกับทาง ทัวร์ครับ เที่ยวชมดอกซากุระเบ่งบานแบบ Full Bloom ได้สบายๆ แล้ว 2.จองทัวร์ล่วงหน้า ดีกว่าไปตายเอาดาบหน้า อ๊ะๆ อย่าได้หลงลืมเด็ดขาดเลยนะครับว่า เห็นเป็นช่วงหยุดยาวสงกรานต์แบบนี้แล้วเราจะสบายใจ เที่ยวชมซากุระได้แบบชิลๆ เพราะในความเป็นจริงแล้วพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศเค้าก็หยุดวันสงกรานต์เหมือนกับเรา หลายคนก็อาจจะเล็งไปเที่ยวชมซากุระ Full Bloom เหมือนกันก็ได้ แล้วไหนจะนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกที่เล็งจังหวะซากุระเบ่งบานแบบสุดๆ นี้อีกล่ะ ทำให้ที่พัก ที่เที่ยว และสิ่งต่างๆ ในญี่ปุ่นช่วงนี้อาจแน่นขนัดจนทำให้ลำบาก (ในการกิน การนอน) เอาได้ เพราะงั้นอย่าลืมจองล่วงหน้า วางแผนการเดินทางให้ดีๆ นะครับ ถ้าอยากจะไปเองก็อาจจะต้องจองกันข้ามปีเลย ทั้งโรงแรม และตั๋วเครื่องบิน หรือใครที่ไม่อยากลุ้นอะไรให้วุ่นวาย มากับ ทัวร์ครับ นี่แหละครับสบายใจที่สุด มั่นใจได้เลยว่าจะได้พักโรงแรมสุดหรู และเที่ยวชมซากุระได้ครบทุกจุดที่เค้าว่าสวย แบบชนิดที่ว่าไม่ต้องลุ้นอะไรเลย กินอยู่สบาย เที่ยวได้เพลินๆ เป็นการมาพักผ่อนอย่างแท้จริง 3.เช็คตารางซากุระบาน เพื่อความฟินแบบขีดสุด ประเทศญี่ปุ่นถึงแม้จะเป็นเกาะที่มีขนาดเล็ก แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วก็มีพื้นที่ที่น่าสนใจอยู่เยอะแยะมากมายเลยล่ะครับ ซึ่งถึงแม้เราจะคิดว่าจะชมซากุระที่ไหนก็เหมือนกัน แต่ขอบอกเลยนะว่าไม่จริงแน่นอน เพราะแต่ละสถานที่ก็จะมีเอกลักษณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนจะเที่ยวชมซากุระ Full Bloom ได้ เราก็ต้องศึกษาให้เข้าใจถึงธรรมชาติของแต่ละที่ก่อนว่าที่ไหน เหมาะจะมาในช่วงวันไหนมากที่สุด สิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวควรจำเอาไว้ให้ขึ้นใจก็คือ ‘ซากุระจะบาน เมื่ออุณหภูมิเริ่มอุ่นขึ้น’ นี่แหละครับคือสัญญาณของการชมซากุระที่สวยที่สุด เพราะมันเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลินั่นเอง พออากาศหนาวจบลง อากาศร้อนเข้ามาแทน หลังเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ซากุระก็จะเริ่มเบ่งบาน ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเช็กตารางพยากรณ์ซากุระ Full Bloom ทั่วทั้งญี่ปุ่นได้ที่เว็บไซต์ทางการของเค้าที่ link นี้เลย 4.อยากเห็นซากุระบานเป็นคนแรกๆ ต้องออกล่าจากตอนใต้ของญี่ปุ่น สภาพอากาศของประเทศญี่ปุ่นนั้นจะเริ่มค่อยๆ ไล่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ใต้สุดจนถึงเหนือสุดเลยล่ะ ซึ่งลมหนาวจะพัดพาจากภาคใต้ของประเทศ ขึ้นสู่ภาคเหนือ และเปลี่ยนทางตอนใต้ของบ้านเค้าให้มีอากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ก่อนใครเพื่อนเลย ดังนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากจะเก็บภาพประทับใจไปอวดคนบนโลกออนไลน์ก่อนใครว่า ‘ฉันมาเยือนซากุระ Full Bloom แล้วนะ’ก็แนะนำให้เที่ยวที่โอกินาวาก่อนเลยครับ เพราะเป็นโซนที่จะเปลี่ยนจากฤดูหนาวสู่ฤดูใบไม้ผลิก่อนใคร ทำให้มีโอกาสเห็นซากุระเบ่งบานได้ไวกว่าชาวบ้านเค้าเลย ซึ่งโซนอื่นๆ กว่าจะบานก็น่าจะซักเมษายน แต่ของโอกินาวาจะเริ่มต้นความสวยไล่ไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เลย จะเอาไว้เป็นหนึ่งในลิสต์รายชื่อสถานที่ Honey Moon ในวันวาเลนไทน์ก็ยังได้นะ และสุดท้ายสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะชม Full Bloom กันจริงๆ จังๆ ขอแนะนำนะครับว่า ‘ต้อง’ ไปให้ตรงกับช่วงเวลาเท่านั้น ห้ามเลท ห้ามเกิน ห้ามไปก่อน อะไรใดๆ ทั้งสิ้น เพราะระยะเวลาในการเบ่งบานเต็มที่ของซากุระนั้นสั้นเอามากๆ เรามีเวลาแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นเองครับ ถ้าไปไม่ทันก็จบแน่นอน ได้เห็นแค่ดอกไม้ที่ร่วงหล่นเต็มพื้น ผิดแผนจนน่าเสียดายสุดๆ เลย เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดในการจะเยี่ยมชมซากุระบานได้แบบ 100% คือจองทัวร์ญี่ปุ่นไป กับทาง ทัวร์ครับ เลยครับ เพราะเราจะทำการเช็กตารางการเบ่งบานของซากุระและจัดวางแผนเที่ยวให้เพื่อนๆ มาแล้วอย่างดี มั่นใจได้ว่าจะได้เก็บภาพประทับใจไว้ในความทรงจำครั้งมาเที่ยวชมซากุระบานแบบเต็มที่ และเปลี่ยนโลกนี้เป็นสีชมพูแบบไม่เคยเห็นมาก่อนแน่นอน หมดห่วงเรื่องคลาดเคลื่อนวันเดินทาง ที่พัก และอาหารการกินต่างๆ รอเที่ยวแบบสบายใจได้เลย!   อ่านต่อ..บทความแนะนำ >>รวม 6 ไอเทมที่ต้องมี !! ก่อนไป "ชมซากุระ" งานนี้ดีต่อใจนั่งเพลินได้ทั้งวัน<<  

อ่านเพิ่มเติม
ฟินให้สุดกับ 20 จุดชมซากุระในญี่ปุ่น หนึ่งปีมีครั้งเดียว  
ฟินให้สุดกับ 20 จุดชมซากุระในญี่ปุ่น หนึ่งปีมีครั้งเดียว  

03 มี.ค. 63

ใครอยากชมความงามของดอกซากุระสีชมพูสดใสบ้าง !? ไม่ต้องรอให้เมื่อยตุ้มแล้วเพราะฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่นกำลังจะมาเยือนนน นั่นก็หมายความว่าดอกซากุระกำลังจะผลิบานเต็มที่รอให้เหล่านักท่องเที่ยวและผู้สัญจรผ่านไปมาได้ชมความงามกันแล้ว เพราะฉะนั้นใครที่กำลังมีแพลนมาญี่ปุ่นก็ล่ะก็ ทัวร์ครับ แนะนำชมซากุระในญี่ปุ่นเลยว่ากันว่าเป็นช่วงที่เมืองสวยงามและอุดมสมบูรณ์ที่สุด อากาศก็เย็นกำลังดีสามารถแต่งตัวได้ไม่ต้องถึงกับห่อตัวในเสื้อกันหนาวหนาๆ และใครที่ยังไม่รู้ว่ามาแล้วจะไปชมความงามนี้ได้ที่ไหนเราได้รวบรวมสถานที่ยอดฮิตมาให้ทุกคนจนลิสต์กันแล้วล่ะ 1. โกเรียวคาคุ  พิกัด: Goryokaku Park ชมซากุระในญี่ปุ่น มาเริ่มกันที่ Goryokaku Park เป็นที่รู้จักดีทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่น เพราะที่สวนแห่งนี้มีซากุระนับ 1,600 ต้น เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระอย่างมาก จุดเด่นของสวนแห่งนี้คือได้ชื่อว่าเป็น ป้อมปราการรูปดาว ที่เมื่อถ่ายภาพ Top view แล้วจะเห็นสวนเป็นรูปดาวอย่างชัดเจน และยิ่งไปกว่านั้นในตอนกลางคืนทางสวนจะประดับไฟที่ต้นซากุระ ทำให้เพื่อนๆ จะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสุดแสนวิเศษในค่ำคืนที่โรแมนติคอย่างแน่นอน ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Goryokaku Park จะเป็นช่วงต้นเดือนพฤษภาคมถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2. สวนชินจูกุเงียวเอน  พิกัด: Shinjuku Gyoen สวนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่าง Shinjuku Gyoen ก็สามารถเดินชมซากุระในญี่ปุ่นได้อย่างฟินๆ เพราะสวนแห่งนี้มีต้นซากุระ 65 สายพันธุ์รวมกว่า 1,100 ต้น ทำให้มีผู้คนนิยมเดินทางมาชมดอกซากุระเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเดินทางง่าย รับรองคุณจะภาพของดอกซากุระแบบกันเต็มๆอย่างแน่นอน ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Shinjuku Gyoen จะเป็นช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 3. สวนสาธารนะ นากาจิมะ  พิกัด: Nakajima Park ชมซากุระในญี่ปุ่น Nakajima Park ถือเป็นสวนที่ได้รับความนิยมอย่างมากแถมมีชื่อเสียงเลื่องลือเรื่องความสวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ เป็นสวนที่เคยใช้จัดงานหลักของการแข่งขันกีฬาซัปโปโรโอลิมปิก สวนแห่งนี้จะมีจุดเด่นที่ต้นซากุระจำนวนมากและมีต้นซากุระถึง 2 ชนิด คือ เอโซยามะซากุระ กับ ยาเอะซากุระ ยิ่งทำให้มีความสวยงามเข้ากันแบบลงตัว ชวนให้หยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศกันแบบฟินๆกันเลย หรือจะมาปิกนิคก็น่าสนใจ ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Nakajima Park จะเป็นช่วงปลายเดือนเมษายนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 4. สวนโยโยกิ  พิกัด: Yoyogi Park สวนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเรื่องการชมซากุระในญี่ปุ่นอย่าง Yoyogi Park มีพื้นที่สวนกว้างใหญ่ขนาด 300 กว่าไร่นี้มีซากุระหลากพันธุ์บานสะพรั่งกว่า 700 ต้น ยิ่งเป็นช่วงฤดูซากุระสวนแห่งนี้จะมีการจัดพื้นที่ขายอาหารเพื่อให้ผู้คนเข้ามาชมได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศกันแบบจุใจกันไปเลย และที่สำคัญที่สวนแห่งนี้หลายคนก็นิยมมานั่งเล่นปิกนิคกันอีกด้วย ใครที่ชื่นชอบกิจกรรมชิลล์ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Yoyogi Park จะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 5. ปราสาทฮิโรซากิ  พิกัด: Hirosaki Park มาถึงสวนที่ได้ความนิยมอย่างมากของญี่ปุ่นในเรื่องความสวยงามของดอกซากุระอย่าง Hirosaki Park เป็นสวนตั้งอยู่ใกล้กับปราสาทฮิโรซากิ  สวนแห่งนี้ยังมีต้นซากุระสายพันธุ์โซเมอิโยชิโนะที่มีอายุมากกว่า 100 ปี อยู่กว่า 300 ต้น เลยทีเดียว หลายคนนิยมนั่งเรือเพื่อชมความงามของดอกซากุระ อีกทั้งในตอนกลางคืนมีการเปิดให้เข้าชมความสวยงามของต้นซากุระที่ประดับไฟอย่างสวยงาม ความเห็นส่วนตัวของเราคือชอบที่นี่มากๆ เพราะไม่แออัดและสถานที่กว้างขวาง มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ ที่สำคัญถ้าใส่ชุดกิโมโนมาล่ะก็เข้ากันสุดๆ ไปเลย ไม่ควรพลาดจริงๆกับสวนแห่งนี้ ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมซากุระในญี่ปุ่นที่ Hirosaki Park จะเป็นช่วงปลายเดือนเมษายนถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ทัวร์ญี่ปุ่น ชมซากุระในญี่ปุ่น ราคาสุดคุ้ม เริ่มต้น 22,999 บาท 6. สวนอุเอโนะ พิกัด: Ueno Park ถ้านึกถึงสถานที่ชมดอกซากุระในโตเกียวล่ะก็ Ueno Park จะต้องติดลิสต์หนึ่งในนั้น สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระจำนวนมาก ทำให้มีผู้คนนิยมเดินทางมายังสวนแห่งนี้ แถมยังเป็นสวนที่เดินทางได้ง่าย จึงถูกตั้งเป็นจุดหมายปลายทางของใครๆหลายคนกันเลย ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Ueno Park จะเป็นช่วงกลางเดือนเมษายนถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 7. สวนสุมิดะ  พิกัด: Sumida Park มาถึง Sumida Park ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ตั้งอยู่ติดแม่น้ำอยู่ไม่ไกลจากสถานีอาซากุสะ สวนแห่งนี้ เป็นสถานที่ขึ้นชื่ออย่างมากในการมาชมซากุระริมน้ำหรือจะนั่งเรือล่องแม่น้ำชมความงามของซากุระจากแม่น้ำ รับรองว่าฟินกันแบบสุดๆ แถมยังมองเห็น โตเดียวสกายทรีอีกด้วยเรียกได้ว่าเป็นที่ที่สวยงามอย่างมากช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Sumida Park จะเป็นช่วงกลางเดือนเมษายนถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 8. แม่น้ำเมกุโระ พิกัด: Meguro River ใครที่อยากชมดอกซากุระริมสองฝั่งตลอดความยาวเกือบ 4 กิโลเมตรของแม่น้ำเมกุโระกันบ้างคงไม่อยากพลาดที่จะไปชมที่ Meguro River สถานที่แห่งนี้มีต้นซากุระกว่า 800 ต้น ยิ่งเป็นช่วงกลางคืนจะมีการประดับไฟช่วยสร้างบรรยากาศให้สถานที่ชวนน่าหลงใหลยิ่งขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าเดินไปฟินไปมองไปทางไหนก็มีแต่ซากุระบาน ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Meguro River จะเป็นช่วงปลายเดือนเมษายนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 9. สุสานเอโอะยามา พิกัด: Aoyama Cemetery อีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการมาท่องเที่ยวชมดอกซากุระบานคือ Aoyama Cemetery ตั้งอยู่ในบริเวณมินามิอาโอยาม่านิโจเมะ เขตมินาโตะ และที่นี่ยังมีชื่อเสียงในฐานะที่มีสุสานของเหล่าคนดังมากมาย ใครที่ชื่นชอบความเงียบสงบคงไม่อยากพลาดอย่างแน่นอน แต่ในกลางคืนอาจจะต้องคิดอีกที ขอแนะนำให้ไปช่วงกลางวันดีกว่าเนอะ ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Aoyama Cemetery จะเป็นช่วงปลายเดือนเมษายนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 10. สวนจิโดริกะฟุจิ  พิกัด: Chidorigafuchi สวนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังอิมพีเรียล เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ที่หลายคนนิยมเดินทางมาชมซากุระบานกับสวน Chidorigafuchi ถือเป็นสถานที่ที่โด่งดังอย่างมากอีกที่หนึ่งเลย เป็นการผสมผสานกันของดอกซากุระสีชมพู คูน้ำ และสีเขียวชอุ่มของพันธุ์ไม้ กับฉากหลังที่เป็นตึกสูงใหญ่ ทำให้เห็นความกลมกลืนกันของธรรมชาติในแบบญี่ปุ่นและความทันสมัยที่เข้ากันอย่างลงตัว และในตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟมีความสวยงามอย่างมากอีกด้วย ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Chidorigafuchi จะเป็นช่วงกลางเดือนเมษายนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 11. สวนตะวันออกพระราชวังอิมพีเรียล พิกัด: East Gardens of the Imperial Palace เมื่อพูดถึงเขตพระราชวังไม่ต้องพูดถึงความสวยอลังเลยเพราะของมันแน่นอนอยู่แล้ว อย่างที่ East Gardens of the Imperial Palace ก็มีต้นซากุระบานโดยรอบกว่า 280 ต้น ภายในสวนมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น ร่องรอยปราสาทเอโดะ นอกจากนั้นภายในสวนยังมีพิพิธภัณฑ์ของสะสมในพระองค์ เรียกได้ว่าคุ้มค่าอย่างมากแถมได้ชมดอกซากุระกันแบบเข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นกันเลย ถือเป็นสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากมักเลือกเดินทางมายังสวนแห่งนี้เพื่อรอชมดอกซากุระบาน ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ East Gardens of the Imperial Palace จะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 12. สวนโคอิชิกาว่า โคระคุเอ็น  พิกัด: Koishikawa Korakuen Garden มาถึงสวนเก่าแก่อย่าง Koishikawa Korakuen Garden ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะเป็นสวนที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมจีนโดยจะเห็นได้จากบริเวณต่างๆ ภายในสวนจะถูกตั้งชื่อตามสถานที่ที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน ถือเป็นสวนที่เหมาะแก่การไปชมดอกซากุระบานอย่างมาก ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Koishikawa Korakuen Garden จะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 13. สวนฮามะริเคียว พิกัด: Hamarikyu Gardens Hamarikyu Gardens ถือเป็นสวนที่มีความสวยงามอย่างมาก ถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะได้รับการรับรองเป็นสถานที่พิเศษที่มีความงามและมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติ เรียกได้ว่ามีความเก่าแก่ผสมผสานกับความสวยงามไม่น้อยเลย แล้วยิ่งเป็นช่วงฤดูซากุระบานยิ่งเพิ่มความสวยงามให้สถานที่แห่งนี้มากขึ้นอีกเท่าตัวเลยล่ะ ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Hamarikyu Gardens จะเป็นช่วงกลางเดือนเมษายนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 14. สวนฮิบิยะ  พิกัด: Hibiya Park สำหรับใครที่ไม่อยากเดินทางไกลออกจากเมืองโตเกียว เราขอแนะนำสวนที่สามารถชมดอกซากุระบานได้คือ Hibiya Park แม้จะอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ แต่ก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับการชมซากุระกว่า 40 ต้นได้ที่สวนแห่งนี้ เป็นสวนแบบสมัยใหม่แห่งแรกของญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี เห็นได้จากน้ำพุขนาดใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในสวนญี่ปุ่น ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Hibiya Park จะเป็นช่วงกลางเดือนเมษายนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 15. สวนริคุงิเอน  พิกัด: Rikugi Park มาถึงสวน Rikugi Park ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสองสวนญี่ปุ่นใหญ่แห่งเอโดะ เคียงคู่กับสวนโคะอิชิคาวะโคราคุเอน นอกจากสวนที่สวยงามแล้ว ทุกคนจะต้องมาชมความงามของต้นชิดาเระซากุระอยู่กลางสวนไฮไลท์ของที่นี่ที่มีความสวยงามอย่างมากเรียกได้ว่าใครเห็นต้องเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของมันอย่างแน่นอน ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Rikugi Park จะเป็นช่วงปลายเดือนเมษายนถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 16. แม่น้ำชิโระอิชิ พิกัด: Shiroishi River มาถึง Shiroishi River ที่ที่นี่มีแนวต้นซากุระกว่า 1,200 ต้นเรียงรายอยู่ตั้งแต่เมืองโองาวาระมาจิ ไปจนถึงเมืองชิบาตะมาจิ เป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่าไม่ควรพลาดอย่างแรก และถ้ามีโอกาสเราอยากให้มาจริงๆ เพราะมันคุ้มค่าเกินคำบรรยาย ไหนจะบรรยากาศที่มีความลงตัวด้านหน้าเป็นต้นซากุระสีชมพูภาพหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ แถมในเวลาตอนกลางคืนมีการประดับไฟทำให้ยิ่งมีความสวยงามอย่างมาก ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Shiroishi River จะเป็นช่วงกลางเดือนเมษายนถึงช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 17.  สวนทาคาดะ  พิกัด: Takada Park มาถึงสวน Takada Park ก็เป็นอีกหนึ่งใน สามสถานที่ชมซากุระชั้นยอดในญี่ปุ่น จุดเด่นของสวนแห่งนี้คือ ต้นซากุระที่ถูกฉายไฟไลท์อัพ สะท้อนภาพซากุระและปราสาททาคาดะแสนงดงามบนผิวคูน้ำ นึกภาพแล้วก็ชวนให้ฟินกันแบบสุดๆ ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Takada Park จะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนถึงช่วงกลางเดือนเมษายน 18. สวนโอกาซากิ  พิกัด: Okazaki Park ที่สวน Okazaki Park ถือเป็นจุดชมซากุระยามค่ำคืนชั้นยอดที่กล่าวกันว่าเป็นที่สุดแห่งภูมิภาคโทไก เราสามารถเพลิดเพลินไปกับซากุระนับ 1,000 ต้น โดยมีปราสาทโอคาซากิ เป็นจุดศูนย์กลาง เราขอแนะนำให้ไปช่วงดึกๆหน่อยจะมีคนน้อย ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Okazaki Park จะเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงช่วงต้นเดือนเมษายน 19. ภูเขาโยชิโนะ  พิกัด: Mount Yoshino Mount Yoshino ถือเป็นหนึ่งใน สามสถานที่ชมซากุระชั้นยอดในญี่ปุ่น ไฮไลท์คือมีซากุระบานสะพรั่งกว่า 30,000 ต้น เรียกได้ว่ามองไปทางไหนของภูเขาก็เจอแต่ต้นซากุระกันเลย โดยมีชิโรยามะซากุระเป็นศูนย์กลางของภูเขา ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Mount Yoshino จะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนถึงช่วงกลางเดือนเมษายน 20. สวนริทสึริน พิกัด: Ritsurin Garden ปิดท้ายกันด้วย Ritsurin Garden ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟคิชิโจจิ ซึ่งมีต้นซากุระกว่า 500 ต้น เป็นสถานที่ยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นและต่างชาติอย่างมาก จุดเด่นของสถานที่นี้คงเป็นการนั่งเรือพายชมดอกซากุระบานเป็นกิจกรรมที่ชวนให้หลุดไปในห้วงความฝันเป็นอย่างมาก ช่วงที่เหมาะแก่การมาชมดอกซากุระที่ Ritsurin Garden จะเป็นช่วงต้นเดือนเมษายนถึงช่วงกลางเดือนเมษายน เป็นไงกันบ้างครับกับ 20 จุดชมซากุระในญี่ปุ่น เพื่อนๆคนไหนที่อยากชมฤดูดอกซากุระบาน หรืออยากท่องเที่ยว มาจดลิสต์จากเราสิ เรามีแต่ที่ดีๆ ยอดนิยมที่จะพาคุณไปพักผ่อนได้แบบชิลล์ๆ ไม่ต้องตามหาให้เหนื่อยเลย สำหรับใครที่กำลังมองหาทัวร์เที่ยวประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศยอดฮิตต่างๆ สามารถค้นหาทัวร์ที่ต้องการได้ที่ Tourkrub นะครับ ทุกๆ ที่ที่เราพาไปการันตีได้เลยว่าติดท็อปลิสต์สวยงามทุกที่แน่นอน  

อ่านเพิ่มเติม
20 สถานที่ชมซากุระในเอเชีย มีประเทศไหนบ้าง
20 สถานที่ชมซากุระในเอเชีย มีประเทศไหนบ้าง

04 มี.ค. 63

ถึงแม้ว่าเอเชียเราจะมีแต่พี่ไทยเรายังไม่มีนะ ก็เลยอาจจะต้องเดินทางไปชมความงามของเจ้าดอกไม้สีชมพูผลิบานนี้กันหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังยืนยันว่ามันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม พูดได้เลยว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตของทุกคนต้องลองมาดูสักครั้งให้ตายตาหลับ แต่จะไปที่ไหนนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ที่จะไปชมความงามของดอกซากุระในประเทศแถบเอเชีย ทัวร์ครับ เราได้รวบรวมสถานที่ยอดฮิตมาให้ทุกคนจนลิสต์กันแล้วววล่ะ จะมีที่ไหนถูกใจและต้องไปตำตามให้ได้บ้างตามมาดูกันเลย ! 1. ป้อมปราการโกเรียวคาคุ (ญี่ปุ่น) พิกัด: Goryokaku Park ประเทศแรกๆ ที่คนนึกถึงกันคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศยอดฮิตที่เหล่าชาวไทยของเรานิยมชมชอบกันเป็นอย่างมาก เรามาเริ่มกันที่ ป้อมปราการโกเรียวคาคุ เป็นสวนที่ได้รับความนิยมทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่น เพราะที่สวนแห่งนี้มีต้นซากุระนับ 1,600 ต้น จุดเด่นของสวนแห่งนี้คงเป็นการเดินชมดอกซากุระที่กำลังบานอย่างสวยงามไม่ว่าตอนกลางวันหรือในตอนกลางคืนก็มีความสวยไม่แพ้กัน ซึ่งทางสวนจะประดับไฟที่ต้นซากุระในตอนกลางคืนอีกด้วย ยิ่งทำให้ได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสุดแสนวิเศษอย่างแน่นอน  2. สวนสาธารนะ นากาจิมะ (ญี่ปุ่น) พิกัด: Nakajima Park สวนสาธารนะ นากาจิมะ ถือเป็นสวนที่ได้รับความนิยมอย่างมากแถมมีชื่อเสียงโด่งดังจนทำให้ติดอยู่ในลิสต์สถานที่ที่ควรไปของญี่ปุ่นในช่วงฤดูซากุระ สวนแห่งนี้จะมีจุดเด่นที่ต้นซากุระจำนวนมากและมีต้นซากุระถึง 2 ชนิด คือ เอโซยามะซากุระ กับ ยาเอะซากุระ บรรยากาศของสวนแห่งนี้จะได้ความรู้สึกถึงเทศกาลดอกซากุระที่เรียกได้ว่าสวยงามจนลืมหยิบกล้องมาถ่ายเพราะมัวแต่เดินชมความงามของเจ้าดอกไม้สีชมพูนี้อยู่เลยล่ะ  3. สวนอุเอโนะ (ญี่ปุ่น) พิกัด: Ueno Park สวนอุเอโนะ ถือเป็นอีกสวนที่สามารถชมดอกซากุระบานได้ในโตเกียว บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นซากุระจำนวนมาก มีกลิ่นไอดอกซากุระแค่ลองนึกภาพว่าเราเดินอยู่ในสวนที่มีแต่ดอกซากุระดูสิแค่นี้ก็ฟินแล้ว แถมยังเป็นสวนที่เดินทางได้ง่ายและสะดวก จึงถูกตั้งเป็นจุดหมายปลายทางของใครๆหลายคนกันเลย  4. สวนชินจูกุเงียวเอน  (ญี่ปุ่น) พิกัด: Shinjuku Gyoen สวนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่าง สวนชินจูกุเงียวเอน เป็นสวนที่สามารถเดินชมซากุระได้แบบฟินๆ เพราะสวนแห่งนี้มีต้นซากุระ 65 สายพันธุ์รวมกว่า 1,100 ต้น แถมที่สวนแห่งนี้ยังสามารถนำผ้ามาปูนั่งพักผ่อนกันได้หรือจะเป็นการเดินชมดอกซากุระก็ให้อารมณ์โรแมนติคเหมือนในหนังญี่ปุ่น จึงทำให้มีผู้คนนิยมเดินทางมาชมดอกซากุระเป็นจำนวนมาก รับรองคุณจะได้ภาพของดอกซากุระกันแบบเต็มๆอย่างแน่นอน  5. สวนฮิโรซากิ (ญี่ปุ่น) พิกัด: Hirosaki Park สวนที่ได้ความนิยมอย่างมากของญี่ปุ่นในเรื่องความสวยงามของดอกซากุระอย่าง สวนฮิโรซากิ เป็นสวนที่มีมีต้นซากุระสายพันธุ์โซเมอิโยชิโนะที่มีอายุมากกว่า 100 ปี อยู่กว่า 300 ต้น เรื่องความงดงามต้องบอกเลยว่าสวยจนเหมือนหลุดเข้าไปนิยายญี่ปุ่นกันเลย อีกทั้งในตอนกลางคืนมีการเปิดให้เข้าชมความสวยงามของต้นซากุระที่ประดับไฟอย่างสวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งสวนที่ไม่ควรพลาดจริงๆ แนะนำกิจกรรมพายเรือชมความงามของต้นซากุระรับรองความชิลล์ในวันที่อากาศร่มรื่นเย็นสบายยิ่งเหมาะสุดๆ ไปเลย 6. แม่น้ำเมกุโระ (ญี่ปุ่น) พิกัด: Meguro River สถานที่ยอดนิยมอย่าง แม่น้ำเมกุโระ เป็นสถานที่ได้รับชื่อว่าเป็นสวรรค์ของการชมดอกซากุระอย่างมาก เพราะมีดอกซากุระริมสองฝั่งตลอดความยาวเกือบ 4 กิโลเมตรของแม่น้ำเมกุโระ มีต้นซากุระกว่า 800 ต้น จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คงเป็นช่วงกลางคืนจะมีการประดับไฟช่วยสร้างบรรยากาศน่าหลงใหลเพิ่มมากขึ้น ชมความงามแถมถ่ายรูปกันให้จุใจไปเลย  7. สวนสาธารณะอิโนะคาชิระ  (ญี่ปุ่น) พิกัด: Inokashira park สวนสาธารณะอิโนะคาชิระ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเมืองโตเกียว ที่ได้รับความนิยมอย่างมากไม่ว่าฤดูกาลไหนคนก็เยอะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดถ้าต้องการไปชมดอกซากุระบาน เพราะมีต้นซากุระมากว่า 200 ต้น กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นนิยมมากที่สุดคงเป็นการเช่าเรือเป็ดถีบล่องไปตามลำน้ำชมดอกซากุระ ยิ่งถ้าไปกับคนที่คุณรักคงบอกได้เลยว่าฟินสุดๆ  8. สถานีรถไฟคยองฮวา (เกาหลี) พิกัด: Gyeonghwa station มาที่อีกประเทศที่ฮอตฮิตไม่แพ้กับญี่ปุ่นนั่นก็คือประเทศเกาหลี สถานที่ชื่อดังของเกาหลีที่ผู้คนต่างพูดถึงอย่าง Gyeonghwa station  เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ดีที่สุดในการชมซากุระบานที่เมือง Jinhae ของเกาหลี มีความสวยงาม คลาสสิคสูงมากจ้าแม่ ใครที่เป็นแฟนซีรี่ย์เกาหลีคงเคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อนแน่ๆ เพราะสถานที่แห่งนี้นิยมมาถ่ายทำซีรี่ย์เกาหลี บรรยากาศที่จะชวนให้คุณทั้งหลายฟินไปกับความสวยงามของดอกซากุระอย่างแน่นอน แค่นึกภาพว่าดอกซากุระที่บานตลอดสองข้างทางรถไฟ แค่เราไปยืนตรงกลางก็เหมือนหลุดออกมาจากซีรีย์เกาหลีอย่างนั้นเลย อ๊ะๆ แต่แนะนำว่าเสพภาพจากเราแล้วอย่าลืมหาเสื้อผ้าที่มิกซ์แอนด์แมทแล้วเข้ากับบรรยากาศด้วยน้า 9. นัมซาน (เกาหลี) พิกัด:  Namsan นัมซาน  เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมที่สามารถมาชมดอกซากุระได้ ที่ตั้งอยู่ในกรุงโซลไม่ห่างจากแลนด์มาร์กอย่างทาวเวอร์ ในช่วงฤดูดอกซากุระจะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งสองข้างทางเป็นเส้นทางที่เรียงรายไปด้วยดอกซากุระจำนวนมากชวนให้เพลิดเพลิน ตระการตา แถมมีความโรแมนติกเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก ใครที่มองหาสถานที่ชมซากุระอยู่คงไม่อยากพลาดแน่นอนกับสถานที่แห่งนี้  10. ถนนยุนจอง (เกาหลี) พิกัด: Yunjung-ro มาต่อกันที่ ถนนยุนจอง เป็นถนนที่อยู่ด้านหลังของอาคารรัฐสภาแห่งชาติ สถานที่แห่งนี้มีต้นซากุระประมาณ 1,400 ต้น ถือเป็นจุดชมดอกซากุระยอดนิยมของกรุงโซลอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว แล้วยิ่งเป็นช่วงฤดูดอกซากุระบานนั้นต้องบอกเลยว่าคุณจะมองไปทางก็เจอแต่สีชมพูตลอดเส้นทางรับรองว่าฟินกันแบบสุดๆ 11. สวนสาธารณะริมน้ำ ยางแจชอน (เกาหลี) พิกัด: Yangjaecheon Park สวนสาธารณะริมน้ำ ยางแจชอน เป็นสวนสาธารณะที่มีความยาวตลอดทางของแม่น้ำประมาณ 16 กิโลเมตร โดยมีทั้งเส้นทางปั่นจักรยานและทางเดินตลอดทาง จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คงเป็นต้นซากุระเรียงรายเต็มตลอดทั้งเส้นทาง ยิ่งเป็นช่วงบานของดอกซากุระนั้นต้องบอกเลยว่า มีความงดงามอย่างมาก ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมดอกซากุระที่สวยงามของกรุงโซล ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง 12. โซล แกรนด์ ปาร์ค (เกาหลี) พิกัด: Seoul Grand Park โซล แกรนด์ ปาร์ค เป็นสถานที่ชมดอกซากุระยอดนิยมอันดับต้นๆ ของเกาหลี ต้องยอมรับเลยว่าที่นี่มีความสวยงาม และดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปได้ทุกฤดู แล้วยิ่งเป็นช่วงฤดูดอกซากุระบานนั้นต้องบอกเลยว่าไม่มีใครอยากพลาดอย่างแน่นอน เพราะทุกพื้นของสถานที่แห่งจะปกคลุมได้ดอกซากุระจำนวนมาก รับรองเลยว่าคุณได้ชมดอกซากุระกันแบบจุใจกันเลย  13. สวนสาธารณะยออีโด (เกาหลี) พิกัด: Yeouido งานเทศกาลชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของกรุงโซล จัดขึ้นที่สวนสาธารณะยออีโด ริมแม่น้ำฮัน ถือเป็นงานประจำที่ทุกๆปีจะต้องมี ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางไปชมงานเทศกาลแห่งนี้จำนวนมาก ใครที่ชื่นชอบดอกซากุระคงไม่อยากพลาดที่จะเดินทางมาชมดอกซากุระที่สถานที่แห่งนี้แน่ๆ เพราะถนนทั้งสองข้างทางจะเต็มไปด้วยดอกซากุระจำนวนมาก 14. สวนป่ากรุงโซล  (เกาหลี) พิกัด: Seoul Forest สวนป่ากรุงโซล เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ถึงขนาดที่เรียกว่าเป็น ป่ากลางเมือง มีพื้นที่ประมาณ 1.16  ล้านตารางเมตรเรียกได้ว่ากว้างแบบสุดๆ จุดเด่นสถานที่นี้คงหนีไม่พ้นเป็นต้นซากุระจำนวนมาก ที่มีมากกว่า 800 ต้น ยิ่งเป็นช่วงฤดูดอกซากุระบาน สวนแห่งนี้จะกลายเป็นสวนสีชมพูไปเลย สวนแห่งนี้ถือเป็นสวนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆของเกาหลีเรื่องมาชมดอกซากุระบานกันเลยล่ะ 15. อาลีซาน (ไต้หวัน) พิกัด: Alishan National Park อีกหนึ่งประเทศต้นตำรับชาไข่มุกก็มีสถานที่ชมดอกซากุระสวยๆ ไม่แพ้ประเทศอื่นๆ อย่างประเทศไต้หวันก็มี อาลีซาน เป็นสถานที่ยอดนิยมที่สามารถเดินทางมาชมดอกซากุระบานได้ ต้องบอกเลยว่าเมื่อจะมาชมดอกซากุระที่ไต้หวันต้องมาชมที่แห่งนี้เป็นที่แรก เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ ที่ผู้คนนิยมชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก โดยจุดเด่นของที่ Alishan คือ การนั่งรถไฟชมดอกซากุระที่สวยที่สุดของไต้หวัน ซึ่งเป็นทางรถไฟที่ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 ทางรถไฟที่น่าอัศจรรย์ใจของโลก 16. หมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่า อะบอริจิน ฟอร์โมซาน (ไต้หวัน) พิกัด: Formosan Aboriginal Culture Village หมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่า อะบอริจิน ฟอร์โมซาน เป็นสถานที่ยอดนิยมในการชมดอกซากุระ เป็นสถานที่จำลองหมู่บ้านวัฒนธรรมชนเผ่าดั้งเดิมของไต้หวัน จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คงเป็นการเดินชมดอกซากุระบานหรือจะเป็นการนั่งกระเช้าชมซากุระจากมุมสูงความสวยก็ไม่แพ้กันเลย  ถือเป็นจุดที่ใครๆ หลายคนชื่นชอบอย่างมากยิ่งเป็นช่วงที่ดอกซากุระบานทั่วไปหมดภาพที่ออกมาทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยดอกซากุระจำนวนมากยิ่งสวยจนหยุดหายใจเลยล่ะ  17. สวนเล่อหัว (ไต้หวัน) พิกัด: Lohas Park สวนเล่อหัว  เป็นสวนสาธารณะยอดนิยมที่ตั้งอยู่ในเขตไทเป ถือเป็นสวนที่ได้รับความนิยมอย่างมากของชาวไต้หวันในเรื่องการมาชมดอกซากุระบานเพราะต้นซากุระจะถูกปลูกเรียงรายตามทางเดิน เป็นภาพที่ออกมาดูมีความสวยงามไม่น้อยเลย บรรยากาศสบายๆชวนให้เดินเล่นถ่ายรูป แถมเป็นจุดชมซากุระที่เดินทางง่ายที่สุด สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Donghu Station ใช้เวลาเดินเพียง 11-12 นาที ก็ถึงสวนแล้ว  18. อู๋ หลิง (ไต้หวัน) อู๋ หลิง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไต้หวันที่มีต้นซากุระจำนวนมาก ลองนึกภาพเมื่อเราขับรถแล้วทั้งสองข้างทางเป็นต้นซากุระที่กำลังบานดูสิ คงสวยงดงามไม่น้อยเลย เอาเป็นว่าต้องมาที่สถานที่ให้ได้เลยแหละ ที่นี่เป็นจุดที่ได้รับความนิยมเรื่องการมาดูดอกซากกุระบานอีกที่หนึ่งเลย เป็นสถานที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดไถจง แต่ห่างจากตัวเมืองพอสมควรอาจจะต้องใช้เวลาเดินทางกันหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าอย่างมาก  19. วัดเทียนหยวน (ไต้หวัน) พิกัด: Wuji Tianyuan Temple วัดเทียนหยวน เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของไต้หวัน ตั้งอยู่ในเขตตั้นสุย เมืองซินเป่ย ไม่ไกลจากไทเป ถือเป็นที่ยอดนิยมของชาวต่างชาติและชาวไต้หวัน โดยจุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คงเป็นการชมดอกซากุระบาน สำหรับจุดชมซากุระของที่นี่จะมีด้วยกันสองจุด คือ บริเวณทางเดินก่อนเข้าวัด และบริเวณด้านหลังวัด 20. อทุยานแห่งชาติหยางหมิงชาน (ไต้หวัน)  พิกัด: Yangmingshan National Park ปิดท้ายกันด้วยอุทยานแห่งชาติ Yang Ming Shan ถือเป็นจุดยอดฮิตของชาวไต้หวันกันเลย เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่หลายคนนิยมเดินทางมาชมดอกซากุระ ด้วยเพราะสถานที่แห่งนี้มีต้นซากุระที่มีมากกว่า 200 ต้นและมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก จุดเด่นของสถานที่นี้คงเป็นการชมดอกซากุระบานภายในอุทายานและจะมีการจัดงานเทศการดอกซากุระประจำในทุกๆ ปีจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมากันมากหน้าหลายตา แถมบรรยากาศที่นี่ก็เย็นสบายเหมาะแก่การมาพักผ่อนอย่างมาก  เป็นไงกันบ้างครับกับ 20 สถานที่ชมซากุระในเอเชีย เพื่อนๆคนไหนที่อยากชมฤดูดอกซากุระบาน หรืออยากท่องเที่ยว มาจดลิสต์จากเราสิ เรามีแต่ที่ดีๆ ยอดนิยมที่จะพาคุณไปพักผ่อนได้แบบชิลล์ๆ ไม่ต้องตามหาให้เหนื่อยเลย สำหรับใครที่กำลังมองหาทัวร์ท่องเที่ยวในเอเชียหรือประเทศยอดฮิตต่างๆ สามารถค้นหาทัวร์ที่ต้องการได้ที่ Tourkrub นะครับ ไม่ว่าจะเทศกาลไหนๆ เราก็มีให้คุณเลือกตามที่ใจต้องการเลยล่ะ

อ่านเพิ่มเติม