เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานขนาดเล็กในเขตจางเจียเจี้ย ตั้งอยู่ในเขตธรรมชาติที่มีภูมิทัศน์งดงาม
เป็นเขตย่านชุนชมเมืองในพื้นที่จางเจียเจี้ย สถานที่ที่เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของจีนมาตั้งแต่ปี 1992 ตัวเมืองล้อมรอบด้วยธรรมชาติของขุนเขา ต้นไม้ ลำธาร และองค์ประกอบทางระบบนิเวศที่ได้ชื่อว่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เป็นถ้ำที่มีความงดงามและใหญ่ที่สุดในจางเจียเจี้ย นับได้ว่าเป็น “อภิมหาถ้ำแห่งเมืองจางเจียเจี้ย” โดยท่านสามารถล่องเรือไปตามลำน้ำใต้ดินซึ่งไหลผ่านกลางถ้ำชมน้ำตกเทวดาสวรรค์ลัดเลาะไปตามอุโมงค์ภายในถ้ำ ชมหินงอก หินย้อยที่มีรูปลักษณะงดงามตระการตามากมาย ภายในมีหินงอกหินย้อยที่มีความวิจิตรงดงาม มีเสาหลักมังกรขนาด 10 คนโอบ คนที่ได้มาต่างประทับใจจนไม่สามารถหาคำบรรยายถึงความสวยงานและดูน่าเร้นลับนี้ได้จึงได้ขนานนามสระแห่งนี้ว่า "สระน้ำมหัศจรรย์"
ชิมชาอวู่หลงของจีน และชาที่มีชื่อเสียงเช่น ชาแดง ชาผลไม้ ชามะลิ ชากุหลาบ ฯลฯ
ในร้านสมุนไพรและยาแผนจีนโบราณนั้นมีสมุนไพรธรรมชาติต่างๆ ที่น่าสนใจหลายชนิด แต่ชนิดที่อยากแนะนำที่สุดนั้นมีชื่อว่า "เป๋าซูหลิง" ซึ่งรู้จักกันในนาม "บัวหิมะ" ยาประจำบ้านที่มีชื่อเสียง ที่คนไทยนิยมซื้อไปเป็นของฝากกลับบ้าน
ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นที่รวบรวมและจัดแสดงผลงานที่มีคุณค่าทางศิลปะของศิลปินแห่งชาตินาม "หลี่จวินเซิง" ซึ่งผลงานของเขาทุกชิ้นเป็นภาพเขียนด้วยมือที่ใช้หินทรายและสีธรรมชาติที่สกัดจากเปลือกไม้ใบไม้เป็นวัตถุดิบในการเขียน ภาพเขียนเหล่านี้นอกจากจะทรงคุณค่าทางศิลปะมีเอกลักษณ์เฉพาะ ยังเป็นภาพเขียนที่สวยงาม คมชัด และมีมิติสมจริงอีกด้วย
เป็นทะเลสาบบนช่องเขาสูง โดยที่ทะเลสาบจะถูกรายล้อมด้วยยอดเขา และน้ำก็ใสมาก การเที่ยวชมอาศัยการล่องเรือ โดยระหว่างทางก็จะพบแพและมีคนใส่ชุดพื้นเมืองอยู่ นอกจากนี้ยังมีหินที่รูปร่างเหมือนหน้าผู้หญิง ซึ่งเป็นสิ่งที่ธรรมชาติโดยไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติมแต่อย่างใด หลังจากล่องเรือเสร็จก็ต้องเดินลงจากเขา พอถึงด้านล่างก็จะเห็นน้ำตกจากทะเลสาบเป่าเฟิงหูไหลลงมากเป็นภาพที่สวยมาก
ถนนคนเดิน "ซีปู้เจีย" ณ เขตอู่หลิงหยวน ที่ถนนคนเดิน "ซีปู้เจีย" นอกเหนือจะเป็นถนนที่มีร้านค้าขายสินค้าพื้นเมืองของที่นี่แล้วยังมีอีกสถานที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งน่าสนใจอยากให้ไปชมกัน นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ภาพวาดทรายกี่เป็นภาพวาดแฮนเมตชื่อดังของที่นี่ ภาพวาดทรายถือเป็นสินค้ายอดนิยมอีกสิ่งหนึ่งที่หมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาตินิยมซื้อเป็นของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ที่ควรค่าแก่การประดับบนกำแพงบ้าน
พิพิธภัณฑ์จางเจียเจี้ย ที่รวมรวมประวัติศาสตร์ของชนเผ่า รวมไปถึงวัฒนธรรมในยุคสมัยโบราณให้ท่านได้เรียนรู้ความเป็นมาของพื้นถิ่นจางเจียเจี้ยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เป็นหนึ่งในภูเขาที่สวยงามที่สุดของประเทศจีน "มีคำกล่าวว่า หากใครมาจางเจียเจี้ยแล้วไม่ได้มาขึ้นเขาเทียนเหมินซานแห่งนี้เหมือนมาไม่ถึงจางเจียเจี้ย" ตั้งอยู่มณฑลหูหนาน สาเหตุที่เรียกว่าเทียนเหมินซานเพราะว่า ภูเขาเกิดระเบิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ จนกลายเป็นถ้ำหรือประตูสวรรค์ ประตูนี้มีความสูง 131.5 เมตร ความกว้าง 57 เมตร ความลึก 60 เมตร เราจะได้เดินชมวิวทิวทัศน์ลัดเลาะริมหน้าผาชมความสวยงามของทะเลภูเขาที่มีรูปร่างต่างๆ แปลกตา และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
สะพานกระจกบนเขาเทียนเหมินซาน มีระยะทางอันหวาดผวาอยู่ที่ 60 เมตร ล้อมรอบผาสูงชัน ความกว้างของ สะพานกระจก วัดจากขอบผาได้ 3 ฟุต มีความหนา 2.5 นิ้ว ถือเป็นการท้าทายนักท่องเที่ยวที่อยากมาสัมผัสทิวทัศน์อันงดงามบน เขาเทียนเหมินซาน มีกฏอยู่ว่าผู้มาเยือน สะพานกระจก ต้องสวมผ้าหุ้มรองเท้าขณะเดิน สันนิษฐานว่าน่าจะช่วยลดความสกปรก ง่ายต่อการทำความสะอาด
ถ้ำประตูสวรรค์เทียนเหมินซาน เป็น 1 ใน 4 ของภูเขาที่สวย สาเหตุที่เรียกว่าเทียนเหมินซานเพราะว่าภูเขาเกิดระเบิดขึ้นเองโดยธรรมชาติจนกลายเป็นถ้ำ ประตูนี้มีความสูง 131.5 เมตร ความกว้าง 57 เมตร ความลึก 60 เมตร เมื่อท่านมาถึงถ้ำประตูสวรรค์ท่านจะได้ขึ้นขั้นบันได 999 ขั้น สู่ ภูเขาประตูสวรรค์
เป็นท่าอากาศยานขนาดเล็กในเขตจางเจียเจี้ย ตั้งอยู่ในเขตธรรมชาติที่มีภูมิทัศน์งดงาม
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย