เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศเบลเยียม ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2483 ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองบรัสเซลส์ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว 12 กิโลเมตร ในเขตเทศบาลซาเฟินเตม, มาเคอเลิน และสเตโนกเกอร์เซลของมณฑลเฟลมิชบราบันต์ ตัวท่าอากาศยานมีอาคารผู้โดยสารขนาดใหญ่หลังเดียว ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 โถงขาออก
เป็นเมืองหลวงของประเทศเบลเยียม เมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของสหภาพยุโรป เมืองหลวงของกรุงเบลเยี่ยมแห่งนี้ถือได้ว่ามีความสมบูรณ์แบบเหมาะแก่การเป็นสถานที่พักผ่อนในช่วงวันหยุดสำหรับนักเดินทางที่ปรารถนาจะได้สัมผัสกับอารยธรรมตะวันตกที่มีความเป็นสากล
เป็นสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศ ถือกันว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่ง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1958 ในงาน World Expo โครงสร้างเป็นเหล็ก มีความสูง 102 เมตร มีน้ำหนักประมาณ 2,400 ตัน ในแต่ละอะตอมทำเป็นทรงกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 18 เมตร ห่อหุ้มด้วยอลูมิเนียม ที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกาย เมื่อยามต้องกับแสงอาทิตย์ ทรงกลมแต่ละทรงกลมจัดแบ่งเป็นสองชั้น
เป็นจตุรัสที่สวยงามที่สุดในยุโรป เป็นกลุ่มอาคารที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมทั้งบาโร้ค โกธิค นีโอ-โกธิค และเป็นสถานที่ซึ่งยูเนสโก้ ยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1983
ตลาดโกรท มาร์ค (Grote Markt) ประเทศเบลเยี่ยม ย่านธุรกิจการค้าสำคัญของเมือง สามารถเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้งและแวะชิมขนมหวานแสนอร่อยรวมทั้งร้านขายช็อคโกแลตที่มีชื่อเสียงมากมาย
เป็นเมืองในประเทศเบลเยียมและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดแอนต์เวิร์ปในฟลานเดอส์ หนึ่งในสามบริเวณของเบลเยียม แอนต์เวิร์ปเป็นเมืองที่มีความสำคัญมานานในกลุ่มประเทศแผ่นดินต่ำของทั้งทางเศรษฐกิจและทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะก่อนการการปล้นเมืองแอนต์เวิร์ปของการลุกฮือของชาวดัตช์ ระหว่างสงครามแปดสิบปี เมืองแอนต์เวิร์ปตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำสเกลต์ ที่เชื่อมกับทะเลเหนือที่ปากน้ำเวสเทิร์นสเกลต์
เป็นมหาวิหารที่อวดความงดงามของวิหารแบบโกธิกที่ใหญ่สุดในเบลเยียม ด้านในมีภาพวาดของรูเบนส์ที่ประดับอยู่ มองอย่างคนไม่ประสีประสาเรื่องศิลปะ ยังเห็นความงดงามของภาพ เห็นบางคนอินจัด ยืนนิ่งไม่ไหวติงเหมือนถูกรูเบนส์สะกดจิต
เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากกรุงอัมสเตอร์ดัม และรอตเทอร์ดาม โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและการพิมพ์ เป็นที่ตั้งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ "ศาลโลก"
เป็นอาคารรัฐสภาสมัยโบราณในย่านบินเนนฮอฟของกรุงเฮก ที่มีลักษณะเป็นปราสาทกอธิคสมัยศตวรรษที่ 13 ที่กษัตริย์ในอดีตใช้เป็นที่ว่าราชการกับข้าราชสำนัก ภายในเป็นลานกว้างล้อมรอบด้วยอาคาร ตรงกลางมีน้ำพุสีทองสวยงาม ซึ่งเป็นที่ประชุมของอัศวินในสมัยก่อน มีฐานะหนึ่งในอาคารที่โดดเด่นและเก่าแก่ที่สุดในกรุงเฮก
เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเตล (Amstel) ที่นี่รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพงดงามและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เหมาะแก่การเดินเล่นซึมซับบรรยากาศแสนโรแมนติก หรือจะขี่จักรยานชมเมืองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะอัมสเตอร์ดัมถือเป็น ‘เมืองหลวงจักรยานโลก’ ที่ผู้มาเยือนจะพบจักรยานได้ในทุกหนทุกแห่ง
เป็นหมู่บ้านกังหันลมที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือห่างจากอัมสเตอร์ดัม มีการอนุรักษ์กังหันลม และบ้านเรือนดั้งเดิมของฮอลแลนด์ ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเปิดให้เข้าชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวดัชต์ ที่ใช้กังหันลมกว่าร้อยแห่งในงานอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17-18 โดยทำหน้าที่ผลิตน้ำมันจากดอกมัสตาร์ด กระดาษงานไม้
เป็นหมู่บ้านที่ได้รับฉายาว่า เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์ " เป็นหมู่บ้านที่ปราศจากถนน โดยภายในหมู่บ้านนั้นเต็มไปด้วยคลอง และทะเลสาบเล็กๆ ที่มีน้ำใสสะอาด ซึ่งผู้คนในหมู่บ้านจะเดินทางโดยการใช้เรือเป็นพาหนะโดยลัดเลาะคลองที่มีความยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร
นำท่านล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น เพลิดเพลินกับบรรยกาศของ หมู่บ้านunseen แห่งเนเธอร์แลนด์ หมู่บ้านที่ปราศจากถนนสักสาย ซึ่งจะมีลำคลองล้อมรอบหมู่บ้าน การคมนาคมยังคงใช้การสัญจรทางน้ำดั่งเช่นในอดีต อสิระให้ท่านเที่ยวชมหมู่บ้านแห่งนี้ พร้อมเก็บภาพความประทับใจ
เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่พื้นที่ใจกลางเมือง และชื่อของจัตุรัสมีความเกี่ยวพันอย่างมากกับชื่อของอัมสเตอร์ดัม ซึ่งมีที่มาจาก ‘เขื่อนที่อยู่ริมแม่น้ำอัมสเตล โดยเขื่อนแห่งแรกถูกก่อสร้างขึ้นในบริเวณจัตุรัสเมื่อปีคริสตศักราช 1200 และปัจจุบันจัตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง
เป็นเรือหลังคากระจก ที่จะล่องไปตามลำคลองของแม่น้ำอัมสเทล ให้ได้เห็นบ้านเรือนแบบชาวดัชต์ที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 มีเอกลักษณ์พิเศษจะเป็นอาคารทรงแคบ ที่มีตะขออยู่ชั้นบนสุดของอาคารเอาไว้ขนเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน ซึ่งระหว่างเส้นทางล่องเรือผ่านบ้านเรือที่จอดอยู่ริมคลองที่มีอยู่มากถึง 2,500 หลัง
สถาบันเจียระไนเพชร ที่มีชื่อเสียงของประเทศเนเธอร์แลนด์ แสดงการสาธิตการเจียระไนเพชร ที่มีชื่อเสียงของโลก
เบียร์ไฮเนเก้น เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จัก ต้นกำเนิดของเบียร์ไฮเนเก้นอยู่ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์นี่เอง ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1864 ปัจจุบันไฮเนเก้นเป็นบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก เป็นเบียร์ที่มีคุณภาพและรสชาติดีที่สุด การันตีด้วยรางวัลมากมาย ต่อมา โรงงานผลิตเบียร์ไฮเนเก้นได้ปิดตัวลง และถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมแทน โดยภายในจะจัดแสดงประวัติตั้งแต่ก่อตั้งโรงเบียร์แห่งนี้ขึ้นมา ขั้นตอนการผลิตเบียร์และยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองรสชาติของเบียร์ได้อีกด้วย
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Rijksmuseum) มีตัวอักษร “I amsterdam” ผู้คน เป็นสถานที่ที่รวบรวมงานศิลปะของจิตรกรชาวดัตช์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมมานานนับ 10 ปีแล้ว มีจัดแสดงผลงานของเหล่าจิตรกรมากมาย เช่น ผลงานของ Rembrandt , Frans Hals , และ Johannes Vermeer ซึ่งมีมากกว่า 8,000 ผลงาน
ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับผู้รักงานศิลปะ เพราะเป็นแหล่งขายงานศิลป์และสินค้าเก่าแก่ทั้งหลายที่มีชื่อเสียงของกรุงอัมสเตอร์ดัม
เป็นถนนที่ยาวกว่า 1 กิโลเมตร อิสระให้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองและแบรนด์เนมมากมาย ทั้งในร้านและริมสองข้างทาง ทั้งเสื้อผ้ารองเท้า เครื่องหนัง ของที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน และร้านหนังสือขนาดใหญ่ก็ตั้งอยู่ในย่านนี้ หรือ เลือกที่จะจิบชา กาแฟ แบบชาวดัตช์ชมชีวิตของผู้คนในนครอัสเตอร์ดัมก็ได้
เป็นเอาท์เลตที่อยู่ใกล้ๆ กับพรมแดนประเทศเนเธอร์แลนด์และเยอรมัน เป็นสถานที่ที่ดีด้วยหลากหลายของร้านค้าของดีไซเนอร์ ที่คะแนนจากแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียงในราคาที่ดี เตรียมตัวสำหรับฝูงชนกลุ่มใหญ่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ บ่อยครั้งที่ไกด์จะพานักท่องเที่ยวเดินทางไปช้อปป้งที่เอ้าเลตแห่งนี้ เอาท์เลทขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งช๊อปปิ้งของคนเนเธอร์แลนด์, เยอรมัน และ เบลเยี่ยม ที่นิยมมาเลือกซื้อสินค้าราคาย่อมเยาว์นานาชนิด
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหพันธรัฐนอร์ธไรน์-เวสต์ฟาเลียและเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสี่ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำไรน์โคโลญจน์ เมืองโคโลญจน์เป็นที่มาของน้ำหอมชนิดหนึ่งที่เรียกว่าออดิโคโลญจน์ ทั้งนี้เพราะผู้ผลิตน้ำหอมชนิดนี้ตั้งอยู่ในเมืองนี้
เป็นมหาวิหารคริสต์โรมันคาทอลิกที่สำคัญในเมืองโคโลญจน์ เป็นสถานที่ประทับของอาร์ชบิชอปแห่งโคโลญจน์ สถานที่นี้มีชื่อเสียงในฐานะเป็นที่ศาสนสถานนิกายเยอรมันคาทอลิก เพื่อเป็นสถานที่ประพิธีกรรมของสามมหากษัตริย์แห่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นสถานที่เก็บหีบสามกษัตริย์ไว้ ณ ที่แห่งนี้ด้วย ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองแห่งนี้
เป็นเมืองใหญ่ที่มีความเหมาะสมจะเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมันตะวันตกได้สบายๆ ด้วยความครบครันของสาธารณูปโภคและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการเงิน นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยเฉพาะด้านการบิน เนื่องจากท่าอากาศยานแฟรงค์เฟิร์ตถือเป็นท่าอากาศยานที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและของโลก
เป็นมหาวิหารคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแฟรงค์เฟิร์ต และเป็นอาคารทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ตัวมหาวิหารมีประวัติศาสตร์ที่ย้อนไปได้ถึงช่วงศตวรรษที่ 7 ซึ่งมีบทบาทที่เกี่ยวข้องในฐานะคู่ทางศาสนาของพระบรมมหาราชวังในแฟรงค์เฟิร์ต สภาพในปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นมาหลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
จัตุรัสนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการกลางเมืองเก่านครแฟรงเฟิร์ต ตรงกลางจัตุรัสเป็นน้ำพุแห่งความยุติธรรม ด้านหน้าจัตุรัสโรเมอร์เป็นบ้านโครงไม้สมัยกลางที่ได้รับการบูรณะแล้ว ปัจจุบัน จตุรัสโรเมอร์ ยังคงความงามสง่ารายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14
ประติมากรรมหินที่ทำขึ้นเพื่อแสดงความเครพ แด่ Justitia สตรีที่ถือดาบและสามารถเอาชนะ และทรงความยุติธรรม มันถูกสร้างขึ้นด้วยบรอนซ์ ในปี 1887 ตั้งอยู่ด้านหน้าของตึก ของเมืองนี้ ประติมากรรมนี้มีบทบาทสำคัญในพืธี พิธีบรมราชาภิเษก
ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ตั้งอยู่ที่แฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย