เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานประจำประเทศตุรกี อยู่ห่างจากตัวเมืองอิสตันบูลเพียง 20 กิโลเมตร เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1912 ในฐานะเป็นสนามบินของกองทัพก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสนามบินพลเรือนในเวลาต่อมา เดิมมีชื่อว่าท่าอากาศยาน Yeşilköy ในปี 1980 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นท่าอากาศยานอิสตันบูลอตาเติร์ก เพื่อเป็นเกียรติแก่ Mustafa Kemal Atatürk ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี
เป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 ทวีป คือทวีปยุโรปซึ่งอยู่ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส และทวีปเอเชียซึ่อยู่ฝั่งอนาโตเลีย การได้ไปเยือนเหมือนการอยู่คาบเกี่ยวระหว่าง 2 อารยธรรมที่มีคุณค่าดั่งอัญมณีของโลก
เมืองนี้ตั้งอยู่บนทะเลมาร์มาราและทะเลอีเจียนบนชายฝั่งทางตอนใต้ของดาร์ดาแนลส์ เมืองแห่งนี้เคยเป็นชุมทางการค้า ศูนย์กลางการเดินเรือเชื่อมต่อเอเชียกับยุโรป เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่ตั้งของเขตทรอย ซึ่งเป็นที่ตั้งของม้าไม้เมืองทรอยซึ่งจัดแสดงที่ริมทะเล
เป็นช่องแคบที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ที่กั้นระหว่างคาบสมุทรกัลลิโพลี (Gallipoli) ของตุรกีส่วนที่อยู่ในทวีปยุโรปกับตุรกีส่วนที่อยู่ในทวีปเอเชีย เชื่อมทะเลมาร์มะรา (Sea of Marmara) กับทะเลอีเจียน (Aegean)
เป็นม้าไม้ที่เป็นสัญลักษณ์สงครามที่สำคัญในตำนานของกรีก เป็นสงครามระหว่างกองทัพของชาวกรีกและกรุงทรอย โดยกรีกได้สร้างม้าไม้โทจันขึ้นเพื่อเป็นแผนการหลอกชาวทรอย เพื่อลอบเข้าไปยึดเมือง
เป็นเขตเมืองโบราณหนึ่งบนฝั่งทะเลใกล้ๆ ปากช่องแคบดาร์ดะเนลส์ ที่แยกยุโรปกับเอเชียออกจากกันในเมืองชานัคคาเล่ เช่นเดียวกับช่องแคบบอสฟอรัสทางเหนือของทะเลมาร์มาร่า ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่นักโบราณคดีได้ขุดค้นพบ ให้ซากปรักหักพังทั้งหลาย ปรากฏต่อสายตาของคนรุ่นหลัง นอกจากนี้ตุรกียังได้สร้างม้าไม้จำลอง (Wooden Horse of Troy) ขึ้นในชานัคคาเล่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียด ได้เห็นด้วยตาของตนเองด้วย
เป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ทางตะวันตกของอนาโตเลีย เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสามในประเทศตุรกีรองจากอิสตันบูลและอังการา ครอบคลุมไปถึงน่านน้ำรอบนอกของอ่าวอิซเมียร์ตรงบริเวณสามเหลี่ยมแม่น้ำ Gediz เมืองนี้ยังเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเมดิเตอร์เรเนียนในปี 1971 และการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกในปี 2005
โรงงานผลิตเสื้อหนังคุณภาพดี ให้ท่านมีเวลาเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์เสื้อหนัง ตามอัธยาศัย
เป็นอดีตเมืองใหญ่สุดแห่งเอเชีย มีอายุราว 2 พันปี ซึ่งถือว่าเป็นเมืองเก่าที่มีสภาพสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก(เทียบกับเมืองอื่นๆในยุคเดียวกัน) ปัจจุบันจะทำการขุดแต่งบูรณะได้แค่เพียง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ว่าเมืองนี้ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งอารยธรรมกรีก-โรมันอันสุดคลาสสิคที่ยังคงอยู่คู่กับตุรกี ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันมากมายผ่านงานสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม รวมไปถึงผ่านทางความเชื่อต่างๆ
เป็นบ้านที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คริสศาสนิกชนจะต้องหาโอกาสขึ้นไปนมัสการให้ได้สักครั้ง บ้านพระแม่มารีมีลักษณะเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในเป็นห้องโถงกว้างๆ ไม่มีสิ่งตกแต่งภายในมากนัก มีภาพเขียนที่ฝาผนังและแท่นบูชา เชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้
เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดไฮไลท์คือปราสาทปุยฝ้ายสุดวิจิตร บ่อน้ำร้อนศักดิ์สิทธิ์แห่งตุรกี ทั้งงดงามราวกับเป็นน้ำพุร้อนจากสวรรค์ และมีสรรพคุณในการบำบัดโรคจนกลายเป็นสปาธรรมชาติมานานกว่าพันปี
ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของพวกเติร์กบนแผ่นดินตุรกี ทำให้สถาปัตยกรรมแบบเซลจุกดั้งเดิมมีให้เห็นอย่างโดดเด่นที่นี่ และยังเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของนิกายเมฟเลวี ที่ถือกำเนิดมาจากการก่อตั้งของเมฟลานา เยลาเลดิน ผู้ซึ่งเป็นกวีชาวอัฟกานิสถานที่ทำให้ชาวคริสต์จำนวนไม่น้อยหันมานับถือศาสนาอิสลามเขาจึงเปรียบเหมือนผู้วิเศษในสายตาเหล่าสาวก
เป็นบริเวณที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุสเป็นพื้นที่พิเศษที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้ลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาล กระจายไปทั่วบริเวณทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแสน้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ ได้ร่วมด้วยช่วยกันกัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย จนชนพื้นเมืองเรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า”
เป็นโรงแรมที่พักสมัยโบราณที่สามารถให้คนมาจอดรถคาราวานของเขาได้ เป็น 1 ใน 3 อนุสรณ์ที่สำคัญของโรงแรมคาราวานในประเทศตุรกี
เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
ที่นี่เป็นหนึ่งในนครใต้ดินที่สำคัญของตุรกี ซึ่งเกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้อง โถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ
พรมเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกี ซึ่งมีสองแบบตามลักษณะความยาวของเส้นใยที่ใช้ทอคือ ฮาลื่อและคิลิม ฮาลื่อเป็นพรมแบบทั่วไปที่เห็นกัน วัสดุที่ใช้ทอมีทั้งขนสัตว์ฝ้าย ไหม เมื่อผูกปมแล้วจะตัดเส้นใยออก ด้านหนึ่งจึงปุยขึ้นเป็นลายตามที่ช่างต้องการ ส่วนคิลิมใช้วัสดุเหมือนกัน แต่ทอโดยไม่ตัดด้ายพรม จึงมีลายเหมือนกันสองด้าน
ชมโรงงานเซรามิคคุณภาพดีของประเทศตุรกี ให้เวลาท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย
ระบำหน้าท้อง Belly Dance เป็นศิลปะการร่ายรำที่เน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท้องและสะโพก จากสาวสวยสุดเซ็กซี่ชาวอาหรับกับจังหวพดนตรีที่เร้าใจ
ไฮไลท์หนึ่งของการท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ตุรกี คือการขึ้นบอลลูนชม เมืองในหินผาที่ Cappadocia แม้ค่าใช้จ่ายจะสูงเอาการ แต่ก็เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ประทับใจแนะนำให้ลองไปสัมผัส บรรยากาศและประสบการณ์นี้เมื่อท่องเที่ยวในตุรกี มองเห็นลิปๆ ไปสุดตาในหุบเขา คือมหัศจรรย์ธรรมชาติ เมืองในศิลาที่คราวหนึ่งย้อนไปไม่นานในสมัยประวัติศาสตร์ ที่มีเรื่องราวอันซับซ้อนทางประวัติศาสตร์ให้เล่าขานสืบมา
อังการ่าเป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกี ตั้งอยู่บนฝั่งทวีปเอเชีย เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของตุรกีรองจากอิสตันบูล และยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีร่องรอยประวัติศาสตร์ยุคจักรวรรดิออตโตมันอยู่มากมาย
ทะเลสาบเกลือ (LAKE TUZ) เป็นทะเลสาบที่เรียกได้ว่ามีความเค็มที่สุดในโลก แถมน้ำทะเลที่เป็นสีแดง ก็ดูแปลกตา เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศตุรกี ซึ่งสาเหตุที่มีน้ำทะเลเป็นสีแดงก็เพราะว่าแท้จริงแล้วมันคือสีของสาหร่าย ‘Dunaliellam salina’ หากเดินทางไปเที่ยวทะเลสาบเกลือในหน้าร้อน น้ำทะเลสาบจะเหือดแห้งเหลือเพียงแต่กองเกลือที่ตกผลึกเป็นแผ่นหนาหลายสิบเซ็นติเมตร มองเห็นเป็นพื้นสีขาวสุดสายตา และที่ทะเลสาบเกลือแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนัง Star War อีกด้วย
เป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ 2 ทวีป คือทวีปยุโรปซึ่งอยู่ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส และทวีปเอเชียซึ่อยู่ฝั่งอนาโตเลีย การได้ไปเยือนเหมือนการอยู่คาบเกี่ยวระหว่าง 2 อารยธรรมที่มีคุณค่าดั่งอัญมณีของโลก
มีชื่อเดิมว่า "สุเหร่าสุลต่านห์อาร์เหม็ดที่ 1" ภายในประดับด้วยกระเบื้องสีฟ้าจากอิซนิค ลวดลายเป็นดอกไม้ต่างๆ เช่นกุหลาบ ทิวลิป คาร์เนชั่น เป็นต้น ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา ภายในมีที่ให้สุลต่านและนางในฮาเร็มทำละหมาดและสวดมนต์โดยเฉพาะ สนามด้านหน้าและด้านนอกจะเป็นที่ฝังศพของกษัตริย์และพระราชวงศ์และจะมีสิ่งก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไป
เป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร อุโมงค์นี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 กว้าง 70 เมตร ยาว 140 เมตร ลึก 8 เมตร ภายในอุโมงค์ มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือ "เสาเมดูซ่า"
จัตุรัสนี้สร้างในสมัยจักรพรรดิเซ็ปติมุส เซเวรุส โดยเป็นอดีตสนามอารีน่าที่ใช้สำหรับการแข่งม้า และกิจกรรมต่างๆสามารถจุผู้คนได้กว่า 100,000 คน ในฮิปโปโดรมมีอนุสาวรีย์เด่นๆสามแห่งคือ เสาโอบีลิสก์ฟาโรหืธุตโมส (Obelisk of Pharaoh Thutmose) ซึ่งคอนคอนสแตนตินมหาราชนำมาจากเมืองคาร์นัคประเทศอียิปในสมัยที่มีการขนย้ายอนุสาวรีย์ต่างๆมาจากอาณาจักรยุคโบราณ, เสางู (Serpentine colum) สลักเป็นรูปสามเหลี่ยมตัวกระหวัดรัดพันกันเดิทตั้งอยู่ที่วิหารเทพอพอลโล่แห่งเมืองเดลฟี, เสาคอลัมน์คอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.940 แต่ไม่ทราบประวัติที่แน่ชัด
จัตุรัสนี้สร้างในสมัยจักรพรรดิเซ็ปติมุส เซเวรุส โดยเป็นอดีตสนามอารีน่าที่ใช้สำหรับการแข่งม้า และกิจกรรมต่างๆสามารถจุผู้คนได้กว่า 100,000 คน ในฮิปโปโดรมมีอนุสาวรีย์เด่นๆสามแห่งคือ เสาโอบีลิสก์ฟาโรหืธุตโมส (Obelisk of Pharaoh Thutmose) ซึ่งคอนคอนสแตนตินมหาราชนำมาจากเมืองคาร์นัคประเทศอียิปในสมัยที่มีการขนย้ายอนุสาวรีย์ต่างๆมาจากอาณาจักรยุคโบราณ, เสางู (Serpentine colum) สลักเป็นรูปสามเหลี่ยมตัวกระหวัดรัดพันกันเดิทตั้งอยู่ที่วิหารเทพอพอลโล่แห่งเมืองเดลฟี, เสาคอลัมน์คอนสแตนตินที่ 7 (Column of Constantine VII) ตั้งขึ้นในปี ค.ศ.940 แต่ไม่ทราบประวัติที่แน่ชัด
ในอดึตสุเหร่าแห่งนี้เป็นโบสถ์ที่ไว้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาคริสต์ แต่ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม สร้างโดย "พระเจ้าจักรพรรดิ์คอนสแตนติน" โดยโบสถ์แห่งนี้ใช้เวลาสร้างถึง 17 ปี แต่ก็ถูกผู้ก่อการร้ายบุกเผาทำลายหลายครั้ง วอดวายนับไม่ถ้วน โดยมีสาเหตุหลักเนื่องจากความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม
เป็นพระราชวังที่ประทับของสุลต่านมานานกว่า 3 ศตวรรษ สร้างโดย 'จักรพรรดิเมห์เม็ตผู้พิชิต' ในอดีตเคยเป็นสถานที่ฝึกขุนนางทหารรับใช้ของสุลต่านชาว ตุรกี ซึ่งคัดเลือกเด็ก ๆ คริสเตียน (พวกนอกศาสนา) มาสอนให้เป็นเติร์กและนับถือศาสนาอิสลาม ต่อมาเมื่อขุนทหารเหล่านี้ออกมารับราชการเป็นใหญ่เป็นโตในวังก็กลายเป็นหอกข้างแคร่ และในบางยุคก็ร่วมก่อการปฏิวัติรัฐประหารเลยด้วยซ้ำ
เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ในร่มและเป็นตลาดใหญ่อันดับสองในอิสตันบูลรองจากแกรนด์บาร์ซาร์ เป็นตลาดเครื่องเทศแห่งกรุงอิสตันบูล โดยเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การค้า เยนี คามี รายได้จากค่าเช่าร้านส่วนหนึ่งจะนำมาบำรุงมัสยิดและกิจกรรมการกุศลอื่นๆ มักเรียกขานกันจนติดปากว่าตลาดอียิปต์ เพราะที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องสินค้าที่นำเข้าจากกรุงไคโร
เป็นท่าอากาศยานประจำประเทศตุรกี อยู่ห่างจากตัวเมืองอิสตันบูลเพียง 20 กิโลเมตร เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1912 ในฐานะเป็นสนามบินของกองทัพก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสนามบินพลเรือนในเวลาต่อมา เดิมมีชื่อว่าท่าอากาศยาน Yeşilköy ในปี 1980 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นท่าอากาศยานอิสตันบูลอตาเติร์ก เพื่อเป็นเกียรติแก่ Mustafa Kemal Atatürk ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐตุรกี
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย