เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย
เป็นท่าอากาศยานหลักประจำเมืองเฮลซิงกิ ตั้งอยู่ในเขตวานตา ห่างจากเมืองเฮลซิงกิขึ้นไปทางเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฟินแลนด์และเป็นอันดับที่สี่ในประเทศแถบนอร์ดิกในแง่ของจำนวนผู้โดยสาร
เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในเอสโตเนีย ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับสายการบินแห่งชาตินอร์ดิก้าและเผ็นบ้านเกิดของสายการบินเอสโตเนียแอร์ไลน์ ตั้งอยู่ห่างไป 5 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของศูนย์กลางเมืองทาลลินน์ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของฝูงบินขับไล่ที่ 384 แห่งกองทัพอากาศเอสโตเนียด้วย
ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่า 3,000 ปี เคยถูกยึดครองโดยเดนมาร์ก สวีเดน และรัสเซีย ภายหลังได้อิสรภาพจากสหภาพโซเวียต ในปี ค.ศ. 1991 ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก นำท่านเที่ยวชมเขตโอลด์ทาวน์ของเมืองทาลลินน์ที่โอบล้อมด้วยกำแพงเมืองและป้อมปราการในยุคกลาง ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในยุคอัศวิน
เป็นมหาวิหารที่ตั้งอยู่บนเนินเขาทูมเปียในทาลลินน์ของประเทศเอสโตเนีย สร้างโดยนักบุญ Danes ในศตวรรษที่ 13 ซึ่งเดิมทีเป็นมหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิค แต่ได้เปลี่ยนเป็นนิกายลูเทอแรนในปี 1561 จนถึงปัจจุบัน ที่นี่เป็นที่นั่งของอาร์คบิชอปแห่งทาลลินน์ผู้นำทางจิตวิญญาณของโบสถ์นิกายลูเธอรันแห่งเอสโตเนียและเป็นประธานของคณะผู้ปกครองของโบสถ์แห่งนี้
เป็นพระราชวังสไตล์บาร๊อคที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองทาลลินน์ สร้างขึ้นตามพระประสงค์ของพระเจ้าปีเตอร์มหาราชที่ 1 แห่งรัสเซีย เพื่อเป็นที่ประทับของพระราชินีแคทเธอรีน โดยพระราชวังแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดย Niccolo Michetti สถาปนิกชาวอิตาเลี่ยนในปี ค.ศ. 1720 แต่ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานทางศิลปะของประเทศ นอกจากนี้ท่านจะได้ชมความงดงามของสวนบริเวณโดยรอบพระราชวังเก่าแห่งนี้ด้วย
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมกันตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ
เป็นเมืองเก่าที่สร้างขึ้นในปี 1443 โดยกษัตริย์สวีเดน ตัวเมืองสร้างอยู่ริมชายฝั่งทะเลบอลติก บ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมกันตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ
รู้จักกันในนาม "โบสถ์หิน" (Rock Church) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "โบสถ์แห่งความรัก" ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2511 และเสร็จวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป และมีความเชื่อว่าหากใครก็ตามมาจุดเทียนอธิฐานเรื่องเกี่ยวกับความรักใน โบสถ์นี้ก็จะสมหวังในสิ่งที่อธิฐานทุกประการ จึงทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาจัดพิธีแต่งงานที่นี่กันเป็นจำนวนมาก เพราะว่ากันว่าคู่รักที่มาจัดพิธีแต่งงานที่โบสถ์แห่งนี้จะครองรักกันยืนยาว จนแก่เฒ่า
เป็นจตุรัสใหญ่กลางเมืองเฮลซิงกิ ที่นี่มักจะเป็นสถานที่ใช้จัดเทศกาลหรือกิจกรรมต่างๆ และจุดนี้เป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ
อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน Sibelius Park ถูกสร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius (1865-1957) ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย ลักษณะเป็นอนุสาวรีย์ที่แปลกตามากๆ ถูกออกแบบโดย Eila Hiltunen เป็นการสร้างโดยนำเอาแท่งเหล็กจำนวน 600 แท่ง มาเชื่อมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นรูปร่างของออร์แกนลม ตั้งอยู่กลางแจ้งอย่างโดดเด่นเป็นสง่า
ที่นี่เป็นพื้นที่ตลาดอันสำคัญของเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นตลาดย่านใจกลางเมืองที่ขายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว แหล่งขายอาหารทะเลนานาชนิด ผลไม้ และดอกไม้แล้ว ยังเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญ อาทิ ทำเนียบประธานาธิบดี ศาลากลาง โบสถ์ และอื่นๆ
เป็นถนนสายคลาสสิกในเฮลซิงกิที่สองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารสไตล์ฟินนิชผสมสวีดิช เรียงรายไปด้วยร้านสินค้าดีไซน์ชื่อดัง
เป็นท่าอากาศยานหลักประจำเมืองเฮลซิงกิ ตั้งอยู่ในเขตวานตา ห่างจากเมืองเฮลซิงกิขึ้นไปทางเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฟินแลนด์และเป็นอันดับที่สี่ในประเทศแถบนอร์ดิกในแง่ของจำนวนผู้โดยสาร
เป็นท่าอากาศยานประจำเมืองโรวาเนียมิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ ตั้งอยู่ห่างไป 10 กิโลเมตรไปทางเหนือของใจกลางเมือง ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่มีผู้คนมากเป็นอันดับสามในฟินแลนด์รองจากสนามบิน Helsinki และ Oulu
เป็นเรือตัดน้ำแข็งลำเดียวที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเรือจะวิ่งไปบนน้ำแข็งที่ปกปิดผิวทะเลหนานับเมตรด้วยน้ำหนักกว่า 3,500 ตัน ด้วยโปรแกรมพิเศษ Journey Through The Ice ซึ่งเป็นเรือตัดน้ำแข็งที่ใช้ในฤดูหนาว เรือลำนี้จะทำให้น้ำแข็งแตกเป็นช่องทางเพื่อการเดินทางในช่วงฤดูหนาว
เป็นความมหัศจรรย์ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ ปราสาทที่ทำจากหิมะและน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร สร้างขึ้นใหม่ทุกปี จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ1996 ภายในมีทั้งโบสถ์ ร้านอาหาร และโรงแรม เพิ่มเติมความงดงามด้วยการเล่นแสงสี
ชมเมืองหลวงของดินแดนแลปแลนด์ (Finish Lapland) หรือบ้านของซานตาคลอส ลุงซานต้าแสนใจดี
ฟาร์มกวางเรนเดียร์ (REINDEER FARM) หรือฟาร์มกวางคารีบู พร้อมสัมผัสประสบการณ์นั่งรถเลื่อนลากโดยกวางเรนเดียร์ (REINDEER SLEDGE) ข้ามผ่านเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล (การนั่งรถเลื่อนขึ้นกับสภาพอากาศในวันนั้นๆ) ให้ท่านได้สัมผัสกับความน่ารักของกวางเรนเดียร์ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ โดยตัวผู้มีขนาดใหญ่ขนาดโตเต็มที่มีน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม และสูงประมาณ 214 เซนติเมตร ขนตามลำตัวยามปกติจะมีสีน้ำตาล แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ขนจะเปลี่ยนไปเป็นสีอ่อนขึ้น หรือสีขาว ชาวแลปแลนด์นิยมเลี้ยงไว้เพื่อใช้งานลากรถเลื่อน
เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เหมือนกับเมืองในเทพนิยาย ซึ่งเป็นสถานที่ในจินตนาการของเด็กทั่วโลก สามารถเล่นขี่สโนว์โมบิล หรือเลือกซื้อของที่ระลึกจากหมุ่บ้านได้
สร้างด้วยกระจกนำความร้อนแบบพิเศษ ทำให้ภายในอบอุ่นตลอดเวลา แม้ว่าภายนอกจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า –30องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังป้องกันไม่ให้น้ำแข็งเกาะกระจก ท่านจึงสามารถชมวิวภายนอกอย่างชัดเจน
ชมเมืองหลวงของดินแดนแลปแลนด์ (Finish Lapland) หรือบ้านของซานตาคลอส ลุงซานต้าแสนใจดี
ความสนุกของการขี่สโนว์โมบิล คือความเร็ว ความคล่องตัว อารมณ์เดียวการขับเจ็ทสกี แต่ที่ดีกว่าคือการขับเล่นกันบนหิมะ ผ่านป่าน้ำแข็งและทุ่งกว้าง หรือจะขับขี่บนทะเลสาบที่เป็นกลายเป็นน้ำแข็งก็แล้วแต่สภาพแวดล้อมในแต่ละที่ สโนว์โมบิลจะมีที่จับเหมือนมอเตอร์ไซค์ แล้วจะมีที่จับโผล่มาสำหรับให้นิ้วโป้งเรากด เพื่อใช้เวลาเร่งความเร็ว ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าลองมากทีเดียว
ท่านจะได้ชมความน่ารักของสุนัขพันธุ์ฮัสกี้ สุนัขที่มีความฉลาดและความแข็งแรงโดยอาศัยอยู่ในเขตหนาว ซึ่งชาวแลปป์ได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบนน้ำแข็งหรือหิม่ะ
ภาพของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของ "แสงเหนือ" หรือ "แสงออโรร่า" (Aurora Borealis) เป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางท้องฟ้าที่ใสดุจคริสตัล มองเห็นดาวนับล้านดวง สวยงามตระการตา เสมือนจิตรกรรมบนฟากฟ้า ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ ที่อยากไปเห็นภาพแบบนี้ด้วยตาด้วยเองสักครั้ง แต่การจะได้เห็นภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก เพราะต้องพึ่งพิงปัจจัยรอบด้าน เพราะฉะนั้นจึงต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนที่จะได้มีโอกาสไปเห็นภาพแสงเหนือด้วยตาตัวเอง
เป็นทะเลสาบอันสวยงามแห่งหนึ่งของฟินแลนด์ทางเหนือ ซึ่งภายในทะเลสาบจะเป็นแถบลายสีน้ำเงินสลับเขียวจัด ซึ่งชายฝั่งเว้าแหว่งเป็นปากทางน้ำเข้านับร้อย ทะเลสาบสีน้ำเงินเข้มเรียงรายด้วยเกาะที่มีป่าปกคลุม 3000 เกาะ อยู่ในแถบแลปแลนด์ประเทศฟินแลนด์
เป็นท่าอากาศยานประจำเมืองโรวาเนียมิ เมืองหลวงของฟินแลนด์ ตั้งอยู่ห่างไป 10 กิโลเมตรไปทางเหนือของใจกลางเมือง ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่มีผู้คนมากเป็นอันดับสามในฟินแลนด์รองจากสนามบิน Helsinki และ Oulu
เป็นท่าอากาศยานหลักประจำเมืองเฮลซิงกิ ตั้งอยู่ในเขตวานตา ห่างจากเมืองเฮลซิงกิขึ้นไปทางเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร ที่นี่เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฟินแลนด์และเป็นอันดับที่สี่ในประเทศแถบนอร์ดิกในแง่ของจำนวนผู้โดยสาร
เป็นท่าอากาศยานที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 ซึ่งในตอนแรกเปิดใช้แค่เที่ยวบินภายในประเทศ ในตอนนี้เป็นเสมือนท่าอากาศยานหลักประจำกรุงเทพฯ และยังเป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีผู้เดินทางคับคั่งที่สุดในประเทศอีกด้วย